ไวรัสหลายชื่อ

ไวรัสหลายชื่อ

โดย : คุณนายฮวง

Loading

นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘(เรื่องเล่า) 6,200 วันในไต้หวัน’ โดย คุณนายฮวง สาวไทยสุดไฮเปอร์ที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ไทเปได้หลายปีดีดักกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตต่างแดนที่เต็มไปด้วยสีสันและมุมมองหลากหลาย เรื่องราวดีๆ ที่ อ่านเอา อยากให้คุณได้ อ่านออนไลน์

***********************************

-ไวรัสหลายชื่อ -​

มาถึงตอนนี้ สถานการณ์เรื่องไวรัสสายพันธุ์ใหม่ตัวที่กำลังก่อปัญหาไปทั่วโลก ก็เป็นไปอย่างที่ฉันสังหรณ์ใจตั้งแต่เห็นข่าวในทีวีครั้งแรกเมื่อราวๆ ใกล้จะสิ้นปี 2019 จริงๆ (ซื้อหวยไม่เห็นเคยถูกอย่างนี้ซะที😏) เพราะพอได้ยินว่าอาการใกล้เคียง SARS ปุ๊บ สังหรณ์มันแวบขึ้นมาปั๊บเลย ก็ปี 2003 คุณชายเพิ่งไปรับตัวฉันมาจากกรุงเทพฯ มาถึงได้ไม่ทันชมเมืองสักเท่าไหร่ ก็ต้องติดแหง็กอยู่ในบ้าน เพราะเจ้าโรคระบาด SARS นี่ล่ะ แล้วทีวีก็มีแต่ข่าว SARS ให้จิตตกเหมือนกันกับตอนนี้เลย ตอนนั้นสถานการณ์การระบาดหนักหนาเอาการในไทเป จำได้ว่าเทศบาลนครไทเปจัดการจำกัดให้โรงพยาบาลเหอผิงเป็นศูนย์รับรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโดยเฉพาะ วุ่นวายกันพอสมควร ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นก็ประท้วงกัน ไม่พอใจที่เอาคนป่วยมาไว้ใกล้ๆ พวกเขา หุ้นเหิ้นตกกันระนาว เศรษฐกิจพาลแย่ไปด้วย ครั้งนั้นต้นกำเนิดเริ่มจากมณฑลกวางตุ้ง ที่มีชายแดนต่อกับฮ่องกง แล้วฮ่องกง-ไต้หวันก็ใกล้กันนิดเดียว คนเดินทางไปมากันเยอะ เลยแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วมาก

หลังจากที่ผ่านประสบการณ์ครั้งนั้นมาแล้ว ดูเหมือนหนนี้ไต้หวันเลยมีวิธีรับมือได้ดีขึ้น เพราะพอมีข่าวออกมาว่ามีผู้ป่วยอาการคล้าย SARS ที่อู่ฮั่น (ช่วงนั้นให้เรียกว่าโรคปอดบวมอู่ฮั่น) ก็มีการตั้งจุดตรวจเช็คที่สนามบินทันที โดยวันที่ 31 ธันวาคม 2019 พบผู้โดยสารของไฟลต์มาจากอู่ฮั่นมีไข้ จึงมีการกักตัวเพื่อสังเกตอาการ จนกระทั่งมั่นใจว่าไม่ใช่แน่ๆ จึงให้กลับบ้านได้ แต่ยังต้องอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ต่อไป ทางกองควบคุมโรคของไต้หวัน – Taiwan’s Centers for Disease Control (CDC) ได้จัดตั้งศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาด (Epidemic Response Command Center) ขึ้นเป็นหน่วยเฉพาะกิจ เพื่อดูแลจับตาสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในอู่ฮั่น จะได้หามาตรการป้องกันให้ทันท่วงที นอกจากนี้ทางกองยังได้พยายามศึกษาวิเคราะห์ไวรัสที่ได้ชื่อใหม่ว่า 2019 Novel Coronavirus (2019-nCoV) ประมาณว่าแทบจะถอดรหัสโครโมโซมกันเลยทีเดียว โดยอาศัยข้อมูลจากที่ทางจีนให้มา พร้อมๆ ไปกับการพัฒนาระบบตรวจเช็กไวรัสตัวใหม่นี้ให้รู้ผลได้ภายในสี่ชั่วโมง แถมออกประกาศเตือนพวกชอบปล่อยข่าวลือให้ประชาชนแตกตื่นกัน ถ้าปล่อยข่าวปลอมอาจเจอโทษปรับสูงสุดถึง 3 ล้านหยวน ซึ่งถูกใจฉันจริงๆ พวกชอบปล่อยข่าวปลอมเนี่ยควรเจอมาตรการแบบนี้ซะมั่ง

งวดนี้กองควบคุมโรคติดต่อทำงานรวดเร็วจริงๆ ค่ะ นอกจากมาตรการทั้งหลายที่กล่าวมาแล้ว แน่นอนค่ะว่ามีการยิงสปอตทางทีวีถี่ยิบ บอกวิธีที่ประชาชนควรปฏิบัติ เพื่อป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ ให้พวกคนขับแท็กซี่เช็กอุณหภูมิตัวเองทุกวัน ต้องมีกระป๋องแอลกอฮอล์ไว้พ่นเช็ดทำความสะอาดภายในรถหรือที่จับเปิดประตูรถบ่อยๆ ใส่มาสก์ไว้ขณะขับรถส่งผู้โดยสาร แล้วก็มีการออกประกาศเตือนผู้ที่จะเดินทางออกนอกประเทศในช่วงตรุษจีนว่า ควรปฏิบัติตัวยังไง มีประเทศไหนที่ควรระวัง เพราะปกติช่วงวันหยุดยาวตรุษจีน ชาวไต้หวันนิยมออกไปเที่ยวต่างประเทศกัน ช่วงนี้ชาวไต้หวันเลยเห็นหน้าผู้อำนวยการกองควบคุมโรคของไต้หวันทุกวันทางข่าวทีวี เพราะอาเฮียแกกระโดลงมาเป็นผู้บัญชาการศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดซะเอง มีการปรับยุทธวิธีออกมาตรการใหม่ๆ เพื่อรับมือสถานการณ์กันแบบรายวัน

เริ่มตั้งแต่การตั้งจุดคัดกรองที่สนามบินอย่างที่เล่าไปตอนต้น แล้วก็เรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งคือ การควบคุมการซื้อ-ขายมาสก์สำหรับคาดปิดจมูก-ปากกัน ตอนสมัยซาร์สฉันจำได้ว่า กว่าจะหามาสก์แบบ N-95 ได้ เล่นเอาวุ่นพอดู คุณชายต้องไปวานเพื่อนที่ทำงานอยู่กระทรวงสาธารณสุขซื้อมาใช้ สิบเจ็ดปีให้หลังรัฐบาลรู้งานแล้ว ออกมาตรการแรกสุดคือให้ซื้อมาสก์ได้ที่ตามร้านสะดวกซื้อ แต่ละคนสามารถซื้อได้แค่สองชิ้นต่อครั้ง ตานี้ก็มีพวกหัวไว ใช้วิธีเวียนซื้อมันหลายๆ รอบ ก็เลยต้องออกมาตรการใหม่ออกมาว่า ให้ไปซื้อได้ที่ร้านขายยาที่รัฐกำหนด (มีเป็นหลายพันร้านทั่วเกาะ) แต่ต้องแสดงบัตรเจี้ยนเป่า (National Health Insurance) ตอนซื้อ โดยให้ซื้อได้สัปดาห์ละสองชิ้นต่อคนในราคาแค่ชิ้นละห้าหยวน แถมป้องกันการโกลาหลที่ร้านขายยา ด้วยการกำหนดให้ใช้เลขตัวสุดท้ายของบัตรประชาชน คนที่ลงท้ายด้วยเลขคี่ก็ไปต่อแถวซื้อในวันคี่ เช่นเดียวกันสำหรับวันคู่

อิฉันก็ตามข่าวทางทีวีจนมึนไปเหมือนกัน อิอิ แต่ฉันเห็นด้วยนะคะที่ต้องปรับยุทธวิธีกันตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา มีทั้งการห้ามส่งมาสก์ออกนอกประเทศ (ทั้งทางไปรษณีย์หรือทางไหนก็ตาม) ก็ต้องเก็บไว้ให้คนไต้หวันใช้กันภายในประเทศก่อนนะจ๊ะ ต้องใช้นโยบายเอาตัวเองให้รอดก่อน แล้วถึงจะมีแรงช่วยเหลือผู้อื่นนะคะ ประเด็นนี้คงต้องพยายามนึกถึงใจเขาใจเรากันหน่อยนะ เช่นเดียวกับการห้ามคนที่เดินทางมาจากประเทศที่มีอัตราผู้ติดเชื้อไวรัสสูงๆ เข้าประเทศ หรือเข้าพักในโรงแรม โดยเฉพาะพวกโฮสเทลที่ต้องใช้ห้องน้ำหรือห้องพักร่วมกัน มันจำเป็นนะคะมาตรการพวกนี้ เพราะช่วยควบคุมการแพร่ระบาดได้ อย่าไปมองแง่ลบว่าเขารังเกียจหรือไร้น้ำใจอะไรเลย

ทางโซเชียลมีเดียก็มีข้อมูลนู่นนี่ออกมากันตลอด มีชิ้นหนึ่งเป็นรูปภาพแบบอินโฟกราฟิกให้ความรู้เกี่ยวกับมาสก์แต่ละประเภทว่าใช้ป้องกันอะไรได้บ้าง (เช่น ไวรัส แบคทีเรีย ฝุ่น PM 2.5 ฯลฯ) ในระดับแค่ไหน ทำแบบให้เห็นหน้าตามาสก์ชัดๆ ซึ่งฉันอ่านดู มันตรงกับข้อมูลที่ฉันเคยดูข่าวทีวีเมื่อหลายปีก่อน เลยส่งต่อให้กลุ่มครอบครัว เพราะเห็นว่าข้อมูลมันถูกต้อง พี่สาวท้วงกลับมาว่า “แปลด้วยสิ คุณน้อง มาภาษาจีนทั้งรูปงี้ ใครจะอ่านออก” เออแฮะ ลืมไป รับข่าวสารจนมึน แฮ่ะแฮ่ะ พอแปลให้เสร็จ พี่สาวก็ส่งรูปเวอร์ชันภาษาไทยมาให้ดูแล้วถามว่า ประมาณนี้ใช่ไหม ฉันก็ตอบว่าใช่พร้อมกับนึกในใจว่า เออ เร็วดีเหมือนกัน มีคนแปลเป็นไทยเรียบร้อยแล้ว สีก็สดใสดีกว่าอีก เลยส่งต่อให้กลุ่มเพื่อนมัธยม มีเพื่อนคนนึงส่งลิงก์ข่าวมาให้อ่าน ข่าวคือกรมอนามัยของไทยออกมาแถลงว่า รูปนี้ไม่ใช่ทางกรมอนามัยเป็นผู้จัดทำนะ ฉันถึงได้เห็นว่า ด้านล่างมีตัวหนังสือเล็กๆ เขียนว่า ‘ที่มา: กรมอนามัย’ ฉันก็นึกขำๆ อ้าว ไม่ทันมอง ขอโทษทีนะจ๊ะ เพื่อนๆ

ต้องบอกว่างานนี้นี่แทบทุกกระทรวงของไต้หวันทำงานกันไวมาก ไม่ว่าจะกระทรวงพาณิชย์ อุตสาหกรรม สาธารณสุข การท่องเที่ยวไต้หวัน ฯลฯ ทุกฝ่ายทำงานโดยมีจุดหมายเดียวกันคือคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสหลายชื่อนี้ให้ได้ ที่ฉันออกจะทึ่งหน่อยก็คือ มีการพัฒนาแอพฯ ที่ให้ดูว่าที่ไหนมีมาสก์ขายบ้าง เป็นรูปแบบแผนที่ดิจิทัล ออกมาให้คนดาวน์โหลดใช้ได้รวดเร็วจริงๆ แล้วก็ล่าสุดวันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2020) กระทรวงศึกษาธิการบอกว่า ได้เตรียมมาสก์เอาไว้แจกนักเรียน นักศึกษาทั่วเกาะ ในวันเปิดเทอม (25 กุมภาพันธ์ 2020) ที่จะถึงนี้เรียบร้อยแล้ว (เลื่อนเปิดเทอมมาจากกำหนดเดิมสองสัปดาห์) ปริมาณที่เตรียมไว้คือประมาณ 6.5 ล้านชิ้น ผู้ปกครองไม่ต้องกังวลนะจ๊ะ รมว. ศึกษาฯ ออกมาแถลงข่าวแบบนี้ หวงเหล่าซือค่อยโล่งใจหน่อย😅

พอพูดถึงตรงนี้ นึกขึ้นได้ขอเมาท์หน่อยเหอะ มีอยู่เช้าวันหนึ่ง (วันที่ 11 หรือ 12 นี่แหละ) ฉันตื่นมาก็เปิดทีวีเพื่อดูข่าวตามปกติวิสัย เจอข่าวผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกแถลงข่าวว่า ได้มีการให้ชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับไวรัสพันธุ์นี้แล้วว่า ‘COVID-19’ อิฉันฟังข่าวแล้วต้อง😲😒… โฮ้ย คุณคะ…  who cares! แหม ถ้าจะออกมาแถลงข่าวทั้งที ควรจะรอแถลงข่าวดีว่า มีวิธีปราบเจ้าไวรัสตัวนี้แล้ว จะดีกว่าไหมคะคุ้ณ

Don`t copy text!