อาหารเพื่อสุขภาพ

อาหารเพื่อสุขภาพ

โดย : คุณนายฮวง

Loading

นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘(เรื่องเล่า) 6,200 วันในไต้หวัน’ โดย คุณนายฮวง สาวไทยสุดไฮเปอร์ที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ไทเปได้หลายปีดีดักกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตต่างแดนที่เต็มไปด้วยสีสันและมุมมองหลากหลาย เรื่องราวดีๆ ที่ อ่านเอา อยากให้คุณได้ อ่านออนไลน์

***********************************

– อาหารเพื่อสุขภาพ –

เดี๋ยวนี้ชาวตะวันตกเริ่มหันมาสนใจกับวัฒนธรรมของชาวเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องจีนๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษาจีนกลาง มวยไท้เก๊ก แพทย์แผนยาจีน และแน่นอนค่ะ อาหารจีน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่คนให้ความสนใจกันมากที่สุด (ก็คนเราต้องกินวันละสามมื้อนี่นา😋) และถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของคุณนายฮวงก็คงรู้นะคะว่า อิฉันเป็นนัก (ลอง) กินตัวจริงเสียงจริง ว่าแล้วก็ขอชวนคุยเรื่องอาหารละกันนะ ฮี่ๆ😉

คนส่วนใหญ่จะอยากรู้เรื่องอาหารบำรุงของชาวจีนกัน แต่คุณชายบอกว่า อาหารบำรุงร่างกาย (ภาษาจีนกลางเรียกว่า ปู่เซินถี่เตอะสืออู้) ไม่ควรกินซี้ซั้ว ถ้าจะกินบำรุงจริงๆ จังๆ ควรจะปรึกษาหมอยาจีน และตรวจเช็กร่างกายก่อน ซึ่งฉันเห็นด้วยกับคุณชายในเรื่องนี้นะ เพราะอย่างกระเพาะปลา (ที่ซื้อได้ในร้านขายยาจีนนะ ไม่ใช่ซื้อในร้านอาหาร) ที่มีสรรพคุณบำรุงเลือด ปกติที่บ้านฉันเวลาใครผ่าตัด คุณหม่ามี้ก็จะทำการตุ๋นกระเพาะปลานี่ให้กินบำรุง หรืออย่างตอนก่อนที่ฉันจะไปเรียนต่อที่อเมริกา หม่ามี้ก็จัดการตุ๋นให้กินล่วงหน้าก่อนไปเป็นเดือนเลย เพราะรู้ว่าฉันขี้หนาว เป็นคนมือเท้าเย็น ฉันเคยคุยกับเพื่อนคนไต้หวันที่กิจการบ้านเธอเป็นแพทย์แผนยาจีนเก่าแก่แห่งหนึ่งของไทเป เธอบอกฉันว่า คนที่เคยเป็นมะเร็งเต้านม กินกระเพาะปลานี้ไม่ได้นะ เพราะมันมีฮอร์โมน ซึ่งเรื่องนี้ฉันไม่เคยรู้มาก่อน คนส่วนใหญ่จะรู้แค่ว่าห้ามกินถั่วเหลืองกับซันเอี้ยว (ภาษาอังกฤษเรียก Japanese Yam) เพราะมีฮอร์โมน แล้วที่แน่ๆ อีกอย่างคือโสมเกาหลี (Ginseng) ก็กินไม่ได้ แต่โสมเกาหลีนี่ห้ามกินสำหรับโรคมะเร็งทุกชนิดเลย บางคนคิดว่าโสมเกาหลีเป็นของบำรุง ก็ตะบี้ตะบันกินเพื่อบำรุงร่างกาย จนหยินหยางเสียสมดุล ต้องหาหมอกินยาปรับร่างกายกันอีก ฉันว่ากินอะไร เพื่อจุดประสงค์อะไรก็แล้วแต่ กินแต่พอดีเถิด เดินทางสายกลางไว้ดีที่สุด

แต่ถ้าเอาแบบทั่วๆ ไป ประมาณกินอาหารเป็นยาเพื่อรักษาสุขภาพในระดับหนึ่ง ซึ่งอาหารจีนมีชื่อเสียงด้านนี้อยู่แล้ว ฉันเองชอบดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพเป็นประจำ ทางรายการจะเชิญทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนจีนมาคุยให้ฟัง ได้ความรู้ใหม่ๆ เหมือนกันค่ะ ล่าสุดที่รู้แล้วต้องเลิกดื่มไปเลยคือน้ำอัญชันมะนาว เมนูยอดฮิตบ้านเราน่ะค่ะ หมอยาจีนบอกว่า น้ำอัญชันมีฤทธิ์เย็น ดังนั้น คนที่มือเท้าเย็นไม่ควรดื่มบ่อยๆ แล้วก็อย่างมะเขือเทศ เขาก็บอกว่ามะเขือเทศลูกเล็ก (อย่างพวกมะเขือเทศสีดา) มีสารอาหารดีกว่าพวกมะเขือเทศพันธุ์ลูกโต แล้วก็ให้กินสุก ถ้าผัดกับน้ำมันได้ยิ่งดี (ไลโคปีนจะได้ออกฤทธิ์ดียิ่งขึ้น) ฉันก็เลยซื้อมะเขือเทศลูกเล็กมาผัดกับไข่กินแทนลูกใหญ่ซะ😊 เมนูมะเขือเทศผัดไข่ พบเห็นได้ทุกร้านที่ขายข้าวในไต้หวันเลยล่ะค่ะ อย่างพวกร้านขายข้าวหมูแดง+เป็ดย่างทั่วไป มักจะมีมะเขือเทศผัดไข่เป็นกับข้าวเครื่องเคียงด้วย ทำก็ง่าย สารอาหารก็ดี อ้อ เกือบลืมเล่า ที่นี่มีขายข้าวปนธัญพืชเรียกว่า ‘五榖米 – อู๋กู๋หมี่’ ในหนึ่งถุงมีสารพัดธัญพืช ส่วนใหญ่ที่ขายๆ กันมีเกิน 5 ชนิดทั้งนั้น มีอยู่ช่วงนึงฉันกินเป็นประจำ ไม่มีอาการตะคริวกินตอนกลางคืนอีกเลยค่ะ หม่ามี้ฉันก็ชอบ ต้มเป็นข้าวต้มยิ่งอร่อย ตอนนั้นนี่เวลากลับกรุงเทพฯ ทีไร ซื้อกลับไปให้ที่บ้านตลอด

มี ‘เสี่ยวไช่’ ที่ฉันชอบกินมากอีกจานหนึ่งคือ ‘เหลียงปั้นขู่กวา’ หรือ ‘ยำมะระสไตล์ไต้หวัน’ มะระช่วยลดน้ำตาลในเลือด ฉันกลับไปบ้านที่กรุงเทพฯ ทีไร ต้องวิ่งไปซูเปอร์มาร์เก็ตที่พารากอนเพื่อซื้อมะระออแกนิกมาทำยำมะระให้อาเตี่ยกินทุกที หลังจากกินที่นี่แล้วติดใจ กลับบ้านไปครั้งแรกก็ลองทำให้ที่บ้านกินกัน อาเตี่ยชอบมากค่ะ แต่ฉันก็พลิกแพลงทำสูตรของฉันเอง ที่นี่เขาจะใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำบ๊วยกัน แต่ฉันใช้มะนาวแทน ไหนๆ ก็ไหนๆ นะ บอกวิธีทำเลยดีกว่า เผื่อใครสนใจอยากลองทำกิน ง่ายมากค่ะ (ถ้าซับซ้อน ฉันก็ไม่ทำหรอก ก็ไม่มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวงเรื่องทำกับข้าวนี่คะ😁)

หั่นมะระให้เป็นชิ้นบางๆ กะเอาแถวๆ 1-2 มิลลิเมตรนะ แล้วก็โรยเกลือป่น ขยำๆ คลุกๆ (แล้วแต่ใครสะดวกแบบไหน) ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำ ตามสูตรคนไต้หวันเขาจะผสมน้ำบ๊วยหรือน้ำส้มสายชูลงไปคลุกๆ ทิ้งไว้เลย เพื่อให้มันซึมเข้าเนื้อมะระ จากนั้นเอาเข้าตู้เย็นสักแป๊บนึง (จะไม่เอาเข้าก็ได้นะ แต่ฉันรู้สึกว่ามะระเย็นๆ กรอบๆ อร่อยดี) แต่สูตรของฉันมีหั่นกระเทียมสดเป็นชิ้นบางๆ พอจะกินก็ผสมกระเทียมคลุกเคล้า บีบมะนาวลงไป เสิร์ฟได้เลยค่ะ กระเทียมสดนี่แล้วแต่ความชอบนะคะ ที่บ้านชอบกินกระเทียมสดกัน ฉันเลยใส่เยอะมาก สัดส่วนพอฟัดพอเหวี่ยงกับมะระเลย ส่วนมะนาวก็กะๆ เอาตามใจชอบค่ะ สูตรคุณนายฮวงนี่กะลดน้ำตาลคอเลสเตอรอล ความดัน ของซีเนียร์ที่บ้านแบบเต็มๆ ค่ะ 😄 ถ้าใครไม่ชอบกินกระเทียมสด ก็ทำตามสูตรคนไต้หวันเขาแล้วกัน ไม่ต้องใส่กระเทียมสด

รายการต่อไป ซุปหอยตลับ (ที่นี่เรียก ‘เก๋อลี่’ ในภาษาจีนกลาง หรือ ‘ฮาม่า’ ในภาษาไถอวี่) ตามตำราเขาว่า เจ้าเก๋อลี่นี้หนาเป็นอาหารบำรุงตับ ดังนั้น จึงจัดเป็นน้ำแกงยอดฮิตประจำเกาะนี้ วิธีทำก็แสนง่าย (แต่ทำให้อร่อยนี่ยากนะ ฮ่าฮ่า) คุณชายบอกว่า เริ่มจากจับเก๋อลี่แช่น้ำผสมเกลือป่น ทิ้งเอาไว้เพื่อรอลงหม้อ ฮ่าฮ่า จริงๆคือทิ้งเอาไว้ให้เก๋อลี่คายทรายออกมาให้หมดค่ะ😜 จากนั้นให้หั่นขิงแก่เป็นแว่นๆ ต้มกับน้ำให้เดือด แล้วก็เอาเก๋อลี่ที่ล้างน้ำเกลือ คายทรายออกเรียบร้อยใส่ลงไป พอบรรดาเก๋อลี่ (ที่ตอนใส่ลงหม้อนั้นยังหุบปากกันสนิทมิดชิด) เริ่มอ้าปากกันถ้วนหน้า ก็จัดการปิดเตาได้เลย พร้อมเจี๊ยะแล้วจ้า อันนี้สูตรคุณชาย เพราะฮีชอบกินรสขิงจัดหน่อย แต่ถ้าร้านอาหารทั่วไปส่วนใหญ่ใช้ขิงอ่อนซอยค่ะ ซึ่งเวลาฉันกิน ฉันกินขิงอ่อนด้วยเลย (จะได้ทั้งขับลมแถมได้เส้นใยไฟเบอร์อีกด้วย คิดเองนะคะ แฮ่ะๆ)

ซุปสกัดยี่ห้อ “แบรนด์” แต่แทนที่จะเป็น “ยอดซุปไก่” กลายเป็นซุปหอยตลับไปแทน สำหรับคนที่ต้องการความสะดวก (หรือขี้เกียจต้ม)

เอ้า จบรายการบำรุงตับ เรามาบำรุงผิวพรรณและระบบย่อยอาหารกันเป็นรายการต่อไป วันนี้ครัวคุณนายฮวงขอเสนอของหวานบำรุงความงามนั่นคือ… เห็ดหูหนูขาวต้มเม็ดบัว สรรพคุณของเห็ดหูหนูขาวที่สาวน้อยสาวใหญ่ของเกาะนี้รู้กันดีคือ มีคอลลาเจนสูง ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิวพรรณค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยระบบย่อยอาหาร ช่วยดีท็อกซ์ตับ มีวิตามินดีสูง ช่วยลดระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอลอีก ส่วนเม็ดบัวนั้นช่วยเรื่องนอนไม่หลับ ช่วยลดอาการอักเสบและการติดเชื้อ ชะลอความแก่ ช่วยระบบขับปัสสาวะ ช่วยบำรุงหัวใจ สารอาหารเพียบประมาณนั้นแหละ ดังนั้น ถ้าจะกินขนมหวานก็ต้มเห็ดหูหนูขาวกับเม็ดบัวมากินกันดีกว่านะ วิธีเลือกให้เลือกที่สีออกเหลืองทั้งสองอย่างเลยนะ อย่าเอาพวกสีขาวเพราะส่วนใหญ่น่าจะโดนฟอกขาวมาแล้ว แล้วก็เอามาต้มใส่น้ำตาลกรวดเพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น ถ้าอยากกินเย็นก็แช่ตู้เย็น เก็บไว้กินเย็นๆ ชื่นใจดีเหมือนกัน ที่ไต้หวันตามตลาดสดมักจะมีขายสดๆ ทั้งสองอย่างเลย แต่ถ้าหาสดไม่ได้ ใช้เห็ดหูหนูขาวกับลูกบัวแห้งแทนก็ได้ แต่ต้องแช่น้ำให้นิ่มก่อนนะคะ ถึงจะเอามาต้มได้

จบรายการของหวาน เรามาต่อเครื่องดื่มกันดีกว่า ต้มพุทราจีนใส่เก๋ากี้ ต้มจนน้ำออกเป็นสีคล้ายน้ำชาก็ใช้ได้ แล้วเอาน้ำที่ต้มนั้นมาดื่มแทนน้ำ กินพุทราจีนกับเก๋ากี้เข้าไปด้วยเลยยิ่งดี แถมอร่อยด้วย พุทราจีนช่วยบำรุงเลือด บำรุงม้าม ช่วยให้นอนหลับดี เก๋ากี้ช่วยบำรุงสายตา ฉันเคยดูรายการเพื่อสุขภาพอยู่หนนึงวันนั้นมีคุณหมอยาจีนคนนึงอายุ 65 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีอาการสายตายาวเลยค่ะ! (สายตาไม่สั้นอีกด้วย ปกติคนไต้หวันใส่แว่นกันเกือบทุกคน เพราะท่องหนังสือหนัก คุณชายว่างั้นนะคะ) โห ฉันนี่ต่อมอิจฉาทำงานหนักมาก คุณหมอบอกว่าตั้งแต่เล็กๆ แล้ว ขนมกินเล่นอย่างนึงของเขาคือ เก๋ากี้อบแห้ง กินวันนึงๆ ประมาณหนึ่งกำมือ ฉันฟังแล้วก็นึกในใจ สายไปซะแล้วเรา ปูนนี้ละ😂

กว่าจะรู้จักประโยคฮิต ‘You are what you eat’ เครื่องในมันก็รวนไปหมดแล้วน่ะ😢

Don`t copy text!