One fine day กับ 烏骨雞

One fine day กับ 烏骨雞

โดย : คุณนายฮวง

Loading

นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘(เรื่องเล่า) 6,200 วันในไต้หวัน’ โดย คุณนายฮวง สาวไทยสุดไฮเปอร์ที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ไทเปได้หลายปีดีดักกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในต่างแดนที่เต็มไปด้วยสีสันและมุมมองหลากหลาย เรื่องราวดีๆ ที่ อ่านเอา อยากให้คุณได้ อ่านออนไลน์

ขึ้นชื่อบทความมาแบบนี้เดี๋ยวคุณๆ จะคิดว่าคุณนายฮวงจะเกาะกระแส Y2K มาชวนคุยเรื่องหนัง One Fine Day กันรึนี่ คำตอบคือไม่ใช่นะคะ คืออย่างนี้ค่ะ อยู่ดีๆ เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 14 เมษายนซึ่งเป็นวันครอบครัวของไทยเรา คุณชายก็ชวนอิฉันไปกินร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่เคยดูในรายการทีวีเมื่อสักสองสามปีก่อนได้มั้ง ฮีบอกว่า ฮีเช็กกูเกิลแม็ปส์เรียบร้อย ขับรถไปแค่ 20-25 นาทีเอง กินเสร็จก็ไปเดินย่อยอาหารที่ Lover’s Lake กันต่อได้ เพราะขับต่อไปอีกนิดเดียวเท่านั้น ฉันก็เลยแซวฮีว่า “So…today is ‘One fine day’…huh?” ฮียิ้มตาหยีตอบว่า “Yep, let’s go”😄

ทางเดินเข้าร้าน

ครั้งสุดท้ายที่เราไปเดินเล่น+ไฮกิ้งที่ Lover’s Lake เนี่ยน่าจะร่วมสิบปีได้แล้วมั้ง บริเวณนั้นมีต้นซากุระขึ้นเรียงเป็นแถวสองฟากทางเดินของไฮกิ้งเทรล แต่เราก็ไม่เคยไปได้เจอช่วงซากุระออกดอกเต็มๆ ซะที ฉันมักจะตะแง้ว ๆกับคุณชายอยู่เรื่อยในช่วงแถวๆ เดือนมีนาคมของทุกปีว่า ไปดูซากุระที่ Lover’s Lake กันเถอะ แง้วๆ กี่ปีๆ ก็ไม่ได้ไปซะทีจนถอดใจกลายเป็นถามแทนว่า เมื่อไรจะได้ไป Lover’s Lake อีก เวลาที่ฉันถามคำถามแบบนี้ (ที่ขึ้นต้นด้วย when…?) ฮีก็มักจะตอบว่า “One fine day” 🙄

เซ็ตเมนู

ร้านอาหารเพื่อสุขภาพนี้ก็เช่นกัน ดูทีวีมานาน ถามไม่รู้กี่รอบว่าเมื่อไรจะไปกินกัน แต่เอาค่ะ ในที่สุด One fine day ของฮีก็มาถึงซะที😁 ที่ฉันอยากไปลองร้านนี้เพราะจากที่ดูในรายการนั้น เถ้าแก่เนี้ย (หรือในภาษาจีนกลางคือ 老闆娘 – เหลาปั่นเหนียง ซึ่งไม่ได้มีความหมายแค่เมียของเถ้าแก่อย่างที่เราเข้าใจกันแค่นั้น แต่มีความหมายถึงเจ้าของกิจการที่เป็นผู้หญิงด้วย คือหมายถึงว่าเป็นเจ้าของร้านซึ่งอาจจะเป็นผู้หญิงโสดก็ได้) ให้สัมภาษณ์ว่า มีใครสักคน (ฉันจำไม่ได้แล้วค่ะ) ในครอบครัวเป็นมะเร็ง ก็เลยหันมาสนใจกับอาหารการกิน แล้วไหนๆ ก็มีที่เป็นของตัวเองอยู่แล้ว เลยจัดการปลูกผัก เลี้ยงไก่เองมันซะเลย จะได้ควบคุมคุณภาพของอาหารที่กินเข้าไปได้ จากนั้นก็ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับพืชผักสมุนไพรทั้งหลายที่ช่วยบำรุงร่างกาย ทำไปทำมาก็กลายมาเป็นร้านอาหารนี่ล่ะค่ะ

ป้ายบอกว่าเป็นพื้นที่เพาะกล้าผัก
ในร้านเป็นโต๊ะสำหรับกลุ่มใหญ่ทั้งนั้น

เราขับรถไปตามอากู๋บอก มีหลงเลี้ยวผิดอยู่แยกนึง แต่ยังดีที่ขับไปแล้ววนกลับมาที่เดิม😅 แล้วก็ขับเลยร้านอีกต้องวกกลับมา (ถ้าไม่หลงก็ไม่ใช่คุณชายของฉันค่ะ😂) ในที่สุดก็มาถึงร้านจนได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดี โชคดีของเราว่าทางร้านมีเมนูเป็นเซตให้สำหรับ 2-3 คนกิน ไม่อย่างนั้นถ้าสั่งในเมนูปกติเราคงสั่งได้แค่สองสามอย่างแล้วอาจต้องห่อกลับบ้านอีก เพราะร้านอาหารจีนจานมันใหญ่แบบต้องมากินกันหลายๆ คน ในเซตมีอาหารแต่ละประเภทอยู่ 3-4 อย่างให้เลือกได้

เราเลือกสั่งผัดสายบัวจีนกับเห็ด ผัด 白玉 แปลตรงตัวก็หยกขาว ซึ่งเรากินแล้วก็ยังไม่รู้ว่ามันคือผักอะไรแน่ เท็กซ์เจอร์ผสมระหว่างไช้เท้า+สาลี่น่ะค่ะ ไม่รู้เมืองไทยมีไหม 香草蛋 = ไข่เจียววานิลลา (香草 – เซียงเฉ่าคือต้นวานิลลา) กินแล้วมีกลิ่นของวานิลลาอ่อนๆ ด้วย ถามได้ความว่าเป็นเซียงเฉ่าที่ทางร้านปลูกเองมีสามชนิดด้วยกัน แต่อาเจ๊คนเสิร์ฟก็ตอบไม่ได้ว่าที่เรากินน่ะเอาส่วนไหนของต้นมาผสมเจียวไข่ให้เรากิน😆 แล้วก็มียำคอหมูสไตล์ไต้หวันที่มาพร้อมซอสเปรี้ยวๆ อร่อยดี อาเจ๊บอกว่าคือซอสน้ำมันหอยผสมน้ำมะนาวใส่เม็ดเก๋ากี้จิ๋วๆ มาด้วย แล้วแทนที่จะให้ข้าว ร้านนี้ให้หมี่สั่วสีเขียวอ่อนคลุกน้ำมันงา ถามดูว่าทำไมสีเขียว ได้คำตอบว่า มีใบเก๋ากี้ผสมด้วย เอ๊อ ฉันเพิ่งรู้แฮะว่าใบเก๋ากี้ก็กินได้ ปกติประเทศนี้ ถ้าอาหารมีสีเขียวมักจะมาจากผักโขมหรือไม่ก็ใบมันเทศ ส่วนของหวานคือมันเทศทอดราดน้ำผึ้งดอกหอมหมื่นลี้ แล้วก็ที่มาเสริฟช้าสุดคือซุปไก่ดำ (ไก่ดำในภาษาจีนกลางเรียกว่า 烏骨雞 – อูกู่จี) อู้ฮู ตาโตกันเลยค่ะเราสองคน ไม่คิดว่าจะเจอซุปไก่ดำนี่คะ จริงๆ เราทั้งคู่ก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าไก่ดำมันดียังไง😅 รู้แต่มันแพงกว่าไก่เนื้อขาว😆 แล้วก็มักจะใช้ตุ๋นกับยาจีนกินบำรุง

และแล้วคุณนายฮวงก็ต้องหาคำตอบ ไม่งั้นเดี๋ยวนอนไม่หลับถ้ามีอะไรค้างคาใจ😉 จากที่ค้นมาจากฝั่งภาษาจีนนักโภชนาการของไต้หวันบอกว่า เป็นความเข้าใจผิดที่คิดกันว่า ไก่ดำบำรุงสุขภาพมากกว่า จริงๆ แล้วคือไก่ดำให้แคลอรี่และไขมันต่ำกว่า แล้วก็มีโปรตีน กรดอะมิโน แร่ธาตุต่างๆ สูงกว่าไก่ชนิดอื่นนิดหน่อยเท่านั้นเอง ส่วนเนื้อมันจะมีความนุ่มหนึบกว่ากินอร่อยดี แล้วที่มันราคาแพงกว่าก็เพราะไก่ดำโตช้ากว่า ต้องใช้เวลาเลี้ยงนานหน่อยกว่าจะเอามาขายได้ อ้าวเป็นงั้นไป😁 ส่วนฝั่งภาษาไทยนั้นดูเหมือนจะให้ไก่ดำเป็นซูเปอร์ฟู้ดกันเลยทีเดียว บทความที่ฉันอ่านเจอนี้ คนเขียนอ้างถึงประโยชน์ของไก่ดำว่ามีมากมายสูงกว่าไก่ธรรมดาที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไป

ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่เหลาปั่นเหนียงค้นคว้าทำเอง

นอกจากส่วนที่ฉันกล่าวถึงไปข้างต้นแล้ว ยังมีเรื่องของสารสีดำหรือเมลานินจำนวนมากซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอันมีส่วนช่วยชะลอความชราของเซลล์ แล้วก็ช่วยลดริ้วรอย ชะลอความแก่ สามารถต่อต้านเซลล์มะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ช่วยบำรุงเลือด ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน เป็นยาบำรุงเลือดสำหรับผู้หญิง ช่วยบำรุงน้ำนมให้กับแม่ลูกอ่อน เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ อีกทั้งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โอ้โฮ ถ้าอ่านตามนี้ก็น่าหรอกค่ะที่เขาจะเรียกซูเปอร์ฟู้ด อีกเว็บนึงที่ขายไก่ดำด้วยก็กล่าวถึงสรรพคุณของไก่ดำประมาณเดียวกันนี้ล่ะ แต่อันนั้นแยกแยะลงรายละเอียดถึงสารอาหารกันเลย ทั้งหมดที่เล่ามาให้ฟังนี้ฉันอ่านจากเว็บไซต์หลายแห่ง ใช้วิจารณญาณกันเองนะคะ 😉

ชาที่เสิรฟให้ดื่มในร้าน จากดอกอะไรก็ไม่รู้😅

แต่สำหรับฉัน ร้านนี้ก็จะเพิ่มเป็นร้านประจำอีกแห่งนึงเพราะว่ากินได้แบบไร้กังวล ผักออร์แกนิก ราคาโอเค (เราจ่ายค่าเสียหายไปแค่ 790 หยวน) ไปวันธรรมดามื้อกลางวันคนไม่เยอะดี (เห็นว่าวันเสาร์-อาทิตย์นี่ต้องจอง ไม่งั้นไม่มีโต๊ะนั่ง) อาหารก็รสชาติไม่เลว โดยเฉพาะซุปไก่ดำที่กินแล้วรู้เลยว่า ซุปหวานจากความสดของไก่ดำที่ทางร้านมีป้ายแจ้งไว้หน้าร้านว่า เป็นไก่ดำที่เลี้ยงแบบอิสระเสรีวิ่งตามใจชอบ ให้กินอาหารธรรมชาติ ไม่ฉีดยาปฏิชีวนะ แล้วก็ทำสดให้วันต่อวันกันทีเดียวเชียวนะ แถมกินไปก็มองต้นไม้สีเขียวๆ ไปด้วย สบายตาสบายใจดี กินเสร็จมีสวนย่อมๆ ให้เดินเล่นได้อีก วันนั้นเดินๆ ดูดอกไม้ใบหญ้าอยู่ เจอช่วงนึงทางร้านเขาแปะป้ายไว้บนดินว่า อย่าเหยียบเข้ามาบริเวณนี้ เพราะที่ตรงนั้นคือบริเวณเพาะกล้าผักของทางร้าน ฉันยังพูดกับคุณชายเลยว่า นี่ถ้าไม่ติดป้ายบอกไว้ ฉันนึกว่าเป็นพวกวัชพืชซะอีกเพราะมันดูไม่เหมือนแปลงผักเอาซะเลย😅 (หมวยเยาวราชตัวจริงแท้แน่นอนจ้า😆) แล้วก็เจอหมูป่าที่ทางร้านเก็บมาเลี้ยงจนอ้วนท้วนกลายเป็นหมูบ้านไปซะแล้ว นางนอนกรนคร่อกๆ อยู่ในเล้า เสียงกรนเหมือนเสียงคนกรนเลยค่ะ (เอิ่ม ต้องเข้าใจหมวยเยาวราชหน่อยนะคะ😅) แล้วพอเดินกลับมาขึ้นรถที่จอดอยู่ในบริเวณร้าน ก็ประสบพบเข้ากับไก่ขนสีดำสนิท 2-3 ตัวเดินคุ้ยเขี่ยส่งเสียงกุ๊กๆๆๆ อยู่แถวนั้นพอดี อิฉันหันขวับถามคุณชายทันทีว่า เฮ้ยยู ไอ้ซุปที่เรากินเมื่อกี้ มันคงไม่ใช่เพิ่งเดินเล่นอยู่ตรงนี้มาก่อนนะ ฮีหยุดไปแป๊ปก่อนยิ้มตอบว่า ไม่น่าใช่ ที่ร้านคงเลี้ยงไม่พอมาทำอาหารหรอก คงเอาจากแหล่งอื่นน่ะ เราเดินจนทั่วเห็นแค่กี่ตัวนี้เองนะ อิฉันเชื่อฮีดีไหมนี่ ฮีปลอบใจเมียให้สบายใจรึเปล่านะ 🤔

 

Don`t copy text!