แม่ค้าผักผู้ยิ่งใหญ่
โดย : คุณนายฮวง
นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘(เรื่องเล่า) 6,200 วันในไต้หวัน’ โดย คุณนายฮวง สาวไทยสุดไฮเปอร์ที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ไทเปได้หลายปีดีดักกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตต่างแดนที่เต็มไปด้วยสีสันและมุมมองหลากหลาย เรื่องราวดีๆ ที่ อ่านเอา อยากให้คุณได้ อ่านออนไลน์
***********************************
– แม่ค้าผักผู้ยิ่งใหญ่ –
เมื่อหลายปีก่อนนู้น แวะไปศูนย์หนังสือจุฬาฯ ที่สยามสแควร์ ไปเจอหนังสือเล่มนึงโดยบังเอิญ ดีใจและแปลกใจไปในเวลาเดียวกัน ที่แปลกใจเพราะไม่คิดว่าจะมีฉบับแปลภาษาไทย แล้วก็ดีใจที่มีให้อ่านแบบสบายๆ ไม่ต้องพยายามแกะภาษาจีนอ่าน ‘เฉินซู่จวี๋ แม่ค้าผัก ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่’ คือหนังสือเล่มนั้นค่ะ นับตั้งแต่ที่กลายมาเป็นแม่บ้านสมองกลวง ความจำฉันไม่ค่อยดีนัก แต่ตอนปี ค.ศ. 2010 ครั้งแรกที่เห็นข่าวทีวีเกี่ยวกับแม่ค้าขายผักธรรมดาๆ จากไถตง ที่นิตยสาร Time ยกย่องให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกประจำปีนั้น ได้ยินคำพูดออกจากปากของผู้หญิงธรรมดาๆคนนี้ว่า “錢要給需要的人才有用” แปลเป็นไทยได้ว่า “เงิน… มีประโยชน์ต่อคนที่ต้องการมันเท่านั้น” ฉันกลับจำประโยคนี้ได้ขึ้นใจเลยทีเดียว เป็นประโยคที่โดนใจจริงๆ ถึงขนาดตอนที่ไปอบรมหลักสูตรล่ามของกองตรวจคนเข้าเมืองไต้หวัน แล้วตอนทำข้อสอบ (อบรมเสร็จ ต้องผ่านการสอบทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์ ถึงจะมีคุณสมบัติเป็นล่าม มีชื่ออยู่ในลิสต์ของ ต.ม.) นอกจากเรื่องกฎหมายต่างๆ แล้ว ยังมีให้เขียนเรียงความ ฉันเขียนถึงความประทับใจของฉันที่มีต่อคุณเฉินซู่จวี๋คนนี้ ฉันว่าฉันผ่านการสอบก็เพราะเรียงความชิ้นนี้ล่ะ😉
นอกจากนิตยสาร Time แล้ว นิตยสาร Forbes ก็ได้ยกย่องให้เป็น 1 ใน 48 นักบุญยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย-แปซิฟิก ประจำปี 2010 ยังมีอีกค่ะ นิตยสาร Reader’s Digest ยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งปี 2010 ของเอเชีย นอกจากนี้ คุณเฉินซู่จวี๋ ยังได้รับรางวัลแมกไซไซ ประจำปี 2012 อีกด้วย โดยเงินรางวัลที่ได้รับมาจากแมกไซไซ คุณเฉินก็ได้บริจาคต่อเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ในสังคม ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้ของเธอจบลง ได้ข้อสรุปเลยว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นตัวอย่างของการคิดบวกจริงๆ ค่ะ จากคำนำของนักเขียนในหนังสือ ฉันรู้สึกได้ว่า แม่ค้าขายผักคนนี้ไม่ธรรมดาเลย ขอตัดบางช่วงที่ฉันชอบ มาให้อ่านกันนะคะ…
“คนคนหนึ่งจะสามารถทำอะไรเพื่อโลกของเราได้บ้าง ฉันไม่เคยนั่งคิดหาคำตอบในเรื่องนี้มาก่อนเลย ฉันคิดแต่เพียงว่าพยายามทำอย่างเต็มที่ก็พอ”
“จริงๆ แล้ว หากเราเต็มใจช่วยเหลือผู้อื่น ขอแค่ทำจริง ไม่ว่าจะช่วยมากหรือช่วยน้อย ก็ถือว่าเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น เราทุกคนต่างมีความสามารถในการช่วยเหลือผู้อื่น แต่ต่างกันตรงที่ทำหรือไม่ทำเท่านั้นเอง”
เธอคงได้เรียนเกินชั้นประถมหก ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ของเธอเสียชีวิตในขณะคลอดลูกคนที่เจ็ด จึงทำให้เธอต้องหยุดเรียน ออกมาช่วยพ่อขายผัก และดูแลน้องๆ ที่ยังเล็กแทนแม่ สาเหตุที่แม่ของเธอและน้องคนที่เจ็ดเสียชีวิตนั้น ช่างไม่ต่างจากกรณีของหญิงชาวเขาในบทมูลนิธิฉือจี้ ด้วยความที่เด็กในท้องตัวใหญ่ คลอดยาก จะต้องผ่าท้องคลอด แต่เพราะพ่อของเธอไม่มีเงินพอจ่ายค่ามัดจำจำนวน 5,000 หยวน ทางโรงพยาบาลจึงไม่ยอมผ่าตัดให้ ในสมัยห้าสิบกว่าปีก่อนโน้น เงินห้าพันหยวนถือเป็นเงินก้อนใหญ่มากสำหรับครอบครัวยากจน ที่ต้องกินน้ำข้าวต้มเป็นประจำเพื่อประหยัดข้าวสาร ฟังแล้วไม่น่าเชื่อใช่ไหมคะว่าไต้หวันในอดีตจะเป็นแบบนี้ ฉันรู้สึกว่าคนสมัยนี้โชคดีนักหนาที่มี “เจี้ยนเป่า-National Health Insurance”
เธอต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในช่วงข้ามคืน เรียนรู้ที่จะบริหารเงินอันน้อยนิดในแต่ละวันที่พ่อให้มา จัดหาซื้ออาหารมาดูแลคนในครอบครัวที่มีสมาชิกถึงแปดคน เธอกับพ่อไปขายผักที่ตลาด มีอาม่าคอยช่วยดูแลน้องเล็กๆ และทำงานบ้านเท่าที่กำลังจะอำนวย ชีวิตของเธอต้องพบกับการสูญเสียอีกครั้ง เมื่อน้องสามของเธอต้องเสียชีวิตจากโรคประหลาดที่เธอไม่เคยรู้ว่าเป็นโรคอะไรแน่ ทางโรงพยาบาลที่ไถตงแนะนำให้พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลไถต้าในไทเป ครูประจำชั้นของน้องสามที่โรงเรียนประถมเหรินอ้าย จึงช่วยระดมเงินบริจาคจากครูและนักเรียนทั้งโรงเรียน ทุกคนต่างบริจาคเงินช่วยเหลือเต็มกำลัง บวกกับเงินที่พ่อวิ่งเต้นยืมมา จึงสามารถส่งน้องสามมารักษาตัวที่ไถต้าได้ แต่อนิจจา ด้วยความที่ใช้เวลาหาเงินอยู่นาน น้องสามอาการทรุดหนักเกินกว่าจะเยียวยาได้แล้ว จึงจากไปท่ามกลางความเสียใจอย่างมากมายของครอบครัวและเพื่อนฝูง แต่จากความดีและความมีน้ำใจของครูและนักเรียนโรงเรียนประถมเหรินอ้ายนี้เอง ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเพาะเมล็ดพันธุ์แห่ง ‘ความดี’ ขึ้นภายในใจของคุณเฉินซู่จวี๋ เธอบริจาคเงินที่เก็บออมจากการขายผักในตลาดสด เป็นจำนวนกว่าสิบล้านเหรียญไต้หวัน ให้กับโรงเรียน โรงพยาบาล เพื่อช่วยเหลือคนยากจน เพราะเธอไม่อยากให้คนอื่นมีประสบการณ์อย่างเธอ เธอบริจาคเงินให้โรงเรียนประถมเหรินอ้าย เพราะเธอรู้สึกว่า เธอเคยได้รับความช่วยเหลือจากครูและนักเรียนเมื่อครั้งที่น้องสามป่วย เมื่อสามารถตอบแทนได้จึงทำ ฟังแล้วคอนเซ็ปต์ของคุณเฉินก็คล้ายกับ ‘Pay it forward’ นั่นเอง เห็นไหมคะ ฉันถึงบอกว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
ตลอดชีวิตของเธอ เธอใช้ชีวิตอย่างพอเพียงจริงๆ ปีหนึ่งหยุดแค่วันเดียว (สมัยก่อนนะคะ) กินเจวันละมื้อ มีความสุขเมื่อเห็นคนมาซื้อผักของเธอได้ผักดีๆ ในราคาไม่แพงกลับไป กิจกรรมผ่อนคลายที่ชอบที่สุดคือ การนอนบนพื้นและฟังพระสวดมนต์ในทีวี เธอบอกว่านอกจากช่วยให้เธอมีสติดีแล้ว ยังไม่ต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว ดังนั้น ถึงแม้กำไรจากการขายผักไม่ได้มากมายเท่าไหร่นัก แต่เมื่อเธอเก็บออมไปเรื่อยๆ วันหนึ่งเธอก็พบว่า เธอมีเงินเป็นล้านๆ มากพอที่จะทำในสิ่งที่อยากทำ เธอรับเลี้ยงเด็กที่บ้านเด็กกำพร้าโอเนสิโฟรัสที่ก่อตั้งโดย บาทหลวงจอห์น ฟู เมื่อปี ค.ศ.1969 เพราะเคยได้รับความเมตตาจากบาทหลวงที่มาซื้อผักกับเธอทุกวัน และสังเกตเห็นความผิดปกติของมือเธอ บาทหลวงเสนอให้เธอได้รับการผ่าตัดฟรี จึงทำให้เธอประทับใจกับการเสนอให้ความช่วยเหลือคนแปลกหน้า โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ดังนั้น เมื่อมีโอกาสช่วยเหลือส่งเสียเด็กกำพร้าในบ้านนั้น จึงไม่ลังเลที่จะทำ
การบริจาคเงินให้โรงเรียน โรงพยาบาล หรือบ้านเด็กกำพร้าก็ดี ล้วนมาจากจิตใจเมตตา ไม่ต้องการให้ใครมีประสบการณ์เลวร้ายอย่างที่เธอได้รับ และหวังว่า คนที่ได้รับการช่วยเหลือเหล่านั้น จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้คนอื่นๆ ต่อไป เธอบริจาคเงินช่วยเหลือผู้อื่น โดยไม่เคยคิดอยากได้ผลตอบแทนใดๆ การที่นิตยสาร Time รู้เรื่องของเธอก็เพราะ ‘อังลี-หลี่อัน’ ผู้กำกับภาพยนต์ชาวไต้หวัน เขียนจดหมายแนะนำเรื่องราวของเธอส่งให้กับทางนิตยสาร สื่อเริ่มทำข่าวก็เมื่อเธอได้รับการยกย่องจากนิตยสารนั่นเอง แม้ชีวิตของเธอจะผ่านความยากลำบากมามากมาย แต่เธอไม่เคยโทษฟ้าดิน คงเดินหน้ามีชีวิตต่อไป ด้วยกำลังใจอันแข็งแกร่ง เธอเป็นผู้นำความเปลี่ยนแปลงสู่ชีวิตที่ยากไร้มากมายจริงๆ
ถ้าใครกำลังมองหาหนังสือที่ให้กำลังใจในการใช้ชีวิต หรืออยากจะรู้ว่า การให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ทำให้คุณมีความสุขแค่ไหน ฉันอยากให้อ่านหนังสือเล่มนี้ค่ะ ชีวิตของคุณเฉินซู่จวี๋ – 陳樹菊 นับเป็นแบบอย่างที่ดีที่ทุกคนควรทำให้ได้ เพื่อให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นค่ะ😊 และอย่าลืมนะคะว่า “錢要給需要的人才有用 – Money is only useful if you give it to people who need it.”
- READ 大稻埕+迪化街 - ต้าเต้าเฉิง+ตี๋ฮว้าเจีย
- READ 基隆塔 - จีหลงถ่า
- READ คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า
- READ เป็ดปักกิ่งสไตล์ไต้หวัน กับ 農曆 (หนงลี่)
- READ "Meet Warbie" เมื่อคุณนายฮวงปะทะเจ้านกอ้วนจอมกวน
- READ Road Trip 1 : หรรษา 阿里山 - อาลีซัน (Alishan)
- READ Road Trip 2 : ดูโบสถ์ ชมงานศิลป์ ฟินธรรมชาติ
- READ "擂茶 - เหลยฉา" ของดีมีทีเด็ดที่ประโยชน์เต็มคำ
- READ "Before I Fall in Love" 李玟 - หลี่เหวิน
- READ 國家太空中心 - กั๋วเจียไท่คงจงซิน
- READ ‘台菜 – ไถไช่
- READ 同性婚姻 - ถงซิ่งฮุนอิน
- READ 情人湖 - ฉิงเหรินหู
- READ 糧食危機 - เหลียงสือเหวยจี
- READ One fine day กับ 烏骨雞
- READ 螢火蟲 - อิ๋งหั่วฉง
- READ 千島湖 - เชียนเต่าหู
- READ 陽明書屋 - หยังหมิงซูอู
- READ 媽祖 - มาจู่
- READ 世界棒球經典賽 - ซื่อเจี้ยปั้งฉิวจิงเตี่ยนไซ่
- READ 台灣燈會 - ไถวันเติงหุ้ย
- READ เรื่องเล่าจากคุณนายฮวงซีเนียร์ (Part 3)
- READ เรื่องเล่าจากคุณนายฮวงซีเนียร์ (Part 2)
- READ เรื่องเล่าจากคุณนายฮวงซีเนียร์ (Part 1)
- READ 利息 - ลี่สี
- READ 中藥 - จงเอี้ยว
- READ 剪纸 - เจี่ยนจื่อ
- READ 市長 - ซื่อจั่ง
- READ หวังอยู่ - 王羽
- READ 大同電鍋 - ต้าถงเตี้ยนกัว
- READ ภาษาดอกไม้
- READ 隔離 - กักตัว (2)
- READ 隔離 - กักตัว
- READ 虎爺 - เทพเสือ
- READ ดอกไม้โปรดเจียงไคเช็ค
- READ 核能電廠 - เหอเหนิงเตี้ยนฉั่ง
- READ จากถ้ำสู่วัง
- READ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน
- READ 針灸 - เจินจิว
- READ ทัวร์กินทิพย์กับ 3 ร้านบ้านๆ
- READ 氣象先生 - ชี่เซี่ยงเซียนเซิง
- READ Mommy and Uan (1) : How a stray dog has changed my life
- READ Mommy and Uan (2) : Unconditional love
- READ วัคซีนแห่งความเสียสละ
- READ ซอกแซกแถวตั้นสุ่ย
- READ ย่ำกรุงเก่าไต้หวัน
- READ ตามล่าหา น้ำตาแสงไต้ (1)
- READ ตามล่าหา น้ำตาแสงไต้ (2)
- READ ถามหาไต้ฝุ่น
- READ 財神 – ไฉเสิน
- READ 累積點數 - เหล่ยจีเตี่ยนซู่
- READ พาคุณชายไปเที่ยว
- READ 圖書館 - ถูซูกวั่น
- READ 麻辣 - หมาล่า
- READ 茶入菜 - ฉารู่ไช่
- READ 三合院 - ซันเหอเยวี้ยน
- READ 梅花 - เหมยฮวา
- READ 茶花 - ฉาฮวา
- READ 溫泉 - เวินเฉวียน
- READ คุณหมอนักเขียน
- READ 冬至 - ตงจื้อ
- READ 鄭和 - เจิ้งเหอ
- READ ของกินเฉพาะฤดูหนาว
- READ 土地公 - ถู่ตี้กง
- READ คุณนายฮวงชวนชิม
- READ 護身符 - หู้เซินฝู
- READ 臺北市動物保護處 - ไถเป่ยซื่อต้งอู้เป่าหู้ฉู้
- READ 基隆廟口夜市 - จีหลงเมี่ยวโข่วเย่ซื่อ
- READ 水燈節 - สุ่ยเติงเจี๋ย
- READ 身份證 - เซินเฟินเจิ้ง
- READ 旗袍 - ฉีเผา
- READ 萬安演習 - วั้นอันเอี่ยนสี
- READ 婚禮 - ฮุนหลี่
- READ Give me an inhalant please!
- READ เที่ยวฟาร์มออร์แกนิก
- READ ชาวสีรุ้ง
- READ 中秋節 - จงชิวเจี๋ย
- READ ชีวิตคนเดินดิน
- READ 湘菜 - เซียงไช่
- READ ข่าวจากสำนักข่าวคุณนายฮวง ณ ไทเป
- READ Discovery Center of Taipei City
- READ 月下老人 - เยว่เซี่ยเหล่าเหริน
- READ In and Out
- READ 情人節 - ฉิงเหรินเจี๋ย
- READ 鬼月 - กุ่ยเยว่
- READ โบกมือลา
- READ มังกรนำทาง
- READ เขาดินไทเป
- READ 快炒 - ไคว่เฉ่า
- READ หนีร้อนไปพึ่งเย็น
- READ เกี๊ยว
- READ เจ่าชัน -早餐
- READ Beyond Beauty : Taiwan from Above
- READ ตั้งไข่ (ไม่) ล้ม
- READ เกาหลิงฮว้าเซ่อหุ้ย
- READ วัด วัด วัด
- READ Old Normal
- READ ภาษาจีนวันละหลายคำ
- READ Portable Bubble Milk Tea
- READ Snow Flower
- READ Birthday Snippets
- READ มังกรโบราณ
- READ ภาษาจีนวันละคำ
- READ ชิงหมิงเจี๋ย
- READ ซ่งไอ่หลิง
- READ ว่าด้วยเรื่องความสวยงาม
- READ ซ่งชิ่งหลิง
- READ ไวรัสหลายชื่อ
- READ ซ่งเหม่ยหลิง
- READ ว่าด้วยเรื่องชา (tea นะจ๊ะ มิใช่เหน็บชา😊)
- READ แม่ค้าผักผู้ยิ่งใหญ่
- READ อาหารเพื่อสุขภาพ
- READ เด็กที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
- READ Jimmy Liao
- READ ระบอบการปกครองของไต้หวัน
- READ หยวนเซียวเจี๋ย
- READ เอนหลังนั่งคุยเรื่อง 'ตรุษจีน'
- READ ศูนย์พักฟื้นหลังคลอดบุตร
- READ มูลนิธิฉือจี้
- READ 7 - ELEVEN
- READ สีสันบันเทิงฉบับไต้หวัน
- READ เรื่องของศิลปะและวัฒนธรรม
- READ ตัวอักษรจีน
- READ ไปตลาดกันดีกว่า
- READ หวางเหล่าซือ
- READ ทีวีไต้หวัน
- READ Mommy and Uan
- READ ไต้หวันรักษ์โลก
- READ ล็อตเตอรี่ใบเสร็จรับเงิน
- READ Hiking
- READ ภัยธรรมชาติประจำเกาะ
- READ อาหารการกินในไต้หวัน
- READ ชีวิตในไต้หวัน
- READ โรงเรียนในไต้หวัน
- READ ระบบขนส่งมวลชนไต้หวัน
- READ Lost in Translation
- READ บ้านในไต้หวัน 2
- READ บทนำ
- READ คนไต้หวัน
- READ บ้านในไต้หวัน 1