台灣飲食系列展 – ไถวันอิ่นสือซี่เลี่ยจั่น

台灣飲食系列展 – ไถวันอิ่นสือซี่เลี่ยจั่น

โดย : คุณนายฮวง

Loading

นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘(เรื่องเล่า) 6,200 วันในไต้หวัน’ โดย คุณนายฮวง สาวไทยสุดไฮเปอร์ที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ไทเปได้หลายปีดีดักกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในต่างแดนที่เต็มไปด้วยสีสันและมุมมองหลากหลาย เรื่องราวดีๆ ที่ อ่านเอา อยากให้คุณได้ อ่านออนไลน์

วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2024) คุณชายและอิฉันไปงาน 台灣飲食系列展 – ไถวันอิ่นสือซี่เลี่ยจั่น หรือที่ในชื่อภาษาอังกฤษคือ Food & Beverage Taiwan มาค่ะ ซึ่งในงานนี้ประกอบด้วยสี่งานคือ Taiwan Int’l Tea Expo, Taiwan Int’l Coffee Show, Taiwan Int’l Food Industry Show และ Taipei Int’l Wine & Spirits Festival ที่จัดเป็นประจำทุกปีแถวๆ เดือนพฤศจิกายนนี่ล่ะ เราสองคนไม่นิยมไปงานแฟร์พวกนี้หรอกค่ะ เพราะว่ากลัวคลื่นมหาชน😅

ที่เริ่มไปก็เพราะเมื่อประมาณหลายปีก่อน (ก่อนโควิดจะอาละวาด) เพื่อนฉันที่ทำไร่กาแฟอยู่ที่เชียงใหม่ฝากซื้อเครื่องวัดความเข้มของเมล็ดกาแฟที่คั่ว พอจัดการซื้อส่งไปให้ ปลายปีนั้นทางบริษัทที่ขายเครื่องวัดนั่นก็ส่งอีเมลแนบบัตรเข้างานมาให้คุณชายสองใบ คืออย่างงี้นะ งานแฟร์ใดๆ บนเกาะนี้ คนจะเข้าไปชมงานจะต้องซื้อบัตรเข้าชมงานค่ะ โดยเฉลี่ยบัตรจะราคาประมาณ 200 หยวน (ประมาณ 200 บาท) อย่าคิดว่าเก็บค่าเข้าแบบนี้จะไม่ค่อยมีคนไปนะ ชาวเกาะนี้เขานิยมไปแย่งซื้อสินค้าลดราคากว่าราคาปกติกันอย่างมาก คือพวกเจ้าของกิจการที่มาออกร้านจะขายของในงานนี้แบบลดแลกแจกแถม มหาชนชาวเกาะนี้ก็จะแห่กันไปแย่งชิงซื้อของดีราคาถูกกันตามงานแฟร์ต่างๆ ซึ่งตามที่ดูข่าวมาตลอด บางทีก็เจอของไม่ดีราคาถูกก็มี😆

บรรยากาศในงาน

พอได้บัตรฟรีมา แถมสถานที่จัดงานก็แสนจะใกล้บ้าน เราสองคนก็เลย เอ้า ไปดูซะหน่อยก็ได้วะ😁 จะได้เก็บบรรยากาศไปเล่าให้เพื่อนฟัง เผื่อคุณเพื่อนจะได้มาดูงานปีถัดไป ไปครั้งแรกนี่แค่เดินดูส่วนของงานกาแฟ อิฉันก็หมดแรงข้าวต้ม มึนกะคนจนต้องบอกคุณชายว่ากลับบ้านเหอะ ไม่งั้นยูได้แบกไอกลับแน่ๆ😅

ชงชาให้เราลองชิม

ปีที่สองอิฉันอยู่กรุงเทพฯ ฮีไปเดินคนเดียว ปรากฏว่าฮีชิมซะเพลิดเพลินเจริญชากาแฟมากค่ะ! เล่าให้ฉันฟังตอนโทร.คุยกันคืนนั้นว่า ไปซื้อได้ใบชามาหลายชนิดเลย ยูกลับมาไอจะชงให้เจี๊ยะนะ กาแฟก็ได้แบบแปลกใหม่มาหลายรส ตานี้ไอรู้วิธีเดินงานแฟร์นี้แล้ว ปีหน้าไอพายูไปได้ เดินสบายๆ หามื้อกลางวันกินก็ง่ายล่ะ จากนั้นเมื่อโควิดอาละวาดยาว เราสองคนก็เลยเก็บตัวไม่ไปที่คนเยอะๆ

เราซื้อใบชาร้านนี้มาด้วย เจ้าของร้านบอกว่า สินค้าของเขามีวางที่ร้านตรงสถานีรถไฟฟ้าหยวนซันด้วย

จนกระทั่งปีที่แล้วนี่เองที่เราเริ่มไปกันอีกครั้งนึง โดยพุ่งไปที่ส่วนของงานชาก่อนเลยเพราะกลัวใบชาดีๆ ที่ชอบจะขายหมดก่อน เราเดินไปชิมไปเรื่อยๆ เจอร้านไหนที่ใบชาหอมกรุ่น รสชาติดีก็ซื้อกลับมากัน โดยมีร้านที่คุณชายซื้อเมื่อปีก่อนเป็นเป้าหมายหลัก เนื่องจากฉันติดใจชากุ้ยฮวาปี้หลัวชุนที่ฮีชงให้ดื่มมาทั้งปี (คิดว่าคนไทยเรียกกุ้ยฮวาว่า ดอกหอมหมื่นลี้นะ) อย่างที่เคยเล่าไปแล้วในบท ‘ว่าด้วยเรื่องชา’ (มั้ง จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน😅) ว่า ฉันเป็นคนชอบดื่มชาจีนจากใบชาเพียวๆ ไม่ผสมใดๆ งานนี้ไร่ชามาออกร้านกันแยะอยู่ อิฉันก็เลยชิมเพลินไปกะฮีด้วย ปรากฏว่าคืนนั้นจนตีสี่แล้วอิฉันก็ยังนอนตาใสปิ๊งอยู่เลยค่า🤣 ตอนชิมมันเพลินซะจนลืมว่า อันตัวข้าพเจ้านี้จัดเป็นพวก caffeine sensitive เหมือนกับตอนที่มาจัดงานแต่งงานที่บ้านเกิดคุณชายเลยค่ะ คือมาถึงก็ต้องพาตระเวนแจกการ์ด แนะนำตัวต่อญาติๆ ของฮี แล้วฮีก็เป็นพวกยุ้ยญาติเยอะ (เอ จะมีผู้อ่านกี่คนที่รู้จัก slang นี้น้อ😆) แล้วพอไปถึงบ้านญาติคนไหน เขาก็จะชงชาต้อนรับ ฉันก็ดื่มมันซะทุกบ้านตามมารยาทอันดีของคุณนายฮวงน่ะ คืนนั้นก็นอนไม่หลับไปสิคะ ถึงได้รู้ตัวค่ะว่า เรานี้หนอมันพวกไวต่อคาเฟอีนอย่างสุดๆ🤣😂

แก้วที่มีคำว่า 龍 – หลง ที่แปลว่ามังกรด้วย

วันนี้ก็เช่นเคยค่ะ เราวางแผนอย่างดีว่า กินข้าวเที่ยงตอน 11 โมงเช้า กินเสร็จแล้วค่อยเข้างาน จะได้เลี่ยงคนได้บ้าง แล้วก็เตรียมถ้วยของเราไว้สำหรับชิมเหมือนปีที่แล้ว จะได้ไม่ต้องไปใช้พวกถ้วยกระดาษที่แต่ละบูทเขาเตรียมไว้ให้ (คุณนายฮวงนี่พวกสายกรีน ถ้าคุณๆ ยังจำกันได้นะ) ถ้าไม่อยากใช้ถ้วยกระดาษให้เสียรสชาติ ผู้เข้าชิม เอ๊ย ผู้เข้าชมงาน😁 จะเช่าถ้วยเล็กๆ ที่มีสายห้อยคอ ที่บูธเช่าถ้วยด้านนอกตรงซุ้มขายบัตรเข้างานก็ได้นะ ปีนี้แอบขึ้นราคามาเป็น 300 หยวน (ปีที่แล้วแค่ 250 หยวน แอบยังไงก็ไม่พ้นสายตาเหยี่ยวแบบสอดส่ายหาป้ายเซลล์ของคุณนายฮวงไปได้ร้อก😜) วิธีการบริหารจัดการของบูทเช่าถ้วยนี้ก็ง่ายๆ คือคุณจ่าย 300 หยวน รับถ้วยไปชิมชา กาแฟ เบียร์ ไวน์ ฯลฯ จนพอใจ ถ้าเผลอลืมเอาติดตัวกลับบ้านไปก็ได้ ก็ถือว่าคุณซื้อไปเลยล่ะนะ แต่ถ้าไม่ลืมเอามาคืนที่บูธ เขาก็คืน 300 หยวนให้คุณ จบ ซิมเปิ้ลดีมั้ยคะวิธีบริหารจัดการแบบไต้หวัน อ้อ แต่ปีนี้มีเพิ่มถ้วยพิเศษที่มีเขียนคำว่า 龍 – หลง ที่แปลว่ามังกรด้วย แต่อันนี้ให้ซื้อ ไม่ให้เช่าค่ะ ใบละ 350 หยวน คนเกิดปีมังกรน่าจะซื้อกันนะ เพราะรู้สึกคนจีนให้ความสำคัญกับปีมังกรมากกว่าปีนักษัตรอื่นๆ

แก้วให้เช่า
ซุ้มเช่าถ้วย

ถ้วยใบของอิฉันนี่ จะว่าไปก็หาสายมาห้อยคอได้เหมือนกันนะ เพราะเป็นแก้วเบียร์จิ๋ว ถ้าจำไม่ผิดซื้อตอนไปเที่ยวเมืองนิวออร์ลีนส์ตอนอยู่อเมริกากัน เราสองคนเวลาไปเที่ยวที่ไหน จะซื้อ short glass กับ magnet ของสถานที่นั้นๆ เป็นที่ระลึกค่ะ หลังๆ นี่ไม่มีที่เก็บแล้ว เลยเหลือแค่ magnet ติดตู้เย็นพอ ซึ่งก็จะไม่มีที่ติดแล้วเหมือนกัน สงสัยคงต้องเลิกซื้อล่ะนะ ถ่ายรูปก็พอ แต่บางทีเห็นอันที่น่ารักๆ ก็อดใจไม่ไหวอยู่ดี😁

วันนี้เป็นวันแรกของงาน คนก็เยอะพอดู โดยเฉพาะส่วนของกาแฟเนี่ย บางบูธคุณชายอยากแทรกตัวเข้าไปชิม ก็ต้องถอยเพราะเข้าไม่ถึง (คนไต้หวันนี่ท่าทางจะว่างงานกันเยอะอยู่นะ😆) เสาร์-อาทิตย์นี้คนคงล้านเจ็ดแหงๆ คอยดูข่าวได้เลย😜

บูทรสมือจันท์ พร้อมสินค้าไทยๆ

เราเดินซื้อทั้งใบชาและเมล็ดกาแฟจนพอใจแล้ว ก็แวะไปชมทางส่วนอาหารซะหน่อย เผื่อจะซื้ออะไรกลับไปเป็นมื้อเย็นได้ เดินมั่วไป-มา ไปเจอเอาซุ้ม Thai Pavillion เลยแวะสำรวจซะนิดนึง เห็นผลิตภัณฑ์ทุเรียนแปรรูปหลายบูธเลย จนมาถึงบูทของ ‘รสมือจันท์’ ที่มีโชว์ผัดไทยกุ้งกรอบอยู่ เขียนป้ายภาษาอังกฤษว่า Crispy Shrimp Pad Thai คุณชายก็ถามฉันว่า มันคืออะไร อาหารหรือขนม ฉันก็เลยถามน้องเขาว่า นี่ขนมใช่ไหมคะ น้องเขาก็ร้อง อ้าว คนไทยเหรอครับ แหม ดีใจจังเจอคนไทยด้วย แล้วน้องเขาก็เลยส่งให้ฉันชิมชิ้นนึงแล้วถามว่า เหมือนผัดไทยมั้ยครับ ฉันตอบว่า พี่ว่าเหมือนหมี่กรอบอะค่ะ😆

ปีนี้เห็นสินค้าใหม่ ถามได้ความว่า เป็นถุงไว้พกพาถ้วยชา หรือกาสำหรับชงชา กันแตกได้สบายๆ

พอเดินจากมาฉันก็คิดได้ว่า ควรขอน้องเขาถ่ายรูปบูธหน่อย จะได้มาใช้ประกอบบทความ เลยเดินย้อนกลับไปหาน้องขอถ่ายรูปบูธเอามาลงในคอลัมน์ น้องๆ ก็เฮฮาไปกะคุณนายฮวงด้วย เปิดดูคอลัมน์อิฉันกันใหญ่ ถ่ายรูปเป็นที่ครึกครื้นสนุกสนานกัน แถมชักชวนว่า ถ้าไปเมืองจันท์แวะไปชมสวนของน้องเขาได้นะ แล้วน้องบูธข้างๆ ที่ขายไวน์ทำจากผลไม้ไทยๆ ของเรา มาถามว่า ถ้าอยากไปไหว้พระ ขอพรเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจการงานให้รุ่งเรือง ในไทเปนี่ไปวัดไหนดี น้องบอกต่อว่า เพื่อนบอกมาว่า มีวัดที่ไปไหว้เรื่องแก้จน แต่เห็นว่าอยู่นอกไทเป น้องไม่สะดวกไป ให้ฉันช่วยแนะนำวัดที่ไปง่าย เดินทางสะดวก ฉันเลยแนะนำให้ไปที่วัดสิงเทียนกง บอกน้องเขาว่า วัดที่เพื่อนน้องบอกมานี่พี่ไม่รู้จักอะนะ แต่สิงเทียนกงนี่ เพื่อนคุณชายเคยไปขอให้กวนกงท่านช่วยมาแล้ว ตอนมีปัญหาเรื่องงาน วิ่งเต้นทุกช่องทางก็ยังไม่สำเร็จ จนไม่รู้จะทำไง มีคนแนะนำให้ไปขอกวนกงท่านให้ช่วย ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี ราบรื่นผ่านฉลุย อิฉันแนะนำวิธีไหว้เสร็จสรรพ แล้วก็โบกมือบ๊ายบายพวกน้องเขาจริงๆ ซะที

แผนที่บูทต่างๆ

เอาล่ะค่ะ โม้มายาวเลย คงไม่เบื่อกันนะคะ มาเล่าการไปเดินงานแฟร์+ชิมชาให้ฟังเนี่ย😁 ตานี้ก็มาลุ้นกันดีกว่าว่า คืนนี้คุณนายฮวงจะหลับที่ตีเท่าไหร่ วันนี้ซดไปแยะอยู่😆🤣😅

ป้ายแจ้งกิจกรรมในงาน

ล.ป. (ลืมเล่าไป😅) มีข้อสังเกตจากการเดินชิมชามาสองปีว่า ดูเหมือนแต่ละปีมีเทรนด์ในการผลิตใบชาด้วยนะคะ ปีที่แล้วเดินผ่านกี่บูธๆ เห็นมีชา 紅烏龍 – หงอูหลง ซึ่งก็คือใบชาอูหลง แต่ว่าใช้เวลาในการหมักบ่ม (發酵 – ฟาเซี่ยว = fermented) นานขึ้น เช่นเดียวกับการหมักของชาดำ (คือ 紅茶 ฝรั่งเรียก black tea ฉันไม่แน่ใจว่าคนไทยเรียกว่าอะไร) พอมาปีนี้เจอหลายบูธเลยมีชา 清香烏龍 – ชิงเซียงอูหลง คุณชายถามดูได้ความว่า คือใบชาอูหลงนั่นเอง แต่หมักไม่นาน ผลก็คือได้ชาอูหลงที่รสชาติเบาๆ คล้ายชาเขียว

แก้วที่ใช้ชิมชา

เราลองกันที่บูธนึง เป็นไร่ชาทางหนันโถว (เมืองที่อยู่กลางเกาะ พื้นที่เป็นภูเขาสูงซะส่วนใหญ่) รสชาติดีไม่เลว ก็เลยซื้อมาห่อนึง ปกติฉันไม่ชอบดื่มอูหลงเพราะว่ารสชาติมันเข้มไปสำหรับฉัน แต่ชิงเซียงอูหลงนี่รสชาติใกล้เคียงกับชาปี้หลัวชุน หรือเปาจ่งที่ฉันชอบดื่มน่ะค่ะ

 

Don`t copy text!