ยอดต่อยอด

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

‘ยอดต่อยอด’ นับเป็นอาชญนิยายเรื่องเอกของเทอด ธรณินทร์ นักเขียนรุ่นครู ผู้เป็นสหายรักของเพชร สถาบัน นักเขียนในรุ่นเดียวกัน จากข้อมูลและรูปประกอบบทความนี้ ที่ผมได้รับจากกฤษดา ทุมมานนท์ หรือคุณบอย ผู้เป็นทายาทของท่าน มีรายละเอียดตอนหนึ่งว่า เทอด ธรณินทร์ เป็นนามปากกาของวิสิฏฐ์ ทุมมานนท์ ท่านเกิดที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2484 บิดาคือพ.ท.ขุนธุรยุทธวิสิฏฐ์ (จำนวน ทุมมานนท์) และนางเดิม ธุรยุทธวิสิฏฐ์

ท่านจบการศึกษาจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ วชิราวุธวิทยาลัย และเรียนในระดับมัธยมที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล สาธิตวิทยาลัยวิชาการศึกษาปทุมวัน (รุ่นแรก) จากนั้นไปศึกษาต่อโรงเรียนเพาะช่าง วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ แผนกช่างถ่ายรูป

เมื่อจบการศึกษามีโอกาสได้ไปเป็นครูโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา โรงเรียนไพศาลศิลป์  สำหรับในด้านงานเขียน ได้เริ่มต้นเรื่องสั้นพร้อมกับณรงค์ จันทร์เรือง ใน แสนสุข ยุคที่ธนู ปิยะรัตน์ เป็นบรรณาธิการ (ช่วงปี พ.ศ. 2502-2505) ส่วนงานเขียนนิยายเรื่องยาว  มีเรื่อง ‘พรานเพชฌฆาต’ เป็นนวนิยายเรื่องแรก พระเอกในเรื่องนี้มีนามว่าพราน พยัคฆภูมิ ซึ่งตัวตนของพระเอก พรานเพชฌฆาต ก็นำมาจากบุคลิกลักษณะของเพื่อนสนิท จรูญ ณ น่าน นั่นเอง นิยายเรื่องนี้มีความยาวประมาณ 200 ตอน โดยส่งให้กับชิต กันภัย แห่งนิตยสาร ดรุณี ในชื่อเรื่อง ‘ข้ามแผ่นดิน’

เมื่อชิต กันภัย อ่านเรื่อง ข้ามแผ่นดิน อยู่นาน จนอ่านจบแล้ว ก็บอกว่าชื่อเรื่องไม่ดี แก้มาให้แล้ว ก้มมองดูที่ต้นฉบับมีเงินค่าเรื่องแนบมาให้ พร้อมกับชื่อเรื่องที่แก้ และนามปากกาตั้งมาให้ด้วยเสร็จเรียบร้อย

พรานเพชฌฆาต

โดย เทอด ธรณินทร์

และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของนามปากกาเทอด ธรณินทร์ อันลือเลื่องในบรรณพิภพ ในเวลาต่อมา

จากนั้นท่านก็ได้เขียนนิยายเรื่องต่อๆ มา ลงในนิตยสารต่างๆ ทั้ง ดรุณี ผดุงศิลป์ ดาราไทย สกุลไทย บางกอก ทานตะวัน เรื่องจริง สำหรับนิตยสาร บางกอก และ ทานตะวัน เขียนติดต่ออยู่นานกว่า 10 ปี รวมนิยายเรื่องยาวทั้งหมดกว่า 100 เรื่อง ผลงานที่นำไปสร้างภาพยนตร์ ได้แก่ วีรบุรุษหนองตากยา ผานกเค้า เจ้าพ่อภูเขียว นักเลงข้าวนึ่ง เจ้าป่าน้ำหนาว หักด่านเสือ สาบสมิง ฉลามเสือวังตะเคียน ฯลฯ รวมถึงนวนิยาย ยอดต่อยอด เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

ส่วนละครโทรทัศน์ มีเรื่อง ฝนใต้ เรื่องเดียว เป็นภาพยนตร์มาสองครั้ง เป็นละครโทรทัศน์หนึ่งครั้ง นอกจากนี้ท่านยังเคยเขียนบทเพลงให้วงสุนทราภรณ์ ชื่อเพลง ‘ฝากน้ำใจ’ โดยมียรรยง เสลานนท์ เป็นผู้ขับร้องอีกด้วย

เมื่อย้อนไปในประวัติการทำงานของท่าน นอกจากจะเคยเป็นครูแล้ว ก็ได้ทำงานในวงการหนังสือต่างๆ รวมถึงออกหนังสือ ‘จอเงิน จอแก้ว’ ร่วมกับโกวิท สีตลายัน ณรงค์ ภูมินทร์ และตัวท่านเองในนามปากกา ว.ทุมมานนท์ ทำให้คิดจะเขียนเรื่องสั้นเป็นครั้งแรก โดยส่งไปยัง แสนสุข รายสัปดาห์ ได้รู้จักกับณรงค์ จันทร์เรือง ที่ แสนสุข เขียนเรื่องสั้นลงพร้อมๆ กันในเวลานั้น เรื่องสั้นชิ้นแรกในชีวิตจำชื่อไม่ได้ แต่เป็นแนวรักโศก ได้ค่าเขียน 150 บาท

เทอด ธรณินทร์ เสียชิวิตเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2548 สิริอายุได้ 64 ปี

สำหรับนิยาย ยอดต่อยอด เป็นอีกเรื่องที่เขียนต่อมา เรื่องนี้เป็นเรื่องของสายลับ พราน พยัคฆภูมิ เช่นเดียวกัน เปิดฉากที่ภาคใต้ ลงในหนังสือ ผดุงศิลป์ คนอ่านติดกันมาก ยังผลให้เจ้าของพญาไทเซอร์วิส เจ้าของรถยก ติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ไปทำภาพยนตร์เป็นเรื่องแรก ตอนเป็นหนังไม่ดังเท่านิยายเพราะว่าพระเอกผู้ที่แสดงคือมิตร ชัยบัญชา เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเสียก่อน จึงต้องหาตัวแทนมาแสดงแทน ‘ยอดต่อยอด’ ขายลิขสิทธิ์ทำหนังสมัยนั้น 5,000 บาท

เรื่อง : ยอดต่อยอด

ผู้เขียน : เทอด ธรณินทร์

สำนักพิมพ์ : เพลินจิตต์

ปีที่พิมพ์ : 2513

สองเล่มจบ

ในส่วนของนวนิยาย ยอดต่อยอด ได้เปิดเรื่องด้วยพฤติการณ์ของพระเอก พันตรีพราน พยัคฆภูมิ ซึ่งเสร็จสิ้นภารกิจในเหตุการณ์ก่อนหน้า และได้เดินทางมาพบกับท่านอธิบดียังกรมสืบราชการลับ ภายหลังเกิดเหตุการณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยถูกลอบสังหารยังสถานีรถไฟหาดใหญ่ ระหว่างการสนทนากับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ภายหลังจากเดินทางกลับจากมาเลเซีย เรื่องการปราบปรามคอมมิวนิสต์ร่วมกัน

อาวุธสังหารคือฉมวกอาบยาพิษร้ายแรง อันมีชื่อว่า จงอางดำ!

และนั่นเอง ทำให้ชีวิตของเขาต้องถึงวาระของการออกผจญภัยอีกครั้งยังดินแดนด้ามขวานทองอันมีชื่อว่าสงขลา ในนามพราน พยัคฆภูมิ นักค้ายาเสพติดจากภาคเหนือ

เพียงการเดินทางมายังสถานีหาดใหญ่วันแรก พรานก็ถูกลอบสังหาร ด้วยฉมวกอาบยาพิษเหมือนรัฐมนตรีไม่มีผิด แต่เขารอดมาได้ โดยมีคนที่หน้าตาคล้ายคลึงกันรับเคราะห์ไปแทน พรานได้เข้าพบท่านผู้ว่าที่รับรู้การมาถึงของเขา และได้รู้จักกับรานี ธิดาสาวคนสวยของท่าน ที่ช่วยเหลือเขาเอาไว้ แต่ในเวลานั้นเองเขาก็รู้ว่าเลขาหน้าห้องของท่านนั่นเองเป็นสายให้กับสมาคมจงอางดำ และเมื่อความจริงเปิดเผย เลขาผู้นั้นก็ถูกฆ่าปิดปากอย่างเหี้ยมโหด

องค์กรจงอางดำเป็นองค์กรใต้ดินในมลายู ที่สร้างสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนใต้ และยังค้าฝิ่นให้กับประเทศเพื่อนบ้าน การมาถึงของพรานทำให้พวกมันคิดว่าเป็นตำรวจสืบราชการลับปลอมตัวมา จึงหาทางเค้นหาความจริง และส่งเจ้าหญิงพัชรียาฮนัม หัวหน้าฝ่ายก่อการร้ายที่มีความสวยสะพรั่งและพิษสงรอบตัว เข้าไปเป็นเหมือนนางนกต่อเพื่อสืบหาความจริง แต่สำหรับพรานแล้ว เขามองเจตนาของเธอออกตั้งแต่แรก และสวมรอยเป็นพ่อค้าฝิ่นร่วมกับทีมงานของเขา เพื่อลวงให้เธอเชื่อใจ

นอกจากนี้ยังมีทนายทนง เหมราช อดีตผู้แทนเมืองใต้ ที่มีบทบาทสำคัญและน่าสงสัยในพฤติกรรมร่วมด้วย ทำให้พรานต้องสืบหาความจริงอย่างหนัก

และการมาถึงของสิงห์ทอง บุรุษหนุ่มเสเพลที่เดินทางมาอยู่เมืองสงขลาแห่งนี้อย่างบุคคลปริศนา แต่ด้วยความเก่งกาจของสิงห์ทอง เป็นที่สนใจของจงอางดำ เมื่อต่อมาเจ้าหญิงพัชรียาได้เกิดความรักและไว้วางใจพราน จึงติดต่อเขาและสิงห์ทองให้มาช่วยเหลือกลุ่มจงอางดำในการส่งต่อสินค้าและยาเสพติด

ทำให้ทั้งคู่ต้องจับมือกันเพื่อช่วยกระชากหน้ากากของจงอางดำออกมาให้กับทางการให้ได้ สิงห์ทองคือร้อยตำรวจเอกสิงห์ทอง ทองไม้ไทย นายตำรวจไทยที่ปลอมตัวมาสืบราชการลับเช่นเดียวกันกับพรานนั่นเอง การต่อสู้ทรยศหักหลังได้เกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย ผู้ว่าฯ ถูกลอบสังหาร และพัชรียารู้ว่าพรานรักรานี ซึ่งเป็นเพื่อนรักของเธอ ด้วยความหึงหวงเจ็บแค้น เจ้าหญิงมลายูจึงตัดสินใจลักพาตัวรานีไปกักขังเอาไว้ ก่อนจะส่งไปยังปาดังเบซาร์ ขณะที่พรานตามมาจนพบพัชรียา

และดูเหมือนความจริงมันก็เป็นเช่นนั้น

สวรรค์ได้ส่งพัชรียาลงมาเพื่อเป็นเพียงยอดชู้คู่สวาทของเขา… หาใช่ยอดชีวิตไม่ พรานบอกตัวเองด้วยหัวใจสั่นระรัว เหมือนหวาดกลัวต่อบาปกรรมเป็นนักหนา

แต่ทว่า… รานี… ผู้หญิงคนนี้ เขามีทั้งความสงสารจับใจ และมอบรักแรกในชีวิตให้หล่อนตั้งแต่แรกพบเห็น…

ด้วยความรักต่อรานี เขาเดินทางข้ามแผ่นดินเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย และตามหาตัวรานีจนพบ และพาเธอกลับเข้าเมืองไทยอีกครั้งอย่างปลอดภัย และบัดนี้ องค์กรลับจงอางดำ ก็ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนแล้ว ทนายทนงกับเจ้าหญิงพัชรียาเตรียมตัวหลบหนีไปยังแผ่นดินฮ่องกง แต่ทว่าพรานและสิงห์ทองตามไปจับตัวเอาไว้ได้ในที่สุด

เรื่องราวใน ยอดต่อยอด เต็มไปด้วยฉากบู๊สนั่น ทั้งการต่อด้วยสู้มือเปล่า การใช้อาวุธของเหล่าร้าย และยังมีฉากรักของพระเอกในเรื่องที่มีทั้งความเป็นสุภาพบุรุษ ความเก่งกล้า จนสามารถเอาชนะหัวใจหญิงสาวทั้งหลายในเรื่อง รวมถึงบทพิศวาสอันแรงร้อนและวาบหวาม นับเป็นนวนิยายไทยที่เขียนได้ครบเครื่องเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

หมายเหตุ ท้ายที่สุดนี้ ผมต้องขอขอบพระคุณ กฤษดา ทุมมานนท์ ผู้เป็นทายาทของเทอด ธรณินทร์ ที่ได้กรุณาให้ข้อมูล รายละเอียด รวมถึงรูปของคุณเทอด และภาพโปสเตอร์ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับนักอ่าน และผู้สนใจทั่วไป ได้ศึกษาประวัติของนักเขียนไทยในบรรณพิภพรุ่นครูผู้นี้อีกด้วยครับ