หมูแดง

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้ครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

**************************** 

หมูแดง เป็นนวนิยายในยุคแรกๆ ของ ‘วราภา’ เช่นเดียวกับ โดมทอง แม่หญิง ปราการรัก ศิลามณี จอมใจ หรือ แด่ความหวัง เป็นเรื่องราวที่ผสมผสานด้วยสไตล์นวนิยายโรแมนติก และดรามาเชือดเฉือนอารมณ์ผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว นิยายเรื่องนี้ เคยนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์หลายครั้ง เวอร์ชันที่ผมคุ้นเคย น่าจะเป็นของช่องเจ็ดสี ที่นำแสดงโดย คุณไพโรจน์ สังวริบุตร และ คุณแอน ทองประสม ซึ่งถ้าใครชอบสไตล์นายทหารรูปงามที่เป็นพระเอกสูงวัย และนางเอกสาวเป็นน้อยวัยรุ่นผู้มีจิตใจเด็ดเดี่ยวทระนง น่าจะถูกใจกับวรรณกรรมเรื่องนี้

หมูแดง หรือ มริสสา เด็กหญิงตัวน้อยที่เป็นลูกของการะเกด กับ ฉันท์ สุวรรณรักษ์ หนุ่มใหญ่ทายาทนักธุรกิจที่เสียชีวิตลง และปล่อยให้การะเกดเป็นม่าย และในเวลาต่อมา เธอก็ยอมมาเป็นภรรยาน้อยของ พิษณุ วัชราพันธ์ ท่ามกลางข้อครหาของทุกๆ คน เด็กหญิงมริสสา หรือหมูแดง จึงต้องตกมาอยู่ท่ามกลางความเกลียดชังของทั้งคุณสตี ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณพิษณุ หรือแม้แต่บรรดาลูกๆ ของเธอ ไม่ว่าจะเป็น จาริก นักเรียนนายทหาร หรือโรจนา เด็กหญิงรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ เห็นจะมีเพียงแค่พิกุลแก้ว ลูกสาวคนโต ของคุณสตี เท่านั้น ที่ยังพอมีความยุติธรรม และให้ความเมตตาเอ็นดูต่อเธออยู่บ้าง

ในบ้านวชิรา ที่การะเกดไปอาศัยอยู่ในฐานะภรรยาน้อย และมีหม่อมหลวงระยับ มารดาของพิษณุ ที่ให้ความอาทรกับการะเกด และเป็นผู้ที่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ดีที่สุด

เพราะในอดีตนั้น ทั้งการะเกดและพิษณุเคยรักใคร่ชอบพอกันและต่างให้สัตย์สัญญารักต่อกันไว้ แต่แล้วด้วยฐานะทางบ้านของเธอ ทำให้บิดามารดาของการะเกด บังคับเธอให้ไปแต่งงานกับฉันท์ จนให้กำเนิดหมูแดง ซึ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว และต่อมาเมื่อฉันท์ได้เสียชีวิตลง พิษณุก็ขอร้องให้เธอและเขากลับมาอยู่ร่วมกันตามสัญญาอีกครั้ง และคราวนี้ หม่อมระยับก็ไม่อาจขัดขวางความรักของทั้งคู่ได้อีกต่อไป

พิษณุเอง บัดนี้เขาไม่ใช่บุรุษหนุ่มใหญ่ผู้ร่ำรวยเงินทองอย่างที่คนภายนอกรวมถึงลูกๆ และภรรยาของเขาคิดเข้าใจไปเองอีกด้วย หากคุณสตีและบรรดาลูกๆ ของเธอต่างก็ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา จับจ่ายเงินทองอย่างฟุ่มเฟือย โดยหารู้ไม่ว่าตอนนี้ เขากลายเป็นหนี้การพนัน รวมถึงคฤหาสน์วชิราที่ทุกคนอาศัยอยู่ก็ติดจำนองไว้ โดยมีเจ้าหนี้รายสำคัญ ผู้มีนามว่า พันตรีภาคินัย จักราวุธ!

และด้วยหนี้สินจำนวนมากนั้นเอง ทำให้การะเกดซึ่งได้รับมรดกจากสามีเก่า ตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพื่อรักษาเกียรติยศให้กับชายที่หล่อนรัก โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ความจริงข้อนี้ แม้แต่คุณสตีเองที่คอยปรามาสดูหมิ่นเธอตลอดมาด้วยความหึงหวงและริษยา ซ้ำเธอยังพาลหาเรื่องมาระบายลงที่หมูแดง เด็กหญิงตัวน้อยที่ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรในอดีตของผู้ใหญ่เหล่านั้นด้วยเลย

จาริกเอง ก็ไม่ชอบหน้าสองแม่ลูก เพราะคิดว่าทั้งคู่ มาแย่งสมบัติไปจากบิดาของเขา เขาพยายามหาเรื่องการะเกดอยู่บ่อยครั้ง เช่นเดียวกับโรจนาที่กลั่นแกล้งหมูแดงเป็นประจำ แต่คุณพิษณุก็พยายามเข้ามาขัดขวางห้ามปรามตลอดเวลา

จาริกมีสหายเป็นทหารด้วยกันคือ โยธิน จักราวุธ ซึ่งเป็นหลานชายของภาคินัยนั่นเอง โยธินคบหาอยู่กับพิกุลแก้ว ซึ่งตรงกับความต้องการของภาคินัย ที่เก็บสะสมความแค้นในอดีตของเขา ซึ่งมีต่อตระกูลวัชราพันธ์ และเขาก็สัญญากับตัวเองว่าจะต้องทำให้คนในตระกูลนี้ประสบกับความพินาศ

ในอดีต บิดาของภาคินัยคือพลตรีพระยาสรวุธวิชิต รับราชการทหารพร้อมเพื่อนร่วมสาบานคือพระยาวชิรสงคราม จนกระทั่งเกิดกบฏ แล้วกลายเป็นว่า สหายรักของท่านเป็นคนหักหลัง ปรักปรำอีกฝ่าย จนต้องถูกถอดยศ จองจำจนตาย ตระกูลจักราวุธแทบสิ้นสูญ เมื่อถูกยึดทั้งบ้าน และและเบี้ยหวัดแม้แต่ภรรยาของท่านก็ตรอมใจตาย เหลือเพียงลูกชายวัยเล็กเพียงสองคน

ภาคินัย และ ไตรดา

หากไตรดา ไม่ได้ซึมซับความเกลียดชังนี้ไว้เลย เขาใช้ชีวิตอย่างเสเพล จนเสียชีวิตลงในภายหลัง ทิ้งเพียงโยธินลูกชายเพียงคนเดียว ให้ภาคินัยอุปการะจนเติบโตและเรียนจบโรงเรียนเตรียมทหารเจริญรอยตามเขา ภาคินัยก็ต้องก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาใหม่ ด้วยสติปัญญาและความแค้น เพื่อหาหนทางเอาคืนกับตระกูลเพื่อนทรยศ ซึ่งเป้าหมายของเขาก็คือ พิษณุ วัชราพันธ์ ลูกชายคนเดียวของพระยาวชิรสงคราม!

เขารับเป็นเจ้าหนี้ให้อีกฝ่ายกู้ยืมเมื่อเล่นการพนันจนถอนตัวไม่ขึ้น รวมถึงการนำบ้านวชิรา ไปจำนอง และบัดนี้หนี้สินนั้นก็กำลังย้อนกลับมาตามทวงคืนเขา แม้ว่าการะเกดจะพยายามช่วยเหลือสักเพียงใด สุดท้ายพิษณุก็เครียดจนเสียชีวิต ก่อนตาย เขาเขียนจดหมายเพื่อสารภาพเรื่องล้มละลายของตนเอง ให้แก่สตี ผู้เป็นภรรยาได้รับรู้ รวมถึงการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือของการะเกด ผู้หญิงที่เขารัก แต่การะเกดไม่ต้องการให้ผู้ใดล่วงรู้ เธอจึงเก็บจดหมายฉบับนั้นเอาไว้กับตัวเอง

การตายของพิษณุ ทำให้ชีวิตของทุกคนในบ้านเปลี่ยนแปลงไป หมูแดงถูกกลั่นแกล้งจนไม่อาจอยู่ที่นั่นได้ การะเกดส่งเธอกลับไปอยู่กับ อาม่ามารดาของฉันท์และน้านพ น้องชายเธอที่ต่างจังหวัด ส่วนหญิงสาวยินดีก้มหน้าที่จะช่วยชดใช้หนี้สินให้กับ ภาคินัย จักราวุธ อย่างอดทน

วันเวลาผ่านไป เมื่อหมูแดงเริ่มเติบโตขึ้นเป็นสาวน้อยแสนสดใสและกล้าหาญ ด้วยความคิดถึงแม่ที่เธอทราบว่าบัดนี้ป่วยอยู่ จึงตัดสินใจเดินทางขึ้นมากรุงเทพฯ อีกครั้ง และบนขบวนรถไฟสายนั้นเอง ที่เด็กสาวได้พบกับหนุ่มใหญ่ท่าทางสง่างาม โดยสารรถไฟ มาด้วยกัน

เขามีเรือนร่างสูงใหญ่และผึ่งผายเกินกว่าชาวชนบทธรรมดา แต่งกายด้วยสีกากีทั้งชุดเสื้อตัวนอกปล่อยยาว คาดเข็มขัดแบะอกแบบนักล่าสัตว์ที่เธอเคยเห็นในหนังของฝรั่ง แต่ก็ไม่มีอาวุธติดตัวมาเลย นอกจากหนังสือพิมพ์ ฉบับเดียว กับ… ไม้เท้า!

อายุของเขาคงจะรุ่นเดียวกับน้านพ เพราะเส้นผมสีแกมเทามีอยู่ข้างจอนหูอย่างประปราย ดวงตาค่อนข้างลึกแต่กระแสในดวงตานั้นยิ่งลึกมากว่า…

หมูแดงได้มีโอกาสรู้จักกับเขา ด้วยอัธยาไมตรีที่เธอมอบให้ ทั้งข้าวที่อาม่าทำมา ได้ชวนให้เขาร่วมรับประทานด้วย แม้จะไม่รู้จักแม้แต่ชื่อเสียงของเขาเลยก็ตาม มันทำให้หนุ่มใหญ่ ผู้เคยมีหัวใจแข็งแกร่งประดุจเหล็กเพชรผู้นั้นประทับใจในความน่ารักของเธอตั้งแต่นั้น โดยไม่รู้ตัว

ภาคินัย จักราวุธ เพิ่งมีโอกาสรู้จักกับหมูแดงเป็นครั้งแรก น่าแปลกที่ทำให้เขาคิดถึงลูกสาวตัวเล็กๆ ที่เกิดจากภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้ว และต่อมาจากนั้น เขาจึงรู้ว่าเด็กสาวผู้นี้ก็คือลูกสาวคนเดียวของการะเกด ลูกหนี้ที่รับช่วงต่อมาจาก พิษณุ วัชราพันธ์ นั่นเอง!

หมูแดงกลับมาที่บ้านอีกครั้ง ท่ามกลางกระแสความเกลียดชังของหลายๆ คน ไม่ว่าจะคุณสตี หรือโรจนา ที่เติบโตเป็นสาวน้อยเช่นเดียวกัน ส่วนพิกุลแก้ว ก็กำลังจะแต่งงานกับร้อยเอกโยธิน ที่ก้าวหน้าในการงานขึ้นทุกขณะ ตรงกันข้ามกับจารึกที่กลายเป็นคนสำมะเลเทเมา และตำแหน่งงานคงที่ไม่ขึ้นเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ จารึกเอง เมื่อได้เจอหมูแดงที่โตเป็นสาวน้อยแสนสวย ก็พยายามเข้ามาแทะโลมและรังแกเธอ แต่แล้วคุณการะเกดก็เอาปืนยิงเขาจนตัวเองล้มตกบันได และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา

หมูแดงรับจดหมายฉบับสำคัญนั้นจากการะเกด และหญิงสาวก็รับรู้ถึงภาระของมารดาเธอที่มีต่อตระกูลวัชราพันธ์นั้นด้วยความขมขื่นใจ หากด้วยทิษฐิมานะและเมื่อรับปากกับมารดาแล้ว เธอจึงเผชิญหน้ากับเจ้าหนี้รายสำคัญที่มายืนอยู่เบื้องหน้าอย่างไม่พรั่นพรึงใดๆ

เขาคือชายผู้อารี คนที่เธอเคยเจอบนรถไฟด้วยความประทับใจคนนั้นนั่นเอง แต่บัดนี้ เขากลายเป็นอสูรร้ายไปเสียแล้ว หากด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง หมูแดงยื่นข้อเสนอที่จะไปแต่งงานกับเศรษฐีคนหนึ่ง เพื่อหาเงินมาใช้หนี้แทนมารดาตัวเอง…

น่าแปลกที่ภาคินัยไม่อาจทนเห็นสิ่งที่เด็กสาวผู้นั้นยื่นข้อเสนอให้กับเขา ทั้งที่ปกติแล้ว หัวใจของเขาเย็นชา มิเคยรู้ร้อนหนาวใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากความแค้นของตน หากครั้งนี้ เขาตัดสินใจเสนอทางเลือกให้กับหมูแดง เพื่อให้เธอมาเป็นครูพี่เลี้ยงคอยดูแลลูกสาวคนเดียวของเขา หนูพริม… เด็กสาวที่ขาดความรักความอบอุ่นมาโดยตลอด

หมูแดงตัดสินใจรับข้อเสนอนั้น เธอเดินทางมายังคฤหาสน์ของเขา ณ ที่นั้น แม้จะไม่มีคุณสตี ไม่มีจารึก หรือแม้แต่คุณโรจนา แต่เด็กสาวอย่างเธอ ก็ยังต้องเผชิญกับเพลิงริษยาจากคุณเทวี หญิงสาวที่หลงรักภาคินัย และหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเขา… แล้วยังมีคุณแม่บ้านที่คอยเป็นหูเป็นตาให้กับเทวี ร่วมอีกด้วย

แต่ด้วยความดีงามและความเข้มแข็งของเธอ ทำให้หมูแดงสามารถเอาชนะใจหนูพริมได้สำเร็จ แม้ว่าจะถูกคุณเทวีคอยยุยงอย่างไรก็ตาม หนูพริมต้องการให้เธอมาเป็นแม่ แทนมารดาที่เสียไป ในขณะที่ภาคินัยเองก็รู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังอ่อนโยนลงอีกครั้งด้วยความรัก…

ความรักที่จะเอาชนะความแค้นทั้งปวง และดับไฟแห่งความเกลียดชังพยาบาท ลงได้ในที่สุด

เรื่อง : หมูแดง

ผู้เขียน : วราภา

สำนักพิมพ์ : รวมสาส์น

ปีที่พิมพ์ : 2514

สองเล่มจบ

เรื่องราวความรัก ความแค้น และความลับของ หมูแดง ที่ดำเนินเรื่องไปอย่างสนุกสนานเข้มข้น ด้วยฝีมือการประพันธ์ของวราภา ตราบจนถึงการเฉลยปมสุดท้ายของเรื่อง เมื่อครอบครัวของคุณสตีแวะมาหาเธอ และโรจนาก็แอบเข้าไปในห้องของหมูแดง จนพบจดหมายฉบับนั้นโดยบังเอิญ

แม้ว่าสตี จะยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจต่อหมูแดง แต่เธอก็รับรู้ว่า ครอบครัวของตนเองนั่นต่างหาก ที่ตกเป็นหนี้บุญคุณของการะเกดและเด็กสาวที่ตนเองเคยรังเกียจคนนี้

เรื่องราวในนิยายรักโรแมนติกพาฝันเรื่องนี้ จึงดำเนินมาถึงบทอวสาน เมื่อทุกปมปัญหาคลี่คลายลงในที่สุด…