หัวใจปรารถนา และอาณาจักรใจ

หัวใจปรารถนา และอาณาจักรใจ

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

****************************

สนับสนุนอ่านเอาด้วยการสั่งซื้อหนังสือ “ในสวนอักษร” คลิกที่นี่ 

ผมเคยได้ยินนามปากกา ส.คุปตาภา ครั้งแรกจากชื่อละครวิทยุ ที่นำบทประพันธ์ของท่านมาสร้างเป็นละครในชื่อเรื่อง ใต้บัญชาสวรรค์ และจากนั้น ก็มีโอกาสเห็นนามปากกานี้ในผลงานซึ่งตีพิมพ์รวมเล่มของสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ที่นำมาจัดพิมพ์ขึ้นใหม่ ภายหลังจึงได้รู้ว่าท่านเป็นนักเขียนรุ่นครู ผู้มีผลงานมากมายในอดีต ผลงานของท่านมีสไตล์เฉพาะตัว และหนึ่งในผลงานเลื่องชื่อที่นักอ่านไม่ควรพลาด ก็คือเรื่องยาวชุด ‘หัวใจปรารถนา-อาณาจักรใจ’ รวมถึง ‘มุมหนึ่งในดวงจิต’ ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของนวนิยายอมตะชุดนี้

สำหรับ หัวใจปรารถนา และ อาณาจักรใจ นั้น ผมเคยเขียนเล่าไว้ในบล็อกแก๊งสามปอยหลวง แต่เนื่องจาก ‘บรรณาภิรมย์’ ลำดับถัดไปคือ ‘มุมหนึ่งในดวงจิต’ อันเป็นภาคจบสมบูรณ์ของ นวนิยายชุดนี้ เลยขอถือโอกาสนำทั้งสองเรื่องที่เคยเขียนไว้ มารวมในครั้งนี้อีกครั้งครับ

สำหรับประวัติส่วนหนึ่งของ คุณ ส.คุปตาภา ผมนำมาจากบล็อก //s-guptabha.blogspot.com/2012/06/blog-post_2984.html ซึ่งเพื่อนนักอ่านสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติชีวิตและแรงบันดาลใจในการเขียนนวนิยาย รวมถึงความรู้สึกในช่วงสุดท้ายของชีวิตท่านที่มีผู้รวบรวมเอาไว้พิมพ์ในหนังสืองานพระราชทานเพลิงศพของท่าน ซึ่งผมได้อ่านจากบทความในบล็อกแล้ว ก็ยังอดรู้สึกสะเทือนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

ประวัติ ส.คุปตาภา (สลวย โรจนสโรช)
ท่านเกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2462 สมรสกับพลเรือตรี สมบุญ โรจนสโรช จบการศึกษา อักษรศาสตร์บัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสมัครเข้าเป็นครูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ก่อนจะได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ

ท่านเริ่มต้นเขียนหนังสือตั้งแต่เรียนจุฬาฯ แต่ยังไม่ได้ใช้นามจริง แต่เขียนด้วยลายมือ จนเป็นที่รู้จักกันภายหลัง และเพื่อนได้นำเรื่องสั้น ‘ลูกของพ่อ’ ส่งไปลงในวารสารสวนกุหลาบวิทยาลัย จึงเริ่มใช้ ส.คุปตาภา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เรื่องราวของ หัวใจปรารถนา เป็นการเล่าเรื่องผ่านตัวละครของ แพทย์หญิงมลุลี กุลแพทย์ บุตรีนายทหารนอกราชการ โดยมีรัชนี เป็นน้องสาวต่างมารดาที่เกิดกับแม่เลี้ยงของเธอ

บิดาได้ส่งมลุลีไปเรียนแพทย์ที่อังกฤษ และได้ฝึกงานอยู่ที่ รพ. ออกซ์บริดจ์ ณ ที่นั่นเอง เธอได้รู้จักกับนายแพทย์อลัน ผู้ดูแล จนเกิดความผูกพัน และเข้าใจว่ามันเป็นความรัก จนกระทั่งได้พบกับแพทย์ฝึกหัดอีกคนหนึ่ง คือเจ้าสายฟ้า ณ เมืองนาย ซึ่งเป็นโอรสองค์เล็กของเจ้าฟ้าเมืองนาย แห่งประเทศพม่าในขณะนั้น เจ้าสายฟ้าชวนเธอให้กลับมาจากอังกฤษด้วยกัน ในเวลานั้นเองที่ มลุลีทราบว่าบิดาของเธอป่วยหนัก จึงตัดสินใจเดินทางกลับเมืองไทยพร้อมกับเจ้าสายฟ้า

เมื่อมาถึงเมืองไทย จึงพบว่าบิดาของเธอป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง มลุลีพยายามดูแลอย่างสุดความสามารถจนกระทั่งท่านได้ถึงแก่กรรมลงในห้องผ่าตัดนั่นเอง ภายหลังการเสียชีวิต มีปัญหาเรื่องมรดกระหว่างเธอกับมารดาเลี้ยง ทำให้มลุลีตัดสินใจยกกรรมสิทธิ์ที่ดินของตนให้แก่ รัชนีน้องสาวต่างมารดา และตกลงทำสัญญาเป็นแพทย์ผู้ช่วยของเจ้าสายฟ้า ที่โรงพยาบาลเมืองนาย

ที่นั่นเอง… ณ เมืองนาย ดินแดนอันแสนห่างไกลและกันดาร เหมือนไกลสุดขอบฟ้า เธอและเจ้าสายฟ้าร่วมกันทำงานเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่เจ็บป่วยและยากจน และต่อมามลุลีก็เกิดล้มป่วยลงด้วยโรคปอดจนเกือบเสียชีวิต แต่เจ้าสายฟ้าก็ช่วยเหลือดูแลเธอจนหายเป็นปกติ ทำให้คนทั้งสองผูกพันกันจนเกิดเป็นความรักที่ลึกซึ้งขึ้น หัวใจของเธอและเจ้าสายฟ้าต่างปรารถนาซึ่งกันและกัน

 

“หมอจะเล่นตลกอะไรกับผม หมอคิดจะทิ้งผมไปหรือ”
มือหนึ่งยังจับข้อมือรวบไว้ แต่อีกมือหนึ่งเขาเชยคางดิฉันขึ้นมองอย่างจะค้นความในใจ “ผมอ่านสีหน้าหมอออกนะ หมอคิดอะไร ผมทายใจหมอออกทั้งนั้น

“อาจจะจริง ต่อหน้าเจ้าสายฟ้า ดูเหมือนดิฉันจะซ่อนความในใจอะไรไว้ไม่ค่อยอยู่ สายตาและสีหน้ามันบ่งชัดไปหมด ดิฉันเคยพ่ายแพ้อำนาจใจ อำนาจความแข็งแกร่งของเขามากเพียงใด เมื่อตาต่อตาประสบกันดิฉันก็แพ้อีก ทุกครั้งประกายตาวูบโรจน์ขึ้นอย่างนั้น มันมีอิทธิพลเหนือดิฉันอย่างเหลือเกิน เช่นเดียวกับเจ้าสายฟ้าที่แพ้น้ำตาดิฉัน ทุกครั้งที่เขาเห็น น้ำตามันเริ่มปริ่มท้นออกมาหยาดลงบนแก้ม เจ้าสายฟ้าก็สิ้นความเข้มแข็ง เขาจะอ่อนเปียกเหมือนขี้ผึ้งที่ถูกแดดเผาเอาทีเดียว

“เพราะเหตุใด หมอจึงจะใจดำทิ้งผมไปได้ ในเมื่อหมอก็รู้อยู่ว่าผมน่ะรักหมออย่างเหลือเกิน… ถ้าหมอไม่ใช่หมอ หมออาจจะฟังภาษาหัวใจออกกว่านี้ แต่นี่หมอไม่มีหูสำหรับจะฟังหัวใจรักเสียเลย”

หากความรักของทั้งคู่ก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคอันใหญ่หลวง เมื่อเจ้าพี่องค์โต ผู้เป็นรัชทายาทเมืองนาย และเป็นคู่หมั้นของเจ้าหญิงสีป้อ ธิดาเจ้าลุงของเจ้าสายฟ้า เกิดไปแต่งงานกับหญิงชาวอังกฤษ เลยไม่ยอมเดินทางกลับ ทำให้ตำแหน่งรัชทายาทตกทอดลงมาถึงเจ้าสายฟ้าโดยไม่คาดฝัน นั่นเองทำให้เจ้าสายฟ้าต้องมีหน้าที่ในการอภิเษกกับเจ้าหญิงสีป้อ ทั้งที่หัวใจของเขามอบให้กับมลุลีไปแล้วทั้งดวง!

เรื่อง : หัวใจปรารถนา และอาณาจักรใจ

ผู้ประพันธ์ : ส.คุปตาภา

สำนักพิมพ์ : คลังวิทยา

ปีที่พิมพ์ : 2504

เล่มเดียวจบ

และหญิงสาวก็หยิ่งทะนงในเกียรติศักดิ์ของตัวเองเพียงพอที่จะไม่ยอมเป็นภรรยาของเจ้าสายฟ้า เมื่อบรรดาญาติพี่น้องของเขาไม่ต้องการตัวเธอ โดยเฉพาะคำขอร้องขององค์มหาเทวี มารดาของชายที่เธอรัก ดังนั้น หมอมลุลีจึงตัดสินใจเดินทางกลับจากเมืองมัณฑะเลย์ด้วยหัวใจบอบช้ำ ขณะที่เจ้าสายฟ้าถูกบรรดาญาติวงศ์หลอกพาตัวไปแต่งงานที่สีป้อ

ก่อนจะกลับเมืองไทย เธอได้เข้าไปกราบลาพระพุทธนิมิต พระประธานองค์ใหญ่ของเมืองมัณฑะเลย์ สถานที่ซึ่งเคยอธิษฐานร่วมกับเจ้าสายฟ้า เพื่อให้หัวใจที่ปรารถนานั้นสมหวังในความรัก บัดนี้เธอได้รับความรักจากเจ้าสายฟ้าแล้วอย่างเต็มเปี่ยม หากแต่ก็ต้องมารับความระทมทุกข์ จากพิษแห่งความรักด้วยเช่นกัน!
หมอมลุลี กลับมาที่นี่อีกครั้งเพียงลำพัง และคราวนี้เธอก็ได้อธิษฐานครั้งสุดท้าย ขอตายในอ้อมอกของเจ้าสายฟ้า บุคคลที่ตนรักในบั้นปลายของชีวิต

วรรคสุดท้ายของ ‘หัวใจปรารถนา’ ทิ้งท้ายเอาไว้อย่างสะเทือนใจว่า

“อีกสักเมื่อใด หัวใจที่ปรารถนาอย่างนั้นของดิฉันจะประสบสุข… เมื่อใดพระจะบันดาลให้เป็นไปได้… ดิฉันกราบอยู่ที่นั่น หมอบราบอยู่ตรงนั้นหลายครั้งแล้วที่ดิฉันผิดหวัง แต่ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายที่ดิฉันวิงวอนขอ… อกอันอบอุ่นของเจ้าสายฟ้า…

ชีวิตอันอาภัพของหมอมลุลีที่ต้องระเหเร่ร่อนจากอังกฤษสู่พม่า และจำจากเมืองนายและเจ้าสายฟ้าผู้เป็นที่รัก ด้วยหัวใจที่รานร้าวคืนกลับสู่เมืองไทย ทว่าเหตุการณ์ภายหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร คำตอบและบทสรุปแห่งแรงอธิษฐานนั้น จะอยู่ในภาคสองของเรื่องนี้ คือ ‘อาณาจักรใจ’

 

หมายเหตุ : สำหรับเรื่อง หัวใจปรารถนา นี้ ในช่วงปี พ.ศ. 2503 เคยนำมาสร้างเป็นละครทางช่อง 7 ขาวดำ (หรือช่อง 5 วิกสนามเป้าในปัจจุบัน) และนับเป็นละครเรื่องแรกของพระเอก สมบัติ เมทะนี ตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าสู่วงการแสดงภาพยนตร์ ส่วนนางเอกของเรื่อง คือ วิไลวรรณ วัฒนพานิช และในภายหลังก็ได้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อ ปี พ.ศ. 2515 นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี และเพชรา เชาวราษฏร์ ซึ่งโปสเตอร์ภาพยนตร์ และเกร็ดการสร้างนั้น ได้มาจาก แฟนเพจ Thai Movie Posters ครับ

เหตุการณ์ใน ‘อาณาจักรใจ’ เริ่มต้น ภายหลังจากหมอมลุลีตัดใจจากเจ้าสายฟ้า ณ เมืองนาย บุรุษผู้เป็นที่รักสุดหัวใจ โดยเดินทางกลับคืนสู่เมืองไทย เมื่อตระหนักว่าเขาจะต้องไปแต่งงานกับเจ้าหญิงสีป้อ ตามความต้องการของพระญาติวงศ์ทั้งหลาย แม้หัวใจทั้งสองดวงจะปรารถนาซึ่งกันและกันสักเพียงใดก็ตาม…

ฉากแรกของ อาณาจักรใจ เริ่มต้นเมื่อ นายแพทย์เกริก เชวง นายแพทย์หนุ่มแห่งโรงพยาบาลแม่สาย มารอรับแพทย์หญิงคนใหม่ ที่กำลังเดินทางจากพระนคร มาถึงนครลำปาง เธอคือหมอมลุลีนั่นเอง!

 

มลุลีตัดสินใจสมัครเข้าทำงานแพทย์เป็นผู้ช่วยของโรงพยาบาลแม่สาย ชายแดนไทย ที่ห่างไกลความเจริญ เพื่อหนีห่างหัวใจของตัวเอง ที่นั่นเธอได้พบกับคุณหมอเกริก นายแพทย์หนุ่มผู้มีอุดมการณ์ เขาเป็นแพทย์เพียงคนเดียวของโรงพยาบาลและดีใจอย่างยิ่งที่เธอจะเดินทางมาบรรจุ เพื่อช่วยเหลืองานแพทย์ที่ขาดแคลนในชนบทแห่งนี้ นอกเหนือจากนั้น เขาเริ่มประทับใจบุคลิกอันอ่อนหวานเยือกเย็นของมลุลี นอกจากนี้เธอยังได้รู้จักกับระคน พยาบาลสาวท่าทางเงียบขรึม ซึ่งมีท่าทางเป็นปฏิปักษ์แต่แรก หากเมื่อรู้จักกันนานเข้าจึงเข้าใจว่าระคนแอบชอบหมอเกริกอยู่ก่อนแล้ว แต่หมอเกริกกลับไม่มีท่าทีสนใจระคน พยาบาลสาวจึงรู้สึกหึงหวง เมื่อเห็นหมอเกริกมาเอาใจใส่มลุลีเป็นพิเศษ

หมอเกริกมีโอกาสเดินทางข้ามไปฝั่งพม่าของรัฐฉาน เขาพอรู้ว่ามลุลีย้ายมาจากโรงพยาบาลเมืองนาย ชายหนุ่มและสหายจึงแวะที่เมืองนายด้วย ณ ที่นั่นเอง เขาจึงรู้จักบัวเลียว สาวใช้ที่เคยดูแลมลุลีมาก่อน บัวเลียวดีใจมาก เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าหมอมลุลีหายตัวไปที่ใด หล่อนขอติดตามกลับมาเมืองไทยเพื่อมาพบมลุลี และแจ้งข่าวว่าเจ้าสายฟ้า จำใจต้องแต่งงานกับเจ้าหญิงสีป้อ และภายหลังจากนั้น เจ้าสายฟ้าก็เอาแต่ดื่มน้ำจันฑ์ทุกวันด้วยความโศกเศร้า แม้จะยิ่งรู้สึกผิดแต่มลุลีก็พยายามเอาความถูกต้องเข้าหักใจ

ต่อมา หมอเกริกเกิดประสบอุบัติเหตุจนเกือบเสียชีวิต มลุลีช่วยพยาบาลดูแลจนชายหนุ่มหายเป็นปกติ  ดังนั้นเมื่อหมอเกริกมาขอหมั้นหมาย หญิงสาวจึงตอบตกลงในทันทีเพื่อพยายามตัดใจจากเจ้าสายฟ้า หมอเกริกดีใจมาก เขารักเธอด้วยความรักสุดหัวใจ โดยไม่อาจล่วงรู้เลยว่าหัวใจของมลุลีนั้นโบยบินไปยังเมืองนายโดยไม่เคยคืนกลับมาเลย แต่แล้วเพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น เจ้าสายฟ้าก็เสด็จมาที่โรงพยาบาลแม่สาย เพื่อพบกับมลุลีโดยเฉพาะ!!

เจ้าสายฟ้ามาเพื่อขอร้องให้เธอเดินทางกลับไปเมืองนาย เพื่อเป็นผู้ช่วยผ่าตัดเจ้าพ่อของเขาที่กำลังล้มเจ็บลง หมอมลุลีอยากจะปฏิเสธแต่ก็ไม่อาจทำได้ลง ในที่สุดจึงต้องติดตามเจ้าสายฟ้ากลับไปเมืองนาย ในเวลานั้นหมอมลุลีคิดแต่เพียงว่าเมื่อได้ทำหน้าที่แพทย์ผู้ช่วยสำเร็จ เธอก็จะเดินทางกลับเมืองไทยในทันที

เมื่อทั้งคู่เดินทางมาถึงเมืองนาย ทุกอย่างก็สายเกินไป เจ้าฟ้าสิ้นพระชนม์และเธอยังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ทำให้เจ้าฟ้าเสียพระทัย ที่เป็นต้นเหตุให้เจ้าสายฟ้าปฏิเสธการเป็นเจ้าชายรัชทายาท ในเวลาต่อมามลุลียังต้องเข้าร่วมพิธีเลียบเมือง ที่บัดนี้เจ้าสายฟ้าจำต้องรับตำแหน่งเจ้าฟ้าเมืองนายประทับบนเสลี่ยงแก้วแกมทองคู่กับเจ้าหญิงสีป้อผู้เป็นมหาเทวี ยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า จนตัดสินใจเดินทางกลับแม่สายในวันรุ่งขึ้น แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเจ้าฟ้าเมืองนาย เสด็จมาหาเธอ พร้อมกับข้อเสนอแนะตำแหน่งอัครเทวีให้กับมลุลี!!

อาการโรคหัวใจที่เคยเป็นมาก่อน กำเริบขึ้นในเวลานั้นเอง หญิงสาวกลายเป็นคนเจ็บ และเจ้าสายฟ้าหรือเจ้าฟ้าเมืองนาย กลับต้องเป็นฝ่ายดูแลเธอด้วยความเป็นห่วง เขาเคยเผชิญกับเหตุการณ์ความเป็นความตายของหญิงสาวมาแล้วในครั้งก่อน หากครานี้ เขากลับกลัวว่าเธอจะต้องจำพรากจากเขาไปตลอดกาล… เจ้าสายฟ้าคิดว่าพระองค์คงไม่อาจจะทนรับได้

โปสเตอร์ หัวใจปรารถนา

“ใช่แล้ว เราสัญญากันว่าเราจะไม่พรากจากกัน หมอสัญญาว่าหมอจะไม่ทิ้งผมไป แต่แล้วเราก็จากกันจนได้ ไม่มีใครจะรู้ดอกว่าผมเสียใจเพียงไร ไม่มีใครรู้ดอกว่าผมสืบหาหมอมานานเพียงไร ผมคงจะโลดแล่นไปเมืองไทย ค้นหาหมอทั่วแผ่นดินไทย พอผมรู้ว่าหมออยู่ที่ไหน ผมดีใจแทบแย่ แล้วก็ตามหมอมาได้และทำไมเล่าหมอจะจากผมไปอีก…”

“หม่อมฉันได้กราบวิงวอนขอต่อพระพุทธนิมิตอันศักดิ์สิทธิ์ของมัณฑะเลย์ ขอตายในอ้อมอกของเจ้าสายฟ้า ที่หม่อมฉันรักเหมือนชีวิต แต่… บัดนี้ เจ้าสายฟ้าผู้นั้นสูงศักดิ์และมีเจ้าของอ้อมอุระของพระองค์ ไม่มีความอบอุ่นเช่นนั้นอีกแล้ว ไม่มีความสงบที่นี่ มีแต่ความร้อนและทนทุกข์ทรมานอย่างที่สุด แผ่นดินเมืองนายไม่ใช่ที่สงบสุขอย่างที่ดิฉันเคยนิยมชมชอบไปเสียแล้ว”

ที่เมืองไทย หมอเกริก คู่หมั้นของหมอมลุลี กำลังรอคอยหญิงคนรักด้วยความห่วงใย และยังรับรู้ถึงกระแสความรู้สึกอันอ่อนหวานของเจ้าฟ้าเมืองนายต่อคู่หมั้นคนสวยของเขา น่าแปลกที่ช่วงเวลาที่เธออยู่ รพ. เมืองนาย เขากลับไม่เคยเสาะถามสืบหารายละเอียดว่าเธอกับเจ้าสายฟ้า มีความผูกพันกันเพียงใด แต่แล้วเขาก็ได้รับข่าวว่าหมอมลุลีเจ็บหนัก จนไม่อาจเดินทางกลับมาแม่สายได้ นายแพทย์หนุ่มจึงตัดสินใจเดินทางไปรับตัวมลุลีที่เมืองนายด้วยหัวใจอันร้อนรุ่ม มลุลีตัดสินใจสารภาพความรู้สึกผูกพันที่เคยมีมา แม้ว่าเธอและเจ้าสายฟ้าจะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ที่มีราคีต่อกัน และให้หมอเกริกได้ตัดสินใจว่าจะถอนหมั้นกับเธอหรือไม่
หมอเกริกรักมลุลีมาก เขาบอกเธอว่าจะลืมอดีตทุกสิ่งทุกอย่างของเธอกับเจ้าสายฟ้า ในเมื่ออีกฝ่ายก็มีมเหสีแล้ว และเขาจะเป็นฝ่ายพาเธอกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยการขอเธอแต่งงานที่เมืองไทย ทันทีที่อาการเจ็บป่วยหายเป็นปกติ

เจ้าสายฟ้าตั้งใจจะไปส่งเธอและหมอเกริกที่ให้สัญญาว่าจะดูแลหญิงสาวอย่างดีเท่ากับชีวิตของตน แต่แล้วองค์มหาเทวี มารดาของเจ้าสายฟ้าก็ประชวรและสิ้นพระชนม์ ทำให้เจ้าฟ้าเมืองนายต้องเสด็จไปทำพิธีศพในวันที่มลุลีเดินทางกลับพอดี ทั้งสองไม่มีโอกาสได้กล่าวอำลากัน หญิงสาวตัดใจเพื่อกลับคืนสู่แผ่นดินไทย ถึงเธอจะไม่ได้รักหมอเกริกเทียบเท่ากับเจ้าสายฟ้า แต่เธอก็บูชาในน้ำใจอันซื่อบริสุทธิ์ของเขา และหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะรักเขาได้อย่างหมดหัวใจ

ระคน พยาบาลสาวที่หลงรักหมอเกริกและตัดสินใจรับหมั้นอนันต์ เพื่อนสนิทของหมอเกริกที่มาติดพันเธอ และเขาก็ต้องย้ายไปต่างจังหวัด จึงขอร้องให้ระคนลาออกจากงาน และแต่งงานไปพร้อมกับเขา ระคนพยายามตัดใจจากหมอเกริก แต่ในเวลานั้นเธอรู้ใจตัวเองดีว่าแท้จริงแล้วไม่ได้รักอนันต์เลยสักนิดเดียว จึงตัดสินใจถอนหมั้นเขา และไปยื่นใบลาออกกับหมอเกริกก่อนวันแต่งงานของหมอเกริกและมลุลีจะมาถึง

เกริกสงสัยในท่าทีของระคน และในเวลานั้นเองที่ทำให้เขาได้มองเห็นความรู้สึกอันล้ำลึกของพยาบาลสาวที่มีต่อเขาอย่างหมดใจ ในความรู้สึกสับสน หวั่นไหว นายแพทย์หนุ่มเผลอตัวเผลอใจจุมพิตระคน ในจังหวะที่หมอมลุลีขึ้นมาหาที่ห้องพักของเขาและเห็นภาพนั้นเข้าพอดี

แต่แล้วเมื่อได้เห็นภาพบาดตานั้น ความหวังสุดท้ายของหญิงสาวก็พังทลายลง เธอคิดว่าหมอเกริกหลอกลวงเธอ ไปมีความสัมพันธ์กับระคน ทั้งที่กำลังจะแต่งงาน หญิงสาวหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีจากภาพนั้น ในขณะที่หมอเกริกได้สติ เห็นมลุลีกำลังวิ่งหนีไป เขาพยายามวิ่งตาม แต่ช้าเกินไป เมื่อมลุลีล้มลงที่ปลายบันได พร้อมอาการเจ็บปวดหัวใจตามมา

หมอมลุลีร้องขึ้นสุดเสียงเมื่อรู้ตัวว่าลิ่วลงไปข้างล่าง…
ขณะนั้นเองที่เจ้าสายฟ้า เสด็จมาจากเมืองนาย มาถึงโรงพยาบาลแม่สายพอดี

เขาวิ่งขึ้นมาทันที และทันกับร่างของมลุลีที่กลิ้งลงมา เมื่อเจ้าฟ้าอ้ากรออกรับ ร่างของหมอมลุลีก็ม้วนลงสู่อ้อมแขนนั้น… มลุลีได้รู้สึกอบอุ่นในกรที่โอบกอดอย่างทะนุถนอม เจ้าฟ้าในอาณาจักรใจได้มาทันเวลา ขณะที่หัวใจของหมอมลุลีกำลังจะสลาย และบทสุดท้ายของ อาณาจักรใจ ก็จบลงด้วยอารมณ์อันขื่นเศร้าของหมอมลุลีที่บรรยายไว้ว่า

เหนือจากความปวดอย่างสุดทนทานนั้นเล่า หมอมลุลียังได้รู้สึกความหวานแฝงอยู่ ชวนให้พึงพอใจในความปวดร้าวอันนั้น “หมอมลุลี” เธอได้ยินเขาเรียกชื่อเธออีก “สุดที่รัก” เธอได้ยินอีกแต่เพียงแว่ว เธอได้พบมันแล้ว เธอได้ชนะแล้ว คราวนี้เธอจะไม่ยอมให้ใครพรากเธอออกไปจากอ้อมแขนที่ใฝ่ฝัน อ้อมแขนที่แสนจะอบอุ่นของเธอ…
หมอมลุลียิ้มอีกครั้ง เปลือกตาของเธอหรี่ลงทีละน้อย จนปิดสนิท ไม่สนใจกับหมอเกริก ระคน หรือใครอื่น

 “หมอมลุลี” เขาเรียกเธออีกครั้ง ใครเรียก? หมอมลุลีไม่สนใจ อาณาจักรใจของหมอมลุลีกำลังจะเลือนหายไปแล้วจากความรู้สึกนึกคิดอันมืดมนของเจ้าของ แต่เธอมีอ้อมแขนขจองเจ้าฟ้าประคองเธออย่างทะนุถนอม…

หลังปก อาณาจักรใจ

สำหรับ ‘มุมหนึ่งในดวงจิต’ ที่จะนำลงในบรรณาภิรมย์ ในลำดับต่อไป เป็นเรื่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับตัวละครที่เหลือของนวนิยายสองเรื่องนี้ครับ

หมายเหตุ: สำหรับปกและหลังปก อาณาจักรใจ เป็นฉบับพิมพ์ครั้งแรก ที่เป็นภาพวาดสวยคลาสสิกมากครับ ส่วนปกแรกของเรื่อง หัวใจปรารถนา นั้น ได้ไฟล์ภาพจาก คุณหมอภาคภูมิ จุลภูมิพินิจ ซึ่งผมต้องขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

Don`t copy text!