ฤทธิ์โลกีย์

ฤทธิ์โลกีย์

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

กมลพันธ์ สันติธาดา เป็นนักเขียนรางวัลนราธิป เมื่อปี พ.ศ. 2550 จากหนังสือที่ระลึกนักเขียนรางวัลนราธิป ได้ให้ข้อมูลบางส่วนไว้ว่า

ชื่อกมลพันธ์ สันติธาดา อาจไม่เป็นที่คุ้นเคยนักสำหรับคนรุ่นใหม่ แต่สำหรับนักอ่านมีชีวิตวัยหนุ่มสาวอยู่ในช่วงสังคมบันเทิงใต้อำนาจเผด็จการหลังปี 2500 เป็นต้นมา อาจคุ้นเคยกับชื่อผลงานเป็นภาพยนตร์ อาทิ มังกรดำ ดอกฟ้าในมือมาร กินรีลอยฟ้า สุภาพบุรุษเที่ยงคืน และ เจ้าแม่สาลิกา นั่นคือผลงานนวนิยายของ กมลพันธ์ สันติธาดา ที่ได้รับการถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์สำหรับผู้คนในสังคมยุคนั้น เขาไม่เพียงสร้างความบันเทิงผ่านนวนิยาย สู่ภาพยนตร์เท่านั้น หากยังเขียนเรื่องสั้น (นามปากกา เกียรติยากร) และเขียนสารคดี (นามปากกา พันธ์ธาดา) สำหรับนักอ่านทั่วไปอีกด้วย

++++++++++++++++

กมลพันธ์ สันติธาดา เกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2469 ณ บ้านแสงสว่าง จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้องสองคน ท่านจบการศึกษาจากโรงเรียนปทุมวัน มัธยมศึกษาจากโรงเรียนอำนวยเวทย์ นอกจากนี้ ยังศึกษาต่อในด้านอื่นๆ อีก อาทิ เป็นช่างเขียนแบบเอ็นจิเนียริงดรอว์อิ้ง กองทัพอากาศ กับเป็นนักเรียนจ่าอากาศพลรบ กองทัพอากาศ เป็นต้น

ท่านได้สมรสกับนางสุรางค์ เมื่อ ปี พ.ศ. 2495 และมีบุตรธิดา 3 คน

สำหรับผลงาน นวนิยาย ที่ผมเคยเห็นในนามปากกานี้ ล่าสุดก็คือนวนิยายเรื่อง ร้อยฤทธิ์พิศวาส ซึ่งคุ้นว่าน่าจะเคยลงเป็นตอนๆ ในนิตยสาร ภาพยนตร์บันเทิง และสำหรับนิยายเรื่อง ฤทธิ์โลกีย์ เรื่องนี้ แม้ว่าชื่อเรื่องอาจจะดูร้อนแรง หวือหวา ราวกับเป็นนิยายแนวอีโรติกหรือนิยายชวนสวาท แต่ทว่าเนื้อหาภายในเล่มกลับเป็นการสะท้อนชีวิตในวงการนักแสดงและนักข่าว ที่น่าจะมาจากเกร็ดประสบการณ์ชีวิตของผู้เขียน นำมาประกอบแทรกเอาไว้ด้วย อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว

++++++++++++++++++++++

นิยายเรื่องนี้ ดำเนินเรื่องผ่านตัวละครเอกหญิงสองคน คือ แสงโสม ศิริมา หญิงสาวแสนสวย ที่มีความทะเยอทะยาน มุ่งหมายที่จะเป็นดาราในโลกภาพยนตร์ ในขณะที่อีกนางหนึ่ง คือวิไลลักษณ์ ดาราสาวชื่อดัง ที่เป็นเสมือนดาวค้างฟ้าอันเจิดจรัส ทว่าหล่อนก็รู้ตัวเองดีว่าเวลาแห่งการร่วงโรยในอาชีพกำลังจะมาถึง

ฉากเปิดตัวแสงโสม ในงานราตรีสโมสร ทำให้เห็นความโสภาของหญิงสาวที่…

เสมือนของขวัญล้ำค่าที่ทุกคนต้องสนใจ ไม่ว่าหล่อนจะอยู่ในอิริยาบถใด ไม่ว่าจะอยู่ในโต๊ะซึ่งห้อมล้อมเหมือนดาวล้อมเดือนหรือยามที่หล่อนเยื้องกรายออกไปลีลาศ

มันเหมือนกับจุดรวมของกระแสไฟฟ้า ดึงดูดเอาสายตาทั้งหลายไปรวมอยู่กับหล่อน แสงโสม ศิริมา ทำให้ดาวสังคมหลายดวงในงานนี้ต้องสิ้นรัศมีไปเลยทีเดียว!

และความสวยของเธอนั่นเอง ที่สะดุดตา อดิศร ดุลยพงศ์ ดาราหนุ่มรูปงาม ที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญในจอเงินอยู่ในขณะนี้ แม้ว่าเขาจะพบว่าหล่อนมีคู่ควงเป็นสถาปนิกหนุ่มหล่อนักเรียนนอก ที่มีนามว่า กุณฑล กิติเทพ อยู่แล้วก็ตาม

+++++++++++++++++++++

แต่แล้วอดิศรก็พบว่ากุณฑลถือโอกาสลวนลามแสงโสมในระหว่างที่หล่อนกำลังมึนเมาด้วยฤทธิ์สุรา เขาตัดสินใจเข้าไปช่วยเหลือแก้ไขสถานการณ์ให้ในฐานะสุภาพบุรุษ แต่แล้วแสงโสมก็แสดงท่าทางปั้นปึ่งเย็นชาให้กับเขาเป็นการตอบแทน จนทำให้พระเอกหนุ่มรู้สึกผิดหวัง จนถึงกับกลับมาดื่มเหล้า จนเมามายอยู่ที่โต๊ะ

และวิไลลักษณ์ก็เข้ามาในงานนี้พอดี

ชีวิตของวิไลลักษณ์ เป็นชีวิตที่โดยทั่วไปรู้ว่าหล่อนไม่ใช่สาวโสด แม้ว่าหล่อนจะไม่ใช่สาว ผ่านผู้ชายที่ให้ความเป็นผัวมาแล้วมากกว่าสองสามขึ้นไป ตามแบบฉบับของดาราในฮอลลีวูด ซึ่งถือความรักเป็นเกมหรือเครื่องเล่นของชีวิตอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องจริงจัง เมื่อเกมการเล่นได้จบลง หรือเมื่อไม่พอใจจะเปลี่ยนคู่เล่นเสียกลางคันก็ได้

เพราะสำหรับวิไลลักษณ์แล้ว…

บางครั้งความสาวของผู้หญิงจึงไม่เป็นเรื่องสำคัญนักสำหรับผู้ชาย แต่มันอยู่ที่เสน่ห์ ความรุนแรงอันเกิดจากความหอมกรุ่นเหมือนกระดังงาลนไฟ ยิ่งช้ำยิ่งหอม… ยิ่งถูกลน ยิ่งซาบทรวง!

โอกาสที่ผู้จะล่าผู้หญิงอย่างหล่อนจึงไม่มี อย่างมากก็แค่หลง และคลั่งไคล้ และอาจจะถูกหล่อน ‘ล่า’ เอาเสียในบางครั้งก็เป็นได้

และสำหรับอดิศรแล้ว ในเวลานี้เขาก็กำลังถูกหล่อนล่าอยู่เช่นกัน!!

++++++++++++++++++++++++++

วิไลลักษณ์แอบพึงใจชายหนุ่มมาตั้งแต่แรก ยิ่งเมื่อเห็นเขากำลังเมามายเพราะผิดหวังจากแสงโสม คู่ปรับหล่อน วิไลลักษณ์จึงทำทีอาสาพาเขากลับไปที่บ้าน ซึ่งเหตุการณ์ทุกอย่าง อยู่ในสายตาของนักข่าวหนุ่ม ไชยันต์ ชยากร พอดี!

และแน่นอนที่นักข่าวผู้มีประสบการณ์ชีวิตโชกโชนและช่ำชอง ย่อมไม่พลาดที่จะติดตาม เพื่อเสาะหาข่าวสำคัญในคืนวันนี้

เรื่อง : ฤทธิ์โลกีย์

ผู้เขียน : กมลพันธ์ สันติธาดา

สำนักพิมพ์ : ผดุงศึกษา

ปีที่พิมพ์ : 2504

เล่มเดียวจบ

 ในเวลาเดียวกับที่เขาเองก็เข้าไปพัวพันกับชีวิตของ แสงโสม ศิริมา ที่ต้องการจะไต่เต้าตัวเองขึ้นมาเป็นดาราจนประสบความสำเร็จ เรื่องราวของวิไลลักษณ์ หญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ช่วงชีวิตดาราของหล่อนก็กำลังจะอับแสงลง และพยายามหาจุดยึดเหนี่ยวให้กับตัวเอง โดยมีดาราชายชื่อดังอย่างอดิศร และนักข่าวไชยันต์ เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญ

หล่อนต้องหยุดถอนหายใจ เมื่อกระจกบานนั้นสะท้อนเอาภาพครึ่งตัวของหล่อนออกมา โดยเฉพาะทรวงอกทั้งสองซึ่งเคลื่อนคล้อยไปบ้างแล้ว แม้จะใช้มือทั้งสองค่อยๆ ประคองช้อนขึ้น มันก็ไม่อาจอยู่ในรูปทรงอันชูชันได้ดังกาลก่อน เมื่อปล่อยมือ… ปลายทรวงอกทั้งสองก็คล้อยลงดังเดิม

“เราเริ่มแก่แล้วหรือ?”

สามัญสำนึกทำให้หล่อนต้องถามตัวเองอย่างรู้สึกขมขื่น เสียงเพลงที่ฮัมอยู่ในลำคอหวิวๆ นั้นเงียบเป็นปลิดทิ้ง

หล่อนเพิ่งจะถามตัวเองอย่างแท้จริงในวันนี้ เพราะบางครั้ง คำหลงระเริงต่อคำป้อยอ คำพรอดพร่ำของผู้ชายที่ผ่านมาแม้จะหลายคนเท่านั้น ไม่มีใครสักคนจะช่วยทึกทัก และเตือนสติให้กับหล่อนอย่างแท้จริงเลย!

+++++++++++++++++++++

เรื่องราวอันหลากหลายในวงการบันเทิง ที่สะท้อนผ่านปลายปากกาในนวนิยายชีวิตเรื่องนี้ อาจจะเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งที่ผสมผสานทั้งข้อเท็จจริง และจินตนาการของผู้เขียนผนวกร่วมเข้าไป เพื่อเสริมอรรถรสของวรรณกรรม และทำให้เราได้มองเห็นถึงการดำเนินชีวิตของอาชีพคนกลางคืน และคนในวงการภาพยนตร์ในยุคนั้นไปพร้อมกัน

เมื่อได้อ่านนิยายเรื่องนี้จบลงแล้ว มีความรู้สึกว่า เนื้อเรื่องในนิยายเหมือนค้างคา โดยไม่ได้มีบทสรุปที่ชัดเจน เลยไม่แน่ใจว่าภายหลังจากนี้ ฤทธิ์โลกีย์ ได้มีภาคต่อของตัวละครต่างๆเหล่านี้เข้ามาโลดแล่น ต่อเนื่องอีกด้วยหรือไม่ครับ

 

หมายเหตุ สำหรับรูปผู้เขียน ผมได้มาจาก เพจพิพิธภัณฑ์ นักอ่าน นักเขียน นักแปล ซึ่งต้องขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

Don`t copy text!