โรงแรมวิปริต ภาค 2

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

หลังจากจบบทบาทของดวงวิญญาณอธิวัฒน์กับโรงแรมวิปส์ของเขาลงในนวนิยายลึกลับสยองขวัญ โรงแรมวิปริต ในหน้านิตยสาร สตรีสาร ประมาณช่วงปี 2509-2510 ผ่านมาเกือบสี่สิบปี ศรีทอง ลดาวัลย์ ก็ได้จรดปากกาเขียน โรงแรมวิปริต ภาคสอง เนื้อหาต่อเนื่องจากภาคแรกในนิตยสาร โลกนวนิยาย ก่อนจะพิมพ์รวมเล่มในปีถัดมา

จากบทบรรณาธิการของสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ได้เขียนไว้ว่า

โรงแรมวิปริต 2 บทประพันธ์ของศรีทอง ลดาวัลย์ นี้เป็นเรื่องราวต่อเนื่องที่ทุกท่านเคยประทับใจกับงานเขียนของนักเขียนท่านนี้มาแล้ว เมื่อครั้งที่เขียนโรงแรมวิปริต ซึ่งโด่งดังและเกรียวกราว เมื่อนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 สี เมื่อหลายปีก่อน ประทับใจในความรักความผูกพัน ของดวงวิญญาณนักธุรกิจหนุ่ม อธิวัฒน์ที่มีต่อลูกเมีย ครั้งนั้น เขากลับมาเพื่อแจ้งเหตุให้ทุกคนรู้ถึงสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมชี้ผู้กระทำต่อเขาให้ได้รับโทษอย่างสาสม หากในครั้งนี้ หลังจากดวงวิญญาณของเขาสงบลงได้สองปี เขาต้องกลับมาอีกครั้ง เพราะกระแสจิตบริสุทธิ์แห่งลูกน้อยที่เรียกร้องอ้อนวอนให้ช่วย…

วิญญาณแห่งความผูกพัน กลับมาอีกครั้งในรูปกายของ ‘วิกาล’ ชายหนุ่มลึกลับและเปี่ยมด้วยลักษณะแห่งอธิวัฒน์ หากคราวหนี้ เขาต้องเผชิญกับ ‘นักองค์’ ชายผู้มีกิเลสเกาะกุมหัวใจอย่างยากที่ขจัด นักองค์พยายามทุกวิถีทางเพื่อครอบครองกิจการโรงแรม VIP’s โดยหารู้ไม่ว่าเขาคือชนวนที่ชักนำเหล่าดวงวิญญาณทั้งดีและร้ายให้เวียนว่ายเข้ามาสู่สถานแห่งนี้ ก่อให้เกิดเรื่องราวสยดสยองอย่างไม่รู้จบสิ้น…

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นภายหลังจากภาคแรกสองปี เมื่อนักองค์ หนุ่มใหญ่เชื้อสายกัมพูชา เข้ามาพัวพันกับเต็มสุข ภรรยาม่ายของอธิวัฒน์ ที่บัดนี้เป็นผู้บริหารโรงแรมเต็มตัว ดูเหมือนเต็มสุขจะหลงคารมและเสน่ห์ของนักองค์จนแทบเชื่อฟังทุกอย่างที่เป็นความเห็นของหนุ่มใหญ่ผู้นี้ แม้แต่การชะลอเวลาแต่งงานของอธิศรี บุตรสาวกับวิจัย ชายหนุ่มที่เฝ้ารอคอยงานแต่งงานของเขากับคนรักมาร่วมสองปี หรือแม้แต่การหาคนอื่นมาทำงานแทนตนุ ที่นักองค์เห็นว่าไม่มีประโยชน์กับธุรกิจโรงแรม

เบื้องหลังเหตุการณ์ผิดปกติเหล่านี้ เป็นเพราะนักองค์สืบทอดคาถาอาคมเขมรมาจากปู่ของเขา และใช้มนต์เสน่ห์ควบคุมจิตใจของเต็มสุข เพื่อหวังครอบครองตัวเธอและกิจการทั้งหมดของโรงแรมนี้ เขาวางแผนให้จุลสิงห์ หลานชาย เข้ามาตีสนิทกับอธิศรีแทนวิจัย เพื่อหาทางรวบรัดเธอ และจุลจิตต์ หลานสาวให้ใช้มารยาหญิงลวงล่ออธิพงศ์บุตรชายคนรอง ซึ่งอธิพงศ์เองก็กำลังสนใจนัยเนตรหรือแจ๋ม นักศึกษาสาวที่มาฝึกงานการโรงแรมอยู่ก่อนแล้ว

เหลือเพียงอธิพันธุ์ บุตรชายคนเล็กที่เพิ่งย่างเข้าสู่วัยแรกรุ่นเพียงคนเดียว ที่มองเห็นแผนการร้ายของนักองค์ แต่เด็กชายก็ไม่อาจทำอะไรได้เลย ทางเดียวที่เหลืออยู่ คือการจุดธูปอธิษฐาน… ขอให้ดวงวิญญาณของบิดา อธิวัฒน์ กลับมาเพื่อช่วยเหลือครอบครัว ซึ่งกำลังเผชิญวิกฤตจากมนต์ไสยดำของนักองค์ให้ผ่านพ้นไปให้ได้!!

และแล้ว ชายหนุ่มแปลกหน้าที่มีบุคลิกคล้ายคลึงกับอธิวัฒน์ก็ปรากฏกายขึ้นพร้อมหญิงสาวท่าทางประหลาด นามวิกาล และราตรี ทั้งคู่ก็คือดวงวิญญาณของอธิวัฒน์และนางตะเคียน คู่ครองในอดีตชาติของเขานั่นเอง ทั้งคู่ได้ย้อนกลับมายังโลกมนุษย์อีกครั้งในสภาพกายหยาบ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง

การปรากฏตัวของเขานำพาซึ่งดวงวิญญาณทั้งหลายที่เคยผูกพันกันมาในภาคแรกให้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทั้งนางตานี ในสภาพของคุณขจี ที่เข้ามาช่วยเหลือและติดต่อกับตนุอีกครั้ง นางตานีเห็นว่าจุลสิงห์ใช้มนต์ดำเพื่อหลอกล่ออธิศรี จึงช่วยเหลือเธอเอาไว้ และทำให้จุลสิงห์ตกเป็นสามีของปีศาจกล้ายที่มีนามว่าพะยอมรัตน์ ความรักความหึงหวงที่นางปีศาจมีต่อสามีใหม่ ทำให้นางลักพาจุลสิงห์ไปซ่อนไว้เพื่อให้เสียชีวิตและจะได้ครองคู่กันในปรภพ

เช่นเดียวกับดามพ์ เด็กหนุ่มที่ติดพันนัยเนตรมาตั้งแต่เรียนหนังสือด้วยกัน และพบว่านัยเนตรรักกับอธิพงศ์ ในขณะที่ตนเองประสบอุบัติเหตุรถคว่ำและจมน้ำตายในบึงร้างระหว่างการเดินทางไปต่างจังหวัด วิญญาณของเขาจึงปรากฏร่างขึ้นโดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ และพยายามขัดขวางความรักของอธิพงศ์กับนัยเนตรทุกวิถีทาง

เขมวงศ์เป็นนักธุรกิจหนุ่มอีกคนหนึ่งที่เข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นในโรงแรมแห่งนี้ เขาสงสารเต็มสุขที่ต้องรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง และพยายามเข้ามาช่วยเหลือเธอ ในขณะที่นักองค์เองก็ไม่ชอบหน้า และพยายามหาทางกำจัดเขา พร้อมกับวิกาล ชายแปลกหน้าผู้นั้นด้วยเช่นกัน

นักองค์ติดต่อพ่อปู่ของตัวเองที่เป็นหมอไสยศาสตร์ให้เข้ามาช่วยจัดการกับบรรดาปีศาจทั้งหมดที่เข้ามาอาละวาดในโรงแรมแห่งนี้ แต่ดูเหมือนดวงวิญญาณต่างๆ จะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยเฉพาะวิญญาณของพะยอมรัตน์ที่ลักพาจุลสิงห์ไปซ่อน รวมถึงวิญญาณของดามพ์ ที่ต้องการให้นัยเนตรเสียชีวิตตายตกไปพร้อมกับเขา

เรื่อง : โรงแรมวิปริต ภาค 2

ผู้ประพันธ์ : ศรีทอง ลดาวัลย์

สำนักพิมพ์ : ณ บ้านวรรณกรรม

ปีที่พิมพ์ : 2542

เล่มเดียวจบ

พ่อปู่มองเห็นผลกรรมที่ลูกหลานของตนเองก่อขึ้นกับครอบครัวของอธิวัฒน์ จนทำให้เกิดเรื่องราวบานปลายมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนยากแก้ไข หนทางสุดท้าย คือการร่วมมือกับดวงวิญญาณของอธิวัฒน์ จัดการกับดามพ์และปีศาจตนอื่นๆ จนราบคาบ ก่อนที่อธิวัฒน์และปีศาจนางตะเคียนจะกลับคืนสู่ภพภูมิของตนเองอีกครั้ง ส่วนนักองค์ก็เดินทางกลับไปพร้อมกับพ่อปู่ เมื่อรู้ว่ามนต์ดำของตนเองไม่อาจเอาชนะใจของเต็มสุขได้

ส่วนอธิวัฒน์นั้นรู้ดีว่าชีวิตในโลกมนุษย์ของตนเองหมดสิ้นไปแล้ว ในขณะที่เต็มสุข ภรรยา ยังอยู่บนโลกใบนี้ เขารู้ดีว่าคนที่เหมาะสมกับภรรยาของเขา และสามารถฝากชีวิตของเธอเอาไว้ได้ คือเขมวงศ์นั่นเอง ในขณะที่อธิศรีก็แต่งงานกับวิจัย สมดังความปรารถนา ในงานรดน้ำสังข์วันสมรสนั้นเอง ที่อธิศรีได้เห็น ‘คุณวิกาล’ อีกครั้ง

และบัดนี้ เขายืนอยู่เบื้องหน้าหล่อน… กำลังจรดปลายขอนสังข์สีขาวสะอาดลงบนศีรษะหล่อนและวิจัยพลางอวยพร…

“วิกาลผู้ใจดี… วิกาลผู้มีลักษณะท่าทีกอปรด้วยจิตใจอันโอบอ้อม เต็มไปด้วยความห่วงใยประดุจบิดาบังเกิดเกล้า… วิกาลผู้คล้ายคลึงพ่ออธิวัฒน์ผู้จากไปโดยมรณะสภาพเป็นที่สุด… วิกาลผู้… เอ๊ะ อะไรกันนั่นนะ…?

อธิศรีตะลึงเหมือนถูกสาป ภาพวิกาลที่กำลังหลั่งน้ำสังข์บนศีรษะวิจัยค่อยๆ กลายเป็นภาพบิดา และที่สุด เขาคือบิดาจริงๆ เมื่อหันกลับมายิ้มกับหล่อน…

      

“คุณพ่อ…!” อธิศรีอุทาน น้ำตาไหลอาบแก้ม

“ท่าน…!”

วิจัยอุทานบ้าง นั่นท่านอธิวัฒน์นี่นะ ไม่ใช่คุณวิกาลผู้ถูกสงสัยว่าเป็นปีศาจผู้ใดแปลงมาดอก และก็เขาคืออธิวัฒน์จริงๆ อย่างที่ถูกสงสัย… แม่ราตรีรับน้ำสังข์มาจากวิกาลและรดน้ำให้หล่อนด้วย

ร่างทั้งสองนั้นค่อยๆ จางหายไปต่อหน้าต่อตาคู่บ่าวสาว ที่จ้องมองแทบไม่กระพริบตลอดเวลาขณะมีผู้ใหญ่มาถอดมงคล อธิศรีกราบลงด้วยความเต็มตื้นพร้อมวิจัยไปยังจุดที่บิดาหายวูบไป…

และแล้วเรื่องราวอันสุดแสนมหัศจรรย์ของ โรงแรมวิปริต ก็ดำเนินมาถึงบทอวสานอย่างสมบูรณ์

หมายเหตุ : สำหรับ โรงแรมวิปริต และ โรงแรมวิปริต ภาค 2 นี้ ผมเรียบเรียงจากบทความในบล็อกแก๊ง สามปอยหลวง ที่เคยเขียนไว้หลายปีก่อนครับ