เมื่อหมอกสลาย

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

เมื่อหมอกสลาย เป็นนิยายที่เคยลงตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในนิตยสาร สกุลไทย ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2537 ก่อนนำมารวมเล่มครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2538 ต่อมาถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ช่องเจ็ด นำแสดงโดย จอห์น ดีแลน (ภายหลังเมื่อ จอห์น ดีแลน ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ก็ได้เปลี่ยนนักแสดงมาเป็น แอนดริว เกร็กสัน แทน) โดยประกบคู่กับ สโรชา วาทิตตพันธ์ และ เกวลิน คอตแลนด์

เรื่องราวใน เมื่อหมอกสลาย ใช้ฉากอำเภอชนบทแห่งหนึ่งในประเทศไทยในอดีต นายพนาหรือเจ้าพ่อพนาผู้ทรงอิทธิพลเถื่อน รวมถึงสุดเขตน้องชาย ที่มีความเหี้ยมโหดอำมหิตไม่แพ้กันแผ่ขยายอำนาจทมิฬครอบคลุมคนในชุมชนแห่งนั้น ทำให้ชาวบ้านหรือใครก็ตามที่มาขัดขวางจะถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดหรือไม่ก็โดนสั่งย้าย รวมถึงนายดุสิต เจ้าของโรงพิมพ์ท้องถิ่นที่ทำข่าวทุจริตของพนา จนถูกสั่งเก็บ

จนกระทั่งสารวัตรวิทูร์ย้ายเข้ามาที่นี่ เขาเป็นตำรวจน้ำดีตงฉิน จนสามารถนำสืบคดี ขุดพบศพในโรงสีเจ้าพ่อพนาพร้อมกับศพคนอื่นที่ขัดผลประโยชน์ จนถูกสังหารแล้วโบกปูนอำพรางศพไว้ที่นั่น

เหตุการณ์นั้นเอง นายพนาจึงถูกจับและตัดสินจำคุกตลอดชีวิต

พนามีลูกสาวคนเดียวคือตะวัน ตอนนั้นเด็กสาวยังเรียนชั้นมัธยมและจำได้ถึง ทชาลูกชายของสารวัตรวิทูร์ที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนเดียวกัน แม้ว่าพ่อของแต่ละฝ่ายอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน แต่มิตรภาพของเด็กทั้งสองก็หาได้ลดทอนลงเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ไม่

เวลาผ่านไปทชาไปเรียนต่อการเกษตร และเดินทางกลับมายังบ้านเกิด สารวัตรวิทูร์ในวัยเกษียณซื้อที่ในแถบนั้นเพื่อทำไร่และเลี้ยงม้า โดยมีพวงเพชร ภรรยา และน้องนุช น้องสาวคนเดียวของทชา อยู่ร่วมกันในครอบครัวเล็กๆ แห่งนี้ มันคงเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขสงบในบั้นปลายชีวิต ถ้าหากจะไม่มีข่าวว่า สุดเขต น้องชายพนา กำลังวิ่งเต้นเพื่อให้พี่ชายตนเองพ้นโทษออกมา ขณะที่ตอนนี้ สุดเขตเองก็ประสบความสำเร็จในธุรกิจโรงงานและกำลังจะลงเล่นการเมืองท้องถิ่น

ทุกคนรู้ดีถึงความพยาบาทคั่งแค้นของพนา ที่ถูกลูบคมอย่างเจ็บแสบ จนต้องเสียท่าเข้าไปอยู่ในคุก และมั่นใจว่า เมื่อเขาหลุดออกมาเมื่อใด วิทูร์และครอบครัวคือเป้าหมายแรกที่เขาต้องการจะเช็กบิล!

เขาเริ่มคิดถึงวันคืนเก่า และเพื่อนฝูงเก่าๆ สมัยสารวัตรวิทูร์ วันที่กฎหมายยังปกป้องคุ้มครองได้ทุกคน วันที่ความเป็นธรรมเบ่งบานอยู่ทุกหัวระแหง ถ้าผู้รักษากฎหมายยังรักษาสิ่งนั้นไว้ไม่ได้แล้วใครจะรักษา อีกไม่นานโจรผู้ร้ายก็คงจะเต็มบ้านเต็มเมืองเหมือนเดิม และคนรักสงบอย่างเขาก็คงไม่วายต้องคว้าปืนผาหน้าไม้มาปกป้องตัวเอง…

เรื่อง : เมื่อหมอกสลาย

ผู้เขียน : ม.มธุการี

สำนักพิมพ์ : ดอกหญ้า

ปีที่พิมพ์ : 2538

เล่มเดียวจบ

วิทูร์เองก็รู้ในข้อนี้ ทว่าในเวลานี้เขาไม่ใช่ในนายตำรวจมือปราบผู้ยิ่งใหญ่อีกต่อไปแล้ว หากเป็นชายวัยเกษียณ มีลูกและเมียที่ต้องดูแลด้วยความเป็นห่วง เขาพยายามติดต่ออธิบดีหรือนายอำเภอที่คุ้นเคยกัน แต่ทุกคนต่างวางมือหรือเจ็บป่วยด้วยโรคชรา จนไม่อาจจะช่วยเหลืออะไรเขาได้อีกต่อไป

มีหนทางเดียวคือการช่วยเหลือตัวเองให้รอด!

เขาตัดสินใจให้ภรรยาและน้องนุชลูกสาวไปอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ ระหว่างพนาออกมาจากคุก และแน่นอนคราวนี้ นอกเหนือจากพนาแล้ว ยังมีทั้งสารวัตรธงชายที่เป็นเจ้าหน้าที่ราชการแต่ทำงานให้กับสุดเขตเข้ามาร่วมวงอีกต่างหาก ในขณะที่โรงงานของสุดเขตเองก็ปล่อยน้ำเสียลงสู่บึงน้ำ จนทำให้เกิดโรคระบาดร้ายแรงกับคนในชุมชน โดยที่มีเพียงทชา ลูกชายของวิทูร์ เป็นตัวตั้งตัวตี ในการเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนในหมู่บ้านอีกต่างหาก

และแล้วด้วยแผนโฉดชั่วของสุดเขตกับสารวัตรธงชาย ที่ฆ่าหมู่เติมซึ่งกำลังเดินทางไปหาวิทูร์ที่ไร่ แล้วโยนความผิดให้อีกฝ่าย จนตำรวจต้องมาปิดล้อมอาณาเขตไร่ของวิทูร์ เพื่อจับกุมเขา สุดเขตเสแสร้งเข้ามาทำทียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพื่อแลกเปลี่ยนให้เขายอมขายที่ดินทั้งหมดให้กับตนเอง ในเวลาเดียวกับที่สุดเขตกับพนาเองก็มีเรื่องบาดหมางในผลประโยชน์ของกันและกัน จนเกิดการปะทะกันขึ้น

ในท่ามกลางฝุ่นดินและควันปืนอันกรุ่นระอุนั้นเอง เมื่อดอกรักของสองหนุ่มสาวที่ผูกพันกันมาแต่เด็กต่างก็ผลิบาน ทั้งทชาและตะวัน จะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ผ่านม่านหมอกอันหนาทึบด้วยกิเลสของผู้คนรอบข้าง ไปสู่ความสว่างสดใสของวันพรุ่งได้หรือไม่

เมื่อหมอกสลาย คือคำตอบนั้น!