ศิลามณี

ศิลามณี

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

เจ้าหญิงแสงฝาง                  เจ้านางธิดาคนงาม

เย่อหยิ่งทุกยาม                     เลื่องลือนามล้านนา

โอ่โอ๊ เจ้างาม                        ตามหา ศิลามณี

อุปสรรค มากมี                     แต่คนดี ได้มา…

หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับเพลง ศิลามณี อันแสนไพเราะ จากฝืมือการขับร้องของ คุณโอภาส ทศพร เป็นอย่างดี รวมถึงเวอร์ชันละครโทรทัศน์ที่นำมาสร้างอย่างน้อยถึงสองครั้ง สำหรับนวนิยาย ศิลามณี ตีพิมพ์ในครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2511 นักอ่านจะพบว่าหน้าปกนั้นเขียนว่า เป็นบทประพันธ์ของณิศา…

‘ณิศา’ เป็น อีกนามปากกาหนึ่งของ คุณวราภา ณ สงขลา หรือ ‘วราภา’ เจ้าของนวนิยายชื่อดังอย่าง หมูแดง โดมทอง แม่หญิง วันนี้ที่รอคอย และอื่นๆ อีกหลายเรื่อง ศิลามณี เป็นผลงานนวนิยายในยุคแรกๆ ของท่าน ที่เขียนขึ้นในนามปากกาณิศา เมื่อนำมารวมเล่มกับสำนักพิมพ์แพร่พิทยา จึงใช้ควบทั้งณิศาและวราภาไปพร้อมกัน

พระ-นาง จากละครศิลามณี

จากส่วนหนึ่งในคำนำของหนังสือนิยายเล่มนี้ ที่เขียนขึ้นโดยคุณพิชัย รัตนประทีป นอกจากจะทำให้ทราบว่า ศิลามณี น่าจะเป็นงานเขียนภายหลังจุดเริ่มต้นของวราภา มาประมาณ 5 ปี และเป็นผลงานประมาณเรื่องที่เจ็ดของท่านแล้ว ยังทำให้ทราบอีกว่า

หากพิเคราะห์จากนามปากกา “ณิศา” แต่เพียงอย่างเดียว ท่านผู้อ่านอาจจะรู้สึกว่าเป็นนามใหม่เกินไป แต่หากท่านทราบว่า ณิศา นั้น แท้จริงแล้วคือวราภา นักเขียนสตรีวัยรุ่นผู้มีชื่อเสียงที่สุด และได้รับคะแนนนิยมสูงสุดจากหนังสือพิมพ์ดรุณีรายสัปดาห์ ท่านก็จะไม่รู้สึกแปลกใจเลยว่า ทำไมนวนิยายของณิศาจึงเป็นที่สบอารมณ์ของท่านเช่นนั้น

ศิลามณี ที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ ณิศาได้เขียนขึ้นในระหว่างที่เธอกำลังศึกษาอยู่ในสหรัฐอเมริกา ความสำเร็จของนวนิยายเรื่องนี้ เชื่อว่าจะเป็นแบบอย่างในการประพันธ์สำหรับนักเขียนรุ่นใหม่ๆ ให้เป็นตัวอย่างนวนิยายแนวแม่ผัวลูกสะใภ้ หรือผู้ดีตกยากค่อยหมดสิ้นไป ในเมื่อณิศาได้กล้าพิสูจน์ให้เห็นว่า นวนิยายที่ไม่มีเรื่องดังกล่าวก็สามารถดึงดูดความต้องการของผู้อ่านได้เช่นกัน

เรื่องราวของศิลามณี หรือมรกตล้อมเพชรอันวิจิตร คือของหมั้นของเจ้าฟ้าแสนหลวงแห่งเมืองเชียงรัฐ ที่มอบให้กับพระยาเพชรายุทธ เพื่อเป็นการหมั้นหมายระหว่างธิดาของเจ้าฟ้ากับลูกชายของพระยาเพชรายุทธ ตั้งแต่ที่ทั้งคู่ยังเยาว์วัย

“เธอเองก็รับรู้เท่าๆ กับฉัน ก่อนที่จะได้ของสิ่งนี้มาว่าเราจะต้องทำอย่างไร ประเพณีของเชียงรัฐ ผู้หญิงจะเป็นฝ่ายหมั้นผู้ชาย แต่สำหรับชั้นเจ้านาย… ธิดาเจ้าฟ้าผู้ครองแคว้น ของหมั้นเขาคือศิลามณีที่เขาถือกันว่าสูงค่ายิ่งนัก เจ้าฟ้าแสนหลวงมอบศิลามณีแก่เราหมายความว่าต่อไปเขาและเราจะกลายเป็นทองแผ่นเดียวกัน ลูกสาวเขากับลูกชายเรา แต่ที่เป็นเช่นนี้มิใช่ว่าฝ่ายเขาจะอยากได้ลูกชายเราจนตัวสั่น… ฉันเองที่รักน้ำใจเจ้าฟ้าแสนหลวง และพลอยเอ็นดูไปถึงลูกสาวเขาด้วย แม่เสมอใจ ฉันขอลูกสาวเขานะ ไม่ใช่เขาขอลูกชายเรา”

มันคือสัญญาแห่งเกียรติยศ ที่ภายหลังเมื่อพระยาเพชรายุทธเดินทางกลับไปยังกรุงเทพฯ แล้ว ท่านก็เสียชีวิตลง และศิลามณีอันเป็นเสมือนพันธสัญญานั้นตกอยู่ในมือของคุณหญิงเสมอใจ ภรรยาของท่าน ผู้ที่มีความโลภและต้องการยึดไปเป็นสมบัติของตัวเอง

สิเรียม ในเรือง ศิลามณี

เจ้าฟ้าแสนหลวงกับคุณอทิติ มีธิดาคือเจ้าหญิงแสงฝาง หรืองาม แต่ภายหลังเธอตัดสินใจละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งเชียงรัฐ เจ้าฟ้าแสนหลวง และลูกสาวเพียงคนเดียว เพื่อมาเป็นภรรยาของ พลโทจอมณรงค์ ซึ่งเป็นพ่อม่ายลูกติด และมีลูกสาวนามว่าศศิ บัดนี้ เมื่อเวลาผ่านไป เธอคือ คุณหญิงอทิติ บูรณโยธิน ผู้มีชื่อเสียงในวงสังคมเมืองไทย โดยไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้อดีตมาก่อน

แสงฝางเองก็ถูกส่งตัวมาเรียนที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เด็ก ทว่าเด็กหญิงเองก็หาได้มีความผูกพันกับผู้เป็นมารดาไม่ เมื่อเจ้าฟ้าสิ้นพระชนม์ลง เธอก็ได้ติดต่อกับผู้เป็นมารดาอีกเลย และเปลี่ยนชื่อจากแสงฝางมาเป็น งาม แสนหลวง เพื่อติดตามหาศิลามณี ตามข้อมูลที่ได้รับทราบจากเจ้าฟ้าแสนหลวง เพื่อขอซื้อมันคืนกลับมายังเชียงรัฐตามเดิม

ในขณะที่ คุณหญิงเสมอใจ ราชเสนา ภรรยาของพระยาเพชรายุทธ ก็มีลูกชายสามคน นายแพทย์พิภพ ภักดีพงศ์ หรือต้น เป็นลูกชายคนโต ที่พระยาเพชรยุทธรับมาอุปการะ ในขณะที่ ต้อมหรือ ภรต ราชเสนา คือสายเลือดราชเสนา ของท่านคนแรก และชาลี เป็นน้องชายคนสุดท้าย

เรื่อง : ศิลามณี

ผู้เขียน : ณิศา-วราภา

สำนักพิมพ์ : แพร่พิทยา

ปีที่พิมพ์ : 2511

เล่มเดียวจบ

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เมื่อนายแพทย์พิภพพาอิสรีย์ หญิงคนรักมาพบท่าน สร้างความไม่พอใจแก่คุณหญิง เพราะเธอรำลึกถึงเรื่องศิลามณีขึ้นมา และตั้งความปรารถนาไว้ว่า ถ้าหากถูกทวงถามถึงสัญญาจากเชียงรัฐ จะส่งพิภพให้เป็นตัวแทนของ ‘ราชเสนา’ ไปแทน

เมื่อนั้น ภรตจึงรับรู้ว่ามารดาไม่ต้องการให้เขาต้องไปแต่งงานกับหญิงสาวที่ต่างเชื้อชาติชาวเชียงรัฐผู้นั้น ทั้งที่เขาเองก็ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน

ในขณะที่ศศิ ทายาทของนายพลจอมณรงค์ ที่บัดนี้เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็มีโอกาสได้พบกับนักศึกษาสาวแสนสวยต่างคณะที่มีชื่อแปลกว่า งาม แสนหลวง และเพื่อนสนิทเป็นหนุ่มจิตรกรรม ศิลปากร นามว่าชาลี ดูเหมือนชาลีจะตามติดงามอย่างคนรักที่คลั่งไคล้หญิงสาวสวยสง่าผู้นั้น หากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ศศิมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับชาลี และ งาม แสนหลวง ก็มีโอกาสได้รู้จักกับพี่ชายของชาลีผู้มีนามว่า ภรต ราชเสนา ทำให้เธอรับรู้ว่าเขานี่เองคือเจ้าของศิลามณี และเป็นว่าที่คู่หมั้นของเจ้าหญิงแสงฝาง ที่ตนกำลังตามหาอยู่!

ในวังวนแห่งความรักสี่เส้า ภรตพยายามบังคับหัวใจตัวเองไม่ให้รักเธอ เขาเสแสร้งฝืนตนเองเสมือนคนไม่มีหัวใจ เมื่อเอ่ยปากบีบบังคับให้งาม แสนหลวง ปฏิเสธไมตรีจากชาลี เพื่อให้น้องชายของเขาได้แต่งงานกับศศิ ผู้หญิงที่มีความเหมาะสมกับ ชาลีทุกประการ งามเป็นฝ่ายยอมรับการดูถูกเหยียดหยามนั้น โดยไม่ปริปากอย่างใด แม้แต่ความจริงว่าเธอคือเจ้าหญิงแสงฝาง แห่งเชียงรัฐ และหญิงสาวก็คิดว่าตนเองจะล้มเลิกภารกิจการตามทวงศิลามณีกลับคืนมาเสียที

ชาลีอกหักแทบคลั่งจนถึงกับเอ่ยคำพูดบริภาษงามด้วยความเข้าใจผิดจนมิตรภาพระหว่างกันขาดสะบั้นลง ต่อมาเมื่อมีศศิคอยอยู่เคียงข้าง ปลอบใจจนทำให้เขาเริ่มรู้สึกดีๆ กับหญิงสาวผู้นั้น และยอมเข้าพิธีแต่งงานกับเธอ ในขณะเดียวกันเมื่อเวลาผ่านไป ชาลีเติบโตมีสติขึ้นจนเข้าใจความรู้สึกของงาม และทำให้เขามองเห็นสายใยของความรักของผู้เป็นพี่ชายที่พยายามหลบซ่อนเอาไว้เช่นเดียวกัน ชาลีได้เปิดอกคุยกับภรต ภายหลังจากที่งามเดินทางกลับเชียงรัฐไปแล้ว

+++++++++++++

ทุกอย่างน่าจะจบสิ้นลงตามความต้องการของคุณหญิงเสมอใจ เธอได้ครอบครองศิลามณี แม้ว่าจะไม่ใช่ในสิ่งที่ควรจะเป็น หากภรตลูกชายของเธอนั่นเอง ที่ไม่อาจยอมรับได้ ชายหนุ่มผู้ซื่อตรงกับความคิดของตนเอง ตัดสินใจจะนำศิลามณีกลับไปคืนเจ้าหญิงแสงฝาง และตามหาผู้หญิงที่เขารัก… งาม แสนหลวง ผู้หญิงชาวเชียงรัฐ ที่เขาไม่รู้เลยว่าคือคนเดียวกันให้พบ

ที่เชียงรัฐนั่นเอง เขาได้พบงามอีกครั้ง และเข้าใจว่าเธอเป็นเพียงหญิงรับใช้ของเจ้าหญิงแสงฝาง ภรตประสบอุบัติเหตุในเวลาที่งามเพิ่งตอบรับไมตรีจากเจ้ากาวิล เจ้าชายแห่งรัฐฉานพอดี และเมื่อเธอมาเยี่ยมภรตด้วยความเป็นห่วงที่โรงพยาบาล

ความรู้สึกที่เขาสารภาพอย่างจริงใจต่อผู้หญิงธรรมดาอย่าง งาม แสนหลวง นั่นต่างหาก ที่ทำให้เธอ มาถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญ

“ไม่ได้ละเมอ ไม่ได้ฝัน แต่พูดเพราะความจริง ผมบอกกับชาลีว่าจะมาติดตามหาคุณ และจะไม่กลับไปถ้าไม่ได้พบคุณอีก งาม รอผมนะ… แล้วเราจะแต่งงานกัน คุณรู้จักเจ้าหญิงแสงฝางไม่ใช่หรือ ผมจะได้ฝากด้วย ฝากศิลามณีไปคืน ผมไม่ได้รักเขา ผมรักงามคนเดียวเท่านั้น”

หญิงสาวยืนตัวแข็ง … ผมไม่ได้รักเขา ผมรักงามคนเดียวเท่านั้น อะไรกัน เธอฝันไปหรือจึงได้ยินคำพูดที่มหัศจรรย์ที่สุดเช่นนี้ ภรตรักเธอ รักทั้งๆ ที่รู้ว่างามเป็นเพียง “คนใช้” ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นความจริง คนหยิ่ง ถือตัว และช่างดูถูกมนุษย์ที่สุดอย่างเขาจะมารักเธอ”

++++++++++++++++

และงานเลี้ยงที่ม่อนฟ้า ในคืนวันต่อมานั่นเอง เมื่อภรตได้รับเชิญให้ไปร่วมตามคำเชิญของ เจ้าสายบดี เจ้าพี่ของเจ้าหญิงแสงฝาง และทำให้ความจริงทุกอย่างปรากฏขึ้น ภรตถึงกับตกตะลึงไม่คาดฝัน

และเป็นเจ้าสายบดี นั่นเองที่ทำให้เขากับแสงฝาง ได้มีโอกาสเผชิญหน้ากัน

“คุณช่วยสร้างความหวังให้กับผมจนตายใจ โดยถือสิ่งนี้เป็นเครื่องมือแก้แค้น คุณตีราคาความรักอันบริสุทธิ์ของผู้ชายคนหนึ่ง โดยการเหยียบมันลงไว้ใต้ฝ่าเท้า…”

“หยุดนะคุณภรต”

“ผมรักงามด้วยหัวใจแท้ๆ ของผู้ชายจะพึงมีต่อหญิงคนเดียวในชีวิตของเขา แต่… ผมโง่ไปถนัดใจทีเดียว”

“คุณภรต”

“ไม่มีความผิดหวังครั้งไหนในชีวิตของผม จะเทียบเท่ากับความผิดหวังที่รู้ว่าคนรักของตัวเองกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น แต่ขอให้เชื่อเถิดว่า ถึงอย่างไรผมก็ดีใจด้วยกับคุณอย่างแท้จริง”

หญิงสาวถามตัวเองว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอกระทำลงไปทั้งสิ้นเพื่ออะไรกัน? ความพอใจที่จะได้แก้แค้นภรตทำให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจหายไปข้างไหนเสียหมด ทำไมจึงมีแต่ความเศร้าสร้อยอ้างว้าง และอยากร้องไห้มากถึงเพียงนี้ เธอเกลียดเขาหรือ? เกลียดแต่เหตุใดจึงรู้สึกใจหาย เมื่อรู้ว่าเขากำลังจะจากไป โดยทิ้งคำอวยพรให้เธอ กับเจ้ากาวิลแห่งรัฐฉาน… น้ำตา! เจ้าประคุณเอ๋ย ขออย่าได้ไหลออกมาในตอนนี้เลย ถึงอย่างไรเธอก็จะให้เขารู้ไม่ได้เป็นอันขาด…”

เขาเดินเข้ามาหยุดเบื้องหน้าเธอ ในมือมีอาภรณ์ที่ความงามของมันส่งประกายกล้าและรุนแรง

“ศิลามณีคือความผูกพันระหว่างเราทั้งสองคน แสงฝาง ถ้าผมรู้เรื่องก่อนว่าอะไรเป็นอะไร ผมจะไม่ปล่อยให้เรื่องเป็นไปเช่นนี้เป็นอันขาด”

ภรตโน้มกายลงเล็กน้อย เมื่อสวมสร้อยคอมรกตล้ำค่าสายนั้นแก่แสงฝาง ลมหายใจอบอุ่นของเขาปะทะที่หน้าผากละมุน พร้อมถ้อยคำกระซิบว่า

“บอกงามของผมด้วยว่า ถึงอย่างไร ผมก็รักเธอเสมอ”

++++++++++++++++++++

เรื่องราวของ ศิลามณี ดำเนินไปด้วยความเข้มข้นเร้าใจ และพาให้ผู้อ่านได้ลุ้นไปกับความรักของ เจ้าหญิงแสงฝางแห่งเชียงรัฐ กับภรต ราชเสนา ให้จบลงอย่างมีความสุขสมหวัง เช่นเดียวกับในตอนท้ายของบทเพลง ที่มีความไพเราะเป็นอมตะ และกังวานอยู่ในความทรงจำของหลายๆท่านมาตราบจนถึงวันนี้

โอ่ โอ เจ้างาม             เจ้าตามเอาความรักมา
ถึงจะปวดร้าวอุรา                  สุดท้ายพาให้สมหวัง…

หมายเหตุ : สำหรับ ภาพประกอบจากละครศิลามณีนั้น ผมนำมาจากเพจ ละครไทยในความทรงจำ เป็นภาพการแสดงในเวอร์ชันแรก ปี พ.ศ. 2537 ที่นำแสดงโดย คุณสิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ และคุณยุทธพิชัย ชาญเลขา ครับ

 

Don`t copy text!