มณีดง

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

****************************

ผมติดตามอ่าน มณีดง ของ ‘สิงขร’ มาตั้งแต่ที่สมัยที่เคยลงเป็นตอนๆในนิตยสารเครือ บางกอก (น่าจะเป็นนิตยสาร บางกอกสแควร์ ฉบับแรกๆ) ในยุคนั้น บางกอกสแควร์ น่าจะเป็นนิตยสารในเครือบางกอกฉบับเดียวที่ลงนวนิยายต่อเนื่องกันในฉบับครั้งละหลายๆ ตอน เป็นที่จุใจ แก่บรรดานักอ่านเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ไม่ต้องอดทนรออ่านทีละตอน ทีละตอน เหมือนจากนิตยสารรายสัปดาห์ฉบับอื่นๆ

ผลงานของคุณสิงขร นักอ่านจากเครือ บางกอก ทานตะวัน น่าจะรู้จักกันดี จากผลงานนวนิยายผจญภัยอันลือลั่นจากเรื่อง ลูกดอกจรวด ผมเพิ่งทราบจากคำนำของสำนักพิมพ์ว่า นิยายเรื่องนี้มีความยาวถึง 4 ภาค และใช้เวลาในการตีพิมพ์ลงในนิตยสารนานถึงแปดปีเศษ นับว่าน่าจะเป็นนิยายระดับมหากาพย์แนวผจญภัยโลดโผนอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว แต่เป็นที่น่าเสียดาย ที่ไม่พบว่ามีการจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มออกมาในปัจจุบัน

สำหรับ มณีดง เรื่องนี้ เป็นนวนิยายขนาดสั้น เล่มเดียวจบ เนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับการเดินทางในป่าของตัวละครเอกพร้อมกับการเผชิญเรื่องราวมหัศจรรย์ลี้ลับต่างๆ ครบรสเลยทีเดียว เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อกลุ่มของพจนารถ ไพศาล หรือพ่อเลี้ยงน้อย ชายหนุ่มลูกเศรษฐีเจ้าของโรงงานถลุงแร่ที่เชียงใหม่ แต่มีนิสัยเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ จำต้องรับภารกิจเดินทางมาสำรวจแหล่งแร่ดีบุกและวูลแฟรม ที่ป่าอมก๋อย โดยติดต่อพรานจ้อน พรานนำทางมืออาชีพ

แต่บังเอิญพรานจ้อนเกิดอุบัติเหตุไม่สามารถออกเดินทางได้ แม้จะพยายามติดต่อหาพรานคนอื่น ก็ไม่มีผู้ใดยอมไปด้วย จนเหลือเพียง นกยูง สาวน้อยลูกสาวคนเก่งแสนเฮี้ยวของพรานจ้อน ที่ต้องการหาเงินมารักษาพ่อที่เจ็บป่วยในครั้งนี้ พจนารถเองตอนแรกก็ไม่ถูกชะตาสาวน้อยรูปสวยแต่ปากกล้าไม่ยอมใคร แต่เมื่อไม่มีทางเลือก เขาและนายสัจจาผู้จัดการบริษัท จึงจำเป็นต้องจ้างนกยูงให้เป็นหัวหน้าพรานป่าออกนำทางเพื่อไปสำรวจป่าลึกแห่งนี้แทน

การผจญภัย ครั้งสำคัญจึงเริ่มต้นขึ้นโดยมีพจนารถและสุชาดาคู่หมั้นสาวมากเสน่ห์ สัจจา ผู้จัดการบริษัท หมอสุธรม หุ้นส่วนคนสำคัญของบริษัท และกันต์ คันธราช ชายหนุ่มผู้เคร่งขรึม ร่วมขบวนในการเดินป่าครั้งนี้ โดยมี ‘หนานบุญตัน’ หนุ่มบ้านป่าที่แอบหลงรักนกยูงสุดหัวใจ แอบติดตามไปโดยไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้

และแล้ว กลุ่มนักเดินทางที่มีพจนารถนำทีม ก็ต้องทะเลาะกับนกยูงพรานสาว ซึ่งไม่ถูกชะตากันตั้งแต่แรกตลอดการเดินทาง ชายหนุ่มผู้เอาแต่ใจตัวเองและอวดดี ฝ่าฝืนคำสั่งพรานสาว ทำให้เขาและบรรดาลูกหาบต้องเผชิญกับอสุรกายสยองที่มีชื่อว่า สมอยดง หรือผีกองกอยหรือ ‘มลางดง’ อมุนษย์ครึ่งผีครึ่งคน ที่จะลักพามนุษย์มาแล้วควักกินตับไตใส้พุงเป็นอาหาร

หนานบุญตันเข้ามาช่วยเหลือนกยูงในเวลาคับขันพอดี ทำให้หล่อนรู้ว่าเขาแอบตามมา และออกปากไล่ให้เขากลับไปยังหมู่บ้านตามเดิม แต่สุชาดาคู่หมั้นพจนารถ เกิดประทับใจความหล่อเหลากำยำสมชายชาตรี หล่อนยั่วยวนหนานบุญตัน และพยายามชวนให้เขาเป็นลูกจ้างส่วนตัวเพื่อติดตามมาด้วย เพราะความรักในนกยูง ทำให้ไอ้หนุ่มบ้านป่ายอมตกปากรับคำ ทั้งที่อดหวั่นไหวกับเสน่ห์ยั่วยวนของสุชาดา แทบไม่ไหวจนแทบตบะแตก ในขณะเดียวกัน สุชาดาเองก็มีสัญญาลับๆ บางอย่างกับนายสัจจา ผู้จัดการเจ้าเล่ห์ที่ร่วมทางมาด้วยเช่นกัน โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้

ในสถานการณ์ที่อันตรายและเต็มไปด้วยบรรยากาศลึกลับกลางป่าดง นกยูงฝันเห็นกลุ่มทหารกรุงศรีอยุธยาเมื่อหลายร้อยปีก่อน นำโดยหัวหมู่ทองทิพย์ นำทรัพย์สมบัติของแผ่นดินหนีภัยจากทหารพม่าตอนเสียกรุงมาถึงดินแดนแถบนี้ แต่ก็มาเสียทีพญาแสนโกฎิ ทำให้ถูกกักขังดวงวิญญาณเอาไว้ในดอยต้นแขวนโดยไม่อาจไปผุดเกิด นกยูงช่วยปลดปล่อยดวงวิญญาณเหล่านั้น แต่ก็พบว่าทรัพย์สมบัติทั้งหมดถูกพญาแสนโกฎิยึดเอาไปครอบครองจนหมดแล้ว

พญาแสนโกฎิหรืออีกนัยหนึ่งคือพญาสมอยดง อันเป็นหัวหน้าอมนุษย์ผีกองกอยทั้งหลายโกรธจัดที่พวกมนุษย์ปลดปล่อยดวงวิญญาณทหารเหล่านั้น ทำให้มันยกพวกออกมาจากดอยโง้มอันเป็นสถานที่พำนักเพื่อจัดการสังหารกลุ่มนักสำรวจป่าของพจนารถต้องพบเจอเหตุการณ์มหัศจรรย์ต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะพบ ‘ช้องหมู’ ซึ่งเป็นเครื่องรางป้องกันตัวสำคัญ รวมถึงการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทำให้สองหนุ่มสาวต่างถิ่นต่างนิสัยใจคอ ได้เรียนรู้กันมากขึ้น และสอนให้หนุ่มชาวกรุงผู้เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออย่างพจนารถกลายเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว เขาพร้อมจะต่อสู้กับทุกอย่างที่ขวางหน้าอย่างไม่พรั่นพรึง อีกต่อไป รวมถึงได้รู้จักหัวใจตัวเองว่า บัดนี้เขาได้หลงรักแม่สาวน้อยหัวใจแกร่งอย่างนกยูงอันเป็นเหมือนมณีกลางดงผู้นี้เสียแล้ว

สุชาดาและนายสัจจาผู้จัดการเจ้าเล่ห์ พลัดหลงกับคณะสำรวจ จนตกไปอยู่ในเงื้อมมือพญาสมอยดง มันแอบเห็นสองหนุ่มสาวลักลอบเริงสวาทกันกลางป่า และปลุกสัญชาตญาณดิบของมันขึ้น พญาสมอยดงจึงให้สุชาดาซึ่งมักมากในกามอยู่แล้วยอมเป็นทาสสวาทคอยบำเรอกามของมันอย่างไม่มีสิ้นสุด เพื่อแลกเปลี่ยนกับทรัพย์สมบัติมหาศาลที่มันปล้นชิงมาจากทหารของหัวหมู่ทองทิพย์จากดอยต้นแขวนนั่นเอง

กลุ่มของนกยูงถูกพญาสมอยดงจับมาขังเอาไว้ และดวงวิญญาณของหัวหมู่ทองทิพย์ซึ่งบอกให้นกยูงทราบว่าในอดีตชาติเธอคือคำแก้วน้องสาวของเขา และต่างก็มีบุญเกื้อหนุนกันมาถึงภพชาตินี้ด้วย ดวงวิญญาณของหัวหมู่จึงมาช่วยเหลือ บอกวิธีในการกำจัดพญาสมอยดงให้กับหญิงสาว แต่แล้วสุชาดาก็มาขัดขวางเสียก่อนจนแผนการล้มเหลว บัดนี้หล่อนตกอยู่ในอำนาจของความโลภจนลืมหมดทุกอย่าง

หนานบุญตัน พยายามตามมาช่วยเหลือและวางแผนร่วมกับนกยูง จนสามารถกำจัด พญาสมอยดงและพรรคพวกของมันได้สำเร็จดังปรารถนา แต่แล้วทุกคนต่างก็ต้องเผชิญกับสิ่งที่น่าสะพรึงยิ่งไปกว่ากลุ่มพญากองกอยพวกนั้น

นั่นก็คือ จิตใจอันดำมืดด้วยกิเลสตัณหาของมนุษย์ด้วยกันเอง

สุชาดาและกันต์เพื่อนร่วมทางของพจนารถ เปิดเผยความจริงทั้งหมดว่าทั้งคู่เป็นชู้รักกันมาตั้งแต่แรกแล้ว กันต์เกลียดชังพจนารถที่มีฐานะร่ำรวยและมีทุกสิ่งทุกอย่างที่พรั่งพร้อมมากกว่าตน ดังนั้น เมื่อรู้ว่าพจนารถหมั้นหมายกับสุชาดา กันต์จึงใช้เสน่ห์ของตัวเองเพื่อแย่งสุชาดามาเป็นของตน หญิงสาวผู้นั้นเองก็มีความต้องการทางเพศสูงจนพจนารถไม่อาจตอบสนองความต้องการได้เพียงพอ หญิงร้ายชายเลวทั้งคู่ต่างก็วางแผนร่วมกันที่จะปล้นชิงทุกอย่างไปจากพจนารถ

สัจจา ผู้อำนวยการบริษัทจอมเจ้าเล่ห์คือผู้อยู่เบื้องหลังคนสุดท้าย แต่แล้วชายสูงวัยก็ถูก สุชาดาและกันต์กำจัดตอนเผลอตัว เพราะล่วงรู้ความลับมากเกินไป ก่อนที่ทั้งคู่จะหันไปสนใจทรัพย์สมบัติมหาศาลในถ้ำดอยงุ้ม และขังสมาชิกทั้งหมดเอาไว้ในคุกใต้ดิน

สัจจาใช้แรงเฮือกสุดท้ายในชีวิตปลดปล่อยทุกคนออกมาจากที่คุมขัง ด้วยสำนึกในบาปสุดท้ายและจากนั้นเหตุการณ์แผ่นดินไหวก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทุกคนหนีรอดออกมาได้ ยกเว้น สุชาดาและกันต์ที่ต้องตายอย่างอนาถ ภายใต้ดอยผางุ้มที่ถล่มลงมาทับให้จมลงไปพร้อมกับทรัพย์สินทั้งหมด

ทุกคนกลับมายังหมู่บ้านทุ่งจำเริง แต่นกยูง รู้ตัวดีว่า หล่อนกับพจนารถแตกต่างกันมากเหลือเกิน นกยูงตัดสินใจแต่งงานกับหนานบุญตันตามความต้องการของพรานจ้อน ทำให้พจนารถเสียใจอย่างหนัก เขากลับมายังเชียงใหม่ และจมอยู่กับเหล้าท่ามกลางความทุกข์ของพ่อและแม่

แต่แล้ว ด้วยความเสียสละของ หนานบุญตัน ที่รู้ดีว่าหัวใจของนกยูงอยู่ที่ไหน และความร่วมมือกับพ่อเลี้ยงฉัตร พ่อของพจนารถวางอุบายเพื่อให้สองหนุ่มสาวได้เข้าหอวิวาห์ร่วมด้วยกันด้วยความสุขสมหวังในที่สุด

นวนิยายเรื่องนี้ ผมคุ้นว่าตอนอ่านเป็นตอนๆ ในนิตยสาร บางกอกสแควร์ น่าจะมีความยาวและรายละเอียดมากกว่านี้ รวมถึงบทบาทของหนานบุญตันที่แทบไม่ต่างกับพระเอกอีกคนในเรื่องเลย ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีนางเอกคู่กันด้วย แต่น่าเสียดายที่จำรายละเอียดไม่ได้แล้วครับ คิดว่าเวลารวมเล่ม อาจจะมีการตัดทอนเพื่อให้เนื้อหากระชับขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเพื่อนนักอ่านที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้เป็นตอนๆ ในนิตยสารมาก่อน แต่ได้อ่านจากฉบับรวมเล่มของสำนักพิมพ์หมึกจีนเล่มนี้เป็นครั้งแรก เนื้อหาของการอ่านก็ได้อรรถรส ความสนุกเพลิดเพลินของเรื่องโดยไม่สะดุดแต่อย่างใดครับ

เรื่อง : มณีดง

ผู้ขียน : สิงขร

สำนักพิมพ์ : หมึกจีน

ปีที่พิมพ์ : 2536

เล่มเดียวจบ

 สำหรับประวัติของคุณสิงขรนั้น จากหลังปกของนวนิยาย มณีดง เล่มนี้ ได้เขียนไว้ว่า ท่านเกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 ที่จังหวัดลำปาง ก่อนจะมาอยู่ที่เชียงใหม่ในปัจจุบัน

ในอดีตเคยเป็นตำรวจอยู่ตามอำเภอบ้านนอกและบนดอยสูงถึงสิบกว่าปี ผลงานเรื่องแรกของท่านคือ ลูกดอกจรวด ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร บางกอก เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2531 เป็นนวนิยายที่มีความยาวถึง 4 ภาค ใช้เวลาลงถึงแปดปีเต็ม และนอกจากนี้ยังมีเรื่องยาวอีกยี่สิบกว่าเรื่อง ที่ลงในนนิตยสาร บางกอก ทานตะวัน และ บางกอกสแควร์ ส่วนผลงานทางด้านเรื่องสั้นนั้น ท่านได้เขียนชุด คนบนดอย และ คนบ้านนอก ลงใน บางกอกสแควร์ อีกหลายชุด