อสูรยอดรัก

อสูรยอดรัก

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

 

หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับนวนิยายรักพาฝัน ที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า ‘อสูร’ หรือ ‘ซาตาน’ โดยเฉพาะกับนวนิยายรักโรแมนติกของบุษยมาส ที่นักอ่านคุ้นเคยกันดีไม่ว่าจะเป็น อสูรสวาท (พ.ศ. 2509) นางฟ้าซาตาน หัวใจเถื่อน ซาตานที่รัก อวสานอสูร เป็นต้น สำหรับ อสูรยอดรัก น่าจะเป็นนวนิยายแนวอสูร เรื่องแรกๆ ที่ ภราดร ศักดา นักเขียนนิยายที่หลายคนคุ้นเคยในผลงาน อย่าง เสน่ห์นางงิ้ว แสงเพลิงที่เกริงทอ กลิ่นแก้วตำหนักขาว ได้เขียนขึ้นในยุคแรกๆ ของท่าน

+++++++++++++++++++++

เรื่องราวใน อสูรยอดรัก ดำเนินตามขนบนิยายพาฝัน ที่เป็นทั้งความรักและความแค้น อันมีมาแต่ในอดีตทุกประการ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ วินิชา พิเศษสุรศักดิ์ เดินทางกลับมาจากอังกฤษ หลังจากทราบข่าวร้ายจากมารดาคือคุณสุขศรี ว่าบ้านสุราลัย อันเป็นสมบัติของตระกูล จำต้องขายออกไปเพื่อรักษาบิดาที่ล้มเจ็บ และผู้ที่มารับซื้อบ้านหลังนี้ก็คือคุณนายยุพยงค์

วินิชาและสุดาดวง สองพี่น้องที่หยิ่งในศักดิ์ศรี ต้องมาร่วมงานที่บ้านสุราลัยแห่งนี้ ตามคำเชิญของคุณนายยุพยงค์ และในคืนนั้นเองที่เธอได้มีโอกาสรู้จักกับชายหนุ่มแปลกหน้า ที่แสดงท่าทีหยิ่งผยอง ไม่แยแส หญิงสาวที่ใครๆ ต่างยอมศิโรราบให้อย่างเธอ จนทำให้วินิชาเกิดความรู้สึกหมั่นไส้ และพาลไม่ชอบหน้าเขาตั้งแต่บัดนั้น

อนนท์ เทพพิทักษ์ ผู้สะสมความแค้นในวัยเยาว์ เมื่อตระกูลของเขาต้องถูกทำร้ายให้ย่อยยับด้วยครอบครัวของตระกูลพิเศษสุรศักดิ์ จนบิดาเสียชีวิตลงด้วยความอัปยศ

ในอดีต ทิวา เทพพิทักษ์ บุตรชายคนเดียวของคหบดีแห่งประจวบคีรีขันธ์ เคยรักกับสุขศรี ซึ่งเป็นธิดาของท่านทูต และคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน แม้ว่าบิดามารดาของเขาจะปรารถนาให้ ทิวาแต่งงานกับยุพยงค์ หญิงสาวบุตรท่านข้าหลวงที่เหมาะสมกว่า ทิวาเอ่ยปฏิเสธด้วยความรักต่อสุขศรี จนทำให้บิดาของเขาตัดชายหนุ่มให้ขาดจากกองมรดกทั้งปวง

++++++++++++++++++++++

แต่ท้ายที่สุด สุขศรีก็เป็นฝ่ายเลือกที่จะหันไปแต่งงานกับ กำจร พิเศษสุรศักดิ์ ซึ่งมีฐานะร่ำรวยและเป็นเจ้าของบ้านสุราลัยอันหรูหรา งดงาม สมดังความปรารถนาของเธอจนทำให้ ทิวา อกหัก เขาเกิดความแค้นต่อทั้งสองคนที่ทรยศ จนเกิดเป็นความบาดหมางระหว่างสองตระกูล แม้ว่าภายหลังเขาก็หันไปแต่งงานกับจิตวดี แต่แล้วต่อมาครอบครัวของเขาก็ประสบปัญหา เมื่อทิวาล้มป่วยลงจนต้องออกจากงานประจำ และมีค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวเป็นจำนวนมาก

ในเวลานั้นเอง เมื่อกำจรกับสุขศรีทำทีเป็นยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยรับจิตวดีเข้ามาทำงานที่คฤหาสน์ของตนเองแม้ว่าทิวาจะไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่ก็ไม่อาจขัดความประสงค์ของภรรยาที่ต้องการเสียสละเพื่อเขาได้ แต่แล้วกลายเป็นว่าจิตวดีถูกข่มเหงรังแก และเหยียดหยาม จากทุกคนในบ้านหลังนั้น พร้อมทั้งการปล่อยข่าวจากกำจร เพื่อทำลายชื่อเสียงเกียรติภูมิของตระกูลเทพพิทักษ์ ที่ต้องมาเป็นคนรับใช้ของตระกูลพิเศษสุรศักดิ์เกิดขึ้น

ความแค้นใจ ทำให้ทิวาล้มป่วยหนักและเสียชีวิตลงในที่สุด ส่วนจิตวดีและลูกน้อยของเธอก็หายสาบสูญไป โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้อีกต่อไป…

เด็กชายคนนั้น ก็คือ อนนท์ เทพพิทักษ์ ที่กลับคืนยังสุราลัยอีกครั้ง ในวันนี้!

+++++++++++++++++++++++++

มารดาของเขาเดินทางกลับไปยังประจวบฯ และอาศัยกับปู่ย่า ที่ยอมรับอุปการะหลานชายกำพร้าด้วยความเมตตาสงสาร บัดนี้เขาคือทายาทเพียงผู้เดียวของไร่ทานตะวันและมรดกอีกมหาศาลจากนายทองคหบดีแห่งเมืองประจวบฯ และต้องการกอบกู้เกียรติยศศักดิ์ศรีของตนเองกลับคืนมาอีกครั้ง เขาติดต่อกับคุณป้ายุพยงค์ที่เคารพนับถือกันมาตั้งแต่เด็ก ให้เธอช่วยรับซื้อสุราลัยเอาไว้ โดยที่คุณสุขศรีและวินิชา ไม่ระแคะระคายเลยแม้แต่น้อย

เขาทราบมาว่า คนงานในไร่ชื่อชะเอมที่แอบหนีขึ้นมากรุงเทพฯ ได้สนิทสนมกับสุดาดวง จึงวางแผนตลบหลังให้ชะเอมสวมรอยเป็นเจ้าของไร่ทานตะวัน และ อนนท์ เทพพิทักษ์ ก็เป็นเพียงคนงานยากไร้ที่อาศัยใบบุญอยู่ภายในไร่แห่งนั้น

เมื่อวินิชาและสุดาดวงเดินทางไปเที่ยวไร่แห่งนี้ จึงได้พบกับเขาอีกครั้ง และเป็นไปตามที่ตนเองเคยปรามาสไว้ทุกประการ วินิชาพยายามเหยียดหยามและหาทางกลั่นแกล้งให้ชายหนุ่มได้รับความอับอาย อย่างที่ตัวเองต้องการเอาชนะ โดยหารู้ไม่ว่าทุกอย่างเป็นแผนการของอนนท์ที่จะรอคอยเอาคืนในตอนท้าย!

++++++++++++++++++

อนนท์รู้จักกับ พัฒนะ เจริญวานิชย์ ผู้เป็นเจ้าหนี้รายหนึ่งของคุณสุขศรี จึงเจรจาให้เขาเร่งรัดหนี้สินจากคุณสุขศรี ทำให้วนิชาเริ่มรับรู้ความจริงเกี่ยวกับฐานะตนเอง หญิงสาวนำเรื่องนี้มาปรึกษากับชะเอม ซึ่งสวมรอยเป็นเจ้าของไร่ทานตะวัน และชะเอมก็เสนอว่าจะให้หล่อนหยิบยืมเงินไปผ่อนชำระหนี้กับนายพัฒนะ โดยมีเงื่อนไขเพียงว่าถ้าไม่ชำระคืนตามกำหนดนัด จะต้องมาทำงานใช้คืนที่ไร่ทานตะวันกับเจ้าของไร่ทานตะวัน

แม้จะไม่ลงชื่อว่าชะเอม แต่ด้วยความชะล่าใจ ทำให้วินิชาตกลงลงลายมือรับรอง และหลังจากนั้น ทุกอย่างก็เปิดเผยออกมา

มันแทบจะทำให้โลกทั้งใบถล่มลงมาอยู่ตรงหน้า เมื่อรู้ว่าผู้ชายหน้าเข้ม คนที่หล่อนเกลียดชังนักหนาก็คือเจ้าหนี้ตัวจริง และยังเป็นเจ้าของ ‘สุราลัย’ บ้านอันเป็นที่รักของเธออีกด้วย

บัดนี้ เขาได้พกพาความแค้นของตระกูลเทพพิทักษ์ เพื่อย้อนกลับมาเอาคืนตระกูลพิเศษสุรศักดิ์ สมดังเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษแล้ว!

แต่วินิชาก็ไม่ยอมพรั่นแพ้ เมื่อหล่อนไม่เหลือแม้แต่เงินชดใช้ หญิงสาวยอมทำตามสัญญา โดยการเดินทางไปทำงานเป็นแม่บ้านที่ไร่ทานตะวันแห่งนั้น ตามความประสงค์ของ อสูรร้ายใจทมิฬอย่าง อนนท์ เทพพิทักษ์ โดยไม่มีข้อบิดพลิ้ว…

และแล้วปฏิบัติการแก้แค้น ทั้งปะทะคารม เพื่อเอาคืนจากสองหนุ่มสาวของสองตระกูลที่ขัดแย้งกันในอดีต ก็เริ่มต้นขึ้น…

เรื่อง : อสูรยอดรัก

ผู้เขียน : ภราดร ศักดา

สำนักพิมพ์ : คลังวิทยา

ปีที่พิมพ์ : 2506

เล่มเดียวจบ

การได้มาอยู่ยังไร่ทานตะวันแห่งนี้ ทำให้วินิชาผู้เคยหยิ่งโอหังเริ่มรู้สึกตัว และมองเห็นมุมอีกด้านหนึ่งอันอ่อนโยนของอนนท์กับบรรดาคนงานในไร่ รวมถึงจิตวดี มารดาของเขา ที่ไม่เคยถือโทษใดๆ ต่อครอบครัวของเธอเลย ยิ่งทำให้วินิชารู้สึกผิด ในขณะเดียวกันก็เกิดความประทับใจในความเป็นสุภาพบุรุษของเขา แม้ว่าจะมีการปะทะคารมเกิดขึ้นหลายครั้ง จนหล่อนเรียกเขาด้วยฉายาว่า ‘มิสเตอร์อสูร’

เหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะเริ่มคลี่คลายลงระหว่างเขากับเธอ กลับมีปมขัดแย้งเพิ่มเข้ามา เมื่อคุณสุขศรีโทรเลขมาบอกว่า ครอบครัวของเธอมีหนี้สินจากคุณพระพิพิธตกค้างอยู่ และกำลังจะถูกทนายยื่นฟ้อง คุณสุขศรีซึ่งเห็นแก่เงิน พยายามให้วินิชาช่วยเหลือ แต่หญิงสาวก็ไม่สามารถเจรจาผ่อนผันกับหลวงพิพิธได้ คุณสุขศรีจึงแอบติดต่อกับอนนท์เพื่อขายลูกสาวของเธอให้เป็นภรรยาของเขา แลกกับการที่เทพพิทักษ์จะช่วยเหลือชดใช้หนี้สินให้กับพิเศษสุรศักดิ์ โดยที่วินิชาหารู้เรื่องนี้ไม่!

และกว่าทุกอย่างจะล่วงรู้ เธอก็จำต้องเขาพิธีแต่งงานกับมิสเตอร์อสูรผู้นี้เสียแล้ว!

++++++++++++++++++

ในความสัมพันธ์ แห่งความรัก ที่พยายามซ่อนกลบไว้ด้วยปมแห่งความขัดแย้ง และความแค้นในอดีต หากหัวใจของอนนท์ที่เคยเข้มแข็ง อหังการ กลับหวั่นไหวต่อเชลยสาวผู้นั้นอยู่ทุกลมหายใจ จนต้องรำพึงกับตัวเอง ด้วยความสงสัย

“เราต้องไม่พ่ายแพ้ให้แก่ใจตัวเอง ไม่ยอมให้สิ่งใดมามีอำนาจยึดครองได้… อ๋อ ถูกล่ะ ผู้หญิงตัวแค่นั้นจะมีอิทธิพลอยู่เหนือจิตใจเราไม่ได้ คนอย่างเรา ไม่เคยให้โลกหัวเราะเยาะ นอกจากเราจะเป็นผู้หัวเราะเยาะเท่านั้น… แต่”

เขาหยุดหัวเราะ หน้าเศร้าหมองลงไป

“ทำไมนะ จิตใจของเราถึงได้อ่อนแอปานนั้น ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ มันเหมือนตกอยู่ในอำนาจลึกลับอะไรสักอย่างหนึ่ง แสนมหัศจรรย์ แต่ไม่มีวันเสียล่ะคนเช่นเราจะไม่มีวันหมอบสยบแก่ใคร ต้องหยิ่งผยองในศักดิ์ศรีเสมอ แน่นอน เธอให้ฉายาฉันเป็นอสูร สวมวิญญาณ อสูรเหี้ยมโหดต่อไปให้ตลอดรอดฝั่ง อา! มิสเตอร์อสูรเอ๋ย เจ้าจงดำรงตนไปตามวิถีทางของโลกนี้นี้ ไม่มีความรักสำหรับเจ้าหรอก!”

ขณะที่วินิชาเองก็เต็มไปด้วยความน้อยใจและเข้าใจผิด แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านเข้ามาเป็นบททดสอบต่อเธอและเขา จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดก็ตาม

ตราบจนท้ายที่สุด เมื่อสองหนุ่มสาวได้ละทิฐิ ยอมเปิดใจให้แก่กันนั่นเอง ที่ทำให้อสูรร้าย ของวินิชา ได้เปลี่ยนไปเป็นอสูรยอดรักของเธอ ตลอดไป…

 

Don`t copy text!