สนิมสังคม

สนิมสังคม

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้ครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

****************************

เพ็ญแข วงศ์สง่า หรือนามจริง รศ. ดร. เพ็ญแข วัจนสุนทร ท่านเกิดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2483 ที่จังหวัดสกลนคร หลังจากเรียนจบจากวิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร และได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาโทและเอก ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาจึงได้ย้ายมาเป็นอาจารย์สอนที่วิทยาลัยวิชาการศึกษาบางแสน (มหาวิทยาลัยบูรพาในปัจจุบัน)

เพ็ญแข วงศ์สง่า

ท่านเป็นทั้งอาจารย์ นักวิชาการ และนักเขียนนวนิยายชื่อดังในอดีต แรงบันดาลใจในการเขียนคือ ความโศกเศร้าจากการสูญเสียมารดาอันเป็นที่รัก ทำให้เกิดความพยายาม และประกอบกับระยะหลังได้เรียนวิชาการประพันธ์จากนักเขียนรุ่นพี่ คือ คุณชูวงศ์ ฉายะจินดา ทำให้มีความหวังที่จะเป็นนักเขียนเป็นจริงขึ้น

ผลงานเขียนเรื่องแรก คือเรื่องสั้น ‘เพชรร้าว’ ได้ตีพิมพ์ในนิตยสาร แม่บ้านการเรือน ในปี พ.ศ. 2504 ใช้นามปากกาว่า ‘แขพิไล’ สำหรับนวนิยายเรื่องยาวเรื่องแรก คือ ‘วงกตรัก’ โดยนามปากกาที่ใช้ นอกจาก แขพิไล เพ็ญแข วงศ์สง่า แล้ว ยังมี ศศิพงศ์ ประไพ แขพิไล ขวัญประชา ศรีอีสาณ และทรรพวงศ์ อีกด้วย

เพ็ญแข วงศ์สง่า

ผลงานของ เพ็ญแข วงศ์สง่า มีเป็นจำนวนไม่น้อยที่นำไปสร้างเป็นละครและภาพยนตร์ ได้แก่ ตะวันขึ้นที่อ่าวพังงา ทิวาหวาม เขยบ้านนอก เป็นต้น นวนิยายของท่าน มีหลากหลายแนว ทั้งนิยายสะท้อนชีวิตอันเข้มข้นสะเทือนอารมณ์ นวนิยายการเมือง จินตนิยายพาฝัน หรือแนวขบขัน สำหรับนวนิยายเรื่อง สนิมสังคม เรื่องนี้ เป็นผลงานในอดีตอีกเรื่องหนึ่งที่เคยนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ในช่วงปี พ.ศ. 2525 นำแสดงโดย คุณเดือนเต็ม สาลิตุลย์ คุณอุทุมพร ศิลาพันธุ์ คุณภานุมาศ สุขอัมพ คุณนิจ อลิสา และ คุณดวงตา ตุงคะมณี เป็นนิยายที่มีเนื้อหาเข้มข้นสะเทือนอารมณ์ บอกเล่าผ่านเรื่องราวของเด็กหญิงตัวน้อย ที่มีนามว่า สลิลา…

ตั้งแต่จำความได้ สลิลารู้ว่าเธอคือลูกสาวของนางสายหยุด เป็นต้นห้องคอยรับใช้อยู่ภายในอาณาเขตอันกว้างใหญ่ไพศาลของวังธีรทัศน์ธำรงของหม่อมเจ้าภัทรวุฒิ โดยกำพร้าพ่อมาตั้งแต่ยังเด็ก

ท่านภัทรวุฒิ เจ้าของวัง มีธิดาเพียงสามคนคือ อาพนภัทรา อำพาพิไล และอำไพโศภิน หรือหญิงเล็ก และนอกจากนี้ท่านยังมีขนิษฐาคือ ท่านหญิงวิสุทธิ์ประไพ ที่เจ็บป่วยออดๆ แอดๆ รวมอยู่ด้วย ทุกคนในวังมองเธอไม่ต่างกับเป็นลูกคนใช้ ที่ต้องคอยรองรับอารมณ์ของเจ้านายโดยเฉพาะหญิงใหญ่ที่ถือตัวและมองเธอด้วยความดูแคลน หากแต่สลิลา ก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติจากเสียงซุบซิบของบรรดาข้ารับใช้ในวัง ว่าแท้จริงแล้ว เธอเองก็คือลูกคนหนึ่งของท่านชายภัทรวุฒิด้วยเช่นกัน

เพียงแต่เป็นสายเลือดราชนิกุลที่ ไม่มีใครยอมรับ!

คุณหญิงใหญ่ซึ่งเป็นคนถือตัว แสดงท่าทางรังเกียจเธอและแม่สายหยุดอย่างเห็นได้ชัด สลิลาแอบเห็นคุณหญิงใหญ่สนิทสนม และพลอดรักกับรังสรรค์ซึ่งเป็นนายทหารหนุ่มใหญ่ หากที่สำคัญคือเขาเองก็มีภรรยาและลูกอีกสองคนแล้ว มันเป็นความสัมพันธ์ที่ต่างก็ต้องแอบซ่อนเอาไว้ โดยที่เด็กอย่างเธอไม่เคยเข้าใจ แม้แต่แม่สายหยุดเอง ที่สลิลาเคยเห็นว่า ถูกเรียกเข้าไปพบท่านชาย เพื่อสนองความต้องการทางเพศในยามวิกาลก็ตาม

แต่แล้วทุกอย่างก็มาถึงจุดพลิกผัน เมื่อท่านชายสิ้นลง และเกิดการแย่งชิงมรดกระหว่างท่านอาวิสุทธิ์กับคุณหญิงใหญ่ แน่นอนว่าในสงครามระหว่างสองอาหลานนั้น ทำให้เธอกับแม่ไม่อาจจะพำนักอยู่ที่วังแห่งนี้ได้อีกต่อไป สลิลาจึงเริ่มรู้ความจริงว่า เธอคือลูกคนหนึ่งของท่านชายนั่นเอง แต่กลับไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในมรดกทั้งหมดเลยแม้สักนิดเดียว

สองแม่ลูกจำต้องไปอาศัยอยู่นอกวัง สายหยุดเองยังสาวและสวยสะพรั่งไปด้วยเสน่ห์ ไม่นานนักก็มีหนุ่มใหญ่อย่างนายรักพงษ์ พ่อค้าชาวจีน มาจีบ และขอแต่งงานด้วย เขารับอุปการะสลิลาลูกเลี้ยงอย่างไม่รังเกียจ และที่บ้านแห่งนั้น เด็กหญิงก็มีโอกาสได้รู้จักสหายที่อาศัยอยู่บ้านข้างเคียงกัน เด็กชายที่มีชื่อว่าเจตน์ปิยะ ทั้งสองคบหากันด้วยมิตรภาพ จนกระทั่งสลิลาเริ่มเติบโตเป็นเด็กสาว และเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยม โดยมีเพื่อนสนิทคือทิวาทิพย์ แต่แล้วด้วยความสวยงามของเธอ ก็นำเภทภัยมาสู่อย่างคาดไม่ถึง เมื่อนายรักพงษ์เกิดความรู้สึกเสน่หาและพยายามลวนลามเธอ ในวันที่แม่ไม่อยู่บ้าน สลิลาหนีออกจากบ้าน โชคดีที่เธอรู้จักกับน้าสุดาและคุณอาหมอกมล ชาญเวทย์ ที่เป็นเพื่อนของแม่ ด้วยความสงสาร สุดาจึงรับดูแลเธอแทนมารดา ที่กลัวว่าลูกสาวจะไปแย่งสามีของตัวเองไป

บ้านของสุดาอบอุ่นด้วยความรักของหมอกมล และลูกชายวัยหนุ่มของเขาที่ชื่อกอสิน กอสินเป็นเด็กหนุ่มหัวดี เขาสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียได้ และติดต่อกับเธอมาโดยตลอด ด้วยความสนิทสนมผูกพันกัน แต่เรื่องราวของสลิลาก็ไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น เมื่อหมอกมลเอ็นดูสงสาร คอยรับส่งเธอที่โรงเรียน จนเริ่มเกิดข้อครหา และในที่สุดสุดาก็เกรงว่าความสวยของเด็กสาวที่เธอรับมาอุปการะ จะย้อนกลับมาทำร้ายครอบครัวของเธอเอง ในที่สุดสลิลาก็ต้องออกจากบ้านหลังนั้นไปด้วยความโทมนัสใจ

เธอมาอยู่กับทิวาทิพย์ เพื่อนสนิท ที่ต่างเรียนมหาวิทยาลัยกันแล้ว ทิวาทิพย์มีแฟนชื่อวินัย และหารายได้พิเศษด้วยการสอนหนังสือเด็กมัธยม และเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเธอถูกกลุ่มเด็กหนุ่มล่อลวงไปรุมโทรม วินัยแค้นใจ ตามไปก่อเรื่องกับเด็กพวกนั้นจนเสียชีวิต รวมถึงหนึ่งในแก๊งเด็กอันธพาลที่เสียชีวิตไปด้วยก็คือ ลูกนายทหารใหญ่ และพ่อของเด็กคนนั้นก็คือ พันเอกรังสรรค์ อดีตคนรักของคุณหญิงใหญ่นั่นเอง

ทิวาทิพย์เครียดหนัก เพราะเหตุการณ์เลวร้ายในวันนั้นทำให้เธอตั้งครรภ์ขึ้นมา และต้องการจะเอาเด็กออก สลิลา จึงตัดสินใจขอร้องเจตน์ปิยะให้ช่วยแต่งงานกับทิวาทิพย์ เจตน์ปิยะรักสลิลา แม้ว่าเธอจะรักเขาเพียงแค่คำว่าเพื่อนก็ตาม ในที่สุดชายหนุ่มก็ตัดสินใจยอมแต่งงานและรับผิดชอบเป็นพ่อของเด็กในท้องของทิวาทิพย์ เขารู้ว่าหัวใจของสลิลามอบให้กับกอสินเพียงคนเดียว

วันเวลาผ่านไป เมื่อต่างคนต่างเรียนจบและทำงาน โชคชะตาก็เหมือนดลบันดาลให้สลิสา ได้มีโอกาสมาพบกับกอสินอีกครั้ง เขาเรียนจบปริญญาโทมาจากเมืองนอกและเข้าทำงานในบริษัทที่เธอทำงานอยู่พอดี ด้วยมาดอันภูมิฐานของชายหนุ่มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งบุรุษเพศ

ละคร สนิมสังคม

ครั้งนี้เอง สลิลาได้พบว่า ความรักความผูกพันที่เคยมีมาในอดีตไม่ได้จางหายไปไหนเลย แต่มันกลับยิ่งกระชับแน่นแฟ้นมากขึ้น เธอกับกอสินทั้งทำงานและไปเที่ยวด้วยกัน และในที่สุดทั้งคู่ก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน โดยที่ไม่ล่วงรู้เลยว่ากอสินเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว ผู้หญิงคนนั้น เขาได้พบกับเธอที่ระหว่างเรียนที่เมืองนอก ด้วยความเปลี่ยวเหงา ทำให้ต้องหมั้นหมายกันเรียบร้อยก่อนจะกลับมายังเมืองไทย

เธอคือ คุณหญิงเล็ก อำไพโศภิน!

“ผมรู้สึกต่อคุณหญิงไม่เหมือนสลิลาดอก นิ่ง นิ่งเสีย แล้วจะบอกให้ คนดี ฟังผม คุณหญิงเปรียบเสมือนเพื่อนผมที่เดินไปพบกลางทาง ถูกอัธยาศัยก็ยิ้มแย้มทักทาย และชวนเดินไปด้วยกัน ส่วนสลิลาเหมือนเทียนประจำชีพ ขาดไม่ได้ เทียนดับเมื่อไร ผมตายเมื่อนั้น ผมเพิ่งรู้ตัวว่าผมรักคุณ สลิลา โปรดอย่าซ้ำเติมผมเลย ผมไม่มีทางอื่นที่จะได้คุณมา”

และเมื่อเธอตัดสินใจที่จะหักใจไปจากเขา สิ่งที่สลิลาพบก็คือตัวเองก็กำลังตั้งครรภ์!

บนเส้นทางชีวิตอันยาวไกล เผชิญต่ออุปสรรคขวากหนามมากมายเพียงใด สลิลา ไม่เคยหวั่นไหว หากการตัดสินใจของตัวเองในครั้งนี้ คือสิ่งสำคัญที่สุด ที่เธอจะต้องเลือกหนทางเดินชีวิต ระหว่างความรัก และความถูกต้องในทำนองคลองธรรม

สนิมสังคม ปกแรก

เรื่อง : สนิมสังคม

ผู้เขียน : เพ็ญแข วงศ์สง่า

สำนักพิมพ์ : โชคชัยเทเวศร์

ปีที่พิมพ์ : 2512

สองเล่มจบ

สำหรับนวนิยายชีวิตสะเทือนอารมณ์เรื่องนี้ เพ็ญแข วงศ์สง่า ได้เขียนไว้ในคำนำ ตอนหนึ่งว่า

“ขณะที่สนิมสังคม กำลังลงติดต่อกันอยู่ในหนังสือ แชมเปี้ยน สายฝน รายสัปดาห์ ข้าพเจ้าได้ยินผู้ใหญ่ที่เป็นนักอ่านท่านหนึ่งปรารภว่า ติดตามมาแทบตาย นางเอกจะให้บริสุทธิ์ผุดผ่องหน่อยก็ไม่ได้ ข้าพเจ้าได้แต่หัวเราะ อยากจะเรียนท่านว่า ไม่เช่นนั้นก็ไม่เข้ากับบรรยากาศของเรื่องซีคะ แต่มิได้พูดดังคิด

สนิมสังคม เป็นเรื่องราวที่จำลองมาจากชีวิตจริงของสหายผู้หนึ่งของผู้เขียน แต่ได้ทอนส่วน ‘เกิน’ ที่นิยายทำไม่ได้ออกเสียส่วนหนึ่ง แม้กระนั้น ผู้อ่านบางท่านก็ยังไม่สบอารมณ์ และด้วยเหตุที่เป็นนวนิยาย ข้าพเจ้าจึงได้ใส่ ‘รสหวาน’ เกินไปกว่า ‘ความขม’ ซึ่งตัวละครในชีวิตจริงได้รับ หลายเท่านัก ข้าพเจ้าขอขอบคุณท่านผู้อ่านที่มีใจเมตตาสลิลา และเอาใจใส่ราวกับบุตรหลานในปกครอง ด้วยการเขียนจดหมายมาแสดงความห่วงใยหลายฉบับ…

สนิมสังคม จึงเป็นนวนิยายชีวิตอีกเรื่อง ที่นอกจากผู้อ่านจะได้เสพอรรถรสทางวรรณศิลป์ของนักประพันธ์รุ่นครู อย่าง เพ็ญแข วงศ์สง่า แล้ว นิยายเรื่องนี้ยังได้สะท้อนภาพชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งในการเผชิญหน้าและก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ในชีวิต ไปสู่จุดหมายปลายทางอันปรารถนา ผ่านประสบการณ์และเรื่องราวชีวิตจริงที่ผู้เขียนถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าสนใจอีกด้วย

Don`t copy text!