แรงอธิษฐาน

แรงอธิษฐาน

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

 

แรงอธิษฐาน และ ปัทมา วรารักษ์ เป็นนวนิยายชุดที่มีเนื้อหาต่อเนื่องกัน จากปลายปากกาของ ก.สุรางคนางค์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ในปี พ.ศ. 2529 นวนิยายเรื่อง แรงอธิษฐาน นี้เป็นภาคต้น ขณะที่ ปัทมา วรารักษ์ เป็นภาคจบบริบูรณ์ ในลักษณะเช่นเดียวกับชุดนิยาย ปราสาททราย-ปราสาทรัก ดอกฟ้า-โดมผู้จองหอง เขมรินทร์ อินทิรา-คุณครูอินทิรา รักประกาศิต-ภูชิชช์ นริศรา คุณหญิงพวงแข-ถ่านไฟเก่า หรือผลงานชิ้นเอกที่นักอ่านรู้จักกันดีอย่าง บ้านทรายทอง-พจมาน สว่างวงศ์ รวมถึง นวนิยายชุด ‘ตาติ่ง’ ทั้งสี่เรื่อง ที่ผมเคยเขียนถึงไปแล้วในอดีต (ความคิดคำนึง จุดหมายปลายทาง รอยจารึก รุ่งอรุณ) นั่นเอง

แรงอธิษฐาน อันเป็นภาคต้นนั้น บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ ไอ้ปัทม์ หรือ ปัทมา วราวิทย์ เด็กกำพร้าที่มารดา ระหกระเหินมาคลอดลูกทิ้งไว้ให้นางถนอม และนายบุญส่ง นายไปรษณีย์เป็นผู้เลี้ยงดูตั้งแต่ยังแบเบาะ เด็กสาวเติบโตมาพร้อมกับหน้าตาสะสวย และหัวใจแข็งแกร่งไม่ยอมให้ใครมารังแกตน แต่กระนั้นปัทมาก็ยังถูกดูถูกจากหลายๆ คน ที่มองว่าเป็นเพียงเด็กกำพร้า ลูกนายไปรษณีย์

แรงอธิษฐาน ปกพิมพ์สอง

ในจังหวัดเล็กๆ แห่งนั้นเอง ปัทมา มีเพื่อนสนิทในก๊วนของเธอก็คือคุณอู๊ดหรือ สุจริต พิทักษ์ประชาชน บุตรชายท่านผู้ว่ากับคุณนายสายใจ คุณแดงใหญ่ คุณแดงน้อย ที่เป็นลูกสาวของคุณหลวงเผด็จปราบริปู ผู้บังคับการกรมทหาร แม้ว่าภรรยาท่านผู้ว่ามารดาของอู๊ดจะไม่ชอบใจสักเท่าใดนักก็ตาม เพราะท่านมองว่าปัทมาเป็นเด็กกำพร้าและยากจน คนละระดับกับลูกชายข้าหลวงอย่างสุจริต แต่มิตรภาพของเพื่อนทั้งกลุ่มก็ยังดำเนินไปอย่างดี ปัทมามีโอกาสช่วยเหลือคุณแดงน้อย ที่จมน้ำจนรอดชีวิตทำให้หลวงเผด็จประทับใจในความกล้าหาญของเด็กสาว
และต่อมาได้ชวนเพื่อนๆ ปั่นจักรยานไปไหว้หลวงพ่อวัดกลาง ที่นั่นเอง เด็กสาวได้อธิษฐานขอพรต่อท่านว่าขอให้มีโอกาสได้ไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ขอให้ตัวเองเป็นคนที่มีความประพฤติดีอยู่เสมอมีสติยั้งคิด รวมถึงเป็นที่รักของทุกๆ คน คนที่เคยเกลียดและรังเกียจตนก็ขอให้หายเกลียดรวมถึงข้อสุดท้ายที่เธอขอให้มีโอกาสได้พบกับบิดา ผู้เป็นบุพการีที่แท้จริง

++++++++++++++++++++++++

หลวงเผด็จได้พาปัทมาไปฝากไว้กับ กรองกาญจน์ วชิรากุล แห่งบ้านวชิระสันติ ซึ่งนับเป็นญาติของท่านที่พระนคร ให้ช่วยดูแลอุปการะ กรองกาญจน์เป็นสาวโสดวัยสี่สิบเศษ ทำงานหนังสือพิมพ์ และก่อนหน้านั้นก็ได้อุปการะวรรณรุจี หลานสาววัยไล่เลี่ยกับปัทมาไว้ด้วย แต่วรรณรุจีติดนิสัยหยิบโหย่ง ดูถูกปัทมา พยายามจะใช้งานเธอเหมือนเป็นคนรับใช้ในบ้านคนหนึ่ง แต่ปัทมาไม่ยอมทำตาม เมื่อเธอถือคติว่าจะช่วยเหลือเฉพาะคนที่มีบุญคุณอย่างกรองกาญจน์เท่านั้น

วรรณรุจีโมโห จึงไปฟ้องน้าสาวและมารดาตนที่ต่างจังหวัด แต่กรองกาญจน์ไม่เชื่อ เพราะรู้นิสัยหลานสาวตัวเองดี สุดท้าย ทำให้วรรณรุจีเจ็บแค้นใจ จนย้ายออกไปอยู่ที่อื่นตามคำยุยงของมารดา แต่เมื่อต้องไปอาศัยอยู่บ้านคนอื่นแทน แต่วรรณรุจีก็ต้องพบกับบทเรียนที่สาหัส เพราะไม่ได้สะดวกสบายเหมือนกับอยู่กับกรองกาญจน์อีกต่อไป และจะย้อนกลับมา หล่อนก็ละอายใจเกินไป

+++++++++++++++++++++++

ในงานเลี้ยงของหนังสือพิมพ์นั่นเอง ปัทมาจึงมีโอกาสได้รู้จักกับนักเขียน นักหนังสือพิมพ์หลายคน รวมถึงคุณอ๊อด หรือ ระพีพันธ์ อักษรานุวัต บรรณาธิการหนุ่มรูปงามที่เพิ่งเรียนจบมาจากต่างประเทศ ระพีพันธ์แอบประทับใจปัทมาตั้งแต่แรกเห็น ยิ่งเมื่อรู้อุปนิสัยใจคอ และนิสัยรักการอ่านเหมือนกับอุษา อดีตคนรักของเขา ซ้ำปัทมายังเป็นเพื่อนเรียนที่เดียวกับยายโอ่งหรือนันทกา น้องสาวคนเล็กของเขาอีกด้วย นันทกาเองก็ชอบนิสัยของปัทมา จึงช่วยสนับสนุนให้พี่ชายมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับปัทมามากขึ้น แม้จะรู้ว่า คุณหญิงเพี้ยน อักษรานุวัต มารดาของเธอ วางแผนให้ระพีพันธ์หมั้นหมายกับ ประกายรัตน์ กาญจนรักษ์ ลูกสาวคนเดียวของคุณนายรัตนากับหลวงประภาสที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็ตาม

+++++++++++++++++++++

แต่ความสัมพันธ์ของชายหนุ่มกับเด็กสาวก็ถูกขัดขวาง เพราะทั้งคุณนายรัตนา และมารดาระพีพันธ์ต่างชิงชังรังเกียจเธอว่าเป็นแค่ลูกนายไปรษณีย์ต่างจังหวัด แม้ว่าหน้าตาของเธอจะคล้ายคลึงกับประกายรัตน์อย่างน่าประหลาดใจ ประกายรัตน์เองก็เกลียดชังปัทมา แม้ว่าจะเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน แต่เด็กสาวก็จะสนทนาเฉพาะแต่เพื่อนในกลุ่ม รวมถึงคุณโอ่งและแดงน้อย ยกเว้นปัทมา เพื่อให้หล่อนรู้สึกว่าต่ำต้อยกว่าทุกคน แต่ปัทมาก็ไม่สนใจ

++++++++++++++++++++++++++

คุณนายรัตนามีพี่สะใภ้เป็นสาวโสดสูงวัยที่ร่ำรวยแต่ขี้เหนียวชื่อประภา เธอพยายามประจบให้คุณประภายกสมบัติให้ แต่ไม่เป็นผล

คุณประภาเป็นญาติสนิทกับคุณนายสายใจ ภรรยาท่านผู้ว่าฯ เพราะ มานี น้องสาวของคุณสายใจ เคยเป็นภรรยาของหลวงประภาสน้องชายเธอมาก่อน แต่ภายหลังด้วยความโลภในเงินที่บิดาคุณรัตนานำมามอบให้ ทำให้เธอสนับสนุนหลวงประภาสให้แต่งงานกับคุณรัตนา ทั้งที่ตอนนั้นมานีตั้งครรภ์กับหลวงประภาสแล้ว

มานีเสียใจ จนหนีหายสาบสูญไปพร้อมเด็กในครรภ์ และเมื่อคุณนายรัตนาเห็นหน้าปัทมาครั้งแรกที่คล้ายคลึงสามีของเธอ และประกายรัตน์บุตรสาว ทำให้เธอแน่ใจว่า ปัทมา วราวิทย์ ก็คือ ปัทมา กาญจนรักษ์ ลูกสาวของมานี ภรรยาคนแรกของหลวงประภาสนั้นเอง

การเสียชีวิตของนายสมบุญ บิดาบุญธรรมของปัทมา ทำให้เด็กสาวต้องลากลับไปยังบ้านเกิดอีกครั้ง ขณะที่คุณนายสายใจ มารดาของสุจริต ได้ล่วงรู้ความจริง

เมื่อก่อนเธอเคยรังเกียจปัทมาอย่างชัดแจ้ง เพราะกลัวว่าตาอู๊ด สุจริต ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวจะไปรักเด็กไพร่ไร้ประวัติอย่างปัทมา แต่แล้วปัทมาที่เธอเคยรังเกียจ ก็คือหลานในใส้ของตัวเอง นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดมากขึ้น ซ้ำตาอู๊ด สุจริต เอง ก็รักปัทมาอย่างน้องสาว ความจริงแล้วเขามีความผูกพันรักใคร่กับคุณแดงใหญ่ ลูกสาวหลวงเผด็จมากกว่า และตั้งใจว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศก่อน

เรื่อง : แรงอธิษฐาน
ผู้เขียน : ก.สุรางคนางค์
สำนักพิมพ์ : รวมสาส์น
ปีที่พิมพ์ : 2498
เล่มเดียวจบ

ระพีพันธ์ตัดสินใจบอกกับมารดาว่าเขารักปัทมา และต้องการจะหมั้นหมายกับเธอไว้ก่อน ท่ามกลางความขัดแย้งของคุณหญิงมารดาของเขา แต่ทว่าลูกๆ คนอื่นๆ รวมถึงยายโอ่ง นันทกา ต่างก็สนับสนุน เพราะรักนิสัยใจคอของปัทมากันทุกคน

บัดนี้ หล่อนคือ ปัทมา กาญจนรักษ์ แล้วแต่กระนั้นปัทมาเองก็ยังไม่ยินยอมที่จะใช้นามสกุลของคุณหลวงประภาสบิดาของตนอยู่ดี

ประกายรัตน์พลาดหวังจากระพีพันธ์ เด็กสาวตัดสินใจไปเรียนต่อที่สวิสเซอร์แลนด์ เช่นเดียวกับที่ตาอู๊ด สุจริต ก็เดินทางไปเรียนต่างประเทศ โดยมีสัญญาใจไว้กับ คุณแดงใหญ่ ผู้หญิงที่เขารัก

ในฉากสุดท้ายของนวนิยาย แรงอธิษฐาน คือฉากที่ปัทมาได้พาระพีพันธ์ คู่หมั้นหนุ่มของเธอเดินทางมากราบหลวงพ่อในโบสถ์ สถานที่ซึ่งตนเองได้เคยมาอธิษฐานเอาไว้ในอดีตเมื่อหลายปีก่อน และบัดนี้ แรงอธิษฐานนั้นได้สร้างสัมฤทธิ์ผลให้กับเด็กสาวกำพร้าอย่างเธอ จนได้พบเจออดีต และบิดาของตนเองแล้วดังความปรารถนา

+++++++++++++++++++

ระพีพันธ์ใช้โอกาสของเขาเป็นครั้งแรก คือจับมือปัทมามากำไว้ ถามว่า “ปัทม์ เดาออกไหมว่า ฉันอธิษฐานว่าอย่างไร?”

ปัทมาหัวเราะอายๆ หน้าแดง “ปัทม์ไม่ได้ยินนี่คะ”

“ผมบอกให้เอาไหมล่ะ ผมอธิษฐานขอให้รักของเราปราศจากอุปสรรค ขอให้เรามีปัญญาพอที่จะหาเงินมาแต่งงานกัน โดยไม่ต้องรบกวนผู้ใหญ่ ผมจะคอยปัทม์ จนกว่าปัทม์จะเรียนจบ”

เขาหยุดนิดหนึ่ง ยังบีบมือปัทมาไว้แน่น ถามว่า “ปัทม์อธิษฐานว่าอย่างไร”

“คราวนี้ปัทม์เพียงแต่มาขอบคุณหลวงพ่อเท่านั้น ที่บันดาลให้ปัทม์ได้ทุกอย่างเกือบครบที่ขอท่านไว้ ท่านยังกรุณา แถมสิ่งที่ปัทม์ไม่ได้ขอให้เสียอีก”

“อะไรจ๊ะ ปัทม์”

“ระพีพันธ์ อักษรานุวัต ยังไงล่ะคะ”

++++++++++++++++++++++++

แล้ว แรงอธิษฐาน อันเป็นภาคแรก ซึ่งนับเป็นชีวิตในวัยแรกรุ่นของ ปัทมา วราวิทย์ ก็ดำเนินมาถึงจุดอวสาน ก่อนที่จะเริ่มต้นก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หัวใจแกร่งของหญิงสาวและหัวใจรักของระพีพันธ์จะฟันฝ่าไปได้สำเร็จหรือไม่ คำตอบทุกอย่างอยู่ในภาคปลายของนวนิยายเรื่องนี้ครับ

ปัทมา วรารักษ์!

+++++++++++++++++++++++

ปัจฉิมลิขิต นวนิยายเรื่องนี้ เคยสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2527 โดยมี คุณจารุณี สุขสวัสดิ์ รับบทปัทมา ร่วมด้วย คุณเกรียงไกร อุณหนันท์ คุณพอเจตน์ แก่นเพชร และคุณอัญชลี ชัยศิริ กำกับการแสดงโดย คุณรุจน์ รณภพ แต่ผมไม่แน่ใจว่าเนื้อหาในภาพยนตร์จะรวมไปถึง ปัทมา วรารักษ์ อันเป็นภาคต่อด้วยหรือไม่ครับ

Don`t copy text!