เทพธิดาโรงแรม

เทพธิดาโรงแรม

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

**************************** 

จากข้อมูลในวิกิพีเดีย ณรงค์ จันทร์เรือง เกิดที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2489 และ เริ่มเรียนชั้นประถม-มัธยมที่สระบุรี โดยเริ่มเขียนหนังสือตั้งแต่อายุ 15 ปี เริ่มต้นจากการส่งบทกลอนไปลงในนิตยสาร ศรีสัปดาห์ ส่งนิทานไปลง ดรุณสาร และได้ตีพิมพ์เรื่องสั้นเรื่องแรก ‘วิวาห์ในอากาศ’ ในนิตยสาร แสนสุข และ แม่ศรีเรือน

เมื่ออายุประมาณ 18-19 ปีก็เริ่มเขียนเรื่องยาว ทำให้เขาได้ค่าเรื่องมากกว่า 3 เท่าของเงินเดือนบัณฑิตในสมัยนั้น  จึงตัดสินใจเลิกการเรียนไป ไม่จบชั้น ม. 8 และเข้าทำงานในตำแหน่งพิสูจน์อักษรที่นิตยสาร แสนสุข แล้วเขียนนิยายบู๊เรื่อง ‘กริชมหาราช’ ให้กับสำนักพิมพ์เพลินจิต ต่อมาเรื่องสั้นของเขาเรื่อง ‘โรงนา’ ได้รับการพิจารณาลงตีพิมพ์โดย ประมูล อุณหธูป บรรณาธิการ สยามรัฐสัปดาวิจารณ์ ในเวลานั้น จนวันหนึ่งเขาต้องมารับหน้าที่เขียนเรื่องสั้นผีลงในคอลัมน์ ‘ขวัญหาย’ ในหนังสือ ขวัญจิต เขาจึงได้เขียนเรื่อง ‘วิญญาณห่วง’ ในเวลาที่จำกัดและใช้นามปากกาว่า ‘ใบหนาด’ ซึ่งเป็นนามปากกา สำหรับใช้เขียนนิยายเรื่องสั้นในแนวดังกล่าวที่มีผลงานออกมาเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นนักเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับชีวิตนักประพันธ์ ในนามปากกา คริส สารคาม อีกด้วย

ณรงค์ จันทร์เรือง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2557 สิริรวมอายุได้ 73 ปี

สำหรับ ‘เทพธิดาโรงแรม’ นี้ น่าจะเป็นผลงานเลื่องชื่ออีกชิ้นหนึ่งของท่าน เคยนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์โด่งดังโดยบริษัทพร้อมมิตรภาพยนตร์ จากการกำกับของ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล และเป็นการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของ คุณวิยะดา อุมารินทร์ ในบทมาลี เทพธิดาโรงแรมตามชื่อเรื่อง ประกบกับ สรพงศ์ ชาตรี พระเอกชื่อดัง ที่พลิกบทบาทครั้งสำคัญ มารับบท ‘แมงดา’ ชื่อโทน ตัวเอกสำคัญอีกตัวหนึ่งในเรื่องนี้ ร่วมด้วย คุณสมภพ เบญจาธิคุณ และดารานักแสดงอีกคับคั่ง

ผลงานของ ณรงค์ จันทร์เรือง ยังมีไม่ต่างกับ เทพบุตรสลัม วิมานสลัม หรือเรื่องอื่นๆ สำหรับที่มาของนวนิยายเรื่องนี้ บอกเล่าผ่านคำนำของ อาจินต์ ปัญจพรรค์ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2515 โดยท่านได้เล่าไว้ว่า มีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณณรงค์ จันทร์เรือง ในงานศพของมารดาเจ้าของสำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น ตอนนั้นคุณณรงค์มีผลงาน ‘ไฟดำ’ ลงในนิตยสารจักรวาลเพชรพระอุมาพอดี เมื่อเริ่มคุยจนคุ้นเคยรวมถึงพูดถึงงานเขียนต่างๆ คุณณรงค์ได้ปรารภว่า…

“บางคน เขาว่าผมเขียนโป๊ ผมอยากเขียนเรื่องไม่ให้โป๊ดูบ้าง”

“เอาไหมล่ะ เขียนเรื่องของโลกแห่งความโป๊ แต่เราเขียนไม่ให้โป๊ดูบ้าง เช่นเราเขียนชีวิตของผู้หญิงหากิน ชอคกะรี ดูบ้าง”

“ใครเขาจะเอาครับ”

“ก็หนังสือที่ผมทำอยู่น่ะสิ ฟ้าเมืองไทย”

และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นของ นวนิยาย เทพธิดาโรงแรม เรื่องนี้ และ เป็นการเขียนคำนำนวนิยายยาว ที่เขียนโดยผู้มีอาชีพเขียนเรื่องสั้น… อาจินต์ ปัญจพรรค์!

มาลี เด็กสาววัยสิบหกปี จากอำเภอแม่ริม เชียงใหม่ ไม่ต่างกับดอกไม้แรกแย้มกลางป่าอันแสนบริสุทธิ์ที่มีความสวยสะพรั่งหอมหวาน เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ ในหมู่บ้าน แต่มาลีมีความฝันทะเยอทะยานที่มากไปกว่านั้น ชายหนุ่มที่จะมาเป็นคนรัก อย่างน้อยต้องเป็นข้าราชการหนุ่มรูปงามหรือหนุ่มกรุงเทพฯ ที่ขับรถหรูๆ มีเงินทองใช้จ่ายให้ความสุขมากกว่าหนุ่มชาวนายากจนละแวกนี้ แม้ว่าจะมีข่าวว่า สาวๆ ในหมู่บ้านถูกหลอกไปขายซ่องในกรุงเทพฯ จำนวนมากก็ตามที

และแล้วมาลีก็ได้เจอชายหนุ่มในฝันเมื่อวันสงกรานต์ ตอนที่หล่อนอายุได้สิบหกปีพอดี เขาเป็นหนุ่มกรุงเทพฯ รูปงามชื่อเชษฐ์ ขับรถคันหรูมาเที่ยวเมืองเหนือ ด้วยท่าทางสุภาพ มีทุกอย่างที่เธอถูกใจ ในที่สุดมาลีก็ทอดกายทอดใจยอมตกเป็นของเขาด้วยความรัก และความฝันสีชมพูอันเต็มเปี่ยม หล่อนขอติดตามเขาลงไปยังกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร ที่เคยได้ยินแต่ชื่อมานานนม และเชษฐ์ก็ไม่ปฏิเสธ

หากแทนที่เขาจะพาหล่อนไปใช้ชีวิตคู่ผัวตัวเมียที่บ้านของเขา เชษฐ์กลับพาหล่อนมาพักที่โรงแรม หลังจากได้ฟอนเฟ้นมาลีดอกนี้จนอิ่มเอมกับกามรสเต็มที่แล้ว เชษฐ์ก็ขายหล่อนให้กับอาโกเจ้าของโรงแรม โดยมีโทน แมงดาคุมซ่องที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรมแห่งนั้นเป็นคนดูแล มาลีเสียใจที่ต้องเสียท่าให้กับอาโกและโทน แต่ไม่สามารถจะหนีออกไปได้ จนต้องยอมรับสภาพของตนเองในที่สุด

และแล้วชีวิตของเทพธิดาโรงแรม ก็เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บัดนั้น!!

ที่โรงแรมแห่งนี้ มาลีทำงานให้กับโทน แมงดาหรือ ‘เอเยนต์’ ผู้มีบรรดากะหรี่ในสังกัดกว่าสามสิบคน หล่อนรู้จักกับสมาชิกคนอื่นๆ อีกหลายคน แสงดาว หญิงสาวที่ถูกหลอกมาขายและทรมาน จนท้ายสุดก็ยอมขายตัว หรือคำแก้ว เพื่อนสาวร่วมห้อง ที่ถูกฉุดมาขายแล้วขู่ฆ่า จนต้องจำยอมทำงานรับแขกอยู่ที่นี่จนกลายเป็นความชินชา และภายหลังเมื่อปลดระวางจากงานขายบริการแล้ว คำแก้วยังหาเงินด้วยการหลอกคำหล้า เด็กสาวหมู่บ้านเดียวกัน มาขายให้กับอาโกผู้คุมอีกด้วย แต่คำหล้าก็แตกต่างจากมาลี แสงดาว หรือคำแก้ว เด็กสาวพยายามต่อสู้ขัดขืน จนถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะหนีออกจากโรงแรมนรกนั้น โดยตัดสินใจกระโดดลงมาจากระเบียงตึก

คำหล้ารอดจากการถูกบังคับขายบริการ แต่ก็ต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต

สำหรับมาลีเอง แม้จะเสียใจที่ต้องมาทำงานเป็นเทพธิดาโรงแรมแห่งนี้ แต่ภายหลังก็ทำงานรับแขกอย่างสมัครใจ จนเป็นที่ไว้วางใจของโทน แมงดาหนุ่ม มาลีรู้จักเอาอกเอาใจแขก ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าแบบไหนก็ตาม และที่นี่เองที่ทำให้หล่อนเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ในดงโลกีย์แห่งนี้มากมาย ยิ่งกว่าบทเรียนใดๆ ในตำราชีวิต

ผู้หญิงแบบที่คล้ายคลึงกันนั้น คือยินยอมเมื่อถูกบังคับขู่เข็ญ ตามสัญญาตญาณของมนุษย์หรือสัตว์ เมื่อรู้ตัวว่าเป็นเบี้ยล่าง ยอมเป็นทาส ยอมเป็นทุกๆอย่างตามที่นายเหนือหัวจะบงการ แม้ว่าลึกลงไปในชีวิตวิญญาณจะเต็มไปด้วยความขมขื่น ปวดร้าวสักเพียงใดก็ตามที

แต่แบบของมาลีนั้น แม้ว่าจะไม่ถูกบังคับหล่อนก็ยินยอมอยู่แล้ว จะเรียกว่าเป็นทาสด้วยกำเนิด ทาสด้วยชีวิตวิญญาณ ก็คงจะไม่ผิดอะไรนัก

และลูกค้าของมาลี ก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางความยินดีของโทน ที่สามารถได้เก็บเกี่ยวกำไรจากเลือดเนื้อร่างกายของหล่อน อย่างเต็มที่

บางคนเป็นนักศึกษา หอบตำรามาเป็นฟ่อน บางคนเมามายแทบไม่ได้สติ บางคนอ่อนหวานนุ่มนวลอย่างไม่น่าเชื่อ ทำราวกับมาลีเป็นยอดหญิงในดวงใจของเขา บางคนกระโชกโฮกฮาก บางคนเยือกเย็นเชื่องช้าจนน่ารำคาญ บางคนก็รวดเร็วจนน่าใจหาย บางคนพร่ำบ่นชื่อของผู้หญิงคนอื่น ขณะกำลังขึ้นสวรรค์บนทรวงอกของมาลี…

ผู้หญิงในโรงแรมน้อยคนนักหนาที่จะตั้งครรภ์ หากรอบเดือนขาด หมอเถื่อนก็จะให้ยากิน แล้วก้อนเลือดที่จะเติบโตมาเป็นทารกผู้ไม่มีใครปรารถนาก็จะถูกขับออกมาโยนทิ้งขยะไป

ภายหลังโทนเริ่มประทับใจในนิสัยและความซื่อสัตย์ของมาลี จนยอมยกหนี้ที่เคยติดค้างมาแต่แรกให้กับเธอจนหมด และแบ่งเปอร์เซ็นต์การทำงานกับเธออย่างยุติธรรมก็ตาม แต่ภายหลัง โรงแรมที่เธอเคยอยู่ก็ถูกบุกทลายจากตำรวจ โทนเองมีเรื่องกับกลุ่มมิจฉาชีพ และถูกฆ่าตายในที่สุด

มาลีต้องหาสังกัดใหม่ และตอนนี้เธอก็ได้ย้ายไปอยู่กับโกเล็ก ชายหนุ่มที่รับหน้าที่ไม่ต่างกับเอเยนต์คอยจัดหาสาวๆ มาบำเรอความต้องการของเพศชายที่มาซื้อบริการ โดยแลกกับการหักค่าหัวคิว

ชีวิตเทพธิดาโรงแรมของมาลีกำลังดำเนินไปข้างหน้า เผชิญกับปัญหาและเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้า ไม่ว่าจะเป็นการตั้งครรภ์ ทำแท้ง หรือแม้แต่ติดกามโรค! โดยที่ทั้งพ่อแม่ และแม้แต่ ไพศาล ชายคนรัก ก็ไม่เคยล่วงรู้เรื่องนี้มาก่อน

“หากว่าเธอเคยผ่านผู้ชายมาก่อน การโกหกคนที่เรารัก แต่ทำให้เขาสบายใจ ภูมิใจว่าเขาเป็นผู้ชายคนแรกของเรา มันจะมิดีกว่าการพูดความจริงที่ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แต่ทำให้เขาหดหู่ เศร้าหมอง แล้วก็ดูถูกตัวเองไปจนตาย จำไว้มาลี บางครั้งผู้หญิงเราก็ต้องโกหกเอาไว้บ้าง หากว่าเราต้องการให้คนที่เราภาคภูมิใจและปรารถนาจะให้ชีวิตคู่ของเราราบรื่นยืดยาวโดยปราศจากอุปสรรคขวากหนามที่มันจะไม่มีวันเกิดขึ้นเลย หากเรายืนกระต่ายขาเดียวเอาไว้ตลอดเวลาที่เขาถามว่าเราไม่เคยเสียเนื้อเสียตัวให้กับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลย นอกจากเขาเพียงคนเดียว”

ชีวิตของเทพธิดาโรงแรมมาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว เมื่อเธอเริ่มมองเห็นสภาพอันร่วงโรยของสังขารตัวเองที่ใช้งานและกรำงานมาอย่างหนักหน่วง ตอนนี้มาลีทุ่มเทให้กับความรัก ยอมทำทุกอย่าง แม้แต่ออกเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้กับไพศาล

มาลีตัดสินใจเจียดเงินรายได้ เพื่อไปเรียนตัดเสื้อ หวังว่าวันหนึ่งจะอำลาอาชีพเทพธิดาโรงแรมแห่งนี้ ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเขา แต่แล้วทุกอย่างก็เป็นความฝันที่แหลกสลาย…

ไพศาลชายคนรัก ซึ่งติดทั้งการพนัน รวมถึงเหล้าบุหรี่ ซึ่งล้วนได้มาจากเงินที่หล่อนนำมาปรนเปรอจนเขาติดใจและหยิบยืมไปจากหล่อนอย่างมือเติบ ที่สำคัญที่สุด เขาแอบพาผู้หญิงคนอื่นมาหลับนอนด้วยที่บ้าน และมาลีก็ไปพบเหตุการณ์นั้นเข้า ในวันที่หล่อนสำเร็จการศึกษาจากการทุ่มเทเรียนตัดเสื้อพอดี

เรื่องราวในชีวิตของมาลี ยังดำเนินต่อไป แม้ว่าจะอำลาชีวิตของเทพธิดาโรงแรม เพื่อกลับไปยังบ้านเกิดของตัวเองอีกครั้ง

เรื่อง : เทพธิดาโรงแรม

ผู้เขียน : ณรงค์ จันทร์เรือง

สำนักพิมพ์ : ประพันธ์สาส์น

ปีที่พิมพ์ : 2516

เล่มเดียวจบ

นิยายเรื่องนี้ ผมพบว่า ณรงค์ จันทร์เรือง ได้เขียนภาคต่อ ในชื่อ เทพธิดาโรงแรม ภาคสอง เอาไว้ด้วย และรวมเล่ม โดยสำนักพิมพ์เดียวกัน เมื่อ ปี พ.ศ. 2517 แต่ไม่แน่ใจว่า ภายหลังทั้งสองภาคจะนำมารวมเป็นเล่มเดียว ในการพิมพ์นิยายเรื่องนี้ครั้งต่อมาหรือเปล่า และเนื้อเรื่องเองจะต่อเนื่องกับภาคแรกด้วยหรือไม่ แต่สำหรับบทจบของ เทพธิดาโรงแรม ในเล่มนี้ ก็นำพาให้ผู้อ่านได้เดินตามเรื่องราวของมาลีมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายได้อย่างชัดเจน

และนับเป็นนิยายโป๊ที่ไม่โป๊ อย่างที่ อาจินต์ ปัญจพรรค์ได้เขียนไว้ในคำนำของนิยายเรื่องนี้อย่างแท้จริง เพราะแม้ว่า เทพธิดาโรงแรม จะเป็นเรื่องราวที่ดำเนินผ่านชีวิตโสเภณีในคราบคาวโลกีย์ตลอดทั้งเรื่อง แต่ด้วยสำนวนภาษาและการเขียนบรรยายของ ณรงค์ จันทร์เรือง ทำให้ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นนิยายปลุกอารมณ์เพศที่มีบทบรรยายหวือหวา บทรักวาบหวาม แต่อย่างใดเลย ตรงกันข้าม บทบรรยายเหล่านั้น บางครั้งกลับสร้างความสะเทือนใจในชะตากรรมของตัวละครที่เกิดขึ้น มากยิ่งกว่า…

เทพธิดาโรงแรม อาจจะไม่ใช่นิยายพาฝัน ที่มีตัวละครเอกสมบูรณ์แบบ พรั่งพร้อมด้วยคุณสมบัติด้านบวก ทุกตัวละครมีทั้งดีและชั่วปะปนกันอยู่ในคนเดียวกัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นนิยายแนวสมจริง ที่ผสมผสานรสชาติอันเข้มข้นชวนอ่านอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียวครับ

Don`t copy text!