ชัยชนะของดวงดาว

ชัยชนะของดวงดาว

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

นักอ่านหลายท่าน อาจจะรู้จักนามปากกา ‘อรชร’ หรือ ศรี ชัยพฤกษ์ ควบคู่ไปกับ นามปากกา พันธุ์ บางกอก ที่ร่วมกันเขียนนวนิยายอมตะอันลือลั่น ‘ร้อยป่า’ ที่เป็นหนังสือในดวงใจของใครหลายคน นอกจากนี้ อรชรยังมีผลงานนิยายอีกเป็นจำนวนมาก ผมคุ้นเคยกับผลงานในแนวบู๊แอ็กชันของท่าน ที่เคยลงเป็นตอนๆ ในนิตยสาร บางกอก สมัยเด็กๆ อย่าง พญายมพนมรุ้ง ข้าจะอยู่ค้ำฟ้า ที่นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ในยุคระเบิดภูเขาเผากระท่อมเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ท่านยังมีผลงานแนวชีวิตอย่าง แก้วกำพร้า รวมถึงนิยายขนาดสั้น ชัยชนะของดวงดาว อีกด้วย

++++++++++++++++++

จากข้อเขียนของท่าน ในหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ นายวิชิต โรจนประภา ผู้ก่อตั้งนิตยสาร บางกอก ทำให้พอทราบ ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับตัวของท่านและความผูกพันที่มีต่อนิตยสารดังกล่าวมาอย่างยาวนาน ตลอดชั่วชีวิต

“ผมลงมือเขียนนวนิยายเรื่องแรกให้กับคุณวิชิต ผู้ริเริ่มก่อตั้งสำนักพิมพ์จิตรวัฒนา ด้วยเรื่อง ลูกเลี้ยง โดยใช้นามปากกาที่ตั้งขึ้นใหม่สำหรับเขียนนวนิยายยาวโดยเฉพาะว่า อรชร ในช่วงเวลาเดียวกัน จ.ไตรปิ่น (จิตต์ ไตรปิ่น) ก็เริ่มเขียนนวนิยายเรื่อง น้ำตาแม่ค้า ให้กับคุณวิชิต ด้วยเช่นกัน เขียนไปเรื่อยๆ คุณวิชิตก็พิมพ์ไปเรื่อย จนยาวถึง 50 เล่ม จึงจบ และน้ำตาแม่ค้า ของ จ.ไตรปิ่น ก็ดูเหมือนจะยาว 50 เล่มจบ เช่นกัน

เป็นอันว่า ก้าวแรกของการเป็นนักเขียนตลาดของอรชร และ จ.ไตรปิ่น ได้รับการยอมรับจากผู้อ่าน

 

ตอนกลางปี 2493 นั่นเอง คุณวิชิตบอกกับผมว่า “มาออกหนังสือรายสัปดาห์กันสักฉบับดีมั้ย” สมัยนั้น คำว่า ‘นิตยสาร’ ยังไม่รู้จักกันแพร่หลาย ผมนึกถึง ‘บางกอกรายปักษ์’ ที่คุณ ประหยัด ศ.นาคะนาท กับคุณ ประมูล อุณหธูป ช่วยกันทำ ตอนสงครามเลิกใหม่ๆ อยู่หลายเดือนก่อนจะเลิกไป ขึ้นมาทันใด

“ดีครับ”

“คุณทำนะ”

ผมพยักหน้ารับ คุณวิชิตไม่ได้พูดถึงแนวหนังสือ ผมก็ชอบอ่านหนังสือแนว ‘นิกร’ รายสัปดาห์ ‘สุภาพบุรุษ-ประชามิตร’ ‘รุ่งอรุณ’ ฯลฯ ซึ่งมีผู้อ่านคนละระดับกับคนอ่านนิยายที่ผมเขียนอยู่ ทั้งไม่รู้ด้วยว่ามีจำนวนพิมพ์เพียงไม่กี่พันฉบับ นึกว่า เมื่อจะทำหนังสือรายสัปดาห์ก็น่าจะทำหนังสือในแนวนั้น จึงจะได้คนอ่านกลุ่มนั้นมาซื้ออ่าน

“จะตั้งชื่อหนังสือว่าอะไรดี”

“บางกอก” ผมตอบโดยไม่ต้องคิดทันที

และแล้ว บางกอกรายสัปดาห์ จึงเริ่มวางตลาดฉบับปฐมฤกษ์ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2494 นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา รวมถึงชื่อของอรชร ที่เป็นเสมือนชื่อนักเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ของนิตยสารในเครือดังกล่าวเช่นเดียวกัน

+++++++++++++++++

สำหรับนิยาย ชัยชนะของดวงดาว เป็นเรื่องราวชีวิตของเด็กหญิงดวงดาว บุตรสาวคนเดียวของนางเดือน หญิงใบ้ที่มีความสัมพันธ์กับชายหนุ่มผู้หนึ่ง และก่อนที่เขาจะจากเธอไป เขาได้มอบแหวน ‘สุริเยนทร์’ อันเป็นแหวนประจำตระกูลของตนมอบให้กับเดือน และหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย

เดือนตั้งครรภ์ และคลอดลูกออกมาเป็นทารกเพศหญิง หน้าตาสะสวยน่ารักชื่อดวงดาว หากภายหลัง ด้วยชะตากรรมที่ถาโถมเข้ามา ทำให้เธอหอบลูกสาวตัวน้อยเดินทางมาพึ่งใบบุญของเจ้าคุณสมบัติสุริเยนทร์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายของสามีเธอ โดยที่ไม่มีใครในบ้านล่วงรู้ความจริงข้อนี้ รวมถึง สุชาดา และสรวง ลูกทั้งสองของ เจ้าคุณสุริเยนทร์ฯ ซึ่งสุชาดา กำลังเติบโตเป็นสาวน้อยวัยดรุณี หากแต่มีความเด็ดขาดและเอาแต่ใจตัวเอง ไม่ต่างกับ หม่อมหลวงสุรัสวดี มารดาของเธอที่เสียชีวิตไปตั้งแต่วัยเยาว์ ในขณะที่สรวง ซึ่งเป็นเด็กชายวัยไล่เลี่ยกับดวงดาว กลับมีนิสัยอ่อนโยน เมตตา และให้ความรักความเอ็นดูกับ ดวงดาว ไม่ต่างกับเธอเป็นน้องสาวคนหนึ่ง ทั้งที่เขาเองก็ไม่เคยล่วงรู้ความจริงมาก่อน

เจ้าคุณสุริเยนทร์เลี้ยงดูเดือนและดวงดาวอย่างดี ให้เด็กหญิงได้เรียนในโรงเรียนเดียวกับสุชาดา ยิ่งทำให้ เด็กสาวรู้สึกไม่พอใจ และเกลียดชังสองแม่ลูกเพราะความริษยา ว่าวันหนึ่งเดือนจะมาเป็นแม่เลี้ยงแทน โดยเฉพาะคำยุยงของสาวใช้ในบ้าน ซ้ำยังเป็นแม่สื่อแม่ชักให้เธอรู้จักกับ กมล กมลศักดิ์ เด็กหนุ่มรุ่นพี่ที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับสรวง น้องชายของเธอ

กมลเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี รูปหล่อ แต่เป็นคนเจ้าชู้ เหลาะแหละ ไม่มีความจริงใจให้กับใคร ซึ่งสรวงและเพื่อนๆ ของเขา ต่างก็ไม่ชอบนิสัยของอีกฝ่าย พยายามหาทางป้องกันพี่สาวของตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อสวาทของนายกมล จนท้ายที่สุดเรื่องก็รู้ถึงหูท่านเจ้าคุณ และทำให้ สองหนุ่มสาวต้องแยกจากกัน ท่ามกลางความเข้าใจผิดของสุชาดาว่าสรวงน้องชายเธอคอยกีดกัน

เจ้าคุณตัดสินใจส่งสรวงไปเรียนต่อที่อเมริกา เด็กหนุ่มผูกพันกับดวงดาว และทั้งสองต่างก็ร่ำลากันด้วยความอาลัยอาวรณ์ สรวงฝากให้สหายในกลุ่มของเขา ที่มีพยัคฆ์ เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งที่หลงรักดวงดาวช่วยดูแลเธอ และจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่มีโอกาสได้พบกันเลย เพราะมหาสงครามโลก เริ่มอุบัติขึ้นพอดี และจากนั้นครอบครัวเจ้าคุณสุริเยนทร์ฯ ก็ทราบข่าวร้ายว่าสรวงเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุที่เมืองนอก!

++++++++++++++++++

ดวงดาวเติบโตเป็นสาวน้อยแสนสวย และนับวันยิ่งสร้างความริษยาแก่สุชาดา ในขณะที่กมลเองก็แค้นใจที่ถูกเจ้าคุณและสรวงขัดขวางเขากับสุชาดา ด้วยความที่ช่างพูดช่างประจบ และหน้าตาน่าเอ็นดู ทำให้เขาได้มีโอกาสได้ฝากเนื้อฝากตัวกับคุณพระพิชัยพิทย์ผู้มีฐานะจนท่านรับอุปการะส่งเสียให้เรียนต่อจนสามารถจบปริญญา และกมลก็ยิ่งมีความทะเยอทะยานมากไปกว่านั้นเขาแอบมีความสัมพันธ์ลับๆ กับวามจิต ลูกสาวคนเดียวของพระพิชัยฯ จนวามจิตหลงใหล และหลงคิดว่ากมลจะจริงจังกับหล่อน

ด้วยความรักและเสน่หาวามจิต พยายามหาทางช่วยเหลือส่งเสริมให้ชายคนรักได้เจริญก้าวหน้าทุกวิถีทาง ทั้งแอบส่งเสียเงินทองให้กมลใช้จ่ายอย่างสะดวกสบาย หรือแม้แต่ให้บิดาของตนช่วยฝากฝังกมลเข้าทำงาน และก้าวหน้าจนได้เป็นถึงนายอำเภอธัญบุรี ในขณะที่วามจิตเองก็ถูกพระพิชัยบังคับให้แต่งงานกับเจ้าคุณบำเรอที่แก่คราวพ่อ เพราะท่านเองติดหนี้สินเจ้าคุณไว้เป็นจำนวนมาก แต่กระนั้นวามจิตก็ยังแอบไปมีความสัมพันธ์สวาทกับกมลอยู่บ่อยครั้ง โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้

และที่ธัญบุรีนั่นเองเมื่อเจ้าคุณสุริเยนทร์ฯ ได้หลบหนีภัยบอมบ์จากพระนคร มาอาศัยอยู่รังสิตพร้อมครอบครัว ทำให้สุชาดาได้พบกับกมลอีกครั้ง กมลรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับเธออย่างลับๆ และในขณะเดียวกัน ด้วยนิสัยเจ้าชู้ เขาก็มองเห็นดวงดาวที่กำลังเป็นสาวน้อยแสนสวย ทำให้จิตใจกมลก็เริ่มเอนเอียงไปทางดวงดาว เขาใช้เสน่ห์ตัวเองที่เคยใช้ได้ผลกับสาวคนอื่นๆ มาแล้ว หวังว่าจะทำให้สาวน้อยไร้เดียงสาอย่างดวงดาว หลงติดกับในรูปโฉมของเขา

แต่น่าเสียดายที่ดวงดาวมีสรวงอยู่ในหัวใจเสียแล้ว แม้จะรู้ว่าเขาจากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับก็ตาม ดังนั้นเธอจึงเพียงแต่รักษาไมตรีของนายอำเภอหนุ่มรูปงามเอาไว้เท่านั้น

++++++++++++++++++++

พฤติการณ์ทั้งหมดของเขาอยู่ในสายตาของนครินทร์ ปลัดอำเภอหนุ่มเช่นเดียวกัน เขาเองก็แอบหลงรักดวงดาว ยิ่งทราบภายหลังว่าดวงดาวกลายเป็นเป้าหมายความเกลียดชังของทั้ง สุชาดา ที่เข้าใจผิดว่าดวงดาวจะมาแย่งกมลไปจากเธอ รวมถึงพิษรักแรงหึงของวามจิตเองที่ส่งคนมาสืบและดักทำร้ายดวงดาว เพราะความหึงหวงในตัวกมล ยิ่งทำให้เขาเป็นห่วงเธอมากขึ้นไปอีก

และแล้ว สรวงก็เดินทางกลับมาที่เมืองไทย!

เรื่อง : ชัยชนะของดวงดาว

ผู้เขียน : อรชร

สำนักพิมพ์ : โชคชัยเทเวศร์

ปีที่พิมพ์ : 2495

เล่มเดียวจบ

เหตุการณ์เสียชีวิตเป็นความเข้าใจผิดในการสื่อสาร และในขณะเดียวกันสรวงก็มีภารกิจสำคัญเพื่อประเทศชาติในเวลานั้นพอดีด้วยการเข้ากับกลุ่มเสรีไทย ทำให้เขาต้องทำตัวเองให้กลายเป็นคนสาบสูญ บัดนี้ เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย เขาเดินทางกลับมาหาพ่อและดวงดาว หญิงสาวที่เขารักเธอสุดหัวใจ และทำให้สรวงรู้ว่า อย่างน้อยดวงดาวก็ยังมีเขาอยู่ในหัวใจ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

 

การปรากฏตัวของชายสูงวัยชื่อสันทัด ทำให้ความจริงทุกอย่างปรากฏ เขาคือน้องชายของท่านเจ้าคุณฯ และเป็นบิดาของดวงดาวนั่นเอง ตลอดระยะเวลายาวนาน สันทัดติดคุกและเพิ่งพ้นโทษออกมา แต่บัดนี้เขาล้มเจ็บด้วยไข้มาลาเรียและกำลังจะเสียชีวิต มันคือโอกาสสุดท้ายที่จะได้พบกับลูกเมียทั้งสอง

++++++++++++++++++++

ในอดีต สันทัดเคยรักกับหม่อมหลวงสุรัสวดี จนคาดหวังว่าจะแต่งงานกัน แต่แล้วคุณชายผู้เป็นบิดาของเธอ ก็บังคับให้แต่งงานกับเจ้าคุณสุริเยนทร์ด้วยความเหมาะสม และท่านเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าสุรัสวดีเป็นคนรักของน้องชาย ความเสียใจทำให้เขาเตลิดไปยังต่างเมือง และพบกับ เดือน จนมีความสัมพันธ์เกิดขึ้น แต่แล้วด้วยเวรกรรม ทำให้ต้องพลัดพรากจากกันไป และยังต้องไปติดคุกติดตะรางอยู่หลายสิบปี จนพ้นโทษออกมาในเวลานี้

และสันทัดก็จากเดือนและดวงดาวไป ในที่สุด พร้อมกับความจริงที่ทุกคนประจักษ์ ว่าดวงดาวคือสุริเยนทร์อีกคนหนึ่งของตระกูล!

เจ้าคุณบำเรอ รู้ความจริงว่าวามจิตเป็นชู้กับกมล และความแค้นที่ถูกหักเหลี่ยมนั่นเอง ทำให้ท่านจับตัวทั้งคู่ไปขังไว้ด้วยกันเพื่อเป็นการลงโทษ โดยเฉพาะเมื่อวามจิตตั้งครรภ์กับชายชู้ ไม่ใช่กับท่าน…

การถูกขังไว้ด้วยกันสองคนนั่นเอง ยิ่งทำให้กมลแสดงธาตุแท้ของความเห็นแก่ตัวออกมาชัดเจน เขารังเกียจวามจิต ขณะที่หล่อนเริ่มรู้ว่าถ้อยคำหวานหูต่างๆ ของกมลก็เป็นเพียงคำพูดสับปลับของผู้ชายเห็นแก่ตัว ที่หวังผลประโยชน์จากหล่อนเท่านั้นเอง เขาไม่เคยรักหล่อนเลยสักนิดเดียว

เรื่องราวใน ชัยชนะของดวงดาว ดำเนินไปอย่างเข้มข้น ด้วยบทบาทของตัวละครแต่ละตัว ที่ท้ายสุดต่างก็ได้รับผลกรรมของตัวเอง ในขณะที่คนดีประพฤติดีอย่างดวงดาว ก็ประสบกับชัยชนะ และความรักที่สมหวัง กับผู้ชายที่เป็นที่รักยิ่งของเธอ

สรวง สุริเยนทร์!

หมายเหตุ สำหรับภาพประกอบของอรชร หรือ ศรี ชัยพฤกษ์ ผู้เขียนนิยายเรื่องนี้ กับคุณวิชิต โรจนประภา ผมนำมาจากหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ นายวิชิต โรจนประภา เมื่อวันที่  6 มิถุนายน 2542 ครับ

Don`t copy text!