นางสาวโพระดก

นางสาวโพระดก

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

****************************  

หลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อเพลง โพระดก ที่ต้นฉบับขับร้องโดย คุณเพ็ญศรี พุ่มชูศรี คู่ชีวิตของ สุวัฒน์ วรดิลก หรือ ‘รพีพร’ ผู้ประพันธ์นวนิยาย นางสาวโพระดก เรื่องนี้นั่นเอง นิยายเรื่องนี้ ผมยังไม่เคยอ่านมาก่อน นอกจากพอทราบว่าเคยลงเป็นตอนๆ ในนิตยสาร เดลิเมล์วันจันทร์ และนำมารวมเล่มหลายครั้ง เช่นเดียวกับนำไปสร้างเป็นทั้งละครและภาพยนตร์ โดยเวอร์ชันแรกของ นางสาวโพระดก เมื่อปี พ.ศ. 2508 ผู้รับบทโพระดก นางเอกของเรื่องก็คือ คุณพิสมัย วิไลศักดิ์ และพระเอกในเรื่องนี้ ก็รับบทโดย คุณมิตร ชัยบัญชา ส่วนเวอร์ชันที่ผมเคยดูตอนเด็กๆ นั้น นำมาสร้างใหม่ และแสดงโดย คุณจารุณี สุขสวัสดิ์ กับ คุณพอเจตน์ แก่นเพชร คู่ขวัญจาก บ้านทรายทอง พจมาน สว่างวงศ์ นั่นเอง สำหรับเวอร์ชันละคร ล่าสุดน่าจะเป็น นางสาวโพระดก ที่นำแสดงโดย คุณพลอย เฌอมาลย์ และคุณนุติ เขมะโยธิน

 

เด็กหญิงโพระดก สกุณา เรียกได้ว่า ถือกำเนิดขึ้นมาก็คาบช้อนเงินช้อนทองมาเลยทีเดียว เพราะเธอเป็นธิดาคนเดียวของ นายพลขุนรณพิชิตศึก (ดุเหว่า สกุณา) กับคุณหญิงพิณ ซึ่งแต่งงานกันมาหลายปี ก็ไม่มีลูก และเมื่อถือกำเนิดขึ้นนั้น เพลงตับแม่ศรีทรงเครื่อง กำลังบรรเลงอยู่พอดี เนื้อเพลงที่ว่า “เสียงนกโพระดก มันร้อง โฮกป๊ก โฮกป๊กอยู่หนไหน…”

และนั่นเองคือที่มาของ เด็กหญิงโพระดก สกุณา!

แม้ว่าชีวิตจะสุขสบายบนกองเงินกองทอง เป็นที่รักดังแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ แต่แล้ว เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อท่านขุนซึ่งอายุมากแล้วก็เสียชีวิตลงกะทันหัน ทิ้งมรดกมหาศาลไว้ให้กับคุณหญิงพิณที่ยังเป็นสาวใหญ่ผู้โสภากับธิดาน้อยเพียงคนเดียว

ต่อมา คุณหญิงพิณจึงได้แต่งงานครั้งที่สองกับ นายอาทร เฮงสกุล ซึ่งเคยมีภรรยามาก่อนแล้วและเสียชีวิตไป โดยมีแต่ลูกชายด้วยกันถึงสามคน องอาจคนโตทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทและแยกตัวออกไปแล้ว อรรถคนรอง เป็นชายหนุ่มเสเพลที่เรียนไม่จบ และไปช่วยงานบริษัทเดินเรือทางภาคใต้ ส่วนเอกคนสุดท้องเพิ่งเรียนจบและเป็นครูพละ โดยที่นายอาทรเองก็มีน้องสาวเป็นสาวใหญ่ที่ยังโสดอยู่ชื่ออาบจิต

อาทรไม่มีลูกสาวมาก่อน และด้วยนิสัยฉลาดเฉลียวน่ารักของโพระดก ทำให้พ่อเลี้ยงอย่างเขาเกิดความเอ็นดูรักใคร่ไม่ต่างกับลูกของตัวเอง แต่แล้วต่อมาไม่นานเมื่อโพระดกเติบโตเป็นสาวน้อยวัยรุ่น เขาก็เกิดประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตลง ทำให้เกิดเหตุการณ์ปั่นป่วน เรื่องพินัยกรรมตามมา

เมื่อสมบัติส่วนหนึ่ง ขายกให้กับคุณหญิงพิณ และยังมีเงินช่วยเหลือส่งเสียโพระดกเพื่อให้เรียนต่อถึงระดับปริญญาตรี สร้างความริษยาให้กับคุณอาบจิตผู้เป็นน้องสาวยิ่งนัก ในขณะที่เอก กลับสนิทสนมกับโพระดกและเอ็นดูเธอ เพราะโพระดกนิสัยห้าวหาญเหมือนผู้ชาย และยังเฉลียวฉลาดในการพูดจาอีกด้วย

อรรถเดินทางกลับมาหลังบิดาเสียชีวิต และรู้ว่าโพระดกมีเงินมรดกมหาศาล รวมถึงหน้าตาสะสวยของเธอ ก็ทำให้อรรถเกิดความคิดจะจะหลอกล่อให้โพระดกตกหลุมรักเขาและแต่งงานด้วย เพื่อกอบโกยมรดกมาเป็นของตน โดยมีอาบจิตคอยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง โพระดกเองแรกๆ ก็ไว้วางใจอรรถเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง แต่ภายหลังเด็กสาวได้พบกับกฤษณา สาวน้อยจากสงขลาที่ขึ้นมาตามหาอรรถพร้อมเด็กในท้อง ทำให้เธอรู้ว่ากฤษณาคือเมียคนหนึ่งของอรรถที่เขาได้เสียกับเธอ แล้วทิ้งขว้างอย่างโหดร้าย ทำให้โพระดกระวังตัวเองมากขึ้น โดยมีนางสาวระทวย หญิงรับใช้ของอาบจิตที่เอ็นดูรักใคร่เธอ คอยดูแลเฝ้าระวังให้เด็กสาว

 

ที่โรงเรียนของโพระดก เธอมีเพื่อนสนิทคือสายสมร และในงานวันแสดงละครของโรงเรียน นั้นเอง ที่โพระดกได้มีโอกาสพบกับพี่ชายของสายสมรที่แวะมารับชายหนุ่มรูปงามผู้นั้น มีชื่อว่า ศล ทองปราย เขาเรียนจบเป็นทนายความ แต่กลับหันไปทำไร่ทำนาอยู่ที่ไร่กระต่ายเต้น แห่งอำเภอท่ามะกา กาญจนบุรี

สายสมรมีท่าทีลำบากใจเมื่อพูดถึงพี่ชายคนนี้ จนทำให้โพระดกรู้ความจริงภายหลังว่า ศล ไม่ใช่พี่แท้ๆ ของสายสมร แต่เป็นเด็กหนุ่มที่นางสายใจ แม่ของสายสมร รับอุปการะส่งเสีย และท้ายที่สุดเขายอมเป็นสามีของนางสายใจ!

 

ในขณะเดียวกัน เมื่อสิ้นบุญนายอาทรไปแล้ว ด้วยความว้าเหว่เปล่าเปลี่ยวใจ คุณหญิงพิณซึ่งยังสาวและมีเลือดเนื้อบริบูรณ์ จึงมีความสัมพันธ์กับทนายความประจำตระกูลที่ยังหนุ่มแน่นอยู่ แม้จะไม่ออกหน้าออกตา แต่ก็เป็นที่รู้กันในครอบครัว จนทำให้คุณอาบจิตนำไปกระแนะกระแหนโพระดก เด็กสาวทนไม่ได้ที่มารดาถูกพาดพิง จึงมีเรื่องราวกับคุณอาบจิต และเมื่อ คุณหญิงพิณรู้เรื่องเข้า ด้วยความเป็นผู้ใหญ่เธอจึงให้โพระดกขอโทษอาบจิต ด้วยความน้อยใจ เด็กสาวจึงตัดสินใจพาระทวย สาวคนใช้ไปขออาศัยอยู่ที่ไร่กระต่ายเต้นของสายสมรเพื่อนรักเป็นการชั่วคราว

และที่นั่นเอง ที่ทำให้เธอได้รู้จักกับ นายศล ทองปราย มากยิ่งขึ้น ความสนิทสนมผูกพันของสองหนุ่มสาวอยู่ในสายตาริษยาของนางสายใจตลอดเวลา ทุกอย่างหญิงสูงวัยรู้ตัวตลอดเวลา รวมถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงของเธอเองกับนายศลเช่นกัน

นางรักศล และพยายามทุกวิถีทางให้เขาเป็นสามีตัวเอง แต่ศลก็ปฏิเสธ หากด้วยความกตัญญู แม้ว่านางสายใจจะทำให้ทุกคนแม้แต่ลูกสาวตัวเองเข้าใจผิดว่าหล่อนกับศลมีอะไรกันฉันผัวเมียแล้วก็ตาม เขาก็ไม่ได้หักหน้าเธอ หากใช้วิธีการนิ่งเฉยและยิ่งทำให้นางสายใจแทบจะคลั่งด้วยความหึงหวง ซ้ำในเวลานี้ ตัวเธอเองก็เจ็บป่วยด้วยโรคร้าย

เรื่อง : นางสาวโพระดก

ผู้เขียน : รพีพร

สำนักพิมพ์ : รวมสาส์น

ปีที่พิมพ์ : 2509

สองเล่มจบ

และในที่สุด ฤทธิ์ของความหึงหวงก็ทำให้นางสายใจหลุดอาการ อาละวาดและมีเรื่องกับโพระดก จนท้ายที่สุดก็ต้องเสียชีวิตลงด้วยอาการของโรคร้ายกำเริบ หากก่อนที่จะเสียชีวิต สายใจ ได้เขียนพินัยกรรมฉบับใหม่ขึ้นมา นางรู้ว่าศลรักผืนแผ่นดินแห่งนี้ ที่เขาหักร้างถางพง และสร้างไร่กระต่ายเต้นขึ้น ดังนั้น พินัยกรรมฉบับนั้น จึงมีเงื่อนไขว่า ทรัพย์สมบัติทั้งหมดจะตกเป็นของศลและสายสมร ถ้าหากทั้งคู่ตกลงแต่งงานกัน!

ศลเลือกที่จะปฏิเสธ เขารู้ตัวเองว่าบัดนี้เขาหลงรักสาวน้อยโพระดกผู้นี้เสียแล้ว ไม่ใช่ด้วยฐานะเงินทองของเธอ หากแต่เป็นนิสัยใจคอ ความร่าเริง และจิตใจที่กล้าหาญเสียสละ แม้แต่ในยามที่เขาเจ็บป่วยด้วยโรคทีบีจนอาเจียนออกมาเป็นเลือด โพระดกก็ยังมาช่วยเหลือดูแล แต่ในขณะเดียวกัน ความเป็นสุภาพบุรุษก็ทำให้เขาไม่อาจทอดทิ้งสายสมร เด็กสาวที่กำพร้ามารดา ที่เขารักเหมือนน้องได้เช่นกัน เขารับเธอมาอยู่ด้วยกัน แต่สายสมรเองก็มีใจให้กับศล และเมื่อรู้ว่า เขายินดีสละทรัพย์สมบัติทั้งหมดเพราะรักโพระดก ก็ทำให้ความเป็นเพื่อนระหว่างเธอกับโพระดก สิ้นสุดลง

โพระดกช่วยอุปการะกฤษณา ภรรยาของอรรถไว้โดยมีอาเอกคอยช่วยเหลือ จนกฤษณา สามารถเลี้ยงดูลูกน้อยของเธอได้ และสำนึกในบุญคุณ อรรถเองในภายหลังก็เริ่มสำนึกผิด และหวนกลับมาคืนดี กับกฤษณาอีกครั้ง พร้อมกับลูกน้อยๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอ ในขณะที่อาบจิตเอง กลับพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายโพระดกและคุณหญิงพิณ ที่เป็นตัวมารในชีวิตของเธอ

หล่อนรู้มาว่า แท้จริงเอกเองก็แอบรักโพระดกไม่ต่างกับอรรถ พี่ชายของเขา จึงยุยงให้เอรวบรัดโพระดกเป็นเมีย แต่เอกก็ปฏิเสธความรักของเขา แตกต่างจากอรรถพี่ชายซึ่งรักโพระดก เพราะหวังมรดก และความสาวความสวย แต่สำหรับเอกนั้นเขาก็มีเหตุผลของตัวเองเช่นกัน

“แต่แกรักเด็กคนนั้น แกก็จะตกที่นั่งมดแดงแฝงมะม่วงไปอีกคน ไม่ช้าคนอื่นเขาก็ปลิดมะม่วงเอาไปกิน ทิ้งมดแดงให้เหี่ยวแห้งหัวโต”

น้ำเสียงคุณอาบจิตทั้งประชดประชัน นายเอกหัวเราะเบาๆ

“ผมยินดี ถ้าคนปลิดมะม่วงผลนี้เป็นคนดี ถ้าไม่ดี มดแดงตัวนี้จะป้องกันจนตัวตายไปเลย นี่แหละความรักของผมเป็นอย่างนี้ ใครจะว่าโง่ ว่ารักแบบอุดมคติ แบบนักประพันธ์อะไรก็ช่างผม ผมชอบอย่างนี้ หัวใจมันถูกหลอมมาอย่างนี้ ทำไงได้…”

 

อาบจิตจึงร่วมมือกับนายแจ้ง ทนายความเจ้าเล่ห์ ที่เคยเป็นชู้รักกับคุณหญิงพิณ เพื่อยักยอกเงินมรดกนั้นเอามาใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ในขณะที่คุณหญิงพิณเองภายหลังก็เจ็บป่วย และเสียชีวิตลง สร้างความเศร้าโศกให้แก่เด็กสาวยิ่งนัก ในเวลานั้นศลคอยอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจเธอรวมถึงช่วยเหลือโพระดก จนหาหลักฐานการทุจริตทั้งหมดได้สำเร็จ

ทนายแจ้งหาทางเอาตัวรอดเพียงคนเดียว จึงโยนความผิดทั้งหมดให้กับอาบจิต จนเกือบจะต้องคดีติดคุก แต่ด้วยความสงสารอาสาวที่เธอนับถือเสมือนญาติ โพระดกจึงให้อภัย และเมื่อนั้นเอง ที่ทำให้อาบจิตได้รู้สำนึกในความชั่วร้ายของตัวเอง และกลับตัวกลับใจใหม่อีกครั้ง

เอกและสายสมรต่างมีหัวอกเดียวกัน และเมื่อทั้งคู่ได้มีโอกาสได้ปรับทุกข์ที่เกิดจากความผิดหวังในความรักเหมือนกัน ก็ช่วยทำให้เอกและสายสมรเกิดความเข้าใจ จนกลายเป็นความรักต่อกันไปในที่สุด และทำให้มิตรภาพระหว่างเธอกับโพระดกกลับคืนมาอีกครั้ง

และแล้วเรื่องราวของ นางสาวโพระดก ก็ดำเนินมาถึงบทอวสาน ด้วยความหวานชื่นของตัวละครทุกคน ที่ต่างมีบทสรุปของตัวเอง

Don`t copy text!