ใต้ฝุ่น

ใต้ฝุ่น

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

**************************** 

 

เกรียง ไกรสร หรือ ฝน อยุธยา (วรุณ ฉัตรกุล ณ อยุธยา) เป็นนักเขียนนวนิยายแนวบู๊ชื่อดังและในยุคหนึ่ง ท่านยังเป็นบรรณาธิการนิตยสาร สายน้ำ รายสัปดาห์ ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย นิตยสาร สายลม และเวียนว่ายอยู่ในวงการน้ำหมึก รวมถึงเป็นอาจารย์สอนการเต้นลีลาศอีกด้วย จากบทความ ‘เกรียง ไกรสร จากฟลอร์ลีลาศร่ายรำสู่สนามประพันธ์’ ของคุณ ป.วัชราภรณ์ บอกเล่าเรื่องราวของผู้เขียนเอาไว้ ตอนหนึ่งว่า

เมื่อได้ทราบว่ากองการยางต้องการเสมียนพนักงาน เขาได้ยื่นใบสมัคร จนกระทั่งเข้าไปนั่งเก้าอี้ในฐานะข้าราชการชั้นจัตวาแห่งกองการยางได้สำเร็จ

ระหว่างเวลาที่นั่งทำงานที่กองนี้ เขาใช้เวลาว่างขีดๆ เขียนๆ หนังสือให้เป็นเรื่องเป็นราวตามประสาคนชอบงานประเภทนี้ งานแต่งนิยายที่เขาภาคภูมิใจมากชื่อ ดอกรักร่วง ลงพิมพ์ใน “ไทยใหม่วันจันทร์” และต่อมา เขาได้ลาออกจากงานข้าราชการ มาทำงานเสมียนห้างฝรั่ง และแสวงหารายได้พิเศษ โชว์การเต้นรำตามไนท์คลับหรือสโมสรราตรี เพราะว่าเขาถนัดศิลปะประเภทนี้อยู่ด้วย ก่อนจะเขยิบฐานะเป็นครูสอนเต้นรำ

แต่ด้วยใจปรารถนาจะเป็นนักประพันธ์มีชื่อเสียงเหมือนยาขอบ ศรีบูรพา แม่อนงค์ ฯลฯ จึงเข้าคลุกคลีกับ ประทีป โกมลภิส ผู้จัดทำนิตยสาร “สายสัมพันธ์” เมื่อได้จังหวะ จึงลงมือเขียนเรื่องป้อนให้นิตยสารบางกอก ซึ่ง วิชิต โรจนประภา เป็นบรรณาธิการ และ ศรีชัยพฤกษ์ เป็นผู้ดำเนินงาน โดยแต่งนิยาย ใช้หลายนามปากกา

 ต่อมา เพื่อนฝูงชักชวนให้ไปจัดทำหนังสือพิมพ์รายปักษ์ “สายน้ำ” มีเพื่อนร่วมสนับสนุนอยู่เบื้องหลังคือ สนิท เอกชัย และ ราเชนทร์ วัฒนปรีชากุล ภายหลัง บังเอิญเขาได้พบกับ เสนีย์ บุษปเกศ ซึ่งพาไปพบ ลมูล อติพยัคฆ์ บรรณาธิการ สกุลไทย คนแรก และนิตยสารหลังข่าวอาชญากรรม ลมูลมอบหน้าที่ให้ดูแลหน้าตาของสกุลไทย ในฐานะผู้ช่วยบรรณาธิการ ระหว่างนั้น เขาก็เป็น บรรณาธิการ หลังข่าวอาชญากรรม ไปด้วย โดยมีนามปากกาของเขาเอง “เกรียง ไกรสร” ได้คลอดออกมา ในวาระนี้เอง

เกรียง ไกรสร นอกจากเขียนเรื่องสั้น เรื่องยาว จำนวนมากแล้ว เขาสามารถเขียนคอลัมน์ชีวิต ภาพยนตร์ และสังคม นวนิยายของเขาที่รู้จักกันดีคือ ชาติสมิง ราชสีห์กรุง ล้างแผ่นดิน บ้าเลือด และมรกตสีเลือด นอกจากนี้ยังได้เขียนบทละครวิทยุเรื่องยาวอีกสองเรื่องคือ มารสวาท และ รังรัก

สำหรับผลงานของ เกรียง ไกรสร ที่ผมเคยเห็น ยังมีเรื่อง ‘เผ็ด’ ที่พิมพ์กับสำนักพิมพ์แพร่พิทยา เรื่อง ‘ชาติสมิง’ ที่สร้างเป็นภาพยนตร์ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2502 และเรื่อง ‘ใต้ฝุ่น’ เรื่องนี้ ซึ่งต่างก็เป็นนิยายที่ตีพิมพ์มานานพอสมควรเลยทีเดียว

ใต้ฝุ่น จัดเป็นทั้งนิยายแนวรัก นิยายบู๊ ผสมผสานด้วยเรื่องราวชีวิตสะเทือนอารมณ์ โดย เปิดฉากด้วยการไล่ล่าของเฒ่าฉลาม เมื่อสาหร่าย ลูกสาวสุดที่รัก ถูกไอ้ทรายแห่งเกาะสีดา พาตัวหนีไป ท่ามกลางท้องทะเลอันปั่นป่วนของพายุใต้ฝุ่น ด้วยเรือฉลอมของมันเพียงลำเดียว

เกรียง ไกรสร

ฉลอมเล็กโลดลิ่วอยู่บนผิวคลื่นที่โยนไปตามแรงลมทะเล ซึ่งกระโชกเข้าฝั่งเมืองที่ทิ้งมา ขอบน้ำขอบฟ้ามองสุดตา เห็นฝั่งตะคุ่มอยู่กลางแสงดาวและจันทร์เสี้ยวที่หม่นเพราะเมฆฝนลอยผ่านและแผ่กระจายเต็มท้องฟ้า

คลื่นใหญ่ หนุนลำให้เชิดพุ่งและดิ่งลงมาในร่องคลื่นเหมือนถูกโยน ใบตึงกินลมเหลำสะกัดคลื่นแล้วพุ่งหัวแหวกโฉบฉิวออกน่านน้ำลึก คลื่นกระแทกหัวและสองข้างกราบสะท้าน…

สาหร่ายกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ การหนีครั้งนี้เป็นเพราะพ่อต้องการให้เธอแต่งงานกับหลงจู๊ปราการ ชายที่เธอไม่ได้รัก แต่เขามีอำนาจล้นฟ้า แต่แล้วในท่ามพายุใต้ฝุ่นนั้นเอง ที่ทั้งสองหนุ่มสาวก็ไม่อาจหนีการไล่ล่าได้พ้น ไอ้ทรายถูกจับมาทรมานปางตาย ก่อนที่เฒ่าฉลามจะสั่งสมุนให้นำมันไปล่ามโซ่ในทะเล เพื่อให้เป็นเหยื่อฝูงปลาฉลามที่โหดร้าย

แต่ไอ้ทรายก็ทรหด มันหนีออกมาได้ และต้องการจะพาหญิงคนรักหนีไปอยู่ด้วยกัน แต่แล้ว ด้วยอุบายโฉดของปราการ ที่ต้องการครอบครองตัวสาหร่าย มันสังหารเฒ่าฉลาม แล้วโยนความผิดให้กับไอ้ทราย ทำให้สาหร่ายเข้าใจผิด จากนั้นปราการก็ส่งสมุนออกตามฆ่าไอ้ทราย เพื่อปิดปากมันไปตลอดกาล

ทรายและไอ้บาน สหายรักตังเกรอดชีวิตอย่างหวุดหวิด และหนีซมซานกลับมายังเกาะสีดา ซึ่งบัดนี้เป็นเกาะร้าง เพราะถูกพายุไต้ฝุ่นโหมกระหน่ำจนชาวบ้านไม่อาจอาศัยอยู่ได้ มันลงหลักปักฐานอยู่ที่เกาะร้างแห่งนี้ และเพื่อหลบอดีตทุกอย่างไป แม้ว่าจะจดจำคำอาฆาตของหลงจู๊ปราการได้ มันต้องการให้ลูกที่เกิดมาของมันตามมาสังหารทราย ที่เป็นพ่อที่แท้จริงในอนาคต

ระหว่างนั้นเอง มีเรือโจรสลัดอับปางลง พร้อมกับทรัพย์สมบัติมหาศาลจมลงใต้ก้นบาดาล ทรายกับบานค้นพบขุมทรัพย์โดยบังเอิญ และซ่อนมันไว้ใต้ท้องทะเล และยังพบว่ามีทารกหญิงรอดชีวิตมาคนหนึ่ง มันจึงรับอุปการะไม่ต่างกับลูก และตั้งชื่อให้ว่า ไข่มุก

ส่วนสาหร่ายเองก็คลอดลูกออกมา เธอตั้งชื่อเด็กชายคนนั้นว่าใต้ฝุ่น หรือไอ้ฝุ่น ภายหลังจากนั้น สาหร่ายก็มีลูกกับหลงจู๊ปราการอีกสองคน คือเชิงเทิน และกัลปังหา หลงจู๊ปราการ รักเชิงเทินมาก ส่งเขาให้ไปเรียนต่อเมืองนอก และสอนให้เชิงเทิน เกลียดชังใต้ฝุ่น ซึ่งถือว่าไม่ได้เป็นลูกของมันเอง แม้จะมีแม่เดียวกัน

ใต้ฝุ่นเติบโตมาท่ามกลางความเกลียดชังของทุกคน รวมถึงสมุนของหลงจู๊ปราการที่คอยกลั่นแกล้ง แต่มันก็ต่อสู้อย่างทรหด ด้วยสายเลือดกล้าหาญไม่ยอมใคร เหมือนกับทราย โดยมีเพียงสาหร่ายคนเดียว ที่รักและเป็นห่วงมันมากที่สุด

เหตุการณ์ครั้งสำคัญ เมื่อไอ้ฝุ่นมีเรื่องกับเชิงเทินที่เพิ่งกลับมา และถูกทำร้ายโดยกลุ่มสมุนของพวกมัน พร้อมกับกระท่อมที่มันอาศัยอยู่ต่างหากก็ถูกเผาจนราบเป็นหน้ากลอง ทุกคนเข้าใจว่า มันถูกสังหารไปแล้ว

เกรียง ไกรสร

หลงจู๊ปราการ ทำธุรกิจค้าของเถื่อนทางทะเล ทำให้ฐานะและอำนาจบารมียิ่งกว้างขวางมากยิ่งขึ้น แต่แล้วก็มีอุปสรรคเข้ามา เมื่อมีจักรชัย นายตำรวจคนใหม่ บรรจุเข้ามาทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรง สมุนของปราการลอบทำร้ายเขาจนตกทะเลไป แต่ใต้ฝุ่นก็เข้ามาช่วยชีวิต ใต้ฝุ่นพาจักรชัยหนีการไล่ล่าของสมุนปราการ จนกระทั่งไปถึงเกาะสีดาโดยบังเอิญ ที่สุด และที่นั่นเอง ที่ทราย ได้ช่วยชีวิตคนทั้งคู่เอาไว้ โดยที่ใต้ฝุ่นไม่อาจรู้ว่าชายเบื้องหน้านั้นคือพ่อที่แท้จริงของมัน

อ้ายฝุ่นคนระห่ำจ้องจับอยู่ที่ร่างแกร่งของคนเกาะที่ยืนเด่นโดดเดี่ยวอยู่บนชะง่อนหินอย่างหวงแผ่นดิน หน้าของเขาเครียดกร้านตามวัย แต่แกร่งด้วยกรำชีวิตโชนมาแล้วเจ็ดคาบสมุทร ท่อนบนเกรียมเปลวแดดและลมทะเลจนคล้ำด้วยผิวทองแดง ปักหลักดังรูปปั้นของนักรบทะเลโบราณ

ตาของฝุ่นจับประสานอยู่กับภาพนั้น มันเป็นสัญชาตญาณอันล้ำลึกสิ่งหนึ่งที่เจ้าตัวเองก็บอกไม่ได้ว่ามาจากอะไร ในประกายตาอันกล้าแข็งสองคู่นั้นประสานกันนิ่งและนาน

มันเป็นสัญชาตญาณของสายเลือดมนุษย์ต่อมนุษย์ที่ล้ำล้ำ ระหว่างพ่อกับลูกที่ตลอดชีวิตไม่เคยสัมผัสไออุ่นของกันและกันมาก่อนเลย

แต่ทรายจำได้ เขามองเห็นสร้อยที่อ้ายฝุ่นสวมไว้กับตัวตลอดเวลา มันเป็นสร้อยแห่งความรักที่เขามอบให้กับสาหร่าย ก่อนจะพลัดพรากจากกัน และทำให้เขาแน่ใจว่า เด็กหนุ่มกำยำคนนี้ก็คือลูกของเขากับสาหร่ายนั่นเอง และในเวลาต่อมา เขาก็รับรู้ว่าชายเบื้องหน้าคนนี้ก็คือทราย บิดาผู้ให้กำเนิดของตนนั่นเอง ใต้ฝุ่นตั้งความหวังว่าจะทำให้พ่อกับแม่มาพบกันอีกครั้ง เพื่อปรับความเข้าใจกันให้ได้

จักรชัยได้พบกับไข่มุก และเกิดความรักความผูกพันกัน แต่แล้ว ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องจัดการกับคนชั่วอย่างปราการ ทำให้เขาและไอ้ฝุ่นต้องตัดสินใจเดินทางออกจากเกาะสีดาอีกครั้ง

คราวนี้เขาได้พบกับเชิงเทิน และช่วยชีวิตเชิงเทินจากการรุมทำร้ายของไต้ก๋งสิงห์ ทำให้ เชิงเทินประทับใจจักรชัยขึ้นมา และด้วยท่าทีเป็นมิตรของอีกฝ่าย ทำให้เชิงเทินพาเขาไปพบกับ หลงจู๊ปราการ

 

หลงจู๊ปราการได้เห็นท่าทีกล้าหาญองอาจของจักรชัยแล้วค่อนข้างพอใจ โดยเฉพาะสายตาของกัลปังหาลูกสาวคนเดียว ที่ดูเหมือนจะมีใจกับนายตำรวจหนุ่ม ทำให้มันวางแผนที่จะเปลี่ยนศัตรูมาเป็นมิตร โดยใช้กัลปังหาเป็นตัวเชื่อม หลงจู๊เปิดทางให้กัลปังหาสนิทสนมกับจักรชัย โดยไม่รู้ว่าเป็นแผนการของเขาเอง ที่ต้องการมีตีสนิทเพื่อหาหลักฐานทั้งหมดสำหรับการดำเนินคดี แต่ในขณะเดียวกัน เขาเองก็รู้สึกรักและสงสารกัลปังหา ที่มอบความจริงใจให้กับเขาอีกด้วย

หลงจู๊ปราการจัดงานแต่งงานให้กับสองหนุ่มสาว และในคืนวันส่งตัวเข้าหอนั่นเอง ที่ไอ้ฝุ่นบุกเข้ามาเพื่อชิงตัวสาหร่าย แม่ของมัน ให้ไปอยู่ด้วยกันที่เกาะสีดา

ความสุขครั้งเดียวในชีวิตนี้อยู่ที่ข้าได้เห็นพ่อกับแม่พบกันและอภัยให้กัน แม้มันจะเป็นการพบเพื่อการจากทั้งชีวิตก็ตาม ข้าจะต้องพาแม่ข้ามทะเลไปพบพ่อให้ได้

ฟ้าคำรามสะเทือนกึกก้องสายฟ้าแปลบปลาบลงมา แล้วฝนก็กระหน่ำราวฟ้าทะลุ

แต่แล้วถูกสมุนของหลงจู๊ขัดขวาง มันจึงจัดการเผาเรือของหลงจู๊ปราการ ทำให้ความลับเปิดเผยออกมาว่าเรือลำหนึ่งที่หลงจู๊ห่วงกังวลที่สุดคือเรือที่บรรทุกสินค้าเถื่อน ท่ามกลางพายุใต้ฝุ่น ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง หนักหน่วง จักรชัยพยายามเข้าไปเก็บหลักฐานบนเรือที่ถูกไฟไหม้จนใกล้อับปาง ใต้ฝุ่นพาแม่หนีออกมาได้สำเร็จ และช่วยจักรชัยให้กลับมาที่ฝั่งอีกครั้ง ในจังหวะนั้นเองที่เชิงเทินกลับมาพร้อมกับคำประกาศที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง

เรื่อง : ใต้ฝุ่น

ผู้เขียน : เกรียง ไกรสร

สำนักพิมพ์ : โอเดียนสโตร์

ปีที่พิมพ์ : 2518

เล่มเดียวจบ

มันใช้จังหวะที่ทุกคนกำลังจัดงานแต่งงาน เดินทางไปที่เกาะสีดา และสังหารทุกคนบนเกาะจนหมดสิ้น เพื่อชำระความแค้น มันเกลียดไอ้ฝุ่นที่แม่สาหร่ายให้ความรักความห่วงใย มากกว่ามันที่เป็นลูกเหมือนกัน และไม่ต้องการให้สาหร่ายกลับไปคืนดีกับไอ้ทราย

จากนั้นเชิงเทินก็ใช้ปืนยิงจักรชัย แต่ว่าใต้ฝุ่นได้เข้ามาขวางไว้เสียก่อน ส่วนเชิงเทินก็ถูกจักรชัยใช้ตะขอเกี่ยวฟาดนัยน์ตาจนตาบอด และพลัดตกทะเลไปในที่สุด

ชีวิตของใต้ฝุ่น เด็กหนุ่มผู้อาภัพ หบัดนี้ได้เดินทางไปสู่สัมปรายภพพร้อมกับดวงวิญญาณของไอ้ทรายผู้เป็นพ่อแล้ว มันได้นอนหนุนตักของแม่เป็นครั้งสุดท้ายก็ดวงวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง…

ใต้ฝุ่นเป็นนิยายบู๊ ชีวิตที่เข้มข้นเรื่องหนึ่ง ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ามีการนำไปสร้างเป็นละครหรือภาพยนตร์มาก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สร้างความประทับใจแก่การอ่านเลยทีเดียวครับ

Don`t copy text!