สอยดาวสาวเดือน

สอยดาวสาวเดือน

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

จากข้อมูลในหนังสือ นามประพันธ์ ของหอสมุดแห่งชาติ ‘แพร ชมพู’ เป็นนามปากกาของคุณรัชนี บุษปะเกศ หรือ รัชนี จันทรังษี คู่ชีวิตของ คุณเสนีย์ บุษปะเกศ นักเขียนนวนิยายชื่อดังในอดีตอย่าง ตะวันยอแสง คมแฝก รุ่งทิพย์ แก้วลืมคอน ฟ้าเพียงดิน และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย

เสนีย์ บุษปะเกษ คู่ชีวิต รัชนี จันทรังษี

สำหรับนามปากกานี้ มีบางท่านได้เล่าให้ผมฟังว่า เป็นการเขียนนวนิยายร่วมกันทั้งสองท่าน ซึ่งเท่าที่ผมเห็น พบว่ามีเรื่อง สอยดาวสาวเดือน และ หงส์ทอง (ฉบับพิมพ์ปี พ.ศ. 2518 สำนักพิมพ์บรรณาคาร)  ซึ่งเรื่อง หงส์ทอง จะเขียนไว้ที่หน้าปกเลยว่าเป็นบทประพันธ์ของ แพร ชมพู และ เสนีย์ บุษปะเกศ ร่วมกัน ส่วนเรื่อง สอยดาวสาวเดือน ใช้ ‘แพรชมภู’ (ฉบับพิมพ์ปี พ.ศ. 2516)

คุณรัชนี จันทรังษี

นวนิยายเรื่องนี้นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2512 โดย คุณฉลอง ภักดีวิจิตร เป็นผู้กำกับ ในชื่อเรื่อง สอยดาวสาวเดือน ตามชื่อนวนิยาย นำแสดงโดย คุณมิตร ชัยบัญชา ในบทคุณหนึ่ง เลอสรร คุณเพชรา เชาวราษฏร์ ในบทศรีนวล และ คุณชนะ ศรีอุบล ในบทสมิง จากนั้น ยังนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์อีกหลายครั้ง สำหรับครั้งล่าสุด ในปี พ.ศ. 2566 ออกอากาศทางช่องสาม ในชื่อเรื่อง เลือดเจ้าพระยา นำแสดงโดย คุณเด่นคุณ งามเนตร ในบทสมิง คุณสุภาพร วงษ์ถ้วยทอง ในบทศรีนวล คุณฐากูร การทิพย์ ในบทคุณหนึ่งหรือเลอสรร และยังมี คุณวสุ แสงสิงแก้ว ในบทผู้ใหญ่ธง ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง

ผมเองไม่ได้ติดตามในเวอร์ชันละคร ทุกตอน นอกจากพอรู้เรื่องคร่าวๆ ของนวนิยายเรื่องนี้ เมื่อมีโอกาสได้หยิบหนังสือมาอ่าน พบว่ามีความสนุกสนานในแบบของนวนิยาย น่าจะไม่แพ้กับความสนุกในเวอร์ชันละครโทรทัศน์ ที่มีการปรับเปลี่ยนในรายละเอียด และทำให้ยิ่งมีผู้ชมติดตามกันเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน

คุณเสนีย์ และคุณรัชนี

สำหรับเรื่องราวใน สอยดาวสาวเดือน เริ่มต้นขึ้นในเหตุการณ์ปัจจุบัน เมื่อสอยดาว ลูกสาวคนเดียวของแม่ศรีนวล รับรู้ว่าเธอไม่มีพ่อ อาศัยอยู่กับแม่ อดีตแม่เพลงชื่อดังแห่งบ้านลานเท ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และมีตาคือกำนันธง ผู้ที่รักเธอไม่ต่างกับแก้วตาดวงใจ นอกจากนี้ยังมี ‘พ่อเสือสมิง’ ที่รับเธอเป็นลูกบุญธรรม คอยปกป้องดูแล และทุกวันเกิดของแม่ พ่อเสือสมิง ที่เป็นเสือร้ายผู้ครองอาณาเขตไปจนถึงอยุธยา เมืองสิงห์ และเป็นเสมือนเจ้าพ่อลานเท จะต้องมาหาแม่ทุกปี

และวันเกิดแม่ปีนั้นนั่นเอง ทำให้สอยดาว ด้ล่วงรู้ความลับในอดีตที่สำคัญของแม่อีกด้วย

“ครบรอบวันเกิดของแม่เสือนักเพลงทีไร หน้าสอยบานยังกะเห็ดหอม ได้แต่งตัวโก้ แต่ครบรอบปีเกิดของแม่ทีไร สอยได้เห็นน้ำตาของแม่เสียทุกครั้งไป สอยไม่เคยรู้ความในใจของแม่ศรีนวล สอยเกรงใจแม่ แต่ก็รู้ด้วยสัญชาตญาณว่าแม่เสือนักเพลงแห่งลานเทนั้นคิดถึงพ่อเพียงไร และรักพ่อเพียงไร เพราะวันเกิด แม่จะสนใจไปเมืองบางกอก แล้วแม่ก็ร้องไห้ สอยไม่เข้าใจแม่ ตั้งใจว่าคืนนี้ ปีนี้ เป็นตายยังไง ก็ต้องขอรู้ว่าพ่อของสอยอยู่ไหน?”

งานวันเกิดของแม่ศรีนวลปีนี้เอง เมื่อพ่อเสือสมิง พร้อมพรรคพวก ได้มาหาแม่เหมือนเดิม สอยดาวรู้ว่า แม่กับพ่อสมิงเป็นเพื่อนสนิทที่คบหาสนิทสนมกันมาตั้งแต่เยาว์วัย และการปรากฏตัวของเสือร้าย ซึ่งเป็นที่ต้องการจับตัวของตำรวจ ก็ทำให้เกิดการปะทะกันขึ้น แต่พ่อเสือสมิงก็ใช้อุบายอันชาญฉลาด เอาตัวรอดไปได้เหมือนกับทุกครั้ง ทำให้สอยดาวได้รู้เรื่องราวในอดีตทั้งหมดจากปากของแม่

เรื่องราวของชีวิตคนสามคน ที่เกี่ยวพันกันมาไม่ต่างกับบ่วงแห่งกรรมจนนำมาสู่ชีวิตของเธอในปัจจุบัน

แม่ศรีนวล พ่อเสือสมิง และผู้ชายชาวกรุงที่มีนามว่าคุณเลอสรร!

จากนั้น แพร ชมพู ก็นำพาผู้อ่านให้ย้อนกลับไปยังเรื่องราวในอดีตของหนุ่มสาวเลือดลูกทุ่งแห่งท้องทุ่งลานเท สมัยนั้น เป็นสมัยของแม่ศรีนวลในวัยสิบแปดปี แพรวพราวไปด้วยเสน่ห์ วาจาในการเล่นเพลง และผิวขาวเหมือนอาบจันทร์

ทุ่งลานเทยังดังยังกะพลุ สว่างไสวราวกับคืนเดือนเพ็ญที่ไม่รู้จักแตกดับ พ่อธงตอนนั้นยังเป็นผู้ใหญ่ธง และนางศรี มารดาของศรีนวลก็เสียชีวิตไปเพราะเรือล่มในคุ้งน้ำ ส่วนสมิงนั้นก็ช่วยพ่อแม่ลากซุงและเรือข้าว นิสัยของมันเป็นนักเลง เป็นคนจริง ไม่ยอมก้มหัวให้ใครที่ไม่ถูกต้อง มาตั้งแต่เด็ก และเมื่อเติบโตเป็นหนุ่มสาวขึ้นมามันก็หลงรักศรีนวล หากก็เจียมตัวเจียมใจไม่กล้าเอ่ยปากฝากรัก ฝ่ายหญิงเองนั้นรู้อยู่กับใจ หากก็มอบให้ได้แค่คำว่าเพื่อน แม้แต่ตอนที่มันไปเกณฑ์ทหาร และเกิดเหตุการณ์เลวร้าย พ่อกับแม่ของสมิงถูกปล้นเรือ ระหว่างนำเรือพ่วงไปขายข้าวที่บ้านแพน และถูกฆ่าตายอย่างอนาถ นั่นเองทำให้สมิงหนีทหารออกมาและออกฆ่าไอ้คนปล้น ที่มันเองรู้จักตัวเป็นอย่างดี

และชีวิตของโจรสมิงก็เริ่มต้นขึ้น

++++++++++++++++++++

ชีวิตในชุมโจรของไอ้เสือสมิง เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง และเป็นที่ต้องการตัวของทางการจนต้องออกตามล่า มีค่าหัว หากก็ไม่มีใครเคยจับตัวได้สำเร็จ

ในเวลาเดียวกัน มิตรภาพและความรักที่มันมีต่อแม่ศรีนวลก็ยังไม่เคยเปลี่ยนแปร ตราบจนการมาถึงของคุณเลอสรร หรือคุณหนึ่ง ลูกชายท่านข้าหลวง ที่เป็นผู้มีบุญคุณล้นฟ้าของผู้ใหญ่ธง ความสนิทสนมจากความเป็นเพื่อน กลายเป็นคนรัก และท้ายที่สุดศรีนวลกับคุณหนึ่งก็กลายเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของทั้งคู่ โดยที่สมิงได้แต่รับรู้ด้วยความเจ็บปวด และเจียมตัว ระหว่างอีกฝ่ายซึ่งมีอนาคตเป็นนายตำรวจใหญ่ และตัวของมันเองที่เป็นเพียงไอ้มหาโจรที่ทางการกำลังไล่ล่าตัว!

คุณหนึ่งจำต้องเดินทางกลับไปเรียนต่อที่บางกอก และให้สัญญากับศรีนวลเอาไว้ แต่แล้ว ก็ไม่อาจทัดทานท่านข้าหลวง และคุณย่าของตนได้ เมื่ออีกฝ่ายจัดหา ‘สร้อยเพชร’ ญาติห่างๆ ที่สนิทสนมกันให้แต่งงานกับคุณหนึ่ง ระหว่างที่ทั้งคู่ไปเรียนต่อที่เมืองนอกด้วยกัน

ศรีนวลเฝ้ารอคอยการกลับมาของชายคนรักด้วยความหวัง แม้ว่าท้ายสุดมันจะเป็นสายลมที่ว่างเปล่า หากสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวของเธอเองที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป

ศรีนวลตั้งครรภ์!

และเด็กทารกที่คลอดออกมา สืบสายเลือดมาจากคุณคุณเลอสรร ก็คือสอยดาวนั่นเอง!

+++++++++++++++++++++

เสมือนเป็นวงล้อแห่งกรรมดำเนินกลับมาอีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไป และคุณเลอสรรได้เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เขามีลูกกับสร้อยเพชรสองคน คือสาวเดือน และเกียรติกล้า ซึ่งเป็นเด็กหนุ่มอันธพาล นิสัยเกกมะเหรกเกเร เพราะถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจจากมารดา และห่างไกลความรักจากผู้เป็นบิดา

ทั้งสาวเดือนและเกียรติกล้า รวมถึงเพื่อนๆ ของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นกอบชัยที่แอบรักสาวเดือน และมณฑลซึ่งเป็นน้าชายของทั้งคู่ เดินทางมาเที่ยวยังลานเท และได้พบกับสอยดาวที่มีใบหน้าละม้ายกับสาวเดือน ราวกับเป็นพี่น้องกัน

เกียรติกล้ามีเรื่องปะทะกับสอยดาว ที่ต่างไม่ยอมกัน ขณะที่มณฑลซึ่งเป็นผู้ใหญ่กว่าคอยไกล่เกลี่ยให้ และสาวเดือนเองก็รู้สึกถูกชะตากับสอยดาว ซึ่งมีหน้าตาคล้ายคลึงกับเธอมาก และอีกฝ่ายก็ยังช่วยชีวิตเธอจากการจมน้ำอีกด้วย

ความลับ ความหลัง ของชาติกำเนิด ได้ถูกเปิดเผยออกมา และสอยดาวก็ตัดสินใจที่จะจากลานเทแห่งนี้ ไปหาพ่อที่แท้จริงที่บางกอก จนสามารถใช้ความดีเอาชนะใจคุณหลวงและท่านย่าได้สำเร็จ แม้ว่าจะต้องเผชิญอันตรายจากความริษยาของสร้อยเพชร และคนอื่นๆ รอคอยอยู่ที่นั่นก็ตาม!

สร้อยเพชรวางแผนชั่วช้าเพื่อทำลายสอยดาวให้ย่อยยับ โดยจ้างวานนักเลงจากลานเทให้มาวางยา ฉุดคร่าสอยดาวไปจากอ้อมอกของเลอสรร

แต่แล้ว สมิง พ่อบุญธรรมของเธอ ก็ตามมาเพื่อช่วยเหลือสอยดาว ที่เขาเองก็รักเธอไม่ต่างกับเลือดในอก จนกระทั่งถึงฉากการปะทะกันครั้งสุดท้ายระหว่างอดีตเพื่อนรัก และที่มีหัวใจมอบให้ผู้หญิงคนเดียวกัน สมิงยอมสละชีวิตของตัวเองอย่างลูกผู้ชาย และทำให้ทั้งเลอสรรกับศรีนวล ได้กลับมาคืนดีอยู่ร่วมกันอีกครั้งพร้อมหน้ากันทั้งพ่อแม่และลูก

คือฉากอวสานอันเป็นจุดจบของสมิงเสือร้าย ที่เป็นพ่อพระผู้เสียสละในหัวใจของสอยดาว ตราบจนวินาทีสุดท้าย!

สอยดาวสาวเดือน เป็นนิยายชีวิตลูกทุ่ง ที่สะท้อนภาพสังคมชนบทริมแม่น้ำเจ้าพระยาในยุคก่อน และเรื่องราวอันเป็นปมในอดีตจากรุ่นพ่อแม่ สู่รุ่นลูกได้อย่างสนุกสนานชวนติดตามยิ่ง เป็นนิยายอ่านสนุกเรื่องหนึ่ง ที่นำไปดัดแปลงเป็นละครได้อย่างออกรส และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี น่าเสียดายที่นิยายเรื่องนี้ ผมไม่พบว่ามีการนำมาพิมพ์ใหม่จากเวอร์ชัน สอยดาวสาวเดือน ในปี พ.ศ. 2516 อีกเลยครับ

เรื่อง : สอยดาวสาวเดือน

ผู้เขียน : แพร ชมพู

สำนักพิมพ์ : โชคชัยเทเวศร์

ปีที่พิมพ์ : 2516

เล่มเดียวจบ

สำหรับประวัติ คุณรัชนี จันทรังษี นั้น นอกจากท่านจะเป็นนักประพันธ์ชื่อดังแล้ว ยังเป็นนางเอกละครวิทยุ, นางเอกหนัง-ละครไทย และยังเป็นนักพากย์อีกด้วย ท่านเกิดวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2485 ที่ธนบุรี คุณพ่อคุณแม่รับราชการ การศึกษาเริ่มที่โรงเรียนสตรีวัดระฆังจนจบมัธยมปีที่ 6 แล้วเรียนต่อที่บพิตรภิมุข สำเร็จหลักสูตรภาษาต่างประเทศ เมื่อจบแล้วมาทำงานเป็นนักพิมพ์ดีดที่สถานีวิทยุทหารอากาศ ที่นี่มี เสนีย์ บุษปะเกศ นักเขียนใหญ่เป็นหัวหน้าจัดรายการอยู่ เสนีย์ได้ยินเสียงพูดของรัชนี และเห็นว่าไพเราะมาก จึงทดลองให้อ่านคำบรรยายแทนโฆษกคนหนึ่ง ผลเป็นที่น่าพอใจ เสนีย์จึงพารัชนีไปอยู่ที่วิทยุเสียงสามยอด พอดีกับที่ ‘แก้วฟ้า’ ผู้จัดละครวิทยุชื่อดัง ได้ยินเสียงรัชนี จึงชวนไปเล่นละครวิทยุ เรื่องแรกก็ให้เป็นนางเอกเลย คือเรื่อง ‘สลักจิต’ คู่กับ ฉลอง สิมะเสถียร ในบท ‘อาเดียว’ พระเอกของเรื่อง เรื่องเดียวก็ทำให้รัชนีมีชื่อเสียงทันที ผู้คนต่างหลงใหลเสียงดั่งมีมนต์สะกดของเธอ ทำให้รัชนีกลายเป็นนางเอกละครวิทยุชื่อดัง เธอเป็นนางเอกละครวิทยุให้คณะเสนีย์ บุษปะเกศยาวนาน และทั้งสองก็ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในที่สุด

จากนางเอกละครวิทยุ รัชนีก็มาสู่นางเอกหนังจอเงินเรื่องแรกคือ ลำเนาไพร (2505) ต่อด้วย ตะวันยอแสง (2505), รุ่งทิพย์ (2505), ใจเดียว (2506) ทุกเรื่องผู้คนติดกันงอมแงมมาตั้งแต่เป็นละครวิทยุแล้ว หนังจึงประสบความสำเร็จตามไปด้วย

*ข้อมูลจากหนังสือ โลกดารา ปี 2514 และหนังสือ ดาราอัลบั้ม ปี 2512

หมายเหตุ : สำหรับภาพโปสเตอร์เรื่องสอยดาวสาวเดือน ภาพของ คุณรัชนี จันทรังษี รวมถึงข้อเขียนที่เกี่ยวข้อง ผมนำมาจากเพจ Thai Movie Posters ซึ่งต้องขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

Don`t copy text!