ม่านมลทิน

ม่านมลทิน

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

ผมไม่เคยอ่านงานของ สุภา อิทธิพร มาก่อน ทราบแต่เพียงว่าท่านเป็นนักเขียนนวนิยายรุ่นครู มีผลงานนวนิยายเพียงไม่กี่เรื่อง และส่วนใหญ่จะลงพิมพ์รวมเล่มกับสำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์ อย่างเรื่อง สุดขอบฟ้า สร้อยสุริยา และ ม่านมลทิน เรื่องนี้ครับ

สำหรับ ม่านมลทิน เป็นนิยายแนวชีวิตรักในยุคสมัยอดีต มีทั้งเรื่องราวชิงรักหักสวาท ผสมด้วยปมปริศนาและความรัก ความเข้าใจผิดของคู่พระนาง ผสมผสานจนเป็นรสชาติของนวนิยายแบบไทยๆ ได้เป็นอย่างดี

++++++++++++++++++++

นันตพร เด็กสาวมอซอวัยสิบเจ็ดปีจากเมืองราชบุรี เดินทางมายังคฤหาสน์อภินารถอันโอ่อ่าโอฬาร และแสดงตัวอย่างกล้าหาญว่าตนเองคือทายาทที่แท้จริงของตระกูลอภินารถ แต่สาวน้อยผู้นี้ก็ต้องเผชิญหน้ากับคุณนายจิตรีกับเกษศิณี ลูกสาวของเธอที่แสดงท่าทีต่อต้านและดูถูกดูแคลนตั้งแต่แรก

คุณนายจิตรี นาทบดินทร์ เจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ มีลูกสองคนคือชาคินทร์ เด็กหนุ่มวัยยี่สิบเศษที่กำลังเรียนสถาปัตย์ และเกษศิณี ลูกสาวคนเล็กที่ถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจ จนกลายเป็นคนมีนิสัยเย่อหยิ่ง ชอบดูถูกคนด้อยกว่า และเมื่อเห็นท่าทางของนันตพร ที่โต้เถียงอย่างไม่ยอมพรั่นแพ้ ยิ่งทำให้หล่อนเกิดความเกลียดชังอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก

นันตพรบอกว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของ นิกร อภินารถ ทายาทชายเจ้าของคฤหาสน์อภินารถโดยชอบธรรม และทุกคนเข้าใจว่าเขาเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่วัยหนุ่ม พร้อมกับแสดงหลักฐานความเป็นทายาทโดยแท้จริงให้ทุกคนเห็น คุณนายจิตรี ตัดสินใจตามทนายความ แม้นมาส ไชยนันท์ ทนายชราประจำตระกูลมาพิสูจน์ และแล้วเมื่อทุกอย่างเปิดเผย ก็ยิ่งทำให้สองแม่ลูกรู้สึกวิตกหนักขึ้นไปอีก

“ในพินัยกรรมของคุณก่อเกียรติ บอกว่าผู้รับมรดกจะต้องแต่งงานแล้ว และหมายถึงการแต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายของบ้านเมือง จึงจะมีสิทธิ์ครอบครองมรดกของอภินารถอย่างเอกเทศ แต่ถ้ายังไม่แต่งงาน คุณนายยังมีสิทธิ์ครอบครองอยู่

แต่ทายาทคนนั้น ก็มีสิทธิ์อยู่ในอภินารถ มีสิทธิ์ใช้อะไรทุกอย่าง ในความดูแลของคุณนายและผมด้วย จนกว่าทายาทคนนั้นจะแต่งงานเรียบร้อย”

++++++++++++++++++++++

แม้จะไม่เห็นด้วย แต่ในที่สุด คุณนายจิตรีก็ต้องยินยอมทำความต้องการของทนายแม้นมาส แต่ก็พยายามหาวิธีการเพื่อกำจัดเด็กสาวปากกล้าท่าทางโอหังคนนั้นออกไปจากอภินารถให้เร็วที่สุด!

นันตพรสนิทสนมกับชาคินทร์ พี่ชายของเกษศิณี ผู้มีท่าทางเป็นมิตรกว่า ในเวลาเดียวกัน เด็กสาวก็มีโอกาสได้รู้จัก นายแพทย์ชีวัน ภาสโยธิน ซึ่งอาศัยในคฤหาสน์หลังงาม มีอาณาเขตอยู่ติดกันกับเขตรั้วบ้านของเธอ นันตพรมีโอกาสแอบมุดรั้วพู่ระหง ผ่านเข้าไปชื่นชมรถเก๋งคันงามของเขา จนเกิดการปะทะคารมกันขึ้น และเมื่อเกษศิณีซึ่งแอบชอบคุณหมอชีวันรู้เรื่อง หล่อนก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจนันตพรเป็นอย่างมาก

++++++++++++++++++++++

ทนายแม้นมาสรู้ว่านันตพร ต้องการจะเรียนต่อ และมีเป้าหมายจะไปเรียนต่างประเทศ ด้วยเงินมรดกที่ได้รับ ทำให้เขาช่วยเหลือติดต่อทุกอย่างให้ตามความต้องการของเธอได้สำเร็จ ก่อนเดินทางไปเรียนยังฝรั่งเศส นันตพรกลับไปเยี่ยมยายที่ราชบุรี และไปกราบอัฐิของมารดาที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนบิดาของเธอที่ชื่อนิกรนั้นนันตพรรู้แต่ท่านสละทางโลกไปบวช และเดินทางธุดงค์ไปยังที่ต่างๆ โดยไม่ได้กลับมาที่บ้านเกิดเลย

ที่เมืองราชบุรีบ้านเกิดนั่นเอง นันตพรได้พบสหายเก่าคือเจ้าดอน หรือ สันดอน จอมทอง ซึ่งแอบหลงรักหญิงสาวอยู่ด้วย ภายหลังสันดอนเกิดอุบัติเหตุจนใบหน้าเสียโฉม และเผอิญ นายแพทย์ชีวัน ได้เข้ามาช่วยเหลือชีวิตของมันไว้ได้สำเร็จ ทำให้สันดอนมีโอกาสเดินทางมาอยู่กับ ชายหนุ่มและคอยรับใช้เขาด้วยความซื่อสัตย์

++++++++++++++++++++

สามปีผ่านไป นันตพรเดินทางกลับมาจากฝรั่งเศส ครั้งนี้หล่อนเปลี่ยนแปลง จากสภาพเด็กสาวชาวบ้าน ที่ก๋ากั่นและแสนเฮี้ยวไปโดยสิ้นเชิง แม้แต่นายแพทย์ชีวัน คู่ปรับของเธอเอง ก็ยังจดจำสาวสวยผู้นี้ไม่ได้ จนหล่อนเดินทางกลับมาถึงบ้านอภินารถ

นันตพรตกใจกับสภาพบ้านที่พบมาก เพราะบัดนี้มันอยู่ในสภาพทรุดโทรม กลายเป็นบ้านร้าง เพราะคุณนายจิตรีฉวยจังหวะที่หล่อนไม่อยู่ ขายข้าวของทุกอย่างในบ้านไปจนหมด โดยไปอาศัยอยู่ที่อื่นพร้อมกับเกษศิณีผู้เป็นลูกสาว ส่วนชาคินทร์ก็เรียนจบปริญญาแล้วและทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง แต่ชีวิตของเขาก็เต็มไปด้วยความทุกข์เพราะหนี้สินจากการเล่นการพนันที่มารดาของเขาเป็นผู้ก่อเอาไว้ เหลือเพียงนายสอน คนสวนผู้จงรักภักดีต่อเธอ ได้เฝ้ารอคอยอยู่ที่นั่น นายสอนบอกเธอว่า โชคดีที่หมอชีวันคอยช่วยเหลืออุปการะเอาไว้ ส่วนทนายแม้นมาสนั้นเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่มีใครทัดทานการกระทำของคุณนายจิตรีได้อีกต่อไป

นันตพรประทับใจความดีของนายแพทย์ชีวัน ที่เขาคอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังของเธอตลอดเวลา และเหตุการณ์นี้เองทำให้สองหนุ่มสาวที่เคยเป็นขมิ้นกับปูน ได้เปลี่ยนมาเป็นความรักความเข้าใจต่อกันในที่สุด ขณะที่เกษศิณีก็ยังคอยตามราวีด้วยความริษยา หล่อนชวนมารดาให้กลับมาอยู่ที่คฤหาสน์อภินารถอีกครั้ง เพื่อหาหนทางขัดขวางไม่ให้การแต่งงานของนันตพรเกิดขึ้น

เรื่อง : ม่านมลทิน

ผู้เขียน : สุภา อิทธิพร

สำนักพิมพ์ : โอเดียนสโตร์

ปีที่พิมพ์ : 2507

เล่มเดียวจบ

หญิงสาวพบด้วยความประหลาดใจว่าสันดอนมาอาศัยใต้ร่มใบบุญของหมอชีวันเช่นกัน สันดอนเอ่ยปากสารภาพรักกับเธอ แต่นันตพรก็ตอบปฏิเสธ หล่อนรักสันดอนเหมือนเพื่อนสนิท ตั้งแต่วัยเยาว์มาต่างหาก คนเดียวที่หล่อนรักก็คือหมอชีวันนั่นเอง เรื่องนี้ทำให้สันดอนเสียใจมาก จนหนีจากไป

เกษศิณีวางแผนร้าย ต้องการจะสาดน้ำกรดใส่หน้านันตพร เพื่อให้เสียโฉม แต่แล้ว หญิงสาวก็ป้องกันตัวเองไว้ได้ทัน และโต้ตอบกลับ จนทำให้เกษศิณี ประสบอุบัติเหตุ ทำน้ำกรดหกราดใส่ใบหน้าของตัวเอง ไม่ต่างกับกรรมตามสนอง และทำให้เด็กสาวที่เคยภาคภูมิใจในความสวยงามของตน กลายเป็นหญิงอัปลักษณ์ไปในทันที

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั่นเอง ทำให้ทั้งคุณนายจิตรีและเกษศิณี เริ่มสำนึกผิด และภายหลังการแต่งงานของนันตพรกับนายแพทย์ชีวัน ทั้งสองคนก็มาขออโหสิต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

++++++++++++++++++++++

นันตพรและนายแพทย์ชีวันผู้เป็นสามี เดินทางกลับไปเมืองราชบุรีอีกครั้ง และคราวนี้ได้มีโอกาสพบกับหลวงพ่อนิกรผู้เป็นบิดา ที่บัดนี้ท่านอยู่ในเพศบรรพชิต ซึ่งได้อวยพรให้กับสองหนุ่มสาว ก่อนที่จะออกจาริกแสวงบุญต่อไป

และในระหว่างการเดินทางกลับกรุงเทพฯ นั้นเองที่นันตพรได้พบกับเจ้าสันดอน สหายวัยเยาว์ของเธออีกครั้ง บัดนี้มันได้กลับมายังราชบุรี แผ่นดินถิ่นเกิดของตัวเอง และตัดสินใจทำไร่ทำนายังที่ดินของตัวเองเหมือนเดิม

สปอร์ตเก๋งสีแดงเพลิงของหมอชีวัน ภาสโยธิน พุ่งออกจากที่ไปตามถนนเพชรเกษมอย่างช้าๆ เพื่อให้หัวใจอัดอิ่มด้วยความสุข เพื่อให้มโนภาพสร้างปราสาทในอนาคต และเพื่อให้ชีวิตก้าวเดินไปบนเส้นทางของกลิ่นและกลีบของดอกกุหลาบ มันเต็มไปด้วยความอบอวลหอมหวาน จะสวรรค์หรือวิมานใดมาเทียมได้ ไม่มีอีกแล้ว

สวรรค์งั้นรึ จะมีม่านมลทินมาขวางกั้นได้ ในเมื่อสิ่งสุดยอดของชีวิตมนุษย์ที่ปรารถนาและต้องการ ได้พังกำแพงม่านมลทินให้ทลายราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว

คนทั้งสองได้ไปยืนเป็นสง่าอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้น… สวรรค์!

และ ม่านมลทิน ก็ดำเนินมาถึงบทอวสานอย่างสมบูรณ์

 

Don`t copy text!