ทาสน้ำตา

ทาสน้ำตา

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

**************************** 

สนับสนุนอ่านเอาด้วยการสั่งซื้อหนังสือ “ในสวนอักษร” คลิกที่นี่

‘กุลปราณี’ เป็นหนึ่งในหลายนามปากกาของ เลียว ศรีเสวก นักเขียนชายยอดนิยมในยุคต้นพุทธกาล ซึ่งท่านมีผลงานออกมาจำนวนมากมาย นามปากอื่นที่หลายท่านรู้จักกันดี ได้แก่ อรวรรณ สุกัญญา เรืองฤทธิ์ เรืองเดช เรืองยศ เรืองศักดิ์ ช่อลิลลี่ พริ้มเพรา เป็นต้น จากข้อมูลในหนังสือประวัตินักประพันธ์ ระบุว่า ท่านมีนามปากกามากถึง 18 ชื่อเลยทีเดียว นับว่าเป็นนักเขียนที่มีนามปากกามากที่สุดท่านหนึ่งในบรรณพิภพ

ท่านเริ่มเขียนหนังสือตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียน ขณะที่ยังเป็นนักเรียนเทพศิรินทร์ โดยได้แรงบันดาลใจจากเรื่องสั้นของ ‘ส่ง เทพาสิต’ ผู้เขียน ‘น้ำใจของนรา’ และจากนั้นก็มีผลงานออกมาจำนวนมากมายหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวบู๊โลดโผน ผจญภัย ชิงรักหักสวาท หรือแนวรักรันทด อย่าง ‘ทาสน้ำตา’ เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

สำหรับ ทาสน้ำตา นวนิยายชื่อรันทดเรื่องนี้ เมื่อนำไปพิมพ์ใหม่โดยสำนักพิมพ์หรรษา ได้วงเล็บไว้ด้วยว่า ชื่อ ‘มนต์รักอสูร’ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่า จะเป็น มนต์รักอสูร เรื่องเดียวกับละครโทรทัศน์และภาพยนตร์เรื่องดังที่กำกับการแสดงโดย คุณพิศาล อัครเศรณี หรือไม่ เพราะในเรื่อง มนต์รักอสูร เวอร์ชันภาพยนตร์และละครนั้นเขียนว่ามาจากบทประพันธ์ของวรรณิศา

ในนวนิยาย ทาสน้ำตา เรื่องนี้ เปิดตัวด้วยบุคลิกพระเอกหนุ่มชาวกรุงนาม ‘ชัชวาล ภูมินทร์’ ที่สูญเสียภรรยาสุดที่รักไป และทำให้เขาพร้อมกับกร ลูกชายสุดเฮี้ยววัยสิบสองขวบ เดินทางมายังดินแดนบ้านป่าเมืองเถื่อนแห่งนี้ เพื่อหักร้างถางพงและสร้างชีวิตขึ้นมาใหม่ โดยมีลุงปานพาเขานั่งเกวียนจากตัวเมืองเข้ามา แต่ด้วยบุคลิกของชัชวาลที่เอาแต่เมาเหล้าตลอดเวลา ทำให้แกเองก็ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเขาสักเท่าไรนัก

สถานที่แห่งนี้เป็นไร่ร้างที่มีประวัติอันน่าสยดสยอง เพราะอยู่ในเขตอิทธิพลเถื่อนของไอ้สมิงและแสวง น้องชาย ซึ่งถ้าหากใครไม่จ่ายค่าคุ้มครองก็จะถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมทารุณ โดยมีไอ้ช้วน สมุนเอกคอยรายงาน เมื่อพวกมันเห็นชัชวาลมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่พร้อมคนงานอื่นๆ จึงเข้ามาหาเรื่องทำร้ายคนงานของเขา และในที่สุด ‘คนเมาหัวราน้ำ’ ในสายตาของเฒ่าปาน ก็เป็นฝ่ายออกไปเผชิญหน้าไอ้ช้วน อย่างกล้าหาญ

ขาดคำ หมัดของเขาก็ลั่นโป้งเข้าให้ที่ซอกคางของนายชวน เจ้าหน้าที่เถื่อนอย่างสุดกำลังจนกระเด็นไป แล้วเขาก็พุ่งเข้าหาอีกคนหนึ่ง ในขณะที่คนที่สามกำลังเอาปืนออกจากไหล่

คนที่สองโดนเข้าสามหมัด ก็ลงไปคลุกฝุ่นและก่อนที่คนที่สามซึ่งยกปืนขึ้นจะกระทำการอันใด ปืนอีกกระบอกหนึ่งก็ลั่นขึ้นเสียก่อน ถูกไหล่ของนักเลงเจ้าถิ่น ทำให้ม้วนตัวเร่าๆ พร้อมกับปืนหล่นลงบนพื้นดิน

ภาพที่ประจักษ์แก่สายตานั่นเองทำให้เฒ่าปานเริ่มรู้สึกศรัทธาไอ้หนุ่มจากเมืองกรุงอย่างชัชวาล ภูมินทร์ แม้จะไม่รู้สาเหตุแท้จริงที่เขาต้องระเหเร่ร่อนจากเมืองกรุงอันแสนสบายมายังแผ่นดินเถื่อนแห่งนี้ก็ตาม นอกจากรูปของภรรยาคนสวยที่เสียชีวิตไปแล้ว และวางไว้ข้างที่นอนตลอดเวลารูปนั้น

ชัชวาลสร้างความศรัทธาแก่คนในชุมชน เขาสร้างไร่วนารมย์ของตนเองขึ้นและทำให้คนในหมู่บ้านกล้าออกมาทำไร่ทำสวนเหมือนเดิม ในขณะเดียวกันเขาก็มองเห็นพิณ ครูสาวแสนสวย ลูกสาวนายเอี่ยม ที่กำลังลำบากอย่างหนัก เพราะพ่อแม่เจ็บป่วยด้วยโรคร้าย ซ้ำตนเองก็ถูกไอ้แสวง น้องชายสมิงรังแก วางแผนจะฉุดไปทำเมีย ทำให้ชัชวาลยื่นมือเข้าช่วยเหลือพาสองสามีภรรยาไปรักษาที่กรุงเทพฯ แต่เขาก็มีข้อแม้กับพิณว่าหล่อนจะต้องมาเป็นแม่บ้านและเป็นเมียของเขา!

เมื่อไม่ทางเลือก สาวน้อยกตัญญูอย่างพิณจำต้องยอมรับข้อเสนอ ท่ามกลางการต่อต้านอย่างหนักของกรลูกชายวัยเฮี้ยว ที่พยายามหาเรื่องกลั่นแกล้งเธอทุกอย่าง แต่พิณก็สู้อดทน ยอมรับชะตากรรมและตั้งใจทำงานเป็นแม่บ้านให้กับชัชวาล โดยไม่เคยคิดว่าจะทะเยอทะยานไปเป็นคุณผู้หญิงของเขา เพราะเธอเองก็กลัวเขาเสียเหลือเกินในยามที่เขาดื่มเหล้าและสายตาคมดุที่จ้องเขม็งมองมายังเธอตลอดเวลา

การรับเอาพิณมาอยู่ร่วมบ้าน ทำให้ไอ้แสวงไม่พอใจ มันร่วมกับไอ้ช้วนสมุนบุกเข้าฉุดพิณ แต่แล้วก็ถูกชัชวาลบุกชิงกลับมาได้ และสังหารไอ้ช้วนจนเสียชีวิต ทำให้หญิงสาวกลับเริ่มรู้สึกดีต่อชายหนุ่มผู้ภายนอกดูเหมือนคนกักขฬะไม่ต่างกับอสูรร้าย พิณช่วยเหลืองานทุกอย่างจนได้รับการยอมรับจากคนงานในไร่วนารมย์แห่งนี้ แม้แต่การดูแลบ้านแม่ต่างกับเป็นแม่บ้าน รวมถึงกร ลูกชายชัชวาลที่ตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์ตลอดเวลา หล่อนพยายามทำความเข้าใจลูกชายของเขาที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจทุกอย่างโดยไม่เคยดุด่า จนแทบจะเสียคน กระนั้นกรยังมองไม่เห็นความหวังดีของเธอแม้แต่น้อย

แต่แล้วความสัมพันธ์ที่เริ่มราบรื่นขึ้นก็มีอุปสรรค เมื่อชัชวาลเห็นครูประชุม อดีตคนรักของพิณ มาพบ และด้วยท่าทีสนิทสนมกันนั้นเอง ทำให้เขาเกิดความหึงหวง ยิ่งเมื่อดื่มเหล้าเข้าไปดับอารมณ์ มันกลับทำให้เขาลืมตัวหาเรื่องทะเลาะกับหญิงสาว จนท้ายที่สุดเขาก็ล่วงละเมิดเงื่อนไขของตัวเอง สาวน้อยพิณต้องตกเป็นเมียของเขาในคืนนั้นเอง

หญิงสาวเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยความเจียมตัว หล่อนพยายามหลบเลี่ยงการพบปะกับเขาอีก แต่กลายเป็นว่ายิ่งทำให้ชัชวาลโหยหา เขาเริ่มรู้สึกว่าเขาขาดเธอไม่ได้เสียแล้ว หากแต่ปากก็ยังปฏิเสธกับตัวเองอย่างเข้มแข็ง กรเริ่มรู้สึกว่าพ่อของเขากำลังหลงรักพิณ และไม่ช้าเขาอาจจะได้ครูสาวบ้านป่าคนนี้มาเป็นแม่เลี้ยง!

กรตัดสินใจเขียนจดหมายไปบอกป้านิตยา สาวใหญ่ พี่เมียของชัชวาลที่กรุงเทพฯ นิตยาเองก็ชื่นชอบความเป็นลูกผู้ชายเต็มตัวของชัชวาลอยู่แล้ว เมื่อน้องสาวเธอเสียชีวิต ก็อดคิดไม่ได้ว่า เขาน่าจะเลือกแต่งงานกับเธอด้วย แต่กลายเป็นว่าชัชวาลหันหน้าหนีความเจริญจากเมืองกรุงมาทำไร่ยังบ้านป่าแห่งนี้แทน

นิตยารู้จากกรหลานชายว่า น้องเขยตัวเองได้แต่งงานกับสาวบ้านป่า ด้วยความริษยาหล่อนจึงตัดสินใจรีบเดินทางมา และความริษยาก็ยิ่งกำเริบหนักเมื่อเห็นว่าพิณสวยกว่าและสาวกว่าตนเองเกินกว่าที่จะคาดคิด

สาวชาวกรุงมากเล่ห์จึงเริ่มวางแผนเพื่อจับน้องเขย หล่อนออกอุบายต่างๆ นานา ไม่ว่าจะใส่ไฟเรื่องพิณพลอดรักกับครูประชุม จนกระทั่งทำให้ชัชวาลเมาเหล้า และเผลอไปมีความสัมพันธ์กับตัวเธอเอง ซึ่งยิ่งทำให้พิณเสียใจมากขึ้น

เขาได้หล่อนไปจนหมดสิ้น แต่หล่อนได้ความชอกช้ำ ความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน หล่อนไม่มีโอกาสที่จะได้ทราบว่า การที่หล่อนจำต้องมอบทุกสิ่งทุกอย่างของความสาวให้แก่เขา ชายนั้นมีความลิงโลดเหมือนชายทั้งปวงที่ได้หญิงงามอันเป็นที่รักของตนไปหรือเปล่า

นี่ไม่ใช่เมีย นี่คือทาส นี้คือคนๆ หนึ่งที่มีชีวิตอยู่กับน้ำตา น้ำตาที่ไม่มีความหมายอะไรเลยจนนิดเดียว

หล่อนคือทาสน้ำตา! และยังตกเป็นทาสรักของ ชัชวาล ภูมินทร์ อสูรร้ายผู้นี้เสียด้วย…

นิตยาบอกคุณนายชื่น มารดาชัชวาล และใส่ร้ายป้ายสีภาพพิณ จนทำให้นางชื่นต้องเดินทางมาที่ไร่วนารมย์ นางพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาเดินทางกลับกรุงเทพฯ และเพราะต้องการให้กรได้เรียนหนังสือ ชัชวาลจึงยอมพาคุณชื่นกลับไปส่งที่กรุงเทพฯ และหวังว่าจะฝากกรให้อยู่ต่อที่นั่นเลย

ระหว่างนั้นเองภายในไร่ก็มีเรื่องราวต่างๆ มากมาย มีคนแปลกหน้าที่เดินทางผ่านเข้ามาและบาดเจ็บ จนทำให้พิณต้องลงมือช่วยเหลือด้วยความเมตตา หญิงสาวได้หัวใจจากคนเหล่านั้น ตราบจนกระทั่งชัชวาลและนิตยาเดินทางกลับมาอีกครั้ง นิตยาคาดหวังว่าจะได้เป็นคุณนายของไร่วนารมย์แห่งนี้ แต่แล้วด้วยนิสัยจู้จี้ เจ้าระเบียบ และวางตัวเหนือคนอื่นอย่างดูถูกดูแคลน จนมีเรื่องกับพิณ เพราะไปขัดขวางไม่ให้หล่อนเอาเซรุ่มไปช่วยคนงานที่ถูกงูกัด ทำให้คนงานในไร่รวมกันลาออกจนหมด

ซ้ำร้าย กรได้หนีคุณย่าของเขากลับมาที่ไร่แห่งนี้ เพราะไม่อาจทนคนแก่ที่คอยบ่นจู้จี้กับเขาตลอดเวลาได้ เขาคุ้นชินกับการเลี้ยงดูอย่างตามใจ โดยไม่เคยมีใครตำหนิเพราะมารดาก็เสียชีวิตไปแล้ว

แต่เมื่อต้องกลับมาอยู่ที่ไร่โดยไม่มีใครคอยช่วยเหลือ ซ้ำนิตยา ป้าแท้ๆ ที่เขาเคยเชียร์ให้หล่อนมาแทนพิณ บัดนี้ก็เริ่มแตกคอกับเขาเสียเอง เพราะหล่อนต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานหนักโดยไม่มีคนงานมาช่วย ยิ่งทำให้กรนึกถึงพิณ แม่เลี้ยงที่เคยดูแลเอาใจใส่เขาเป็นอย่างดี แต่เป็นเพราะเขาเองที่ไม่เคยเห็นคุณค่าความดีงามของหล่อนเลยสักนิด

เขาได้เห็นธาตุแท้ของนิตยา ภายหลังจากที่หล่อนได้พ่อของเขาเป็นสามีแล้ว ตัวเขาก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ อีกต่อไป ส่วนนิตยาเอง บัดนี้หล่อนก็เริ่มคิดถึงชีวิตที่เคยสุขสบายที่พระนคร ความฝันที่จะเปลี่ยนแปลงให้ชัชวาล มาเป็นอย่างที่หล่อนปรารถนา ดูจะเป็นโมฆะไปเสียแล้ว

นิตยาไม่เคยเสียดายร่างกายที่ได้มอบให้แก่เขา ไม่เคยคิดว่าความผิดพลาดเหล่านั้นจะคุกคามจิตใจหรือทรมานหล่อนไปอย่างโรคเรื้อรัง หากแต่ว่าเสียใจที่ตัวทำอะไรไม่สำเร็จ เสียใจที่วิมานในฝันของหล่อนพังทลายลงไป เพราะหล่อนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเขาได้

เมื่อคนเรามีความรู้สึกเช่นนั้น ก็ย่อมอดไม่ได้ที่จะนึกถึงความผาสุกจากดินแดนอันรุ่งเรืองด้วยแสงสีสารพัดอย่าง

หล่อนรู้แล้วว่าตัวเองไม่มีทางเหมือนน้องสาว ที่มีอุดมการณ์เดียวกับชัชวาลทุกอย่าง หล่อนไม่มีความอดทนพอ และจะไม่ยอมฝืนใจมาลำบากกลางดินแดนบ้านป่าเมืองเถื่อนแห่งนี้อีกต่อไป ในที่สุด นิตยาก็ทิ้งไร่ ทิ้งชัชวาล และหลานชายของหล่อนกลับกรุงเทพฯ ไปอย่างไม่แยแสในเวลาต่อมา

กรอยู่บ้านที่ไร่วนารมย์เพียงลำพัง เมื่อบิดาต้องออกไปทำงาน ในความเงียบเหงาที่เขาหวนคิดถึงคนเหล่านั้นเอง เมื่อเห็นกลุ่มคนงานที่เคยถูกพ่อเขาไล่ออกกำลังแห่กันตรงมาด้วยความบ้าคลั่ง ทำให้เด็กชายรีบกระโจนหนีเข้าป่าไปด้วยความหวาดกลัว

พิณตามมาห้ามคนงานเหล่านั้นไว้ได้ทัน ก่อนที่บ้านจะถูกเผาด้วยเพลิงแค้น และทุกคนก็ยอมเชื่อฟังตามคำขอร้องของเธอ พิณเห็นคุณกรหนีไปทางชายป่า ด้วยความเป็นห่วง หญิงสาวจึงตัดสินใจเสี่ยงชีวิต บุกตามไปเพียงลำพัง

กรเองก็เหนื่อยและหิว บัดนี้เขารู้แล้วว่าตนเองหลงป่า ในเวลานั้นเองที่เขาได้พบกับพิณ ผู้หญิงที่เขาเคยเกลียดชัง แต่บัดนี้ เด็กชายรู้แล้วว่าเธอรักเขามากเพียงใด ความห่วงใยที่ทำให้พิณ อุตส่าห์ตามมาเพื่อช่วยพาเขากลับออกไปยังที่ปลอดภัย เขาเรียกเธอว่า ‘แม่’ ได้เต็มปากแล้ว…

แต่แล้ว ทั้งสอง ก็ต้องเผชิญหน้ากับไอ้เสือแหวง… หรือแสวง น้องชายของสมิง ผู้ยิ่งใหญ่แห่งดินแดนบ้านป่าแห่งนี้ แสวงแค้นใจ ที่เคยถูกพิณสลัดรัก และถูกชัชวาลทำร้ายจนตัวเองต้องกลายมาเป็นไอ้เสือร้าย เขาต้องการฉุดคร่าพิณ แม้จะเพิ่งรู้ว่าบัดนี้หล่อนกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ กับชัชวาล!

ในเวลาอันวิกฤตนั้นเอง ใครคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น

เสียงห้าวเฉียบขาดนั้นดังมาจากอีกทิศหนึ่ง ทุกคนหันไปยังทิศนั้น พิณจำได้ว่า เขาเป็นชายคนเดียวกันกับที่หล่อนได้เคยอุปการะเมียของเขา ลูกของเขา ตลอดจนกระทั่งตัวเขาเองให้พ้นจากภัยถึงชีวิต

สมิง!

แท้จริงแล้ว ชื่อเสียงในด้านลบของสมิงเกิดจากแสวงแอบอ้างเอาชื่อเสียงบารมีของเขาไปหากินมาโดยตลอด สมิงในปัจจุบันได้วางมือจากความชั่วร้ายต่างๆ แล้วหากินอย่างสุจริต โดยใช้ชีวิตอย่างสมถะกับลูกเมีย และพิณก็เป็นคนที่มีบุญคุณต่อเขา โดยที่หล่อนไม่ล่วงรู้เลยว่า เขาคือ สมิง

เรื่อง : ทาสน้ำตา

ผู้เขียน : กุลปราณี

สำนักพิมพ์ : คลังวิทยา

ปีที่พิมพ์ : 2512

เล่มเดียวจบ

สมิง จัดการน้องชายจนอยู่หมัด และพาหล่อนกับกรมาส่งที่ไร่อย่างปลอดภัย ในขณะที่ชัชวาลตามมาทันเหตุการณ์พอดี บัดนี้ทั้งพ่อลูกต่างรู้ซึ้งถึงความรักความเมตตาจากพิณแล้วอย่างเต็มเปี่ยม หล่อนหาใช่ทาสสาวที่ตกเป็นทาสอารมณ์ ทาสน้ำตา เช่นเดิมอีกต่อไป หากแต่เป็นชัชวาลนั่นต่างหากที่รู้ว่าเขาตกเป็นทาสรักต่อเธอแล้ว โดยมิอาจไถ่ถอน

ในเมื่อเหตุการณ์ในไร่กลับคืนสู่สภาพเดิม แต่พิณกลับมาพบเขาภายหลังจากที่พ่อแม่ของหล่อนออกจากโรงพยาบาล หล่อนขอบคุณในความเอื้ออารีของเขา พร้อมกับสัญญาที่เคยมีต่อกันก็จบสิ้นลง หล่อนอำลาเขาเพื่อจะจากไปตามเส้นทางชีวิตของหล่อน

ชัชวาล รู้ดีว่าเขาควรจะทำอย่างไร เพื่อให้หล่อนได้มาอยู่เคียงคู่กับเขา มาเป็นเมีย เป็นแม่ของลูกเขา ณ ที่ไร่วนารมย์แห่งนี้ตลอดไป!

เมื่ออ่านนวนิยายเรื่องนี้จบลง ทำให้อดคิดไม่ได้ ทาสน้ำตา น่าจะเป็นเหมือนต้นแบบหรือแรงบันดาลใจของเรื่องราวในแนว ‘มนต์รักอสูร’ หรือ ‘ไฟรักอสูร’ ที่สร้างเป็นละครและภาพยนตร์ในเวลาต่อมาครับ

Don`t copy text!