ทะเลทอง

ทะเลทอง

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้ครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

****************************

‘รมณียา’ เป็นหนึ่งในนามปากกาของ คุณนิยม จิตต์แก้ว นักเขียนอาวุโสวัย 91 ปี ซึ่งท่านได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมานี้เอง จากข้อมูลของ คุณปิติ วิริยะ ได้เขียนไว้ว่า ท่านเป็นนักเขียนผู้มีผลงานหลากสไตล์ หลายนามปากกา ได้แก่ รมณียา ซึ่งมักจะใช้เขียนในแนวชีวิตรัก, พนา ภาณุมาศ ในแนวบู๊แอ็กชัน, นนท์ นันทภูมิ, เบญจนาท นฤมล ใช้เขียนในแนวโรแมนติกคอเมดี, ปิยะบุตร สำหรับเขียนแนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ เป็นต้น

นวนิยายที่สร้างเป็นหนังและละคร เช่น ปูลม ข้ามากับพระ ส่วนที่นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์น่าจะมีจำนวนมาก เช่น ไม่รักไม่สน, ทะเลทอง และนิยายที่ทำเป็นละคร เช่น จอมศึกเสน่หา เป็นต้น

ผมมีความตั้งใจที่จะนำผลงานของท่าน มานำเสนอให้กับเพื่อนนักอ่านในคอลัมน์บรรณาภิรมย์ ได้รู้จักผลงานของท่าน โดยเฉพาะเรื่อง ‘ทะเลทอง’ เรื่องนี้ ซึ่งนับเป็นผลงานชิ้นเอกอีกเรื่องหนึ่ง โดดเด่นครบรสชาติของชีวิต แม้ว่านวนิยายเรื่องนี้จะมีความยาวถึงสามเล่มจบ และความหนาไม่ต่ำกว่าสองพันหน้าก็ตาม แต่ด้วยฝีมือและประสบการณ์ในการเขียน ก็นำพาให้ผู้อ่านได้ติดตามเรื่องราวชีวิตอันโลดโผนของ ‘ขุนทะเล’ หรือ ‘เสือขุน’ ไต้ก๋งผู้เป็นเจ้าของเรือทะเลทอง ได้ฟันฝ่าท้องทะเลตะวันออก รวมถึงห้วงทะเลชีวิตของตนไปพร้อมกับการตามหาความรักที่ยาวนานถึงสิบหกปีของตนเอง ตราบจนถึงบทอวสานอย่างสวยงามประทับใจ

ชายหนุ่มวัยไม่เกินสิบแปดปี รูปร่างสูงสง่า สวมกางเกงตังเกขาลีบ ไม่ใส่เสื้อ เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์ได้สัดส่วน ผิวแท้คงจะขาวแต่เพราะตากแดดตากลมจึงดูคล้ำ เพิ่มความคมเข้มสมลักษณะลูกผู้ชายยิ่งขึ้น กำลังง่วนกับการซ่อมแซม “ชนาง” เครื่องดักปลาชนิดหนึ่ง ซึ่งคล้ายๆ ลอบ ที่ลานดินหน้าเรือนทรงมนิลา…

เขาคือ แหลม ขุนทะเล ลูกเรือหนุ่มน้อยของ นายโพธิ์ เพิ่มสิน ที่เป็นไต้ก๋งเรือประมงธิดาสมุทร แห่งบ้านคลองใหญ่ จังหวัดตราด

โพธิ์ มีพี่ชายชื่อพูนซึ่งมีลูกสาวคนสวยคือแพร ส่วนโพธิ์เองก็มีลูกชายวัยเด็กกำลังซนชื่อพู หรือภูธร แพรเป็นสาวสวยที่ต้องตาต้องใจหนุ่มๆ หลายคนในแถบนั้น แม้แต่ไอ้แหลมที่กำลังจะก้าวขึ้นเป็นไต้ก๋งหนุ่มอายุน้อยมากความสามารถ แต่มีเพียง ร้อยตำรวจตรีเผด็จ เผด็จดัสกร นายตำรวจหนุ่มที่เพิ่งย้ายมาประจำการที่เมืองตราดแห่งนี้ กับเสี่ยทรงชัย พ่อม่ายลูกติดและเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่ในอำเภอคลองใหญ่ที่ต่างมีภาษีดีด้วยกันทั้งคู่

แต่แล้ว เมื่อเสี่ยทรงชัยตั้งใจจะมาสู่ขอแพรเป็นเมียตามความเห็นชอบของพ่อแม่ฝ่ายหญิง สาวน้อยแพรก็เกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาเสียก่อน!

พ่อแม่ของแพรทั้งเสียหน้าและผิดหวัง พยายามเค้นหาความจริงว่าใครกันแน่ที่เป็นพ่อเด็กในท้องของแพร แต่เด็กสาวก็ไม่ยอมตอบ ทำให้ยิ่งถูกลงโทษอย่างหนัก จนในที่สุดแหลมก็ทนไม่ได้ มันออกรับแทนว่าตนเป็นพ่อของเด็ก จนทำให้เสี่ยทรงชัยแค้นใจ สั่งการให้สมุนลงมือหวดกลางแผ่นหลังของเด็กหนุ่มด้วยแส้หางกระเบนจนบาดเจ็บสาหัส จากนั้นก็นำตัวเขาและแพรไปมัดกับเสาหลักกลางทะเล เพื่อให้จมน้ำเสียชีวิต แต่ทั้งสองหนุ่มสาวก็หนีหลุดรอดมาได้ด้วยความช่วยเหลือของสหายรักของไอ้แหลม

ทั้งคู่หนีขึ้นเรือธิดาสมุทรแล้วขับเรือฝ่าพายุคลั่ง จนไปสมทบกับไอ้ธง เพื่อนของมันที่อาศัยอยู่ยังเกาะกูด

ทุกคนเข้าใจว่าทั้งแหลม ขุนทะเล และแพร เสียชีวิตในท้องทะเลเดือดตอนเผชิญกับมรสุมแล้ว แต่ทั้งคู่ก็เอาตัวรอดมาได้ และอาศัยอยู่ที่เกาะกูดแห่งนั้น ตราบจนกระทั่งแพรใกล้คลอดเต็มที แหลมตัดสินใจพาแพร หญิงที่เขารักสุดหัวใจ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นสามีในความจริงก็ตาม เพื่อพาเธอไปคลอดยังโรงพยาบาลบนฝั่งเมืองตราด แต่ก็ช้าเกินไป

แพรตกเลือดมาก หญิงสาวคลอดลูกบนเรือลำนั้นด้วยการทำคลอดของแหลม ก่อนจะเสียชีวิต แพรยอมสารภาพกับเขา ว่าพ่อของเด็กในท้องก็คือร้อยตำรวจเผด็จผู้ที่เคยมาติดพันเธอก่อนหน้านั่นเอง แต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับผิดชอบ จึงทำให้แพรต้องเก็บลูกในท้องไว้เพียงลำพัง แหลม ขุนทะเล กลับมายังฝั่งบกอีกครั้ง เขานำเด็กทารกเพศหญิงที่เกิดจากแพรมามอบให้โพธิ์ช่วยเลี้ยง เมื่อพ่อแม่ของแพรต่างก็เสียชีวิตหมดแล้ว และบัดนี้ เสี่ยทรงชัยได้แต่งงานกับวันเพ็ญ ลูกสาวนายอำเภอผู้มีอิทธิพลในแถบนั้น และมีลูกสาวชื่อศิริพร ในขณะที่ ร้อยตำรวจเผด็จเองก็ปิดบังความสัมพันธ์ของเขากับแพร และหันมาแต่งงานกับสายสุนีย์ ซึ่งเป็นน้องสาวของเสี่ยทรงชัย จนมีลูกชื่อผาณิต ตัวเสี่ยทรงชัยเองก็มีลูกชายที่เป็นลูกติดเมียเก่าชื่อทนงศักดิ์ เป็นเด็กรุ่นเดียวกับ พู หรือภูธร ลูกชายของโพธิ์อีกคนหนึ่งด้วย

โพธิ์รับเลี้ยงลูกสาวของแพรด้วยความสงสาร และแหลม ขุนทะเล ก็เป็นผู้ตั้งชื่อเด็กทารกกำพร้าผู้นี้ว่า ‘ชนางรัก’ อันหมายถึงตาข่ายแห่งความรักระหว่างเขาและแพร ที่แม้ว่าจะไม่มีโอกาสได้สมปรารถนาในรักนั้นก็ตาม จากนั้นเขาก็จากไปสู่ท้องทะเลกว้าง ในเวลาเดียวกับที่เมียของโพธิ์เอง ก็คลอดลูกสาววัยไล่เลี่ยกับชนางรัก ชื่อเนื้ออ่อน

วันเวลาผ่านไปสิบหกปีต่อมา เด็กๆ ต่างเติบโตขึ้น เนื้ออ่อน กลายเป็นเด็กสาวใจแตกที่ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจ และเอาแต่เที่ยวเตร่ ไม่สนใจช่วยเหลืองานใดๆ ตรงข้ามกับชนางรักที่เป็นเด็กสาวขยันขันแข็ง และเป็นสาวน้อยที่สวยงามหน้าตาแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกับแพรในอดีต โดยที่รับรู้แต่ว่า ตนเองหน้าเหมือน ‘อาแพร’ ผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ในขณะที่ภูธร พี่ชายวัยหนุ่ม ยังจดจำเหตุการณ์ทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ภูธรไม่ถูกกับทนงศักดิ์ ซึ่งเคยมีเรื่องชกต่อยกัน และบัดนี้ ทนงศักดิ์ก็เติบโตเป็นชายหนุ่มนักเลง โดยมีเสี่ยซ้งหรือทรงศักดิ์คอยให้ท้ายจนไม่ต่างกับอันธพาล ทนงศักดิ์ติดใจความสวยของแพร ที่ต้องมาช่วยโพธิ์เปิดร้านขายอาหารที่ชายหาด จนแทบมีเรื่องชกต่อยกับภูธรเสมอ ในขณะที่เนื้ออ่อนเองก็เป็นฝ่ายหลงใหลทนงศักดิ์ เพราะเห็นว่าเขามีเงินทอง และมีสมุนบริวารคอยติดตาม

ในเวลานั้นเอง ชนางรัก ได้มีโอกาสพบกับหนุ่มใหญ่ผู้หนึ่ง ด้วยบุคลิกองอาจสมชายชาตรีของเขา แม้ว่าจะมีหนวดเครารุงรังไม่ต่างกับโจร แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ก็ทำให้หล่อนรู้สึกประทับใจและเกิดความคุ้นเคยอย่างประหลาด หล่อนรู้แต่เพียงว่าเขาเป็นตังเกที่เดินทางมาจากเกาะกูดอันไกลโพ้น พร้อมกับเพื่อนของเขา หนุ่มใหญ่วัยสามสิบเศษ ผู้ที่หล่อนเรียกเขาว่า ‘พี่ขุน’ หรือ ที่คนอื่นรู้จักในนาม ไอ้เสือขุน

พี่ขุนคือเจ้าของเรือทะเลทอง เขาเดินทางท่องทะเลนับร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำมาตลอดเวลาหลายปี และในเวลานี้ เขารับรู้ถึงภยันตราย ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับชนางรักเด็กสาวคนนี้… ผู้ที่เขาทำคลอดเธอออกมาจากแพร หญิงที่เขารักสุดหัวใจ ชนางรักจึงไม่ต่างกับตัวแทนความรักของเขากับแพร ดังนั้น แหลม ขุนทะเล หรือไอ้ขุนในวันนี้ จึงตัดสินใจเดินทางกลับมาขึ้นฝั่งทะเลคลองใหญ่อีกครั้ง ไม่มีใครล่วงรู้ตัวตนเดิมของเขา นอกจากพู หรือภูธร เด็กชายจอมซนในวันนั้น แม้แต่ชนางรัก เองก็ตาม

ทนงศักดิ์หลอกล่อชนางรักเพื่อปลุกปล้ำให้ตกเป็นของตน แต่กลายเป็นว่าเนื้ออ่อนรับเคราะห์ไปแทน และหล่อนก็หลงรักทนงศักดิ์อย่างหน้ามืดตามัว จนไม่รู้เลยว่า เขาไม่เคยรักหล่อนเลยนอกจากเห็นว่าเป็นเครื่องบำเรอกามารมณ์ของตัวเองเท่านั้น ภายหลังทนงศักดิ์ให้เสี่ยทรงชัยมาสู่ขอชนางรัก แต่หญิงสาวก็ตอบปฏิเสธอย่างไม่ไยดี เสี่ยทรงชัยที่เคยพลาดรักจากแพรมาแล้ว ยิ่งเจ็บใจ เลยวางแผนช่วยลูกชาย โดยให้ศิริพรและผาณิตแสร้งมาตีสนิทกับชนางรัก และติดต่อไต้ก๋งโห้ คนสนิทของตน สวมรอยเป็นไอ้เสือขุน เข้ามาดักปล้นชิงตัวสามสาวให้ขึ้นเรือไป เพื่อหวังจะให้ทนงศักดิ์มาจัดการหล่อนให้หายแค้น

แต่แล้วแผนการทั้งหมดก็พังพินาศ เมื่อกลุ่มของเสือขุนตัวจริงมาช่วย เขาพาเธอและสองสาวที่พลอยติดร่างแหให้ตามไปด้วยกับเขาบนท้องทะเลกว้างใหญ่ไพศาลที่มีแต่น้ำกับฟ้า หากหัวใจของไอ้ขุน ก็ยิ่งหวั่นไหวทุกครั้งเมื่อได้เห็นหน้าสาวน้อยชนางรักที่ช่างเหมือนกับแพรราวกับพิมพ์เดียวกันทุกประการ ชนางรักเองก็รู้ว่าบัดนี้ตนหลงรักหนุ่มใหญ่คราวพ่อผู้นี้เต็มหัวใจ แต่ดูเหมือนว่า เขาพยายามที่จะถอยห่างไมตรีที่เธอทอดมาหา อย่างน่าน้อยใจนัก!

“แต่ฉันยังไม่ตาย ไอ้แหลม ขุนทะเล ยังอยู่”

“จะอยู่ให้ทรมานใจตัวเอง อยู่อย่างซากรักที่ยังมีลมหายใจอยู่ ก็ตามใจเถอะค่ะ แต่นางคิดเสมอว่า แหลม ขุนทะเล ควรจะตายไปนานแล้ว ที่ยังมีชีวิตอยู่คือ นายขุน เสือขุน นางไม่เคยรู้จักแหลม เพราะฉะนั้น นางก็จะไม่รู้จักต่อไป แหลม ขุนทะเล เป็นคนรักของแม่ แต่นาง รักเสือขุน”

ทะเลทอง คือเรื่องราวความรักอันยิ่งใหญ่ ของหนุ่มใหญ่วัยสามสิบเศษ กับสาวน้อยสิบแปดผู้มีหัวใจเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก เมื่อรักแรกอันบริสุทธิ์ที่เคยมีต่อแม่ของเธอต้องผิดหวังและจากลาด้วยความตาย ก่อนรักนั้นจะแปรเปลี่ยนมาสู่ สาวน้อยผู้เป็นลูก แล้วไอ้เสือขุน ผู้เคยหัวใจเหี้ยมหาญ กล้าเผชิญหน้าในทุกด้านแม้แต่ความตาย จะต้องพ่ายแพ้ต่อความหวั่นกลัวในหัวใจของตนเอง ในครั้งนี้หรือไฉน?

 

เส้นทางชีวิตของตังเกหนุ่มใหญ่ ที่เริ่มมีความรักอีกครั้งกับสาวน้อยที่เป็นเสมือนตัวแทนมารดาของเธอ รวมถึงความลับในอดีตที่ต่างเก็บซ่อนเอาไว้ นำพาไปสู่เหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าการเผชิญหน้ากับกลุ่มทหารเขมร จนทำให้ทั้งไอ้ขุนและชนางรักได้พิสูจน์หัวใจของกันและกัน แม้ว่าจะมีหญิงสาวอื่นผ่านเข้ามาเป็นบททดสอบ ไม่ว่าจะเป็นผาณิต น้องสาวต่างมารดาของเธอเอง ที่ต้องการแย่งชิงหัวใจไปจากชนางรัก แต่ในที่สุดผาณิตก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความมั่นคงในรักของคนทั้งสอง

นอกจากนี้ใน ทะเลทอง ยังผสมผสานเรื่องราวการต่อสู้หักเหลี่ยมเฉือนคม ระหว่างตัวละครต่างๆ ที่มีบทบาทมากมายหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเสี่ยทรงชัยกับเผด็จ ที่หลงรักแพร ผู้หญิงคนเดียวกัน หรือเสี่ยทรงศักดิ์กับทนงศักดิ์ ผู้เป็นลูกชายและไต้ก๋งโห้ ที่เป็นตัวแปรสำคัญ นำไปสู่การแย่งชิงทองคำเถื่อน สมบัติใต้ท้องทะเล ที่ผู้อ่านจะต้องลุ้นระทึกไปกับ การต่อสู้ห้ำหั่นและหักหลังกันเองด้วยความโลภ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างพ่อกับลูก ชายหญิงคนรัก หรือแม้แต่มิตรภาพระหว่างเพื่อนด้วยกัน โดยมีทองคำมหาศาลเหล่านั้นเป็นเดิมพัน

เรื่อง : ทะเลทอง

ผู้เขียน : รมณียา

สำนักพิมพ์ : บรรณาคาร

ปีที่พิมพ์ : 2518

สามเล่มจบ

ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวใน ทะเลทอง ก็ทำให้เราเห็นว่า สิ่งสำคัญที่สุด เหนือยิ่งไปกว่าทรัพย์สมบัติล้ำค่าใดๆ ก็คือความรักระหว่างกัน ที่จะร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคทั้งปวง ไปสู่ความสุขสมหวังในบั้นปลาย เช่นเดียวกับ ความรักที่มั่นคง ของไอ้ขุนทะเลกับชนางรักนั่นเอง

นิยายเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่อ่านด้วยความรื่นรมย์สนุกสนาน แม้ว่าสำนวนภาษาจะค่อนข้างเก่าไปบ้าง แต่ก็ให้ความรู้สึกกลมกลืนไปกับฉาก เรื่องราวและเหตุการณ์ในเรื่อง ผมขอยกตัวอย่าง การบรรยายฉาก ‘จีบกัน’ ระหว่างคู่รักอาวุโส คือครูพัฒน์ พ่อของไอ้ขุน พระเอกของเรื่อง ที่กลับมารื้อฟื้นความรักความหลังกับแม่ชะเอม รักเก่าที่เคยคลาดแคล้วกันมาในอดีต จนต่างก็มีลูกโตๆ กันไปหมดแล้ว และเมื่อได้มีโอกาสพบกันอีกครั้งหนึ่ง ถ่านไฟเก่าก็เริ่มคุขึ้น

“ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าเราจะได้พบกันอีก… ดูแม่เอม ยังไม่แก่เลยนะ”

“อะไรกัน พี่พัฒน์ ฉันน่ะเกือบห้าสิบแล้วนะ พ่อโมชอายุเกินบวชมาแล้ว”

“นั่นสิ แต่แม่เอมก็ยังสมบูรณ์ดี ผิวพรรณยังสดใส แม่เอมรู้ไหมว่าฉันยังไม่เคยลืมแม่เอมเลย”

“อย่ากู้ลอบใบเก่าที่พี่พัฒน์ดักปลา จนมันเกือบจะผุพังไปแล้วขึ้นมาอีกเลย ปล่อยให้มันจมน้ำไปเถอะ”

“มันยาก แม่เอม ในเมื่อน้ำมันลงแล้ว ฉันก็เผอิญมาเห็นลอบใบเก่ายังพอจะกู้ขึ้นมาซ่อมแซมได้อยุ่ ถ้าไม่กู้ ก็จะกลายเป็นคนใจดำจนเกินไป”

เสียงลอบใบเก่าของครูพัฒน์หัวเราะเบาๆ

“ทำไมพี่พัฒน์ ถึงไม่หาลอบใบใหม่เสียล่ะ อยู่มาทำไมจนป่านนี้แล้ว”

“ฉันมันรู้ตัวดีว่า ไม่ค่อยจะมีโชคกับเขาในทางนี้ ก็เลยไม่ขวนขวาย อีกอย่างหนึ่งฉันมันรักเดียวใจเดียว เมื่อผิดหวังในตัวแม่เอมแล้ว ฉันก็ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับใครอีก”

สำหรับนวนิยาย ทะเลทอง เรื่องนี้ เคยนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2518 อำนวยการสร้างโดย คุณไพจิตร ศุภวารี นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี ในบทของ ขุนทะเล นัยนา ชีวานันท์ ในบทของชนางรัก ร่วมด้วย มานพ อัศวเทพ สายัณห์ จันทรวิบูลย์ ดวงดาว จารุจินดา ดวงใจ หทัยกาญจน์ และ จีระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ ครับ

 

Don`t copy text!