เบญจรงค์ห้าสี

เบญจรงค์ห้าสี

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

 

‘รักร้อย’ เป็นนามปากกาในช่วงแรก ๆ ในการประพันธ์นวนิยาย ของ รศ.ดร. คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ หรือที่นักอ่านหลายท่านรู้จักกันดี ในนามปากกา ว.วินิจฉัยกุล และ แก้วเก้า ผลงานในนามปากกานี้ นอกจาก ‘มิถิลา เวสาลี’ ที่ใช้นามปากกา รักร้อย จิรัฐติกาล แล้ว ก็ยังมีเรื่อง เศรษฐีใหม่ และ วงศาคณาญาติ เป็นต้น

เบญจรงค์ห้าสี บอกเล่าเรื่องราวของผู้หญิงห้าคน ห้าแบบ และห้าวิถีชีวิตที่มาอยู่ร่วมกันในบ้านหลังเดียวกัน ประกอบด้วย ‘ยาย’ หรือมนสินี ผู้เป็นเจ้าของบ้าน เจ๊ท หรือวาตี เพื่อนสนิทของเธอ ครูช้องนางและพวงแสด สองพี่น้อง และคนสุดท้ายคือปาริมา สาวน้อยที่มีรูปร่างหน้าตาสะสวยงดงาม

+++++++++++++

รักร้อยบรรยายลักษณะของตัวละครแต่ละตัว ก่อนจะนำเข้าสู่เรื่องราวอันเข้มข้นทั้งห้าเรื่อง ของห้าตัวละครไว้อย่างน่าสนใจยิ่ง

คนแรกคือ ‘ยาย’ หรือมนสินี ยายเป็นเจ้าของบ้านทางนิตินัย ภายหลังจากพ่อแม่และญาติพี่น้องเสียชีวิตไปหมดแล้ว ด้วยบุคลิกของยายที่เยือกเย็นเหมือนละอองฝนสีขาวบางเบา ดูเป็นผู้ใหญ่ยิ่งกว่าอายุจริง และยังเป็นที่ปรึกษาสำหรับทุกๆ คนในบ้าน จึงไม่น่าแปลกใจ ที่สมาชิกทุกคนในบ้านจะพร้อมใจกันเรียกมนสินีว่า ‘ยาย’ ด้วยความรักและเกรงใจ

คนที่สองคือวาตี หรือเจ๊ท ที่เข้ามาเรียนหนังสือตั้งแต่มัธยม เพราะมารดาเป็นเพื่อนสนิทกับมารดาของ ‘ยาย’ จึงฝากฝังให้มาอยู่ และในที่สุดวาตีก็ตัดสินใจอาศัยอยู่ด้วยที่บ้านของยายไปเลย เพราะคุ้นเคยกับชีวิตในเมืองมากกว่าจะกลับไปอยู่ที่บ้านเกิด ภายหลังจาก แม่ของวาตีเสียชีวิต และพ่อก็แต่งงานใหม่ หล่อนเป็นคนคล่องแคล่ว ปราดเปรียว รวมถึงนิสัยผาดโผนเหมือนผู้ชาย จนความตรงบางครั้งก็ทำให้ ‘ช้องนาง’ เพื่อนอีกคนในบ้าน ไม่ค่อยพอใจนัก

คนที่สามคือช้องนาง ภายนอกบุคลิกหญิงสาวผู้เป็นครูคนนี้แทบไม่ต่างกับยายที่เยือกเย็น อ่อนโยน แต่ลึกลงไปแล้ว ช้องนางเหมือนน้ำในบ่อลึก ที่ไม่รู้ว่าอารมณ์เบื้องล่างลงไปนั้นอ่อนไหว หรือรุ่มร้อนกันแน่ ในขณะที่ความเย็นของยาย เหมือนลำธารที่ไหลเอื่อยมากกว่า

คนที่สี่คือพวงแสด น้องสาวของช้องนาง แต่ก็ไม่ได้สนิทกันเลย พวงแสดเป็นเด็กสาวที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัย หน้าตาสดใสน่าเอ็นดู ไม่ต่างกับตุ๊กตาแก้วที่แสนบอบบาง และกลายเป็นว่าหล่อนสนิทสนมกับยายมากกว่าช้องนางพี่สาวเสียอีก ในขณะที่วาตีเองอาจจะดุหรือโวยวาย กับทุกคน แต่กลับให้ความเอ็นดูรักใคร่พวงแสดมากกว่าเพื่อนเช่นกัน

คนสุดท้ายคือปาริมา ผู้ที่มีความสวยเหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยาย ปาริมาเข้ามาเรียนนาฏศิลป์ และไปแสดงทางโทรทัศน์ด้วย

และชีวิตของหญิงสาวต่างวัยทั้งห้าคนก็เริ่มต้นขึ้น!

+++++++++++++++++++

เรื่องที่ 1 มนสินี หรือยาย เป็นชีวิตที่เรียบง่าย เหมือนกับไม่ต้องเผชิญกับปัญหาใดๆ ยายมีเพื่อนรักอย่างเจ๊ท และสมาชิกคนอื่นๆ ในบ้านที่อยู่ร่วมกันเหมือนพี่น้อง แม้ว่าอายุจะเริ่มเข้าใกล้เลขสามเข้ามาทุกขณะ และยังมีครูหอม ชายหนุ่มแสนซื่อที่เข้ามาติดพัน แต่ก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของยายเลยแม้แต่น้อย ทุกอย่างคงดำเนินไปเช่นนั้นด้วยอาชีพบรรณารักษ์ห้องสมุดที่แสนสมถะ และมีมรดกที่ยายได้รับมาจากพ่อและแม่ที่ทำให้ใช้ชีวิตอยุ่ได้อย่างสบายๆ

ถ้าหากยายจะไม่พบกับคุณณัฐการ ชายหนุ่มรูปงามที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และเขาทำให้ยายได้รู้จักกับความรักเป็นครั้งแรก จนทำให้ยายตัดสินใจที่จะไปใช้ชีวิตร่วมกับเขา ทั้งที่ไม่เคยพบปะครอบครัวของเขาเลย

ทุกอย่างเหมือนดำเนินไปในโลกแห่งความฝันที่สวยงาม จนยายได้พบว่าเทพบุตรที่ตนเอง แต่งงานด้วยมีวัตถุประสงค์ที่ซ่อนเร้นเอาไว้อย่างแนบเนียน เขามีผู้หญิงคนอื่นอยู่แล้ว และปอกลอกเงินจากยายมาใช้ จนเมื่อเริ่มรู้สึกตัวและเอ่ยปากปฏิเสธ ยายก็ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ และท้ายที่สุด ยายก็ต้องกลับมายังบ้านหลังเดิม ที่มีสมาชิกทุกคนรออยู่ พร้อมกับบทเรียนที่จะจดจำไปจนตลอดชีวิต

++++++++++++++++++

เรื่องที่ 2 วาตี หรือเจ๊ท เป็นผู้หญิงสุดเปรี้ยว ที่กล้าได้กล้าเสียไม่ต่างกับผู้ชาย และมีผู้ชายผ่านเข้ามาในชีวิตหลายคน ซึ่งต่างก็คิดคล้ายๆ กันว่าคนอย่างเจ๊ทคงจะเป็นผู้หญิงที่ ‘ง่าย’ ทั้งในการคบหาและมีความสัมพันธ์ด้วย โดยเห็นแต่เพียงแค่เปลือกนอกที่แสดงออกเท่านั้น รวมถึง บูรพา ชายหนุ่มรูปงามที่คล่องแคล่ว และเจ้าเสน่ห์ จนเขาคิดว่าเสน่ห์ของเขา ก็คงจะผูกเจ๊ทเอาไว้ได้ไม่ยาก

แต่เขาคิดผิด!

และนั่นเองที่ทำให้ชายหนุ่มที่ทะนงในตัวเองรู้สึกเสียหน้า จนเอาหล่อนไปพูดในทางเสียหาย โดยเฉพาะกับพายัพ พี่ชายของเขา ที่เป็นหนุ่มชาวสวนแสนซื่อ แต่เสน่ห์แบบนั้นกลับเป็นสิ่งที่ผูกใจวาตีได้มากกว่าเสน่ห์จอมปลอมของบูรพา ผู้เป็นน้องชายมากนัก วาตีสามารถพิสูจน์เอาศักดิ์ศรีของตัวเองคืนกลับมาอีกครั้งได้สำเร็จ จนบูรพาต้องล่าถอยไป แต่แล้วพายัพกลับหันไปสนใจช้องนาง ซึ่งมีบุคลิกเรียบร้อย สมเป็นกุลสตรีมากกว่าผู้หญิงอย่างเธอ แต่สำหรับวาตี เมื่อไม่สมหวังในรัก หล่อนก็พร้อมที่จะตัดใจ และก้าวไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยไม่ฟูมฟายกับอดีตอีกต่อไป

เรื่อง : เบญจรงค์ห้าสี

ผู้เขียน : รักร้อย

สำนักพิมพ์ : บูรพาสาส์น

ปีที่พิมพ์ : 2527

สองเล่มจบ

เรื่องที่ 3 ช้องนาง ช้องนางเป็นครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ภายใต้ท่าทางคงแก่เรียนเหมือนคนใจเย็นเรียบร้อย หล่อนมีความทะเยอทะยานอย่างแรงกล้า ความเป็นคนเจ้าระเบียบ ติดในกรอบ ทำให้มองเห็นแต่ข้อตำหนิของคนอื่น จนไม่มีชายใดเข้ามาติดพัน จนกระทั่งถึงพายัพ ซึ่งหล่อนก็แค่คบหากับเขาไปก่อน แต่ในเวลาต่อมาชีวิตของช้องนางก็เปลี่ยนไป เมื่อได้เจอกับลูกศิษย์วัยหนุ่มคะนองที่ชื่อปัญจะ

เด็กหนุ่มที่ร่าเริงและมีเสน่ห์สามารถเจาะทะลุกำแพงหนาทึบที่หล่อนสร้างเป็นเปลือกหุ้มเอาไว้ได้ ภายใต้ฉากหน้าของครูช้องนางที่เคร่งขรึม ไร้อารมณ์ความรู้สึกเข้ามาได้ จนทำให้ช้องนาง เผลอตัวเผลอใจไปกับเขา มันคือความแตกต่างจากชายคนอื่นที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต แม้แต่ พายัพที่หล่อนคบหาดูใจอยู่ก็ตาม ความรักต่างวัยของช้องนางก็มาถึงบททดสอบสำคัญ เมื่อหล่อนต้องเลือก และช้องนาง ก็เลือกด้วยหัวใจของตัวเอง เมื่อหล่อนตัดสินใจปฏิเสธพายัพ!

แต่แล้วชีวิตที่เริ่มต้นขึ้นด้วยวันวัยที่แตกต่างกัน ก็เป็นปัญหาในการครองชีวิตคู่ของเธอและเขา

ความเป็นเด็กหนุ่มของเขา ที่ช้องนางเคยรักและเอ็นดูจับใจนั้น เริ่มพลิกแง่มุมด้านลบของมันมาให้หล่อนเห็นบ้างแล้ว เพราะอย่างน้อยหล่อนได้ประจักษ์ข้อหนึ่งว่า ปัญจะไม่ใช่คนรับผิดชอบ และเอางานเอาการเท่าหล่อนโดยเฉพาะเกี่ยวกับครอบครัว

ในขณะที่ปัญจะเองเมื่อเริ่มมาใช้ชีวิตกับช้องนาง เขาก็มองเห็นแง่มุมที่แตกต่าง เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่อยู่ในวัยเดียวกันกับเขาอย่างเสาวรส ซึ่งมีความน่าสนใจ และสร้างความรื่นรมย์แก่ชีวิตมากกว่าหญิงสูงวัยอย่างช้องนาง!

จนในที่สุดช้องนางก็ได้ค้นพบความจริงของชีวิต และหันกลับมาเลือกเส้นทางสายเดิมอีกครั้ง

+++++++++++++++++

เรื่องที่ 4 พวงแสด เรื่องของพวงแสด น่าจะเป็นเรื่องที่สดใส และหวานสดชื่นมากที่สุดในเรื่องราวของหญิงสาวทั้งห้าคน สาวน้อยที่มองโลกในแง่ดี แสนสดใส ที่ต้องไปทำงานที่บริษัทของหนุ่มใหญ่นามระพีพัฒน์ ด้วยความน่ารักไร้เดียงสานั้นเองก็สะดุดตาผู้อำนวยการหนุ่มใหญ่อย่าง ระพีพัฒน์เข้าจริงๆ เสียแต่ว่าในวังวนของความรักครั้งนี้ มีตัวแปรของสาวๆ ที่เคยมาห้อมล้อมรอบตัวของเขาคอยขัดขวาง โดยเฉพาะอรนุช สาวใหญ่ที่มีสามีและลูกแล้ว แต่มาติดพันระพีพัฒน์จนเกิดความหึงหวง และวางแผนการเพื่อสกัดความรักของพวงแสดกับระพีพัฒน์ให้บรรลุผลให้ได้

แต่งานนี้ สุดท้าย ตัวร้าย ก็ต้องพ่ายแพ้แก่นางเอกไปตามระเบียบ

เรื่องที่ 5 ปาริมา เด็กสาวแสนสวยที่มาจากครอบครัวยากจน ต้องส่งเสียตัวเอง และด้วยรูปโฉมที่สวยสะดุดตา นำพาเธอก้าวเข้าสู่แวดวงสังคมของคนอีกระดับหนึ่ง และได้พบกับชนายุ ชายหนุ่มที่เธอเข้าใจว่าเป็นเสมือนเทพบุตรในความฝัน แต่แล้วความจริงก็ทำให้เธอค้นพบว่า เทพบุตรที่แท้จริงอาจจะไม่ได้อำพรางโฉมภายใต้หน้ากากที่สวยหรู งดงาม แต่อาจจะเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาๆ อย่าง ‘กล้า’ ที่มีหัวใจรักให้กับเธออย่างแท้จริง

ความรู้สึกที่มีต่อกันนั้น เป็นไปอย่างละเมียดละไมอ่อนหวาน จนไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายบึกบึนอย่างกล้าจะแสดงความลึกซึ้งได้ถึงเพียงนี้ ทำให้หล่อนรู้ว่าความรักนั้น สามารถแยกออกได้จากความใคร่ แม้ว่าดูเผินๆ จะเหมือนกันก็ตาม

สิ่งนี้แหละที่ขาดไปในตัวชนายุ!

+++++++++++

สำหรับ เบญจรงค์ห้าสี เคยสร้างเป็นละครช่อง 3 ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2528 นำแสดงโดย คุณเดือนเต็ม สาลิตุล (มนสินี) คุณมยุรา ธนะบุตร (วาตี) คุณดวงใจ หทัยกาญจน์ (ช้องนาง) คุณอุทุมพร ศิลาพันธ์ (ปาริมา) และคุณอลิษา ขจรไชยกุล (พวงแสด) ในส่วนของตัวละครชายนั้น คุณนพพล โกมารชุน (ระพีพัฒน์) คุณชลิต เฟื่องอารมย์ (ณัฐการ) คุณธงไชย แมคอินไตย์ (ชนายุ) คุณเป็นหนึ่ง ไชยชิต (ปัญจะ) คุณอภิชาติ หาลำเจียก (ราวี) คุณจริยา สรณคม (เม้ย-เมธ์วดี)

ในเวอร์ชั่นละครโทรทัศน์ช่อง 7 เมื่อปี พ.ศ. 2539 ที่ผมมีโอกาสได้ชมเต็มเรื่องนั้น นำแสดงโดย คุณจินตหรา สุขพัฒน์ (มนสินี) คุณชฎาพร รัตนากร (ช้องนาง) คุณณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ (ปาริมา) คุณสุภาภรณ์ คำนวณศิลป์ (วาตี) และคุณฌัชฌา รุจินานนท์ (พวงแสด) โดยดารานำชาย ประกอบด้วย คุณขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย (ณัฐการ) คุณอนิรุทธ์ เถรว่อง (บูรพา) คุณบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ (พายัพ) คุณศตวรรษ ดุลยวิจิตร (ระพีพัฒน์) และคุณรัฐธรรมนูญ ศรีฤกษ์ (กล้า) สำหรับภาพประกอบดารานำหญิงทั้งห้าท่าน ผมนำมาจากเพจบันเทิงเรื่องอดีต ซึ่งต้องขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

Don`t copy text!