มิถิลา- เวสาลี

มิถิลา- เวสาลี

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

**************************** 

สนับสนุนอ่านเอาด้วยการสั่งซื้อหนังสือ “ในสวนอักษร” คลิกที่นี่

รักร้อย จิรัฐิติกาล เป็นนามปากในยุคแรกๆ ของ ว.วินิจฉัยกุล นักประพันธ์นวนิยายและศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2547 สำหรับผลงานเรื่องนี้ น่าจะเป็นผลงานนวนิยายเรื่องแรกของท่าน ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร สตรีสาร ก่อนจะนำมารวมเล่มในนามปากกานี้เป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ภายหลังจากนั้นจึงได้เปลี่ยนเป็น ว.วินิจฉัยกุล ในการพิมพ์ครั้งต่อๆ มา

มิถิลา เวสาลี เป็นเรื่องราวของผู้หญิงสองคนที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

คนหนึ่งสวย กล้า ปราดเปรียว อารมณ์แรง ใจกล้า ลักษณะดังดวงอาทิตย์ที่งามประหลาดบาดตายามโผล่พ้นขอบฟ้าด้านบูรพา คนที่หลงชื่นชมไออุ่นนั้นจะร้อนผ่าวเมื่ออาทิตย์ดวงเดียว เคลื่อนสูงขึ้นตรงกลางฟ้า แทบจะเผาผลาญทุกสิ่งเป็นจุล อีกคนหนึ่งเยือกเย็นนุ่มนวล งามอ่อนหวานเหมือนจันทร์เต็มดวง ฉายแสงต้องกลีบดอกบัว ให้คลี่ขยายกลางสระน้ำอันไหวระลอกระยิบระยับ

ระหว่างดวงสุริยันและจันทราดวงไหนเล่าจะให้ความชุ่มชื่นใจแก่ผู้หวังชมแสงกระจ่างทั้งสองนั้น

มิก หรือ มิถิลา นฤเบศรมนตรี  ธิดาคนเดียวของคุณโกศลและคุณหญิงมยุเรศ มีพี่ชายคือ สีวี ซึ่งต่างก็ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ เมื่อเธอต้องเดินทางกลับมายังเมืองไทย จึงนึกถึง ลูกพี่ลูกน้อง ‘เวสาลี’ หรือวาว ซึ่งเป็นลูกสาวคนกลางของคุณกมล น้องชายพ่อเธอขึ้นมา

คุณกมลมีลูกสาวสามคน แววนภา เวสาลี และวรรณมาศ ด้วยฐานะที่ค่อนข้างยากจน แตกต่างจากมิถิลา ทำให้ทั้งแววนภาและวรรณมาศมีความทะเยอทะยาน ใฝ่ฝัน ในขณะที่เวสาลี ลูกสาวคนกลาง จะเยือกเย็นและรักความสงบมากกว่า เวสาลีตัดสินใจ ไปอยู่ที่คฤหาสน์ของมิถิลา ด้วยความเห็นใจญาติผู้พี่ที่ต้องอยู่เพียงลำพัง แม้ว่ารมย์ เพื่อนหนุ่มคนสนิทของเธอ จะทักท้วง เพราะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของมิถิลามาก่อนก็ตาม

ที่นั่น เวสาลีจึงรู้ว่ามิถิลามี ‘บังสูรย์ รังสิกร’ คู่หมั้นหนุ่มรูปงาม คอยติดตามเธออยู่แล้ว แต่ดูเหมือนมิถิลาจะไม่ชอบหน้าเขามากนัก บังสูรย์ขึ้นชื่อในเรื่องการใช้ชีวิตเพลย์บอย คบหาผู้หญิงไม่เลือกหน้า เขาหมั้นหมายกับมิถิลา เพราะสีวีเป็นเพื่อนสนิทและแนะนำให้คบหากัน

บังสูรย์เป็นชายหนุ่มรูปงาม ใบหน้าคมเข้ม ร่างกายสูงใหญ่ แตกต่างจากเจ้าคุณพระยาราชรังสีผู้เป็นบิดา แม้ว่าเขาจะเป็นทายาทชายเพียงผู้เดียว ปมในอดีตของเขา ทำให้บังสูรย์มีความรู้สึกต่อเพศหญิงไม่ต่างกับเป็นเครื่องเล่นสนองอารมณ์ เนื่องจาก บิดาของเขาไม่ได้มีคุณหญิงเรียมเป็นภรรยาคนเดียว แต่ท่านได้ชุบเลี้ยงภรรยาน้อยไว้จำนวนมากอาศัยอยู่ภายในบ้าน รวมถึงคุณอาบ ภรรยาคนแรก ที่ไม่ได้ยกย่องขึ้นด้วย

ดูเหมือนว่าภรรยาเหล่านั้นจะไม่ได้เกรงกลัวคุณหญิงเรียม มารดาของเขาเลย ตรงกันข้าม ทุกคนมีท่าทีดูถูกและเหยียดหยามเขา นั่นยิ่งทำให้บังสูรย์เกลียดชังสตรีเพศเหล่านั้นมากยิ่งขึ้นไปอีก สิ่งเหล่านี้ได้บ่มเพาะให้เขาเติบโตขึ้นมาเป็นชายหนุ่มที่ไม่เคยจริงจังกับความรัก หรือแม้แต่กับมิถิลา ที่เขาหมั้นหมายกับหล่อนตามความเหมาะสมและฐานะ

บังสูรย์ มาทำงาน ที่โรงแรมสุริยันอันหรูหรา โดยมีปัญชรีเป็นรองผู้จัดการ หล่อนเองก็ชอบเขาอยู่ไม่น้อย เมื่อบังสูรย์ได้มาเห็นเวสาลี เขาเกิดความประทับใจ และติดต่อให้หล่อนไปประกวดนางงาม โดยโรงแรมสุริยันเป็นผู้ส่งประกวด แต่เวสาลีปฏิเสธอย่างไม่ไยดี ยิ่งทำให้บังสูรย์เกิดความสนใจหล่อนมากขึ้น ในขณะที่บัญชรีเองหันไปติดต่อวรรณมาศ น้องสาวเวสาลี ให้ไปประกวดแทน วรรณมาศอยากจะมีชื่อเสียงอยู่แล้ว จึงไม่ปฏิเสธ แม้ว่าภายหลังจะไม่ได้เข้ารอบห้าคนสุดท้ายก็ตาม

การปฏิเสธของเวสาลีนั้น พ่อแม่หล่อนเข้าใจผิดว่าเป็นเพราะรมย์ ทั้งคู่จึงไปต่อว่าชายหนุ่มถึงบ้าน ทำให้พ่อแม่รมย์ยิ่งรู้สึกไม่พอใจเวสาลี รวมถึงมีอคติกับฐานะของหล่อนมาตั้งแต่ต้น จนหาเหตุบังคับให้เขาเลิกติดต่อคบหา

รมย์เองก็เป็นคนจิตใจโลเล เมื่อได้พบและใกล้ชิดกับมิถิลา ซึ่งความสวยสะพรั่งสะดุดของหล่อน ทำให้เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่าง มิถิลาเองไม่เคยเจอผู้ชายอย่างรมย์ที่อ่อนหวานเอาอกเอาใจ แตกต่างจากบังสูรย์ที่เป็นคนแข็งกระด้าง เอาแต่ใจตัวเอง ทำให้หล่อนเกิดความประทับใจ จนในที่สุดรมย์ก็หาเหตุผลมาอ้างกับเวสาลี เพื่อเลิกรากับหญิงสาวได้สำเร็จ จากนั้นเขาและมิถิลาก็ตัดสินใจแต่งงานกัน ท่ามกลางความยินดีของบิดามารดาของรมย์

เวสาลีแม้จะรู้สึกเสียใจสักเพียงใด แต่ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งทำให้หล่อน กลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง แม้ว่าสถานการณ์ทางบ้านจะยิ่งแย่ลงสักเพียงใด แววนภาเลิกรากับชายคนรักไปเป็นเมียน้อย นายพลบันทึกที่เคยมาติดพันเวสาลีมาก่อน เมื่อพลาดจากหล่อนจึงหันมาทางพี่สาวที่เห็นแก่เงิน ในขณะที่ วรรณมาศหลังจากประกวดนางงามแล้ว หล่อนก็มาเป็นดาราภาพยนตร์ จนท้ายสุดก็กลายมาเป็นถ่ายแบบนู้ด เพื่อหาเงินมาสนองความต้องการทางวัตถุ

ดูเหมือนมีเวสาลีเท่านั้นที่อยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ โดยมีสายตาของบังสูรย์ที่แอบสังเกตหล่อนตลอดเวลาด้วยความห่วงใย เขาไม่รู้ตัวเองว่าเกิดความประทับใจในตัวหล่อนขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไรกัน

ชีวิตของบังสูรย์ผู้พรั่งพร้อม ก็ถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เมื่อบิดาของเขาเสียชีวิตลง และท่านได้ยกมรดกต่างๆ ให้กับคุณอาบ โดยที่เขาและมารดาแทบไม่มีส่วนใดๆ ทั้งสิ้น ในที่สุดความจริงก็เปิดเผยว่าเขาไม่ใช่เลือดเนื้อของท่าน แต่เป็นลูกติดที่เกิดจากชายมุสลิมที่ชื่อ นารัณ

คุณหญิงเรียม ตัดสินใจเล่าความจริงให้เขาฟัง ในอดีตเธอคือมิเรียม อาศัยอยู่ยังจังหวัดชายแดน และเมื่อท่านเจ้าคุณเดินทางไปราชการ จึงเกิดความพอใจและสู่ขอมาเป็นภรรยา แต่แล้ว นารัณ ซึ่งเป็นชายหนุ่มอีกคนหนึ่งก็แอบหลงรักเธอ เขาตัดสินใจฉุดคร่าเธอไป แม้ว่าทุกคนจะตามไปช่วยเหลือกลับมาได้ แต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ทำให้เธอตั้งครรภ์

เจ้าคุณเองก็ไม่รู้ ท่านหลงเข้าใจผิดว่าเขาคือลูก จนเมื่อบังสูรย์เติบโตขึ้นมารูปร่างหน้าตาของเขากลับไปเหมือนชายชื่อนารัณผู้นั้น จนท่านสอบถามจากคุณหญิงและล่วงรู้ความจริงในที่สุด

บังสูรย์เสียใจเหมือนโลกทั้งใบถล่มลงมาต่อหน้า เขาและมารดาออกจากบ้านอันโอ่โถงที่เคยอยู่มาตั้งแต่เด็กไปอาศัยอยู่ที่อื่น แม้แต่งานโรงแรมที่เคยทำกับบัญชรี หล่อนก็ไม่ต่อสัญญากับเขาอีก เพราะคิดว่าฐานะของบังสูรย์เปลี่ยนไปแล้ว เขาตัดสินใจเดินทางไปมาเลเซีย หมุดหมายสุดท้ายที่ทราบว่าบิดาที่แท้จริงไปทำงานอยู่ที่นั่น ก่อนจะได้พบกันและรู้ชาติกำเนิดของตัวเองในที่สุด

ในเวลานี้เองที่เขากลับนึกถึงสาวน้อยเวสาลี ที่ลาออกจากบ้านของมิถิลาภายหลังจากหล่อนแต่งงานกับรมย์อดีตคนรัก ซ้ำนายพลบันทึกผู้มีอิทธิพลก็พยายามจะเข้ามา ‘ซื้อ’ หล่อนให้ตกเป็นสมบัติของตน เขาจึงขอให้เพื่อนคนหนึ่งไปชักชวนให้หล่อนมาทำงานเป็นคนดูแล คุณหญิงเรียมมารดาของเขาที่ตอนนี้อาศัยเพียงลำพัง เวสาลีไม่รู้ว่าคุณหญิงเรียมคือมารดาของบังสูรย์ ชายหนุ่มที่เคยเกลียดขี้หน้ามาก่อน จึงยอมตกลง

เมื่อก่อนบังสูรย์เคยทะนงในตัวเองนักหนา เคยหลงงมงายกับความฟุ้งเฟ้อรอบตัว เชื่อมั่นว่ารูปสมบัติและคุณสมบัติของตัวนั้นเด่นไม่มีใครสู้ แล้วจู่ๆ ในวิถีชีวิตอันฟุ้งเฟ้อไร้สาระระคนอยู่แต่ในรสโลกีย์เหล่านั้น ผู้หญิงคนหนึ่งผ่านเข้ามาในชีวิตเขาอย่างเงียบเชียบ แต่เต็มไปด้วยอิทธิพลอย่างเหลือร้าย

เวสาลี!

เขายอมรับว่าบัดนี้เขาหลงรักในความดีของเวสาลี และเมื่อยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นเท่าใดก็ยิ่งห่วงหาอาทร จนอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับเธอ และก่อนที่เวสาลีจะตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น บังสูรย์ก็ตัดสินใจขอเธอแต่งงาน

เวสาลีขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความรัก ความมั่นคงระหว่างเธอกับเขา โดยไม่ได้ตอบรับและปฏิเสธแต่อย่างใด เธอรับรู้ว่าบังสูรย์ ณ วันนี้ กับวันแรกที่ได้เจอกัน มีความแตกต่างกันทั้งความคิดและทัศนคติไปมาก เขาเติบโตขึ้น แต่หญิงสาวก็รู้ดีว่า หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตยังต้องอาศัยการพิสูจน์ และกาลเวลาก็จะเป็นเครื่องตัดสินในสิ่งเหล่านี้

ส่วนชีวิตคู่ที่เริ่มต้นและผ่านความหวานละมุนไปของมิถิลาและรมย์นั้นเล่า?

มิถิลาเพิ่งเข้าใจการแต่งงานที่แท้จริงบัดนี้เอง มันไม่ได้จบลงเมื่อเธอและรมย์เข้าสู่ประตูวิวาห์แม้แต่น้อย ที่จริง ประตูนั้นคือหนทางไปสู่ชีวิตใหม่ เต็มไปด้วยขวากหนามต่อจากปากทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบสีชมพูล่อนัยน์ตา คู่แต่งงานน้อยคู่นักสามารถจูงมือกันฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้จนถึงจุดหมายปลายทาง

และชีวิตคู่ของเธอก็กำลังถูกพิสูจน์อย่างหนักหน่วง รมย์เองแม้จะชินกับชีวิตสะดวกสบายที่มิถิลาปรนเปรอให้ แต่เขาก็เริ่มรู้สึกตัวว่าแตกต่างกับหล่อนมาก ทั้งความคิด ทัศนคติและความแตกต่างของฐานะสังคม มันยิ่งทำให้นึกหวนนึกเสียดายเวสาลีขึ้นมา ซ้ำทางบ้านก็ยังพยายามให้เขาหยิบยืมเงินของมิถิลามาใช้จ่ายอีกเพราะเห็นว่าหล่อนคือขุมทรัพย์ที่พร้อมจะให้ถลุงใช้อย่างสบายมือ ในขณะที่มิถิลาก็มองรมย์ไม่ต่างกับวัตถุที่หล่อนครอบครอง จนกลายเป็นความหึงหวง ทั้งคู่ต่างมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง และในที่สุดทั้งคู่ก็มาถึงจุดระเบิด เมื่อรมย์ไม่อาจทนอยู่ในกรอบที่มิถิลาวางเอาไว้เขาได้อีกต่อไป รมย์ตัดสินใจแยกกันอยู่กับเธอ ก่อนที่จะทำเรื่องหย่าขาดกันในเวลาต่อมา

เรื่อง : มิถิลา- เวสาลี

ผู้เขียน : รักร้อย จิรัฐิติกาล

สำนักพิมพ์ : แพร่พิทยา

ปีที่พิมพ์ : 2514

เล่มเดียวจบ

เวสาลีกลับมาจากญี่ปุ่น คราวนี้เธอกับบังสูรย์ได้มีโอกาสได้พิสูจน์หัวใจในกันอีกครั้งจนต่างแน่ใจ และทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะแต่งงานกันในที่สุด

ชีวิตแต่งงานของเวสาลีกับบังสูรย์ เผชิญกับอุปสรรคต่างๆ ผ่านเข้ามาเป็นบททดสอบไม่ต่างกับคู่ของรมย์และมิถิลาเลย แต่ด้วยความรักความเข้าใจที่มีต่อกันนั่นต่างหาก ที่นำพาทั้งคู่ให้ฝ่าฟันไปถึงปลายทางได้ รวมถึงการมีโซ่ทองคล้องใจที่ช่วยเชื่อมความรักระหว่างเขาและเธอให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

“ดิฉันบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมถึงรักคุณ เพราะความรักครั้งนี้ผิดกว่าครั้งแรกมาก ดิฉันรู้แต่ว่าเต็มใจจะแต่งงานกับคุณ เต็มใจจะพบอุปสรรคต่างๆ หลังการแต่งงาน ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น ดิฉันทนทุกอย่างได้เพื่อคุณ เดี๋ยวนี้ดิฉันกำลังจะมีลูก… ลูกที่รวมที่ชีวิตของเราไว้ด้วยกัน นึกหรือคะว่าดิฉันจะทิ้งชีวิตของเราเสียได้”

จากม่านน้ำตานั้น เวสาลีเห็นสามียืนอยู่ตรงหน้า สีหน้าของเขาแสดงถึงความรู้สึกลึกซึ้งที่สุดเท่าที่หญิงสาวเคยเห็นมา โดยไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เขาอ้าแขนออก เวสาลีเคลื่อนตัวเข้าสู่อ้อมแขนนั้น ถึงไม่ใช่ครั้งแรก แต่หญิงสาวรู้สึกว่าครั้งนี้เอง ที่ทั้งคู่ไม่มีฉากกั้นอยู่ระหว่างกลางอีกต่อไปแล้ว

และทั้งมิถิลากับเวสาลี ต่างก็นำพาชีวิต ให้เดินทางมาสู่บทอวสานของเรื่องนี้ ในแบบฉบับของแต่ละคน ตามทางเลือกของตัวเอง

Don`t copy text!