รักเจ้าเอ๋ย

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

‘รักเจ้าเอ๋ย’ เป็นนวนิยายยุคเก่าของนักเขียนรุ่นครูในอดีต รัตนา นภดล ภายในเล่มประกอบด้วย รักเจ้าเอ๋ย อันเป็นนิยายขนาดสั้น และเรื่องสั้นอีกสองเรื่องคือ คนอย่างจันทร และ ในแดนรัก จากข้อมูลพบว่า นิยายเรื่องนี้เคยลงเป็นตอนๆ ในนิตยสาร ศรีสัปดาห์ ในช่วงปี พ.ศ. 2495 ร่วมกับผลงานของนักเขียนเอกในยุคนั้น เช่น ปลายทางชีวิต ของ จินตะหรา เรื่องสั้น ของ กัญญ์ชลา เป็นต้น นอกจากนี้ รัตนา นภดล ยังมีผลงานเรื่อง สิ่งเดียวที่ปรารถนา ลงต่อจากนิยาย รักเจ้าเอ๋ย ในเวลาต่อมาอีกด้วย

สำหรับ รักเจ้าเอ๋ย บอกเล่าเรื่องราวของรัดเกล้า รัตนา ญาติสาวรุ่นน้องของดุจเดือน รัตนา ธิดาของพระสิริราชพานิชย์ ซึ่งท่านรับอุปการะรัดเกล้าที่กำพร้าบิดามารดามาตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้สองสาวพี่น้องมีความสนิทสนมกันอย่างดี ต่อมาเมื่อรัดเกล้าเริ่มเติบโตเป็นสาวน้อย พระสิริพานิชย์ก็มอบรัดเกล้าให้อยู่ในความดูแลของหลวงชำนาญการค้า (ดำเกิง สุนทร) ชายสูงวัยที่มีนิสัยเจ้าชู้ และรัดเกล้าก็จำทนต้องอยู่ร่วมบ้านของหลวงชำนาญอย่างลำบากใจ จนความอดทนถึงที่สุดในคืนวันหนึ่ง

หญิงสาวหนีออกจากบ้านเพื่อกลับมาหาดุจเดือนที่เธอรักนับถือเหมือนพี่สาว แต่ระหว่างนั้นเองที่รัดเกล้าแอบได้ยินหญิงชายคู่หนึ่งกำลังพร่ำพลอดรักกันอยู่ จึงรู้ว่าฝ่ายหญิงชื่อเยาวดี และ ฝ่ายชายมีนามว่าคธา สุริยกุล พ่อค้านักธุรกิจหนุ่มผู้ร่ำรวย ทั้งที่เยาวดีเองมีสามีอยู่แล้ว ก็คือวิโรจน์

เมื่อกลับมาที่บ้านดุจเดือน เธอจึงรู้ว่าพระสิริพานิชย์ติดต่อให้ดุจเดือนหมั้นหมายและแต่งงานกับบุรุษที่ท่านสรรหาว่าเหมาะสมและมีฐานะร่ำรวย ซึ่งก็คือคธา สุริยกุล นั่นเอง!

ดุจเดือนปรึกษากับรัดเกล้าอย่างกลุ้มใจ เพราะเธอมีชายคนรักคือชัช เชาวลิต อยู่แล้ว ชัชพยายามเสาะหาเงินทองเพื่อจะมาสู่ขอดุจเดือน แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากพระสิริพานิชย์ ที่รังเกียจเพราะฐานะต้อยต่ำ รัดเกล้าเองก็รู้ว่าพระสิริพานิชย์เองไม่ชอบเธอ พยายามผลักไสให้ไปอยู่กับ หลวงชำนาญ ทำให้หญิงสาวตัดสินใจที่จะช่วยเหลือให้ดุจเดือนสมรักกับชัช โดยการสวมรอยแต่งงานแทน!

อาศัยที่มีเค้าหน้าคล้ายคลึงกัน ในงานแต่งงานนั้นเอง จึงไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติ ขณะที่ดุจเดือนก็หนีไปแต่งงานกับชัชสมดังความปรารถนา และเมื่อเหตุการณ์ผ่านไปเรียบร้อย ทุกคนจึงรู้ความจริง หากก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้แล้ว

รัดเกล้าไม่เคยชอบหน้าคธาตั้งแต่แรก เพราะแอบได้ยินประโยคที่เขาพลอดรักกับเยาวดี มาก่อน และนิสัยของเธอก็ไม่เคยเชื่อมั่นในความรัก คิดว่าเพศชายไม่เคยมีความรักแท้จริงให้กับผู้หญิง ขณะที่คธาเองก็มีปมเป็นเด็กกำพร้าที่คุณย่าของเขานำมาชุบเลี้ยง และให้นามสกุลใหม่แก่เขา ทำให้ชายหนุ่มที่มีนิสัยอ่อนโยน ต้องแปรเปลี่ยนเป็นคนกระด้าง ก้าวร้าว จนดูเหมือนไม่สนใจความรู้สึกของใครทั้งสิ้น

สองหนุ่มสาวที่ไม่เคยรักกันมาก่อน แต่ต้องมาอยู่ร่วมกัน ต้องเดินทางไปยังบ้านสุริยกุลที่กาญจนบุรี อันเป็นบ้านเกิดของคธา และที่นั่นเอง ความลับบางอย่างก็ถูกเปิดเผยอออกมาจากคุณย่าของคธานั่นเอง

เธอมีนามสกุลว่าสุนทร เช่นเดียวกับหลวงชำนาญ ชายเจ้าชู้ที่รัดเกล้าเคยหนีจากมาก่อนหน้า รัดเกล้าจึงรู้ความจริงว่า คุณย่าของคธาได้แต่งงานกับพระยาสุริยาสุนทร ต้นนามสกุลสุนทร และมีลูกชายสองคนคนโต ชื่อคคนานต์ และคนน้องก็คือดำเกิง หรือหลวงชำนาญนั่นเอง

คคนานต์แต่งงานกับสร้อยระย้า และสร้อยระย้า ก็ตายจากไปด้วยโรคประจำตัว ส่วนดำเกิงไปอาศัยอยู่กรุงเทพฯ ภายหลัง คคนานต์เมาเหล้าจนเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตลง ทว่าในพินัยกรรมของเขา ได้เขียนยกมรดกให้ลูกชายคนเดียวที่เกิดกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง!

สม เป็นเด็กสาวชาวบ้านป่า ที่มีความสัมพันธ์ลับๆ กับคคนานต์ จนเกิดทารกเพศชายชื่อดำ ภายหลังเด็กสาวเสียชีวิตลง และคคนานต์ก็รับอุปการะดำลูกชายของเขาเอาไว้ และเมื่อเขาเสียชีวิตลง มรดกทั้งหมดแทนที่จะตกเป็นของหลวงชำนาญน้องชาย จึงกลายเป็นดำ ลูกชายนอกสมรสเพียงคนเดียว

มีเพียงมารดาของเขาที่รับอุปการะดำเอาไว้ และตั้งชื่อให้ว่าคธา โดยให้ใช้นามสกุลใหม่ว่า สุริยกุล เด็กชายเติบโตมาอย่างดีภายใต้การเลี้ยงดูของคุณย่า คธาเป็นเด็กน่ารัก อารมณ์ดีและมีเหตุผล จนหลวงชำนาญ มาบอกความจริง ทำให้เขากลายเป็นคนก้าวร้าว นิสัยร้ายกาจ เพราะเกิดปมในใจว่าไม่ใช่สายเลือดของคุณสร้อยระย้า แต่คธาก็เรียนต่อจนสำเร็จ และหันมาประกอบอาชีพนักธุรกิจ รวมถึงทำเหมืองที่กาญจนบุรี บ้านเกิดแห่งนี้ด้วย ความขัดแย้งในใจระหว่างสองหนุ่มสาว เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ในขณะเดียวกันก็เปิดช่องว่างให้ต่างมองเห็นหัวใจที่เอนเอียงมายังกันและกันด้วย

เรื่องราวใน รักเจ้าเอ๋ย ผ่านการพิสูจน์ความรักและความเข้าใจ กว่าที่สองหนุ่มสาวจะมองเห็นตัวตนที่แท้จริง และยอมรับในความรักที่ต่างก็มีให้กันอย่างเต็มเปี่ยมไปทั้งหัวใจ

บัดนี้ เธอรู้ความจริงแล้ว

เธอรักเขา เธอแลเห็นอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งในทันทีทันใดว่า เหตุผลที่ทำให้เธอวิ่งหนีไปจากเขาและ “สุริยกุล” เมื่อสามวันก่อน ไม่ใช่เพราะเธอจะหนีไปให้พ้น ผู้ชายคนที่เป็นสามีของเธอตามกฎหมาย แต่เพราะจะหนีให้พ้นจากความรัก!

แต่เพราะรักเจ้าเอ๋ยนี่เอง ที่ทำให้รัดเกล้าไม่อาจหนีไปจากอ้อมอกอันแข็งแกร่งของคธา สุริยกุล ได้อีกเลยตลอดชีวิต!

เรื่อง : รักเจ้าเอ๋ย

ผู้เขียน : รัตนา นภดล

สำนักพิมพ์ : แพร่พิทยา

ปีที่พิมพ์ : 2498

เล่มเดียวจบ

จากนิยายรักแสนหวานอบอวลไปด้วยความรักของ รักเจ้าเอ๋ย รัตนา นภดล พาผู้อ่าน ไปรู้จักชีวิตของเด็กหญิงจันทร์ หรือจันทร ใน ‘คนอย่างจันทร’

จันทรเด็กหญิงบ้านนอก ได้รับความอุปการะจากท่านหญิงนภาโสภาคย์ ภายหลังแม่เจียน อดีตนางข้าหลวง ได้เข้ามาหาและมอบเด็กหญิงตัวน้อยเอาไว้ ท่านหญิงผู้โอบอ้อมอารีหวังจะส่งเสียจันทรให้ประสบความสำเร็จก้าวหน้าในชีวิต โดยไม่อาจล่วงรู้ว่าภายใต้ท่าทางสงบนิ่งเฉยของจันทร คือไฟร้อนที่พร้อมที่จะแผดเผาทุกคนให้ราพณาสูร ด้วยความทะเยอทะยานอยาก และความเกลียดชังที่ซ่อนเร้นอย่างมิดเม้นเอาไว้

จันทรเกลียดท่านหญิง เกลียดศักดินาที่ตนเองต้องเรียกท่านด้วยราชาศัพท์ และยิ่งเมื่อต้องไปอยู่โรงเรียนของพระสหายท่านหญิงที่มีแต่เพื่อนเป็นราชนิกูล นามสกุลดังๆ ทั้งนงเยาว์ และนวลผ่อง ก็ยิ่งเพิ่มความริษยาให้กับจันทรมากขึ้น

หล่อนพยายามที่แข่งกับทุกคน และต้องการจะเรียนให้ถึงปริญญา ไม่ใช่เพราะความรู้ แต่ต้องการมีสิ่งที่เหนือกว่าท่านหญิง หรือเพื่อนคนอื่นๆ แต่เพราะโชคร้าย จันทรเป็นวัณโรคเสียก่อน จึงไม่มีโอกาสนั้น และจันทรก็ทุ่มโทษไปที่คนรอบข้าง รวมถึงท่านหญิงที่ทรงชุบเลี้ยงมาว่าเป็นตัวการ คอยยับยั้งความก้าวหน้าของตัวหล่อนเอง!

เมื่อสิ้นท่านหญิงลง และเพื่อนๆ รวมถึงนงเยาว์ได้เรียนต่อในมหาวิทยาลัย วังอันโอ่อ่าที่เคยอาศัยก็ล่มสลาย จันทรต้องออกไปอาศัยอยู่กับครอบครัวนายชอบ และนางปาน หากสุดท้าย จันทรกลับทรยศต่อนางปาน คว้านายชอบมาเป็นสามี เมื่ออีกฝ่ายถูกหวยมีเงินทองมากขึ้น และชวนนายชอบให้หนีไปพร้อมกับตน

ฉากสุดท้ายของ คนอย่างจันทร เมื่อเธอมองเห็นนงเยาว์ อดีตเพื่อนที่กำลังรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ขับรถผ่านไปพร้อมกับคู่หมั้นหนุ่มรูปงาม จันทรในสภาพหญิงชาวบ้านกับนายชอบได้แต่มองภาพนั้นด้วยความริษยา และอดไม่ได้เช่นเดิมที่จะเอ่ยถึงอดีตเพื่อนของตนในทางลบ ขณะที่นงเยาว์เองก็มองเห็นจันทรเช่นกัน และสำหรับหญิงสาวแล้ว จันทรคืออดีตเพื่อนที่ครั้งหนึ่งเคยผ่านเข้ามาในชีวิต และจากไป โดยไม่หวนกลับคืนมาอีกเช่นกัน!

สำหรับ ‘ในแดนรัก’ อันเป็นเรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายในเล่ม บอกเล่าชีวิตครอบครัวของธัญ กับวัจฉละ ที่เพิ่งใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกัน โดยที่ธัญสูญเสียเสาวลักษณ์ ภรรยาของเขาไปเมื่อสองปีก่อน แต่เมื่อต้องมาอยู่ร่วมบ้านที่มีแต่อดีต และความทรงจำเกี่ยวกับภรรยาเก่าของเขาตลอดเวลา ทำให้วัจฉละรู้สึกน้อยใจ ยิ่งเมื่อธัญนำสร้อยเพชรของเสาวลักษณ์มาให้เธอใส่เพื่อไปร่วมงานวันเกิดของ วุฒิ ผู้เป็นพี่ชายเสาวลักษณ์

หญิงสาวนำสร้อยนั้นไปที่บ้านหม้อเพื่อพิสูจน์ และพบว่ามันเป็นสร้อยเพชรราคาแพง เช่นเดียวกับอุปกรณ์ตกแต่งบ้านอันแสนหรูหรา ที่เสาวลักษณ์จัดหามาระหว่างที่ธัญเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ความประหลาดใจมาถึงคำตอบสำคัญในคืนวันนั้นเอง เมื่อวัจฉละได้พบกับ ทำนุ เพื่อนของพี่ชาย และจดจำสร้อยเส้นนั้นได้ เขาขอซื้อมันคืน เพราะมันคือสร้อยเพชรล้ำค่าที่ เสาวลักษณ์เคยมาขอกับเขา เพื่อแลกกับความสัมพันธ์อันพิเศษเกินเพื่อน!

วัจฉละตกใจกับความจริง เพราะธัญยังพร่ำเพ้อถึงเสาวลักษณ์ที่เป็นภาพสวยงามในใจเขาเสมอ และหนทางเดียวที่เธอคิดไว้ก็คือการนำสร้อยเส้นนั้นไปขายให้กับทำนุเพื่อนำเงินมาปรับเปลี่ยนบ้านหลังนี้ใหม่ ไม่ให้เหลือความทรงจำเกี่ยวกับเสาวลักษณ์อีกต่อไป

แต่ธัญก็จับได้ จนทำให้เธอต้องเล่าความจริงทั้งหมดให้เขารับฟัง เกี่ยวกับเสาวลักษณ์ อดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์กับชายอื่นเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย ระหว่างที่เขาไปทำงานหาเงินต่างประเทศ ธัญอาจเจ็บปวด แต่ในที่สุดชายหนุ่มก็เข้าใจ และมองเห็นความดีงามของวัจฉละ ผู้หญิงที่ยืนเคียงข้าง และอยู่กับความเป็นจริงของเขา มากกว่าเสาวลักษณ์ที่อยู่เพียงแค่ในภาพฝันเท่านั้น!