ชีวิตมิใช่นวนิยาย

ชีวิตมิใช่นวนิยาย

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

****************************

คลิกซื้อ E-Book ‘ในสวนอักษร’ ที่นี่

 

ปะการังและตลียา สองคนเพื่อนรัก ต่างก็มีความฝันอันสวยงามในช่วงวัยเรียนอันสดใส ปะการัง มี เวทานต์ หนุ่มวิศวะรุ่นเดียวกันเป็นคนรัก ในขณะที่ตลียาเอง ก็มี “พี่โต” หรือภควา หนุ่มวิศวะรุ่นพี่ที่มาชอบพอติดพัน ชีวิตของสองสาวในเวลานั้นช่างลงตัวงดงามไม่ต่างกับนวนิยายอันแสนหวาน แต่แล้วเมื่อต่างเรียนจบ และออกไปใช้ชีวิตในโลกภายนอก ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป…

ในเวลานี้ ปะการังแต่งงานกับเวทานต์ หล่อนทำงานเป็นทั้งแม่บ้านและเป็นครูโรงเรียนอาชีวะที่อยู่ไกลแสนไกล ขณะที่เวทานต์ก็ทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งโดยมีรายได้เพียงน้อยนิดแทบไม่เหลือเก็บ เขาต้องไปหยิบยืมเงินบิดามาช่วยจุนเจือเผื่อผ่อนบ้านและรถ ความฝันที่ต่างเคยวางร่วมกันไว้ในวัยหนุ่มสาวเริ่มเหือดหายลงไปเรื่อยๆ ตราบจนกระทั่งการกลับมาจากต่างประเทศ ของ ภควา และตลียา

ภควา คือวิศวกรหนุ่มใหญ่รูปงาม มีฐานะร่ำรวย เขาไปเรียนต่อปริญญาโทที่เยอรมันและแต่งงานกับตลียา ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นหลายปี ก่อนจะตัดสินใจลาออกและกลับมาเมื่องไทย ก่อนจะเข้ามาดูแลกิจการบริษัทแทนเถ้าแก่คนเก่า แวบแรกนั่นเอง เขาจดจำเวทานต์ เพื่อนนิสิตรุ่นน้องได้ ทำให้สองครอบครัว ก็มีโอกาสได้รื้อฟื้นความสัมพันธ์ในอดีตกันอีกครั้ง

แต่แล้ว มันกลับทำให้ ปะการัง มองเห็นความแตกร้าว ในครอบครัวสมบูรณ์แบบของ “พี่โต” และ ตลียา เพื่อนของเธอ แท้จริงภาพสวยงามที่เธอเห็นจากภายนอก มันเป็นเพียงฉากหน้าของครอบครัวหนึ่งที่กำลังจะล่มสลายลงไปเท่านั้นเอง

ในขณะที่ครอบครัวของ ปะการัง ที่ดูเหมือนอบอุ่นไปด้วยความรักความเข้าใจจนตลียารู้สึกอิจฉา แท้จริงมันก็มีรอยร้าวจากปัญหาการเงิน โดยเฉพาะเมื่อบิดาของปะการังเจ็บป่วยและจำต้องใช้เงินรักษา แต่ทั้งหล่อนและเวทานต์ก็ไม่อาจจะทำได้ ปะการังต้องแอบเอาแหวนแต่งงานไปจำนำกับวิเทร์ ซึ่งเป็นนายหน้าค้าของเก่า รวมถึงหลังฉาก วิเทร์ก็เป็นเอเยนต์ค้าผู้หญิงด้วยเช่นกัน

ส่วนเวทานต์เองก็เริ่มประทับใจชื่นชม ความสวยงาม ความปราดเปรียวในบุคลิกของ ตลียา ที่เขารู้สึกว่า ภรรยาของตัวเองช่างจืดชืดสิ้นดี โดยไม่รู้สักนิดว่า ตลียา มีความผิดปกติทางจิต หล่อนชอบทำร้ายตัวเอง ในเวลาที่ทะเลาะกับภควา และทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า ภควา เป็นผู้ชายซาดิสม์ที่ชมชอบความรุนแรง

 

มันดีขึ้นในทุกครั้งที่หล่อนทำร้ายตัวเอง ในความเจ็บปวด หล่อนรู้ว่าหล่อนยังมีชีวิตอยู่ ยังมีลมหายใจ ไม่ใช่คนตายที่ถูกหลงลืม และถูกทอดทิ้งเอาไว้เดียวดาย

มันไม่ใช่ครั้งแรก… หล่อนทำร้ายตัวเองในทุกครั้งที่มีเรื่องทะเลาะกับเขา ทำร้ายตวเองเมื่อไม่ได้รับการตามใจจากพ่อ มันเป็นการเรียกร้องความสนใจที่ดี พรุ่งนี้ว่าจะไปหาพ่อ จะไปบอกพ่อว่า เขาทำให้หล่อนต้องเจ็บปวดเพียงใด เป็นการเรียกร้องความมีชีวิตชีวาให้กับชีวิต

 

ภควา เป็นคนจริงจัง เขาทุ่มเททำงานอย่างหนัก จนไม่มีเวลาให้กับตลียา ซ้ำเขายังให้ความสำคัญกับ คุณศรีรกา แม่เลี้ยงที่ดูเหมือนจะเข้ามาบงการทุกอย่างในชีวิต โดยภควาไม่เคยปฏิเสธ คุณศรีรกาเอง ไม่ชอบตลียา ในขณะที่หล่อนเองก็เคยมีความสัมพันธ์กับ คุณมหาชนบิดาของตลียามาก่อน มันเป็นความลับที่หล่อนเก็บซ่อนเอาไว้เช่นเดียวกับที่หล่อนรู้มาว่าตลียามีความผิดปกติทางจิต

ศรีรกาอยากให้ภควา แต่งงานกับ มาริสา หลานสาววัยแรกรุ่นตัวเองเสียมากกว่า  นั่นยิ่งทำให้ตลียามีเรื่องทะเลาะกับภควาบ่อยครั้ง จนกลายเป็นความเหินห่าง ในความเปลี่ยวเหงา และความต้องการทางอารมณ์ที่ไม่ได้รับการบำบัดนั้นเอง หล่อนหาทางออก โดยการไปสมัครเป็น สาวเอสคอร์ต กับ วิเทร์ นายหน้าค้ากามระดับสูง โดยใช้ชื่อว่า “การัง”

ภควารู้จักกับวิเทร์ เมื่อเขากลับมาเมืองไทย อีกฝ่ายจึงชักชวนให้เขาลองใช้บริการดูบ้าง ภควาก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นชื่อ การัง อยู่ในลิสต์รายชื่อหญิงบริการเหล่านั้นด้วย เขาคิดว่า ปะการังต้องมีปัญหาการเงิน จนต้องหาทางออกในรูปแบบนี้ ภาพหญิงสาวที่เคยงดงามในความทรงจำ ถูกทำลายหมดสิ้นจนเขารู้สึกเสียดาย ภควาลองเลียบเคียงถามปะการัง แต่คำตอบของหล่อนยิ่งทำให้เขาเข้าใจผิดมากขึ้น เขาตัดสินใจชวนหล่อนให้มาทำงานที่บริษัท และมอบเงินให้เวทานต์จำนวนหนึ่ง เป็นการช่วยเหลือทางอ้อม แต่ยิ่งทำให้เวทานต์เข้าใจผิด

ภควากลับไปหาวิเทร์ อีกครั้ง แต่พบว่า “การัง” ยังคงรับงานอยู่เช่นเดิม นั่นยิ่งทำให้เขาผิดหวังในตัวปะการัง มากขึ้นไปอีก อารมณ์ชั่ววูบบางอย่างที่ตอบกับตัวเองไม่ได้ ทำให้ตัดสินใจเขาพาหล่อนเข้าโรงแรมม่านรูดเพื่อประชด แต่แล้ว เมื่อ อารมณ์อีกด้านกลับคืนมา ทำให้ภควาพาเธอกลับออกมาโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทว่าทุกอย่างอยู่ในสายตาของ เวทานต์ ที่สะกดรอยตามมาเห็นเข้าพอดี และนั่นเอง ที่ทำให้ ชีวิตแต่งงานของ ปะการัง มาถึงจุดสิ้นสุด

เวทานต์แสดงธาตุแท้ของความเห็นแก่ตัว เขาฮุบเอาทุกสิ่งทุกอย่าง ที่หล่อนเคยร่วมสร้างมากับเขาไปจนหมด แม้แต่แหวนแต่งงานที่เธอไปไถ่ถอนคืนมา รวมถึงบ้านที่ผ่อนร่วมกัน ในเวลานั้นเอง ภควา สงสารจนต้องยื่นมือเข้ามาช่วย เขาให้หล่อนมาอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ของเขา โดยที่ตลียาเองก็เห็นชอบด้วย หล่อนรักและไว้ใจปะการังมากที่สุด จนแม้กระทั่งยอมบอกความจริงว่าตัวเองไปสมัครเป็นนางทางโทรศัพท์กับวิเทร์ เพื่อบำบัดความเหงา โดยขอยืมชื่อปะการังไปใช้ และขอให้หล่อนเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ปะการังเป็นห่วงเพื่อน หล่อนแนะนำให้ตลียาไปพบจิตแพทย์เพื่อรักษา ตลียาเองก็พยายามจะตัดสินใจที่จะเลิกจากอาชีพนี้ แต่มันก็ช้าเกินไป!

และแล้ว ความเป็นเพื่อนรัก ก็มาถึงบททดสอบสำคัญ เมื่อ ภควา ไปหาวิเทร์อีกครั้ง เขาลองทดสอบปลอมเป็นลูกค้า โทรหา “การัง” และพบความจริงที่เจ็บปวดที่สุด เมื่อรู้ว่า หญิงขายบริการชั้นสูงคนนั้น ไม่ใช่ปะการัง แต่เป็น ตลียา เมียของเขาเอง!

ตลียา กับ ภควา หย่าขาดจากกัน และหล่อนก็เข้าใจว่า ทุกอย่างเป็นฝีมือของปะการังเพื่อนรักนั่นเอง แม้ว่าปะการังจะปฏิเสธสักเพียงใดตลียาก็ไม่ยอมรับฟัง หล่อนอาละวาดและดื่มเหล้าอย่างหนักจนได้พบกับเวทานต์อีกครั้ง ทุกอย่างเข้าล็อคพอดีกับที่อดีตสามีของปะการังเคยมาเล่าให้หล่อนฟังมาก่อนไม่มีผิด และนั่นก็ทำให้ความสัมพันธ์ของหล่อน ถูกดึงเข้ามาหาเวทานต์ ในขณะที่ ภควา ก็เริ่มสนิทสนมกับ ปะการังมากขึ้น จนกลายเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว เขาผูกพันกับหล่อนมากขึ้นทุกขณะจนต่อมาได้ขอเธอแต่งงานเพื่อเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ แม้ว่าจะมีคุณศรีรกาพยายามขัดขวางการแต่งงานของทั้งคู่ เพราะในส่วนลึกแล้ว คุณศรีรกา มอง ภควา เป็นเหมือนวัตถุล้ำค่าที่เธอครอบครองและกลัวที่จะต้องสูญเสียมันไปให้กับผู้หญิงคนอื่น

แต่ในที่สุด ด้วยความดีและคำพูดเตือนสติของปะการังนั่นเอง ที่ทำให้เธอเริ่มได้คิด และมองปะการังด้วยสายตาที่ปราศจากอคติเหมือนเดิม

“ได้โปรดเถอะค่ะ คุณศรีรกา ดิฉันไม่ทราบว่าคุณศรีรกาเก็บกดอะไรอยู่ในใจบ้าง แต่ตลอดเวลาดูเหมือนคุณจะพยายามมาลงเอากับดิฉันทุกๆทาง ไม่มีใครจะรู้ดีไปกว่าพี่โตหรอกค่ะ ว่าอะไรที่มันดีที่สุดสำหรับเขา ทำไมเราไม่ให้พี่โตเป็นฝ่ายตัดสินใจเอง พี่โตไม่ใช่เด็กที่คุณศรีรกาเคยเลี้ยงมาอีกต่อไปแล้ว และคุณศรีรกาก็พยายามที่จะใช้สิ่งนั้นครอบงำชีวิตของเขาด้วยกลัวว่าจะต้องสูญเสียเขาไป คุณศรีรกากำลังจะสูญเสียพี่โตไปค่ะในเวลาอย่างช้าๆที่สุด และจะต้องสูญเสียพี่โตไปทั้งหมดหากไม่เลิกทำตัวครอบงำเขาในที่สุด ดิฉันเป็นคนอื่น… การจะได้มาหรือสูญเสียอะไรไป มันไม่ได้มีความสำคัญอะไรเสียมากมาย มันเทียบไม่ได้กันอยู่แล้วกับการสูญเสียของคุณศรีรกา…”

 

ทว่าความรักที่ถูกสลับคู่กัน กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เมื่อ ตลียา พบว่าตัวเองเป็นโรคเอดส์!

 

ในห้วงเวลาอันมืดมิดไร้หนทางออกนั้น หล่อนตัดสินใจบอกให้ปะการังรับรู้ และพบว่ามิตรภาพของเพื่อนยังคงอยู่โดยไม่เสื่อมคลาย ปะการังพยายามช่วยเพื่อนเต็มที่ ตลียาเตือนหล่อนว่าบางที ภควาเองก็อาจจะติดเชื้อเอชไอวี เช่นเดียวกันกับตัวเธอเอง หากปะการังไม่ได้สนใจสิ่งนั้น หล่อนรักภควา ด้วยความรักที่ไม่เงื่อนไข และยอมมีความสัมพันธ์กับเขา โดยที่ภควาเองก็ไม่รู้ว่า ตลียาติดเชื้อเอชไอวี

 

“ใครแคร์ว่าพรุ่งนี้อะไรจะมาถึง หากวันนี้หล่อนได้กอดเขาเอาไว้เต็มอ้อมแขน ชีวิตนี้แสนสั้น และความรักแท้ก็ไม่เคยตกหล่นอยู่ริมทางให้สัมผัสได้โดยง่าย หล่อนได้พบแล้ว… ความรักนั้น และหล่อนก็จะยอมถนอมรักษาเอาไว้แนบชิดหัวใจอย่างองอาจ อย่างยินยอม แม้จะต้องสูญเสียอะไรไปในชีวิต แค่ได้มีเขาอยู่เคียงข้าง ได้รัก ได้ปลุกปลอบกันไปตามวาระ ใครแคร์ว่าพรุ่งนี้อะไรจะมาถึงบ้าง…”

 

ซึ่งตลียาเองก็หลงคิดไปว่า ยังมีอีกคนที่พร้อมจะเข้าใจหล่อนมากที่สุดก็คือ เวทานต์

เขาเพิ่งขอหล่อนแต่งงาน และพร่ำบอกแต่คำว่ารักอย่างอ่อนหวานราว พร้อมจะรับฟังปัญหาของเธอทุกเรื่อง เมื่อเธอเริ่มเกริ่นว่าตัวเองมีปัญหาสุขภาพ แต่เมื่อ ตลียาบอกความจริง เขาก็มองหล่อนไม่ต่างกับเชื้อโรคที่น่ารังเกียจ และเดินจากไป โดยไม่สนใจความรู้สึกเธอเลยสักนิดเดียว

 

“โรคเอดส์…”

ตลียาจับมือของเขาบีบเอาไว้แน่น มีน้ำตาในดวงตาของหล่อน

“ฉันต้องการคนอยู่เคียงข้างค่ะ คนปลุกปลอบ เพื่อนชีวิตเท่านั้นที่ฉันต้องการ ฉันไม่ได้หมายถึงเพศสัมพันธ์ ไม่ได้การสิ่งนั้น”

เวทานต์คอแห้งผาก หูแว่วแต่เสียงของหล่อนที่ว่า ฉันเป็นโรคเอดส์ ปลายนิ้วของหล่อนที่ยืดเขาไว้เหนียวแน่น ถูกปลดออกช้าๆอย่างเยือกเย็น

“คุณน่าจะบอกผมเร็วกว่านี้”

“ฉันคิดว่าคุณรักฉัน คุณบอกว่ารักฉัน”

“รักคุณ?” เขามองหล่อนเหมือนมองสัตว์ประหลาดที่หลุดหลงเข้ามาในชีวิต “คุณคาดหมายให้ผมรักคุณในสภาพเช่นนี้”

 

ความผิดหวังนั้นเอง ทำให้ตลียาตัดสินใจฆ่าตัวตาย

ภควา รู้ความจริงเรื่องตลียา หลังจากนั้น เขาช็อคไป และเหนืออื่นใด เขาห่วงความรู้สึกของปะการัง ที่ยอมมีความสัมพันธ์กับเขา ทั้งที่รู้ว่ามันมีความเสี่ยงมากสักเพียงใด ปะการัง รู้จากคุณศรีรกา ว่า ภควารู้เรื่องหมดแล้ว ความห่วงใยต่อเขามากมายจนหล่อนตัดสินใจรีบกลับมาหา กลัวว่า ภควาจะตัดสินใจชั่ววูบ เช่นเดียวกับ ตลียา หล่อนไม่อาจสูญเสียเขาไปได้ในชีวิต

“เธอรู้มานานแล้ว ถ้าเธอจะบอกพี่สักคำ ทำไมจะต้องเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยง”

“พี่โตคะ” หล่อนกอดเขาไว้ทางเบื้องหลัง “เรารักกันไม่ใช่หรือคะ? ก็ในเมื่อเรารักกัน จะทนสูญเสียพี่โตไปอีกคนได้ยังไง”

“ความรักจะต้องไม่โง่ ปะการัง” เขาหมุนตัวกลับมาและจับไหล่หล่อนบีบกระชับ

“ความรักต้องมีสติ พี่รักเธอ ถ้าเพียงแต่พี่จะรู้ พี่จะไม่แตะต้องเธอเลย เธอปล่อยให้มันล่วงเลยมาขนาดนี้ทำไม ไม่คิดบ้างว่า พี่อาจจะเป็นแล้วเธอติดโรคไป ไหนโอกาสที่เราจะมีลูกด้วยกันอีก”

“ดิฉันคิดดีแล้วค่ะ เราจะอยู่ในโลกกันอีกนานแค่ไหนคะ อย่างดีก็คงไม่เกินร้อยปี ถ้าชีวิตของเราจะสั้นเข้ามาอีกนิด แต่แวดวงด้วยความสุขแห่งความรัก มันเป็นการสูญเสียอยู่ดีนั่นแหละ จะมีประโยชน์อะไรหากชีวิตเรายืดยาวออกไปอีกหน่อย แต่เต็มไปด้วยความโศกระทม เรารักกันค่ะพี่โต อย่างน้อยเราก็ยังมีกันและกัน…”

เขาตัดสินใจไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย และหล่อนก็รอคอย เขาอยู่ด้วยความหวัง…

 

นี่คือสไตล์ของนวนิยาย ม.มธุการี นักเขียนคนโปรดของหลายๆคน เนื้อเรื่องที่สร้างปมขัดแย้งหน่วงอารมณ์ สำนวนภาษาลึกซึ้งกินใจและที่สำคัญ คาดเดาตอนจบไม่ได้เลยสักนิดเดียว ผู้อ่านจะต้องลุ้นไปกับเรื่องราวความรักที่ราวกับนวนิยายชีวิตของสี่ตัวละครเอก ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรสชาติของความหวานชื่น ขมขื่น และสะเทือนใจ ก่อนจะมาถึงบทสรุปอันพลิกผันปิดท้าย ที่แทบจะปรากฏคำตอบทุกอย่างอยู่ในหน้าสุดท้ายของนวนิยายเรื่องนี้

 

เมื่อ เขากลับมาหาปะการังอีกครั้งพร้อมคำตอบ

“พี่… พี่ไม่คิดว่าจะได้รับความรักชนิดนั้น พี่รู้สึกศรัทธา เสียดายแทนตลียา ที่ไม่ได้โชคดีเหมือนพี่”

หล่อนหลับไปก่อนเขา มือหนึ่งยังกำปลายนิ้วภควาเอาไว้เหนียวแน่น คราบน้ำเกรอะกรังที่พวงแก้ม หล่อนเก็บฝันร้ายนั้นไว้เนิ่นนานแค่ไหนกัน บัดนี้ถึงวาระที่หล่อนจะตื่นจากฝันร้ายนั้นสู่ความจริงที่อ่อนหวาน สู่รักแท้อันเป็นนิรันดร์ ที่เขายินดีจะมอบให้กับหล่อน…

เรื่อง : ชีวิตมิใช่นวนิยาย

ผู้ขียน : ม.มธุการี

สำนักพิมพ์ : ศิลปาบรรณาคาร

ปีที่พิมพ์ : 2531

สองเล่มจบ

สำหรับ ผลงานของ คุณ ม.มธุการี นั้น ล่าสุด เพื่อนนักอ่านสามารถติดตามอ่านให้หายคิดถึงกันได้จาก “เจ้าหุ่นเพื่อนรัก” ซึ่งเป็นนวนิยายฉีกสไตล์ในอีกรูปแบบหนึ่งของผู้เขียน ที่สนุกสนานชวนติดตามและไม่ทิ้งลายเซ็นของ “ม.มธุการี” ซึ่งกำลังนำลงอยู่ใน เว็บไซต์ อ่านเอา อยู่ในขณะนี้ครับ

 

Don`t copy text!