เดชานี

เดชานี

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

จากข้อมูลและภาพประกอบในหนังสือ นักเขียนชาวอักษรศาสตร์ ได้เขียนไว้ว่า ‘ดาวจริยา’ หรืออาจารย์จรรยา ถิ่นพังงา (นามสกุลเดิม มุตตาหารัช) ท่านเป็นชาวสงขลา ต่อมาได้เข้าศึกษาเป็นนิสิตคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เมื่อปี พ.ศ. 2501 รุ่นเดียวกับอาจารย์สืบแสง พรหมบุญ และอาจารย์อำพรรณ โอตระกูล

ดาวจริยา และอรุณมนัย

ท่านเริ่มงานเขียนครั้งแรกตั้งแต่ในช่วงเรียน ม.1 ใช้กระดาษสมุดมาเย็บเล่ม เขียนเป็นเรื่องราวต่างๆ แต่เขียนลงหนังสือครั้งแรก ในสมัยเรียน ม.7 ลงในนิตยสาร นารีนาถ ฉบับที่ 88 วันที่ 4 พฤษภาคม 2499 ด้วยเรื่อง ‘สิ่งผูกพัน’ และหลังจากนั้นก็มาเขียนลงที่นิตยสาร ศรีสัปดาห์ ผมมีโอกาสได้พบเรื่อง ชีวิตเศร้า อันเป็นเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งของท่านที่ลงพิมพ์ในนิตยสาร ศรีสัปดาห์ ฉบับเดือนมกราคม พ.ศ. 2500  จึงขอนำบางส่วนมาประกอบในบทความนี้ด้วยครับ

สารบัญศรีสัปดาห์ 2500

สำหรับผลงานของท่าน มีเรื่องยาวประมาณสามเรื่อง คือ แค้น ศพหาย และ แล้วชีวิตเป็นอย่างนี้ และเรื่องสั้นขนาดยาว ได้แก่ วังบัวขาว ศัตรูแห่งเกียรติยศ พินัยกรรม และ ขวัญใจนายอำเภอ รวมถึง เดชานี ซึ่งเป็นนิยายขนาดสั้นที่ลงตีพิมพ์ในนิตยสาร สตรีสาร

ตัวอย่างเรื่องสั้น ในศรีสัปดาห์ของดาวจริยา

เดชานี เป็นชื่อของพญาว่าน ที่กล่าวกันว่า…

“พญาว่านนี่น่ะ พวกพรานป่าเขาขุดได้มาจากป่าลึกแถวๆ ชายแดนติดเขตพม่าโน่น เขาว่ามันแปลกสะดุดตา อีตรงที่ว่า เขามีลักษณะเป็นพญาไม้ว่านจริงๆ ขึ้นโดดเด่น โดดเดี่ยวรอบๆบริเวณ ไม่มีต้นหญ้าสักต้นเดียว และมักขึ้นอยู่บนเนินดินเตี้ยๆ รอบๆ ในรัศมีวงกลม ไม่มีต้นไม้ใดๆ ขึ้นเลย มันเหมือนกับมีคนไปปลูกแล้วตกแต่งรอบๆ ให้เรียบเตียนไว้

พญาว่านอย่างนี้ตั้งบูชาเซ่นสรวงเขานะครับ อัญเชิญมาแล้วต้องไว้สูง ไม่ให้ไม้อื่นไปรบกวนเขาในรัศมีหนึ่งเมตร ไม่งั้นลำบากแน่ๆ

เขาล่ะ พญาเดชานี”

นั่นคือครั้งแรก ที่องอาจได้พบกับต้นว่านที่ว่าจากร้านขายว่านไม้ ที่ตนเองเป็นลูกค้าประจำ

ชีวิตครอบครัวอันเป็นปกติสุขที่มีพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้งภรรยาที่ดีอย่างปรางค์ทิพย์ และลูกชายหญิงอย่างละคนคือองค์ปรางค์และยอดปรางค์ ควรจะดำเนินไปอย่างสงบสุข แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป เมื่อชายหนุ่มผู้รักการเลี้ยงว่านชนิดบ้าคลั่ง ลงทุนซื้อว่านชนิดนี้มาปลูกไว้ในบ้าน

เรื่อง : เดชานี

ผู้เขียน : ดาวจริยา

สำนักพิมพ์ : ดอกหญ้า

ปีที่พิมพ์ : 2538 (พิมพ์ครั้งที่สอง)

เล่มเดียวจบ

ในเมื่อเขาเชื่อว่ามันคือสิ่งที่นำพาโชคลาภต่างๆ มาให้กับตนเอง แม้ว่าจะมีใครหลายคนคอยท้วงติงด้วยความเป็นห่วง รวมถึงล้ำค่า ชายหนุ่มรุ่นพี่ ที่เป็นเพื่อนบ้านและสนิทสนมกับครอบครัวขององอาจรวมอยู่ด้วยก็ตาม

ในเวลาเดียวกันกับที่ความสัมพันธ์ของครอบครัวที่เริ่มสั่นคลอนด้วยความไม่เข้าใจกัน องอาจ ซึ่งยังเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ก็มีสตรีเข้ามาผูกพันอย่างภัคคินี เพื่อนร่วมงาน จนทำให้ เด็กหญิงยอดปรางค์ไม่พอใจ ส่วนปรางค์ทิพย์เองก็มีเจ้านายหนุ่มรูปงามที่ดูเหมือนจะเข้าใจปัญหาในครอบครัวของเธอ และทำให้หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นใจ แทนความอ้างว้าง เมื่อเห็นสามี สนใจสิ่งอื่นๆ มากกว่าตนเอง

และบททดสอบสำคัญก็เริ่มต้นขึ้น ภายหลังจากต้นเดชานีที่ปลูกเอาไว้ได้เติบโต และผลิดอกออกมา หลายๆ คนในบ้านเริ่มพบกับความผิดปกติ…

โดยเฉพาะเด็กหญิงยอดปรางค์ที่เริ่มจะฝันร้ายอยู่บ่อยครั้ง

แล้วเสียงเหมือนลมพัดอื้ออึงก็ดังขึ้น เหมือนกับคืนก่อนไม่ผิดเพี้ยน… ม่านบังตาไหวตัวรุนแรงขึ้น ของบางอย่างในห้องปลิวว่อนแล้วหล่นวูบ เสียงที่ชัดที่สุดที่ดังตามอย่างน่ากลัว ก็คือเสียงส่ายใบของพญาเดชานีที่ดังชัดเจน แรง และเร็ว จนเด็กหญิงตระหนกอกสั่น

มันทำท่าเหมือนจะฉกรัด อำนาจแห่งความกลัวและสุดแสยงทำให้เด็กหญิงดิ้นรนสุดชีวิต แต่ยิ่งดิ้น หล่อนก็ยิ่งหมดเรี่ยวแรง และพ่ายแพ้และในขณะที่จะหมดกำลังนั้น หล่อนก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ เสียงนั้นแหลม ใส บ่งบอกถึงชัยชนะอย่างท่วมท้น ทั้งเยาะทั้งเย้ย และข่มขวัญน่าเกลียดน่ากลัวเสียจนเด็กหญิงแทบจะอาเจียนออกมาด้วยความขยะแขยง…

ในความฝันอันน่าหวาดกลัวเองนั้น เด็กหญิงวัยแรกรุ่นได้รู้จักกับเทพบุตรรูปงามผู้มาช่วยเหลือเธอเอาไว้ราวกับปาฏิหาริย์ ซ้ำวีรบุรุษผู้นี้ยังมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ไม่ต่างกับคุณอิทธิเดช เจ้านายของมารดาเธออีกด้วย

ภาพจากละคร เดชานี

เขามีนามว่าพญาเดชาคนี ได้บอกกับเธอว่าเป็นคู่ครองกับนางพญาภาคินยา ทำให้ยอดปรางค์มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ในเวลานี้หล่อนไม่สนใจการเรียน ใจคอจดจ่ออยู่เพียงแต่ต้นเดชานีที่บิดานำมาปลูกจนกลายเป็นความคลั่งไคล้หลงใหล ถึงกับนำมาปลูกไว้ในห้องนอนตัวเอง ซึ่งเมื่อถูกขัดใจขึ้นมา ก็จะทำให้ยอดปรางค์กลายเป็นคนนิสัยก้าวร้าว และอาละวาดกับทุกคนจนไม่ต่างกับอาการของผีเข้า ทั้งปรางค์ทิพย์และองอาจเริ่มกลัดกลุ้มใจมาก

เรื่องราวยิ่งเลวร้ายขึ้นอีก เมื่อองค์ปรางค์ ลูกชายคนโต ก็ได้รับอุบัติเหตุที่เกิดจากยางของต้นเดชานี จนทำให้เกือบตาบอด

ฤๅว่า ความจริงแล้วเหตุวิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับทุกคน ล้วนมีสาเหตุมาจากพญาว่านเดชานีต้นนั้น?

ภาพจากละคร เดชานี

นิยายเรื่องนี้นับเป็นนิยายที่ท้าทายความคิด ความเชื่อ เกี่ยวกับเรื่องลี้ลับอาถรรพณ์ และชวนให้กลับมาขบคิดหาคำตอบของเรื่องราวด้วยวิจารณญาณ ที่ไม่ใช่มีเพียงความบันเทิงจากการอ่านเพียงอย่างเดียว ดังที่ ผู้เขียน ได้ “เฉลย” เอาไว้ในตอนท้ายของเรื่องราว ชวนพิศวง นี้ ที่ว่า…

“ด่วน พบเดชานีมีสารพิษร้ายแรง และเสพติดกว่าผงขาว”

โปรยหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นนั่นเอง ที่ทำให้องอาจและหลายคน ได้ “ตาสว่าง” ขึ้น

“ผอ.ศูนย์วิจัยเปิดเผยแก่ผู้สื่อข่าวว่า พิษภัยของสารพิษในเดชานีเป็นอันตรายทำให้ผู้สูดดมหัวใจวายตายได้ เพราะจะไปกดศูนย์หายใจ ทำให้หลอดลมอักเสบ และระยะเรื้อรัง ทำให้สมองพิการ ทุกส่วนของพญาเดชานีให้โทษทั้งนั้น นับแต่สารระเหยที่มีฤทธิ์เหมือนยาเสพติด โอกาสที่ผู้ป่วยจะได้รับสารพิษนี้ก็ในช่วงกลางคืน เมื่อใบของมันกลั่นคายพิษออกมา ผู้รับสารพิษครั้งแรกๆ จะมีอาการทรมาน ทุรนทุราย มีอาการประสาทหลอนจนถึงคลุ้มคลั่ง และยางของมันก็สามารถทำให้ผิวเนื้อเป็นแผลไหม้ พุพองได้ ถ้าถูกเข้าตา ก็อาจตาบอดได้…”

เดชานี จึงเป็นนิยายลึกลับ ชวนอ่าน ที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง เลยครับ

หมายเหตุ ผมมีข้อมูลเพียงว่า นิยายเรื่องนี้เคยสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ช่อง 7 มาก่อน แต่น่าเสียดายที่ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับนักแสดงและภาพประกอบของเรื่องนี้เลยครับ

Don`t copy text!