คำฟ้า

คำฟ้า

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

จากข้อมูลประวัติของอ้อย อัจฉริยกร หรือที่นักอ่านคุ้นเคยกันดี กับนามปากกาศักดิ์ สุริยา และดาวไสว ไพจิตร เจ้าของนวนิยายอันลือลั่นอย่าง ชุมแพ ขังแปด และสารคดีในนามปากกา จารึก ชมพูพล ได้กล่าวไว้ว่า ท่านได้เริ่มต้นเข้าสู่วงการน้ำหมึกโดยมีผลงานเรื่อง คำฟ้า ใน เพลินจิตรายวัน เป็นผลงานนิยายเรื่องแรกในนามปากกา อ้อย อัจฉริยกร นี้เอง

จากข้อมูลของคริส สารคาม ที่เขียนไว้ในหนังสือ นักเขียนในอดีต เล่ม 1 เล่าว่า อ้อย-สุรภี ภูมิบริรักษ์ คือคู่ชีวิตของท่านภายหลังผ่านประสบการณ์ชีวิตต่างๆ มาจนโชกโชน และด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของนามปากกา ‘อ้อย อัจฉริยกร’ ที่นำชื่อเล่นของภรรยาท่านมาตั้งเป็นชื่อต้นของนามปากกา ส่วน ‘อัจฉริยกร’ นั้นผมอ่านพบจากในหนังสือที่ระลึก แก้วฟ้า 60 ปี ของครูแก้ว อัจฉริยกุล ซึ่งอ้อย อัจฉริยกร ได้เขียนไว้ว่า

“มีคนถามผมบ่อยๆ ว่า อ้อย อัจฉริยกรเป็นอะไรกับ “แก้วฟ้า”? ผมมักจะตอบทีเล่นทีจริงว่า เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ของ ครูแก้วเป็น “กุล” หมายถึงตระกูลอัจฉริยะ ส่วนของผม “กร” หมายถึงกำปั้นมหัศจรรย์ เพื่อนเลยให้มะเหงก!

เดี๋ยวนี้ผมจะบอกให้ก็ได้ ส่วนหนึ่งของนามปากกานั้น เป็นค่านิยมที่ผมมีต่อครูแก้ว ผู้เป็นที่เคารพรักใคร่ของผม นอกเหนือไปจากความรู้สึกที่มีต่อคนชื่อ “อ้อย” ซึ่งผมรู้สึกว่าเป็นชื่อที่เป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จอันอัจฉริยะ

นี่เป็นความอิ่มเอมใจของผมที่ได้ใกล้ชิดกับ “ครู” แห่งโลกของความบันเทิง”

และคือที่มาแห่งนามปากกา อ้อย อัจฉริยกร ในวันนี้นั่นเอง!

สำหรับนวนิยายเรื่อง คำฟ้า นี้ ได้มีโอกาสสร้างเป็นภาพยนตร์ นำแสดงโดยเสกสรร สัตยา คู่กับเพชรา เชาวราษฏร์ และต่อมานามปากกานี้จึงได้ถือกำเนิดผลงาน ‘ขุนดง’ อันเป็นนวนิยายลำดับที่สองที่ลือลั่นไม่แพ้กัน จากนั้น ชื่อของอ้อย อัจฉริยกร ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในบรรณพิภพ ไม่ว่าจะเป็นนิตยสาร ผดุงศิลป์ ดาราไทย สกุลไทย หรือ สตรีสาร เป็นต้น

อ้อย อัจฉริกร

คำฟ้า เป็นนวนิยายบู๊แอ็กชันในยุคแรกๆ ของผู้เขียน โดยบอกเล่าเรื่องราวของสาวสวยคำฟ้า ดารินทร์ ธิดาคนเดียวของนายเฟื่องพ่อค้าใหญ่ ที่นอกจากจะมีรูปร่างหน้าตาสะสวยงดงามแล้ว ยังมีสติปัญญาเก่งกล้า จนสอบเข้ามาเรียนในรั้วสีชมพูได้อีกด้วย ที่นั่นเอง เธอได้รับมงกุฎ ‘ราชินีสีชมพู’ ในงานเมตตาบันเทิง ของชมรมนิสิตเก่าที่จัดขึ้นที่สวนลุมพินี บรรดานักข่าวช่างภาพ ต่างรุมล้อมสัมภาษณ์สาวน้อยที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองเป็นอย่างสูงผู้นี้จนเป็นที่โจษจัน ว่าหญิงสาวแข็งกระด้าง ลำพองในความงามที่ใครๆ ก็ยอมสยบให้ไม่ต่างกับยูงทองที่รำแพนฟ่องฟ้าอยู่ในกลุ่มเมฆ

ใครจะพูดอย่างไร คำฟ้า ดารินทร์ ไม่สนใจ หล่อนมีความเชื่อมั่นในตัวเองว่า ความมีเงิน ความสวยและความสามารถ จะช่วยให้หล่อนยืนอยู่ได้ โดยไม่ต้องกริ่งเกรงใคร

แม้ว่าบิดาเองจะมองลูกสาวคนเดียวด้วยความเป็นห่วง

และจากนั้น คำฟ้า ดารินทร์ ก็กลับมาทำงานให้กับบิดาของเธอ ในการควบคุมธุรกิจหินบดของบริษัทศิลาจำกัดซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่กลางป่า ด้วยความมั่นใจและทะนงในความสวย ความเก่งกล้า ทำให้ผู้เป็นบิดาอดเป็นห่วงไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อคำฟ้ามีความเชื่อมั่นในตัวนายเด่นศักดิ์ หัวหน้าคนงานจนไม่ฟังเสียงใครทั้งสิ้น นายเด่นศักดิ์เป็นผู้ที่นายเฟื่องเองมองเห็นว่าเขา น่าจะทุจริต และคิดไม่ซื่อกับลูกสาวตน รวมถึงอาจจะร่วมมือกับวีระชาติ ชาญชนะชัย เจ้าของบริษัทสหมิตรหินบด อันเป็นบริษัทคู่แข่งอีกด้วย

นายเฟื่องจึงพูดคุยปรึกษากับอำพล ภูธร สหายรัก ขอร้องให้ภพ ภูธร ลูกชายของอำพล เข้ามาทำงานที่บริษัท ศิลา จำกัด เพื่อคอยช่วยเหลือคำฟ้า โดยที่ภพ ไม่เคยรู้จักเห็นหน้าค่าตาคำฟ้ามาก่อนเลย แต่ชายหนุ่มก็ตอบตกลง

และเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบิดาของตัวเอง ตกลงหมั้นหมายเขากับคำฟ้า ธิดาของนายเฟื่องเอาไว้ล่วงหน้าแล้วเช่นกัน!

และแล้วการปรากฏตัวของเพลิง อัคนี ก็เริ่มต้นขึ้นในดินแดนบ้านป่าเมืองเถื่อนแห่งนั้น ชายหนุ่มผมเผ้าหนวดเครารุงรัง ท่าทางไม่น่าไว้วางใจ

เมื่อนายเฟื่องแนะนำกับคำฟ้า ว่าจะส่งคนงานมาช่วยดูแลกิจการของเธอ ทำให้คำฟ้า ไม่พอใจชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ท่าทางกักขฬะ ซ้ำยังมีหนวดเคราเต็มใบหน้าผู้นี้ หล่อนยิ่งตั้งแง่ด้วยความรู้สึกอคติ บอกกับตัวเองว่าไม่ชอบหน้า ไม่ถูกชะตา ยิ่งเมื่อเขาบอกกับหล่อนเองว่า ตนเองเพิ่งออกจากคุก!

เหนืออื่นใด คำฟ้าซึ่งทะนงในความสวยโสภาของตัวเอง กลับพบว่าความสวยหยาดเยิ้มระดับราชินีสีชมพู หาได้ทำให้นายเพลิง อัคนี ผู้เคร่งขรึมเย็นชาหันมาสนใจแม้แต่น้อยไม่!

 

แต่เมื่อเวลาผ่านไป คำฟ้ากลับยิ่งมองเห็นนิสัยอ่อนโยน รักเสียงเพลง และความโรแมนติกในตัวของนายเพลิง อัคนี ผู้นี้

หล่อนผุดลุกขึ้นจากเตียงนอน แหวกมุ้งโปร่งขาวสะอาดออกมายืนรับลมเย็นที่หน้าต่าง แสงจันทร์ที่โผล่พ้นยอดเขาสาดกระจ่าง กระทบกับใบไม้ที่พลิกไหวเลื่อมระยับ

ฉับพลันนั้นหูของหล่อนก็แว่วสียงเพลงแหวกความสงัดเงียบขึ้น มันเป็นเสียงไวโอลินกังวานบ่งบอกว่า ผู้เล่นมีความชำนาญเยี่ยมยอดทีเดียว

หล่อนจำได้ว่าเป็นเพลง “เพลิงหัวใจ” ที่บรรยายถึงดวงใจที่ถูกเผาผลาญด้วยเพลิงรัก อันทรงมหิทธิฤทธิ์ เรียกร้องและเชิญชวนให้โลดแล่นไปในโลกว้างอันไร้ขอบเขต ปราศจากเครื่องกีดกั้นขัดขวาง ร่ำร้องหาอ้อมแขนอันอบอุ่นของกันและกันอย่างอิสระเสรี ไม่คำนึงชาติชั้น ผิวพรรณหรือสภาพชีวิตอันแตกต่างกัน…

เสียงเพลงนั้นดังชัดเจน คำฟ้านึกไปถึงภาพของชายหนุ่มใบหน้าเข้มคมสัน ผมหยักศก ทว่ารกรุงรังไปด้วยหนวดเครา ทำให้ใบหน้านั้นโจรร้ายใจทมิฬ ที่แฝงเอาความเหี้ยมโหดไว้ในเรือนร่าง ที่หล่อนรู้สึกเกลียดชังตั้งแต่นาทีแรกที่พบกัน

เพลิง อัคนี!

ที่บริษัทนี้เอง เมื่อเพลิงถูกรุมทำร้ายโดยกลุ่มสมุนของนายเด่นศักดิ์ที่ไม่ชอบหน้าและระแวงว่าเขาจะเป็นสายสืบจากนายเฟื่องที่เข้ามาสืบทุจริตภายในบริษัท แต่ชายหนุ่มก็อาศัยวิชาการต่อสู้ จัดการรับมือกับคนเหล่านั้นได้อย่างไม่หวั่นไหว แม้จะได้รับบาดเจ็บไปด้วยก็ตาม

เหตุการณ์นี้เอง ที่ทำให้คำฟ้าเริ่มเกิดความสงสารเห็นใจเขาขึ้นมา

ในเวลาเดียวกันกับที่ดาวไสว ญาติสนิทของคำฟ้า ก็เดินทางมาเที่ยวที่บริษัทของเธอด้วย ดาวไสวมีท่าทีสนใจคนงานหนุ่มรูปงามที่ท่าทางบึกบึนสมเป็นชายชาตรีผู้นี้ และหล่อนก็เห็นว่าเขาให้ความสนิทสนมกับพันตำรวจตรีกำราบ กรชัย สารวัตรมือปราบที่ย้ายมาทำงานยังอำเภอแห่งนี้อีกด้วย

เหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยมีเด่นศักดิ์และวีระชาติร่วมมือกัน เพื่อกำจัดเพลิง อัคนี และฉุดคร่าคำฟ้าคนสวยมาเป็นของตัวเองให้ได้ และพวกมันยังมีแผนการขนส่งเฮโรอีนข้ามชาติ เพื่อผลประโยชน์จากเงินจำนวนมหาศาลอีกด้วย

เรื่อง : คำฟ้า

ผู้เขียน : อ้อย อัจฉริยกร

สำนักพิมพ์ : คลังวิทยา

ปีที่พิมพ์ : 2505

สองเล่มจบ

เหตุการณ์ใน คำฟ้า ดำเนินไปอย่างเข้มข้น ในบรรยากาศของบ้านป่าแดนเถื่อน ที่มีตัวละครต่างๆ ผ่านเข้ามามากมาย ทั้งพรเทวี พิไลลักษณ์ หญิงสาวคนงานผู้มีความสาวความสวย และปมปรารถนาบางอย่าง ขณะที่เพลิงก็มีสหายของเขานามว่าธรณี ธรรมทรรศน์ ที่เป็นนายตำรวจขี้เล่น จอมทะเล้น ปลอมตัวมาเป็นคนงานร่วมด้วย จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเทวี และร่วมมือกับกลุ่มของเพลิงและสารวัตรกำราบ ด้วยแผนการหักเหลี่ยมชิงไหวชิงพริบอย่างสุดมัน ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรและภายในถ้ำอันเป็นจุดกักขังตัวประกัน ซึ่งเป็นฉากหลังของเรื่องราวเหล่านี้

และเมื่อภารกิจสำคัญเสร็จสิ้นลงในการกำจัดเหล่าร้าย ก็เหลือเพียงภารกิจปรับความเข้าใจระหว่างกัน ที่สาวสวยคำฟ้าลดทิษฐิตัวเองลง ยอมรับว่าเธอรักไอ้หนุ่มบ้านป่าขี้คุกที่ชื่อเพลิง อัคนี ผู้นี้

ปิดท้ายด้วยความจริงที่เปิดเผยว่าไอ้ขี้คุกเพลิง อัคนี ก็คือ ภพ ภูธร คู่หมั้นหนุ่มในชีวิตจริงของสาวน้อยคำฟ้านั่นเอง และแน่นอนว่า ก่อนจะถึงฉากสุดท้ายที่ความรักหวานชื่นของสองหนุ่มสาว ก็บรรลุถึงปลายทางแห่งปรารถนา ก็ต้องมีฉากเข้าใจผิด พ่อแง่แม่งอน ให้พระเอกตามไปง้อสาวคำฟ้า เสียก่อนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ

“ตามฉันมาทำไม?”

“ก็ตามมาขอโทษคู่หมั้นของผมน่ะสิครับ”

“ฉันไม่มีโทษอะไรจะยกให้ใคร”

“ถึงอย่างนั้น ผมก็ต้องตามอยู่ดี “เขาหัวเราะสดชื่น “ผมจะไม่ยอมให้คุณหนีผมไปไหนเป็นอันขาด ผมรักคุณได้ยินไหม ผมตามมาบอกว่าผมรักคุณ”

“คนหลอกลวง…”

มือของเขาตวัดร่างนั้นเข้ามาสู่อ้อมแขน คำฟ้าดิ้นขลุกขลัก อยู่ครู่หนึ่งก็เงียบ เมื่อร่างแนบร่าง ริมฝีปากแนบกันสนิทนิ่งนาน…

และ คำฟ้า ก็ดำเนินมาถึงบทอวสานอย่างงดงามในท้ายที่สุด!

หมายเหตุ : สำหรับภาพของผู้เขียน ผมนำมาจากเพจ อ้อย อัจฉริยกร และ ศักดิ์ สุริยา ซึ่งต้องขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

Don`t copy text!