ลูกชาติเสือ

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

‘กรกฎ อลงกรณ์’ นักเขียนนวนิยายแนวบู๊สะบั้น สะท้านอารมณ์ หรืออีกนามปากกาหนึ่ง ก็คือรังษี เทพวรสิน ผู้ที่ผมเคยเขียนถึงท่านในผลงานแนวลึกลับ ‘กรรณิการ์วังหลวง’ มาก่อนหน้านี้แล้ว สำหรับผลงานในนามปากกากรกฎ อลงกรณ์ ส่วนใหญ่จะพิมพ์รวมเล่มกับสำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์ ได้แก่เรื่อง ป่ายุบ ทับถวิล ปะการัง รวมถึง ลูกชาติเสือ เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

คล้าม พงษ์พยัพ อดีตโจรกลับใจ ที่สาบานต่อหน้าพระประธานในโบสถ์ว่าจะเลิกหากินทางมิจฉาชีพ และเงินทองที่พอมีอยู่จะนำไปตั้งตัวเพื่อประกอบอาชีพอันสุจริต ทว่าในเวลาที่มันกำลังจะเดินทางออกจากพระนครไปเริ่มต้นชีวิตใหม่นั้นเอง ต่วน ดาวคะนอง เสือใหญ่จอมทรชนผู้มีอิทธิพลเถื่อนก็ตามหาตัวมันพบ และเสนอเงื่อนไขที่มิอาจปฏิเสธ นั่นก็คือการบุกปล้นธนาคาร สาขาบุคคโล ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังขนถุงเงินเข้าธนาคาร คล้ามไม่อาจปฏิเสธ เพราะมันล่วงรู้แผนการของต่วนแล้ว จึงต้องจำใจยอมรับปาก

แต่ในวันออกปล้นนั้นเอง เมื่อต่วนและพรรคพวกคือฮูต สะพานพุทธ กับเหม็ง วัดตึก เริ่มลงมือทำการปล้น ตำรวจก็บุกเข้ามารุมล้อมและจับกุมพวกมันได้สำเร็จ ส่วนไอ้คล้ามหนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด สร้างความพยาบาทให้กับต่วนที่รู้ว่าแผนการทั้งหมดถูกไอ้คล้ามสหายรักหักหลัง!

หกปีให้หลัง ต่วน ดาวคะนอง พ้นโทษออกมาจากคุก และมันก็ติดต่อสหายร่วมคุกทั้งสองที่ได้รับการปล่อยตัวออกมาก่อนหน้า บัดนี้สิ่งสำคัญที่ต่วนต้องการที่สุดก็คือการล้างแค้นไอ้คล้ามให้สาสม มันล่วงรู้ว่าตอนนี้คล้ามประกอบอาชีพสุจริต แต่งงานอยู่กินกับหญิงม่ายคนหนึ่งแล้วไปอาศัยอยู่ที่เมืองสุไหงโกลกทางภาคใต้ จนร่ำรวยมีฐานะ แผนการสำคัญจึงเริ่มต้นขึ้น

ต่วนหายไปเงียบๆ อีกราวสองเดือนเศษ เมื่อกลับมาอีกครั้ง มันพาเด็กชายหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูคนหนึ่งติดมาด้วย อายุเพียงขวบเศษ และบอกว่าเป็นพ่อของเด็กชายคนนี้ ผู้ที่มันตั้งชื่อให้ว่า กร้าว บุรีรมย์

เสี่ยบ้วนหยูเอเยนต์ใหญ่ค้ายาเสพติดส่งขวัญใจสมุนของมันมาติดต่อต่วนให้ทำงานขนส่งเฮโรอีน ต่วนวางกลซ้อนแผนบ้วนหยูเพื่อหวังเอาเงินจำนวนมากไปใช้ แต่แล้วบ้วนหยูจับได้ จึงจัดการตัดข้อมือต่วนทิ้ง จนมันกลายเป็นมือด้วนไปข้างหนึ่ง และได้รับฉายาในเวลาต่อมาว่าต่วนด้วน แห่งดาวคะนอง จากนั้นทั้งมันและบ้วนหยูต่างก็ตั้งตัวเป็นศัตรูกัน

เวลาผ่านไป กร้าวเติบโตเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี มีฝีมือในการต่อสู้ โดยไม่รู้เลยว่าตนเองหาใช่ลูกแท้ๆ ของต่วนไม่ และเวลาสำคัญก็มาถึง เมื่อต่วนได้พบกับคล้ามอีกครั้ง คล้าม พงษ์พยัพ ในเวลานี้กลายเป็นหนุ่มใหญ่ภูมิฐาน และมันก็วางแผนสังหารคล้ามต่อหน้าต่อตาของกร้าว

สัญชาตญาณบางอย่างทำให้กร้าวเข้าไปช่วยเหลือคล้าม และได้ยินเสียงเรียกชื่อเขาไม่ต่างกับเป็นลูก ทำให้กร้าวเริ่มรู้สึกเอะใจ แต่แล้วคล้ามที่นอนจมกองเลือดก็เสียชีวิตลง ภาพนั้นเป็นความทรงจำในสมองของกร้าวมาโดยตลอด

ข่าวการเดินทางกลับมาจากเมืองนอกของนภาพงษ์ พงษ์พยับ บุตรชายของคล้าม ทำให้ ต่วนวางแผนการสำคัญ โดยตั้งใจจะจับตัวนภาพงษ์มาเป็นตัวประกัน แล้วส่งกร้าวสวมรอยเป็นนภาพงษ์ เข้าไปแต่งงานกับมรกต คู่หมั้นสาวของเขาแทน รวมถึงรับมรดกทั้งหมดของคล้ามที่เสียชีวิตไปแล้ว

นภาพงษ์ถูกจับตัวไป โดยที่กร้าวเห็นนภาพงษ์ครั้งแรกก็ถึงกับตกตะลึง เพราะชายหนุ่มผู้นั้นมีรูปร่างหน้าตาและทุกอย่างแทบจะเหมือนกับตนเองราวกับฝาแฝด แผนการเปลี่ยนตัวสำเร็จ เมื่อเขาได้พบกับมรกต และทนายสุขสันต์ ที่เป็นตัวแทนดูแลทรัพย์สินทั้งหมดของคล้าม

เขาและมรกตได้มีสัมพันธ์สวาทกันอย่างเผ็ดร้อน และเมื่อนั้นเอง กร้าวจึงรู้ความจริงว่า หล่อนมิใช่มรกตคู่หมั้นของนภาพงษ์ แต่เป็นนางนกต่อที่เสี่ยบ้วนหยูส่งมา เพื่อจัดการกับเขาแทน

หญิงสาวผู้นี้มีชื่อจริงว่าวิภา อัญชลี แต่หล่อนเองก็หลงรักกร้าวเข้าเสียแล้ว หากกร้าวก็พาหล่อนไปกักขังไว้กับพ่อต่วนของเขา แต่แล้วภายหลังวิภาติดสินบนสมุนคนหนึ่ง เพื่อให้พาหนีออกไป ต่วนจึงจัดการสังหารหล่อน แม้ว่ากร้าวจะขอชีวิตของหล่อนเอาไว้ แต่ก็ไม่เป็นผล เขารู้ว่าบิดาเป็นคนอำมหิตโหดเหี้ยมที่น่าสะพรึงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

และแล้วทนายสุขสันต์ก็พาเขาเข้าไปที่ห้องของคล้ามในคฤหาสน์หลังงามที่นั่นเอง กร้าวได้พบความจริงจากรูปถ่ายของคล้าม ว่าคล้ามมีลูกสองคน คนโตคือนภาพงษ์ และคนเล็กก็คือวงษ์สนิท แต่เด็กชายวงษ์สนิทนั่นเองที่ถูกต่วนลักพาตัวหายไปตั้งแต่เด็ก มันสร้างความเจ็บปวดให้เกิดแก่คล้ามผู้เป็นพ่อ โดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย

นี่เองคือบทแก้แค้นบทแรกของต่วน ดาวคะนอง!

กร้าว รับรู้ความจริงด้วยความเจ็บปวด ในเวลาต่อมา เมื่อมรกตตัวจริงเดินทางมาถึง เขาตกตะลึงกับความสวยงามของเธอ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคู่หมั้นของนภาพงษ์ พี่ชายของเขาก็ตาม มรกตเองก็รู้สึกประทับใจในตัวกร้าว โดยเข้าใจว่าชายหนุ่มผู้นี้คือคู่หมั้นที่แท้จริงของเธอ เมื่อมรกตถูกจับตัวไป เขาตัดสินใจเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเหลือ โดยมีสารวัตรปรน ภูวนารถ ที่คอยติดตามสืบสวนพฤติการณ์ของเขาด้วยความสงสัย

และในที่สุด กร้าวก็สามารถช่วยเหลือ พานภาพงษ์ พี่ชายร่วมสายเลือดให้หนีออกมาอย่างปลอดภัย ก่อนการปะทะ จนทำให้สมุนของต่วนเสียชีวิตลง และแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขา กับต่วน ต้องสะบั้นความสัมพันธ์กันไปในที่สุดก็ตาม

ชีวิตของกร้าว บุรีรมย์ หรือวงษ์สนิท พงษ์พยับ แม้ว่าจะได้พบกับชาติกำเนิดที่แท้จริง แต่ท้ายที่สุด บทพิสูจน์ในชีวิตของเขาภายหลังจากการเป็นอาชญากรที่ถูกต่วนหล่อหลอมและสร้างขึ้นมา ก็คือต้องกลับมาห้ำหั่นกับต่วน ดาวคะนอง บิดาเลี้ยงที่ชุบเลี้ยงเขามาตั้งแต่วัยเยาว์ เพื่อแก้แค้นให้กับบิดาที่แท้จริง

เรื่อง : ลูกชาติเสือ

ผู้เขียน : กรกฎ อลงกรณ์

สำนักพิมพ์ : โอเดียนสโตร์

ปีที่พิมพ์ : ไม่ปรากฎปีที่พิมพ์

เล่มเดียวจบ

ท่ามกลางสายฝน และการล้อมจับของเหล่าตำรวจที่ล้อมรอบโกดังร้างแห่งนั้น กร้าวและต่วนกำลังจะดวลปืนกัน ต่วนผู้ซ่อนเล่ห์กลอำพรางไว้ภายในภาพของบิดาที่รักลูกเลี้ยงและเอ่ยปากทวงบุญคุณ ขณะที่กร้าว บุรีรมย์ก็ต้องต่อสู้กับมโนธรรมของตัวเองที่มีต่อต่วนในอดีต ก็ผุดพรายขึ้นมาในความคิด

กร้าว บุรีรมย์ เกือบจะล้มความตั้งใจ เกือบจะคิดว่าในโลกนี้เขามีพ่ออยู่คนเดียว คือต่วนด้วนยอดนักเลงผู้ยิ่งใหญ่ เขาเกือบจะโยนปืนทั้งสองกระบอกลงดิน ทว่าวงหน้าของพ่อคล้าม พงษ์พยับ ก็กลับโพลนกระจ่างขึ้นมาในความมืด ริ้วรอยของความเจ็บปวดรวดร้าวเมื่อถูกกระสุนปืนกระหน่ำ ยิงกราดจับทั่วผิวหน้าระยะที่พูดกับเขาสะอึกเข้ากอดเขาไว้แน่น สองข้างที่ดวงตาที่กำลังปิดสนิทหล่อเยิ้มอยู่ด้วยหยาดน้ำตา เขารู้ว่าเป็นน้ำตาลูกผู้ชาย มันหลั่งออกมาจากอารมณ์รักอันท่วมท้น เป็นน้ำตาของพ่อที่พบกับความปลื้มปีติในครั้งสุดท้าย

หากก่อนที่การดวลปืนจะเริ่มต้น ต่วนก็ถูกยิงจากฝีมือการสังหารของสารวัตรปรน ภูวนารถ นายตำรวจที่ติดตามคดีนี้มาอย่างตลอดนั่นเอง และสารวัตรส่งกำลังพลเข้าบุกทลายกลุ่มมิจฉาชีพของต่วนและเฮียบ้วนหยู จนพังทลายไปก่อนหน้า ปรนได้เผชิญหน้ากับกร้าว ชายหนุ่มยอมรับกรรมของตัวเขาเองที่จะเกิดขึ้นอย่างชาติเสือ แต่ก่อนที่จะมอบตัวกับตำรวจ เขาต้องการพบกับมรกตและนภาพงษ์ที่รอคอยอยู่ด้านนอก ทว่า…

เมื่อก้าวออกไปจากโกดังแห่งนั้น ตำรวจที่รายล้อมอยู่ก็เข้าใจผิด และยิงกร้าวจนล้มลงกับพื้น โดยที่สารวัตรปรนห้ามไม่ทัน ขณะที่มรกตและนภาพงษ์ต่างก็วิ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเป็นห่วง แต่แล้วกร้าวก็สิ้นใจลงในที่สุด จบชีวิตของวงษ์สนิท พงษ์พยับ ที่เกิดมาภายใต้เงื้อมเงาของทรชน แม้จะสามารถกลับตัวกลับใจได้ในนาทีสุดท้ายของชีวิตก็ตาม

หมายเหตุ : สำหรับภาพประกอบผู้เขียนนั้น ผมนำมาจากเพจ ‘พิพิธภัณฑ์นักอ่าน นักเขียนนักแปล’ ซึ่งต้องขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ