สามชีวิต

สามชีวิต

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

****************************

อินทนนท์น้อย หรือ น้อย อินทนนท์ หรือ มาลัย ชูพินิจ คือนักเขียนรุ่นครู ผู้มีนามปากกามากมาย เป็นที่รู้จักกันดี อย่างนวนิยายชุด ล่องไพร (ในนามปากกา น้อย อินทนนท์) หรือ แผ่นดินของเรา (แม่อนงค์), ชั่วฟ้าดินสลาย, ทุ่งมหาราช (เรียมเอง) สำหรับ สามชีวิต เรื่องนี้ เป็นเรื่องสั้นขนาดยาวสองเรื่องที่จบในตอน เห็นปกครั้งแรกผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นนวนิยายชีวิตสะเทือนอารมณ์ แต่ผิดคาดครับ เรื่องนี้ออกแนวสืบสวนสอบสวน โดยดำเนินเรื่องผ่านตัวละครเอกทั้งสามคือ ชายเฒ่าศุข ทองคำเปลว กับเจ้าแก้ว หลานชายวัยแก่แดด และเจ้าจ๋อน้อยจอมกวน เจ้านิลเอก รวมเป็นสามชีวิตนั่นเอง

มาลัย ชูพินิจ

สำหรับตอนแรกเป็นเรื่องราวของ สามชีวิต โดยที่เฒ่าศุขเอง กำลังอ่านหนังสือพิมพ์แล้วเห็นประกาศรับสมัครของบริษัทสุวรรณภูมิภาพยนตร์ โดยมีเงื่อนไขเพียงแค่สามข้อ ข้อแรกอายุไม่ต่ำกว่าหกสิบปี ข้อสอง นิสัยซื่อสัตย์เปิดเผย และข้อสาม ขวานผ่าซาก!

ด้วยความสนใจ เฒ่าศุขจึงไปติดต่อกับคุณวิยดา นักข่าวสำนักพิมพ์ สาส์นไทย ที่เคยรู้จักกันมาก่อน วิยดาติดต่อไปยัง คุณบุรี วรนารถ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ของบริษัทและเป็นผู้รับสมัครนั่นเอง ทำให้เฒ่าศุขรู้ว่าตำแหน่งที่บุรีต้องการคือที่ปรึกษา!

บุรีประทับใจบุคลิกของเฒ่าศุขมาก และหลังจากพูดคุยกันไม่นานเขาก็ตัดสินใจให้เฒ่าศุขมาทำงานที่บริษัทของตนเลย ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน วันรุ่งขึ้นเฒ่าศุข เดินทางมาทำงาน และพบกับคุณดวงยิหวา ภรรยาแสนสวยของบุรี และเขายังรู้มาอีกว่าหล่อนเพิ่งไล่แขไฉไล เลขาคนสวย ให้ไปทำงานที่อื่นแทนตำแหน่งเลขา แม้ว่าปากจะบอกว่าไม่หึงหวงบุรีเท่าใดก็ตาม

“ลงผู้ชายริอ่านจะเจ้าชู้ละก็ ต่อให้ขังกรงหรือล่ามโซ่ไว้ก็กันไม่ได้”

“คุณนายพูดถูกทีเดียวครับ” ศุข ทองคำเปลว ถอนใจ

“อะไรๆ มันอยู่ที่ใจเท่านั้น แล้วใจน่ะผูกกันอยู่ด้วยความหึงหวง หรือการทะเลาะเบาะแว้งเมื่อไหร่? ผูกกันด้วยความเข้าใจ ความพยายาม เห็นอกเห็นใจและให้อภัยเป็นดีกว่าอะไรทั้งหมด”

การมาทำงานของลุงศุขในตำแหน่งพิเศษนี้ ทำให้ทุกคนเข้าใจว่า เขาเป็นลุงของบุษบา ดาราสาวคนใหม่ที่บุรีกำลัง ‘คั่ว’ อยู่ และปลุกปั้นให้หล่อนเป็นนางเอกภาพยนตร์ คนละเลือด ของเขา ลุงศุขและสมาชิกทั้งสอง ต้องเดินทางติดตามบุรีไปยังกองถ่ายที่พัทยา และได้เห็นบุษบา ดาราสาวน้อยเซ็กซี่ที่เอาแต่ใจ จนแม้แต่ผู้กำกับยังต้องมาง้อ เพราะเห็นว่าบุรีผู้อำนวยการสร้าง นายทุนบริษัทถูกใจเจ้าหล่อน

เฒ่าศุข ต้องติดตามบุรีไปยังพัทยาและสัตหีบเมื่อเลิกกองถ่ายแล้ว ปรากฏว่าบุรีได้พา ดาราสาวไปเริงรักยังกระท่อมริมหาด ปล่อยให้สามชีวิตเล่นน้ำทะเลรอคอยจนเผลอหลับไป เมื่อเฒ่าศุขตื่นขึ้นมาก็พบว่าคนทั้งสองหายไปแล้ว แม้ว่าเสื้อผ้าเครื่องใช้ยังอยู่ในบังกะโลแห่งนั้น ชายเฒ่าจึงตัดสินใจตามรอยรถยนต์ไป และพบว่ามันไปหยุดอยู่ที่บ้านร้างกลางไร่แห่งหนึ่ง โดยที่บุรีถูกทำร้ายนอนหมดสติอยู่ที่หน้าบ้าน

เฒ่าศุขช่วยบุรีจนฟื้นคืนสติ และเขาก็บอกว่าบุษบาถูกฉุดเข้าไปในบ้าน ทำให้เฒ่าศุขรีบตามเข้าไปภายในนั้น ก่อนจะถูก ‘ฆาตกร’ ที่ดักรออยู่เอาไม้ตีศีรษะจนสลบแล้วเผ่นออกมา ผ่านหน้าเจ้าแก้ว หลานชายที่รีบตามขึ้นมา แต่ก็ไม่เห็นหน้าคนร้ายคนนั้น

ด้วยความตกใจ เจ้าแก้วจึงช่วยปฐมพยาบาลจนลุงศุขฟื้นคืนสติ แต่แล้วทั้งสามก็พบว่า ภายในบ้านหลังนั้นมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งถูกฆ่าตายนอนอยู่บนเตียงนอนด้วย ส่วนบุรีก็หายตัวไปเสียแล้ว

ยังไม่ทันที่ทั้งหมดจะทำอะไร ตำรวจก็โผล่เข้ามา และนายศุขก็กลายเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตาย… แม้ว่าชายเฒ่าจะปฏิเสธอย่างไรก็ไม่เป็นผล หลักฐานหลายอย่างแสดงให้เห็นว่า ลุงศุข มีความน่าจะเป็นมากที่สุด ในขณะที่บุรีก็เดินทางมากับดวงยิหวา ภรรยา พร้อมหลักฐานว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทั้งหมด

วนิดา นักข่าวสาวไม่เชื่อว่านายศุขจะเป็นผู้ร้าย และศพที่พบก็คือแขไฉไล อดีตเลขาที่มีความสัมพันธ์กับบุรีมาก่อนนั่นเอง ส่วนบุษบาก็หายตัวไปอย่างลึกลับ ตราบจนกระทั่งมีคนพบศพปริศนาลอยไปติดอยู่ที่ท่าน้ำแห่งหนึ่ง และพบว่าเป็นศพของบุษบา ดาราสาววัยรุ่นนั่นเอง

ชายชราผู้น่าสงสารและซื่อตรง เกือบจะต้องเข้าไปนอนอยู่ในคุกเสียแล้ว ถ้าหากว่าเจ้าแก้ว จะไม่จำ ‘กลิ่นน้ำหอม’ ของใครคนนั้นได้ และวนิดา เหยี่ยวข่าวสาว ก็นำมาเชื่อมโยงกับ ผ้าเช็ดหน้าที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จนนำมาสู่การจับตัวฆาตกรได้ในที่สุด

 

ส่วนเรื่องที่สองของชุดนี้ เป็นพฤติการณ์เดียวกัน แต่คราวนี้ทั้งสามชีวิตได้รับการติดต่อให้มาทำงานกับคุณนายเอื้องทิพย์ โดยมีหน้าที่เฝ้าบ้านอีกหลังหนึ่งของเธอที่จะทำเป็นสโมสร โดยมีอาจารย์ทอง หรือ นภดล แซ่โค้ว เป็นที่ปรึกษา ลุงศุขและพรรคพวก ได้เผชิญหน้ากับ โปรเฟสเซอร์รินัลดี้ เพื่อนชายคนสนิทของคุณนายเอื้องทิพย์ ที่ชอบมาในเวลาวิกาล

ภาระการเฝ้าบ้านหรือสโมสรพิเศษ คงจะไม่มีปัญหาอะไร ถ้าหากเฒ่าศุขจะไม่พบพฤติกรรมแปลกๆ ของสมาชิกเหล่านั้น โดยเฉพาะการพบกับอรนุชและรุจี สองสาวที่มาเป็นนางแบบนู้ดให้กับอาจารย์ทองวาดรูป และก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมเกิดขึ้น!

ศพแรกคือ โปรเฟสเซอร์รินัลดี้ที่มีข่าวว่าจะแต่งงานกับคุณนายเอื้องทิพย์ เขาถูกพบเป็นศพโดยเสียชีวิตระหว่างการแปรงฟันในห้องน้ำนั่นเอง ก่อนที่ศพต่อมาจะเป็นอรนุช หญิงสาวที่มาเป็นนางแบบนู้ด และศพสุดท้ายของรุจา ถูกซ่อนเอาไว้ในห้องใต้ดิน ถ้าหากว่าเจ้าจ๋อนิลเอกไม่ทะลึ่งไปดึงยกทรงจากศพนางแบบสาวออกมาเล่น ก็คงจะไม่มีใครพบเช่นกัน

 

สิ่งที่น่าสนใจคือ ทั้งสามศพถูกพบว่าเสียชีวิตด้วยยาพิษ ไซยาไนด์!

ยาพิษที่รุจากินเข้าไปจนตาย ยาพิษที่ซ่อนไว้ในช็อกโกแลตที่นางแบบอรนุชกินเช่นกัน และท้ายสุดคือยาพิษที่ผสมเอาไว้ในยาสีฟันเพื่อสังหารโปรเฟสเซอร์รินัลดี้ โดยที่ตำรวจพบว่า ยาสีฟันหลอดนั้น คุณนายเอื้องทิพย์เป็นคนนำมาให้ชายคนรักของเธอเอง

งานนี้ นายตำรวจศักดิ์ และวนิดา นักข่าวสาว ต้องมาช่วยลงมือสืบสวนสอบสวนอีกครั้ง ร่วมกับพยานปากเอก ของสามชีวิตนี้เช่นกัน แล้วกุศโลบายการนำยาสีฟันเพื่อมาหลอกดึงตัวฆาตกรจากเงามืดก็เริ่มต้นขึ้น จนสามารถกระชากหน้ากาก ของผู้สังหารออกมาได้สำเร็จ แม้ว่าในตอนท้าย ฆาตกรจะตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยยาพิษไซยาไนด์เหมือนกับที่มันใช้ในการสังหารศพทั้งสามเพื่อหนีคดีก็ตาม

เรื่อง : สามชีวิต

ผู้เขียน : อินทนนท์น้อย

สำนักพิมพ์ : เกษมบรรณกิจ

ปีที่พิมพ์ : 2511

เล่มเดียวจบ

เรื่องสั้นทั้งสองเรื่องใน ‘สามชีวิต’ เล่มนี้ น่าจะนับเป็นเล่มสุดท้ายในชุดซีรีส์ สามชีวิต ของ อินทนนท์น้อย ซึ่งเคยตีพิมพ์ในนิตยสาร พิมพ์ไทย มาก่อน ก่อนจะนำมารวมเล่ม นอกจากนี้ผมพบว่า หนังสือเรื่อง ‘สามชีวิต’ ยังมีฉบับพิมพ์กับสำนักพิมพ์คลังวิทยาอีกหนึ่งสำนวน โดยจัดพิมพ์เป็นสองเล่มจบ และใช้นามปากกาว่า น้อย อินทนนท์ แต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีโอกาสได้อ่าน

ซึ่งในสองเล่มดังกล่าวนั้น คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องราวชุดแรกหรือชุดเปิดตัวของตัวละคร ลุงศุขทองคำเปลว เจ้าแก้ว และลิงน้อยนิลเอก นั่นเองครับ

 

Don`t copy text!