หนี

หนี

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้ครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

****************************

นวนิยายขนาดสั้นและชื่อสั้นๆ ว่า ‘หนี’ ของ แขคำ ปัณณะศักดิ์ เขียนคำโปรยไว้สั้นๆ เพียงว่า “เหยื่อกามตัณหาที่พาตัวเองหนีจากชะตากรรม… สู่โศกนาฏกรรม” และด้วยคำโปรยนี้เอง ที่นำพาให้ผู้อ่านได้ติดตามเรื่องราวอันเข้มข้นและหม่นทึบของเด็กหญิงตัวน้อย ‘ขมิ้น’ จากจุดเริ่มต้น จนนำไปสู่ปลายทาง ด้วยหัวใจที่ลุ้นระทึกไปกับชะตากรรมนั้นจนถึงบรรทัดสุดท้าย

ขมิ้น เด็กหญิงวัยย่างสิบเอ็ดขวบ ผิวพรรณขาวนวลแบบคนเหนือ และรูปร่างอวบอิ่มเกินวัย เด็กหญิงอาศัยอยู่กับนางจันทร์ดีผู้เป็นแม่และนายชิตพ่อเลี้ยง ที่เชียงใหม่ ในช่วงชีวิตวัยเยาว์ก่อนหน้า ขมิ้นเคยนั่งรถไฟจากเชียงใหม่ไปลำปางกับแม่ เพื่อไปเยี่ยมป้าปวนกับลุงสม ทิวทัศน์สองข้างทางนั้นช่างสดใส รวมถึงการผ่านอุโมงค์ขุนตาน ที่เด็กหญิงเคยกลั้นลมหายใจเพื่อให้ผ่านช่วงอุโมงค์อันยาวเหยียดนั้น แต่ไม่เคยสำเร็จเลยสักที

มันคือภาพของความสุขที่จะไม่ต้องกลับมาเผชิญสิ่งเลวร้ายที่บ้าน เพราะเมื่อเธอกลับมาในยามใดที่แม่ไม่อยู่ ขมิ้นจะถูกนายชิตล่วงละเมิดทางเพศทุกครั้ง โดยที่แม่เคยล่วงรู้ ตราบจนกระทั่งถึงวันนี้ เมื่อแม่กลับมาเห็นภาพสะเทือนใจนั้นเข้าพอดี

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้พ่อกับแม่มีปากเสียงกัน และนางจันทร์ดีที่ปกติเคยสงบปากสงบคำก็ไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป นายชิตลงมือทำร้ายแม่เหมือนทุกครั้ง และเด็กหญิงก็พยายามช่วยจนกระทั่ง

เขาย่างเท้าโงนเงนตาม ขมิ้นคลานหนีตะลีตะลาน มือความเปะปะคว้าได้มีดปลายแหลมเล่มหนึ่งที่ตกอยู่ข้างกะละมัง

“อย่าเข้ามานะ! พ่อ… หนู…หนูกลัวแล้ว” เธอร้องเสียงหลง ดวงหนีซีดเผือด “อย่า…อย่านะ”

ฤทธิ์สุราและบันดาลโทสะจนเกินยั้งนายชิตปรี่เข้าแย่งมีด ตบเตะเด็กหญิงเป็นพัลวัน

และแล้วเขาก็ พลาด หกล้ม ในขณะที่มีดของขมิ้นปักเข้าราวนมซ้าย เลือดไหลแดงฉาน

เขาตายแล้ว!

เด็กหญิงตัวน้อย หวาดกลัวจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างขณะที่แม่เข้าประคองศพพ่อ เธอวิ่งหนีออกไปจากบ้าน สำนึกสุดท้ายคือ ไปให้ไกลที่สุด ก่อนที่ตำรวจจะจับตัวไป เพราะเธอกลายเป็นฆาตกร!

ขมิ้นหนีขึ้นรถไฟ และไปอาศัยอยู่กับป้าป่วนที่ลำปาง ในเวลาเดียวกับที่แม่ติดต่อมา แต่เด็กหญิงที่ไม่ได้ฟังรายละเอียด เข้าใจว่าป้าจะจับเธอส่งให้แม่ และต้องติดคุก ทำให้ขมิ้นตัดสินใจครั้งสำคัญ เธอหนีขึ้นรถไฟมายังกรุงเทพฯ โดยไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งเลวร้ายบัดซบอีกมากมายรออยู่!

ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ขมิ้นมีโอกาสรู้จักกับเด็กหญิงปิ่นที่เป็นเด็กเร่ร่อนเช่นกัน ปิ่นหนีออกจากบ้านที่อุบลราชธานีมาอาศัยอยู่ข้างถนน และต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มอันธพาล โดยเฉพาะกลุ่มเด็กชายวัยรุ่นที่เคยรุมโทรมเธอจนต้องหนีเอาตัวรอด และเก็บเศษขยะขาย อย่างน้อย ด้วยไมตรีจิตของปิ่น ทำให้ขมิ้นได้พักอาศัยอยู่ และปิ่นก็หางานให้กับขมิ้นได้ในเวลาต่อมา

เจ้เฮียงขายข้าวมันไก่ ต้องการลูกจ้างทำงานพอดี และยังมีที่พักให้ด้วย ที่นั่นเอง ขมิ้นต้องคอยล้างจาน เก็บกวาดเช็ดถูและเตรียมของขายตั้งแต่เช้ามืดจนถึงค่ำ โดยพักกับแก้ว ลูกจ้างสาวที่อยู่ห้องหนึ่ง และลูกจ้างชายอีกสามคนที่อีกห้องหนึ่ง

และคืนหนึ่งขมิ้นก็เห็นแก้วมีความสัมพันธ์กับใครบางคน ก่อนที่เขาจะหายออกไปจากห้อง เด็กสาวพยายามระวังตัวแต่สุดท้าย เธอก็หนีไม่พ้น ชายคนนั้นบุกเข้ามาหาเธอในคืนวันหนึ่ง และล่วงละเมิดเธอไม่ต่างกับพ่อเลี้ยง โดยที่แก้วได้แต่นอนมอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเฉยเมย เหมือนเป็นเรื่องปกติ

ขมิ้นตกใจที่สุดที่พบว่าชายคนนั้นก็คือเฮียตง ผัวของเจ๊เฮียงนั่นเอง!

ขมิ้นไม่อาจทนอยู่ในสภาพนั้นได้อีกต่อไป เด็กหญิงหนีอีกครั้ง หนีเพื่อกลับไปหาปิ่น เพื่อนรักเพียงคนเดียวที่ตึกร้างที่เคยอาศัยอยู่ แต่ช้าไปเสียแล้ว ก่อนหน้านั้นไม่นาน ปิ่นเผชิญหน้ากับกลุ่มเด็กเร่ร่อนอันธพาลที่คอยรีดไถเงิน และพวกมันก็วิ่งไล่จนปิ่นหนีเตลิดออกไปกลางถนนและถูกรถชนตายคาที่!

ขมิ้นต้องออกมาอาศัยข้างถนนเหมือนเดิม และคราวนี้เงินที่ได้มาจากเจ๊เฮียง ก็ถูกกลุ่มเด็กหนุ่มพวกนั้น แย่งชิงเอาไปอีก ชีวิตของเธอเหมือนกับมืดมนจนไร้แสงสว่างหมดสิ้น ขมิ้นคิดถึงแม่ แต่ไม่กล้ากลับไป เธอไม่อาจรู้เลยว่าคดีที่พ่อเลี้ยงเสียชีวิตลงมันเป็นอุบัติเหตุ และทุกคนก็เข้าใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับเธอสักนิดเดียว แต่ไม่อาจจะตามหาตัวขมิ้นได้เสียแล้ว

ในความมืดมิดนั้น ขมิ้นคิดว่าเธอโชคดีที่เจอกับหญิงสูงวัยคนหนึ่งชื่อป้าฉวี ป้าคอยแวะเวียนมาหาและช่วยเหลือ ขับไล่เด็กอันธพาลพวกนั้นไปก่อนที่มันจะทำร้ายเธอ ป้าชวนให้เธอไปอยู่ด้วยกัน และขมิ้นก็ตอบตกลง ชีวิตเด็กเร่ร่อนกลางถนนที่เสี่ยงอันตรายจบลงแล้ว…

แต่…

เด็กหญิงถูกประคองเดินอ้อมตึกไปขึ้นรถที่จอดไว้ในซอย ชายฉกรรจ์ก้าวประจำที่นั่งคนขับแล้วบังคับรถให้เคลื่อนออกไปทันที บนเบาะนุ่มและเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำของรถเก๋งคันหรู ขมิ้นได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น และนางฉวีก็กดรับ

“ว่าไงเสริม ดีมาก ถ้าทางโน้นพร้อมก็ส่งของคืนนี้เลย อือ… อือ เดี๋ยวฉันแวะเอาไปให้อีกหนึ่ง เพิ่งได้ โอเค แค่นี้นะ”

และแล้ว ขมิ้นพร้อมกับเด็กหญิงอีกหลายคนก็ถูกจับขึ้นรถส่งไปเพื่อบำเรอกามให้กับชายที่มาซื้อบริการทางเพศ ทั้งไทย ทั้งฝรั่ง อย่างโหดเหี้ยมทารุณ

นรกมีจริงหรือ? เหตุใดเศษมนุษย์พวกนี้ยังมีชีวิตลอยนวลอยู่ได้ ช้าอยู่ทำไม เงื้อง่ารออะไรอยู่? หรือจะรอจนกว่า ร่างกายและจิตใจของเด็กหญิงย่อยยับแตกสลายเสียก่อน

โปรดเถิด หยุดมันที ช่วยเธอด้วย ช่วยด้วย!

และภายในที่คุมขังไม่ต่างกับสัตว์เดรัจฉานนั้นเองที่ขมิ้นล้มเจ็บลงทั้งร่างกายและจิตใจ เด็กหญิงฝันเห็นปิ่นมาหา และบอกให้เธอ “หนี” อีกครั้ง หนีไปจากที่นี่ให้ได้ เธอตัดสินใจปีนหน้าต่างเพื่อหนีออกไป และคนพวกนั้นก็เห็นเข้าพอดี

ขมิ้นดิ้นรนสุดชีวิต ในขณะที่ตำรวจบุกทลายแหล่งค้าประเวณีแห่งนี้ในจังหวะนั้นพอดี ร่างของเธอหลุดร่วงลงมาจากชั้นบนหล่นกระแทกพื้นด้านล่าง โดยไม่ทันได้รับรู้ว่า ตนเองและเพื่อนร่วมชะตากรรมทุกคนเป็นอิสระแล้ว

เด็กหลายคนถูกส่งตัวกลับบ้าน บางคนถูกนำไปรักษาโรคทางเพศสัมพันธ์ นางจันทร์ดีได้รับการติดต่อให้มารับตัวเธอ แต่ทว่าเด็กหญิงผู้น่าสงสารสมองกระทบกระเทือนและไม่รับรู้ใดๆอีกต่อไปแล้ว…

นวนิยายขนาดสั้นเรื่องนี้ เป็นแนวสะท้อนความเป็นจริงที่ค่อนข้างโหดร้าย แม้ว่าในตอนท้ายจะยังพอมีความหวังที่ทิ้งเอาไว้สำหรับผู้อ่านบ้างก็ตาม แต่ก็ทำให้รับรู้ว่าครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต ความอบอุ่นภายในครอบครัว จะเป็นสิ่งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งให้กับเด็กๆ และเป็นเสมือนรากฐาน ของการเจริญเติบโต อย่างสวยงามในอนาคต

ขมิ้น อาจจะเป็นตัวแทนของเด็กส่วนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัว และตามมาด้วยโศกนาฏกรรมที่สะเทือนใจ แต่อย่างน้อยที่สุด ชีวิตของขมิ้นในนวนิยายเรื่องนี้ ก็น่าจะเป็นเหมือนบทเรียนให้กับครอบครัวอื่นที่จะเฝ้าระวังไม่ให้สิ่งเลวร้ายเหล่านั้นได้เกิดขึ้นอย่างเป็นจริง และเป็นเพียงแค่เรื่องราวในนวนิยายสะท้อนสังคมเรื่องนี้ เท่านั้น

เรื่อง : หนี

ผู้เขียน : แขคำ ปัณณะศักดิ์

สำนักพิมพ์ : เพื่อนดี

ภาพปก : กนกวรรณ์ เล็กดำรงศักดิ์

ปีที่พิมพ์ : 2547

เล่มเดียวจบ

สำหรับประวัติของคุณแขคำนั้น ผมขอนำส่วนหนึ่งมาจากท้ายเล่มของเรื่องนี้ครับ

แขคำ ปัณณะศักดิ์ หรือชื่อจริงคือ ทัศนัย ไชยพันธ์ เป็นชาวเชียงใหม่ เป็นลูกคนสุดท้องในจำนวนพี่น้องสี่คนที่ได้รับความอุปการะเลี้ยงดูจากย่ากับปู่มาตลอดชีวิต เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนบ้านเชียงดาว จบมัธยมต้นโรงเรียนเชียงดาววิทยาคม และเข้าทำงานที่ธนาคารไทยพาณิชย์ เชียงใหม่ โดยเริ่มงานเขียนด้วยกลอนหกสองบทในนิตยสาร สตรีสาร มาก่อน

สำหรับงานเขียนนั้น ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย เช่นรวมเรื่องสั้นชุด บอใบไม้สระอานอหนูไม้โท ได้รับรางวัลหนังสือดีเด่นประเภทรวมเรื่องสั้น จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2546 เรื่อง แมลงเม่า ได้รับรางวัลเรื่องสั้นสุภาว์ เทวกุลฯ ประจำปี 2540 และเรื่อง ดิ้นเร่าในตัวตน ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 50 เรื่องสั้นช่อปาริชาต 2001

ส่วนผลงานในรูปแบบนวนิยายนั้น มีทั้งเรื่องยาวอย่าง นิยายในสายหมอก คาวดอกไม้ ไฮโซตลาดสด และ เพลงใบไม้ เป็นต้น หากเป็นที่น่าเสียดายที่ คุณแขคำ ปัณณะศักดิ์ ได้เสียชีวิตลงเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา

สำหรับภาพประกอบของผู้เขียนและผลงาน นำมาจากเว็บไซต์ของมติชนครับ

Don`t copy text!