เบญจวรรณ

เบญจวรรณ

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

 

กาญจนา นาคนันท์ เป็นเจ้าของผลงานนวนิยายชื่อดัง ที่นำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ชื่นชีวานาวี ผู้กองยอดรัก ยอดรักผู้กอง และ ผู้กองอยู่ไหน เป็นต้น สำหรับ เบญจวรรณ นับเป็นผลงานนวนิยายเรื่องแรกในชีวิตของท่านที่เขียนขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2484 หากเมื่อเขียนจบแล้วก็ไม่มีใครสนใจรับพิมพ์ จึงต้องเก็บเอาไว้ จนกระทั่งผลงานเรื่องที่สองคือ จุดหมายปลายทางของกานดา ได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร สตรีสาร ทำให้เรื่อง เบญจวรรณ ได้มีโอกาสปรากฏต่อสายตาผู้อ่านในเวลาต่อมา รวมถึง ‘บ้านแคล้อม’ ในเรื่องนี้ ก็อยู่ในใจท่านผู้อ่านมานานตราบจนกระทั่งบัดนี้

ผู้เขียนได้บอกเล่าในคำนำของเรื่อง จากการพิมพ์ครั้งที่สอง เมื่อปี พ.ศ. 2513 ไว้ว่า เบญจวรรณ ได้รับอิทธิพลมาจาก สี่ดรุณี ของ Louisa M. Alcott และอยากจะเขียนในรูปแบบไทยๆ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ในเวลาที่ท่านไปรับราชการอยู่ในจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งมีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้เกิดรอยพิมพ์ใจ จึงอาศัยฉากชัยภูมิเป็นที่เปิดของนวนิยายเรื่องนี้ ซึ่งเหตุการณ์หลายอย่างก็เป็นเรื่องจริงอีกด้วย

กาญจนา จากนิตยสาร สกุลไทย ปี 2521

ลมเย็นจากตะวันออกเฉียงเหนือ พัดผ่านยอดภูเขาเขียวระเรื่อยลงมาจนถึงตัวเมืองเล็กๆ ที่กันดารและเต็มไปด้วยละอองทราย…

กาญจนา นาคนันทน์ นำพาผู้อ่านผ่านเข้าสู่ยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ณ หมู่บ้านเล็กๆ ในชนบทของจังหวัดชัยภูมิ อันมีชื่อว่าบ้านแคล้อม ครอบครัวชำนาญ และนางวอนที่ย้ายจากกรุงเทพฯ มาบรรจุเป็นครูประชาบาลแห่งนี้ มีลูกสาวทั้งหมดถึงห้าคน ใหญ่ หรือทิพา พี่คนโตที่มีบุคลิกของพี่สาวที่อบอุ่นรักน้อง เล็ก ราตรี และ น้อย นที เป็นฝาแฝดกัน แม้นิสัยใจคอจะแตกต่างกัน เมื่อราตรีเป็นหญิงสาวที่ทะเยอทะยาน รักการเรียน ต้องการความก้าวหน้ามากกว่า การอยู่ที่บ้านแคล้อมแห่งนี้ ขณะที่นทีนิสัยเหมือนบิดา ชอบทำสวนทำไร่เลี้ยงเป็ดไก่ จนทำให้หน้าตาสะสวยมอมแมมด้วยฝุ่นดินตลอดเวลา ส่วนนิดหรือวัลลา น้องสาวคนที่สี่ ก็รักสวยรักงามและชอยความหรูหราสุขสบาย และน้องคนสุดท้ายคือจุ๋ม หรือสุชาดา เด็กหญิงที่มีความใฝ่ฝันจะเป็นนักประพันธ์

+++++++++++++++++

ห้าชีวิต อันเปรียบเสมือนสีสันทั้งห้าแห่งเบญจวรรณที่แตกต่างกัน และเมื่อต่างเติบโตขึ้น ชะตาชีวิตของพวกเธอทั้งห้าก็ดำเนินไปเป็นเรื่องราวถึงห้ารูปแบบ ดูเหมือนว่าทิพาพี่สาวคนโตจะมีชีวิตที่ราบเรียบและเผชิญกับคลื่นลมมรสุมน้อยที่สุด เมื่อเธอได้พบกับบัญชา ผู้จัดการบริษัทจังหวัดที่วัลลาทำงานเป็นเสมียนอยู่ เขาได้พบกับทิพา และประทับใจในตัวเธอ ก่อนที่ก่อตัวเป็นความรัก และทั้งคู่ก็ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน ทิพาย้ายตามสามีไปอยู่กรุงเทพฯ

ราตรี พี่สาวฝาแฝดของนที ผู้มีความใฝ่ฝันพาตัวไปเรียนต่อจนสำเร็จการศึกษาสูงสุด และได้เป็นครูโรงเรียนสมความภาคภูมิใจในตัวเธอ หญิงสาวมีความรู้วิชาการเก่งกล้า แต่ประสบการณ์ชีวิตที่อ่อนต่อโลกนั่นเอง เมื่อได้รู้จักกับประสิทธิ์ นายทหารอากาศผู้บังคับฝูงบินที่มาบรรจุยังชัยภูมิ และเข้ามาติดพัน ทำให้เธอตัดสินใจแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกับเขา โดยไม่ฟังคำเตือนของวัลลาที่รู้ว่า อีกฝ่ายมีลูกเมียอยู่แล้วที่กรุงเทพฯ

การแต่งงานแต่เพียงจัดงานเลี้ยง หากเขาก็ไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับเธอ ด้วยข้ออ้างต่างๆ นานา แต่ความรัก ความไว้ใจ ทำให้ราตรีผู้เฉลียวฉลาดและมั่นใจในตัวเอง ไม่เคยคิดระแวงใจ จนกระทั่งผู้ฝูงได้รับคำสั่งให้ย้ายกลับไปกรุงเทพฯ

เขาจากเธอไปพร้อมกับที่ราตรีตั้งครรภ์ และกลายเป็นขี้ปากของชาวบ้านที่รู้ภายหลังว่าผู้ฝูงประสิทธิ์ มีภรรยาอยู่แล้ว ความอับอายชอกช้ำใจ ทำให้ราตรีตรอมใจ และภายหลังก็เกิดอุบัติเหตุ พลัดตกบันไดจนเสียชีวิตทั้งตัวเองและลูกในครรภ์ สร้างความสะเทือนใจแก่พี่น้องทุกคน

นที ผู้เป็นเสมือนเพชรในตม หญิงสาวที่ซ่อนความสวยงามไว้ภายใต้ความมอมแมม ทำงานกลางแจ้งไม่ต่างกับผู้ชาย แต่แล้วหัวใจที่เคยแข็งแกร่งก็ต้องอ่อนไหว เมื่อพบกับนายตำรวจหนุ่มชื่อศักดิ์ที่เธอนับถือเขาเป็นพี่ เพราะกิติศัพท์ความเจ้าชู้ และมีภรรยาอยู่แล้วถึงสองคน

หากรอยจุมพิตในครั้งนั้น ก็ทำให้หัวใจของนทีถึงกับเตลิดเปิดเปิงไปด้วยความหวั่นไหว และมันตราตรึงในหัวใจเด็กสาว จนหลายปีต่อมา เมื่อศักดิ์กลับมาหาเธออีกครั้ง

บัดนี้เขาลาออกจากราชการตำรวจ และทำงานเป็นทนายความ ขณะที่ภรรยาหย่าร้างตีจากไปจนหมดสิ้น บัดนี้เขาเหลือเพียงความรู้สึกที่เคยมั่นคงต่อเธอ และกลับมาเพื่อขอความรักจากเธอ

นทีต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ ที่จะพิสูจน์หัวใจรักจากพี่ศักดิ์ ที่เธอเองก็รู้ว่ารักเขาไม่ต่างกัน!

เรื่อง : เบญจวรรณ

ผู้เขียน : กาญจนา นาคนันทน์

สำนักพิมพ์ : คลังวิทยา

ปีที่พิมพ์ : 2499

เล่มเดียวจบ

วัลลา น้องสาวคนที่สี่ เป็นหญิงสาวที่รักความสะดวกสบาย เมื่อหล่อนมาทำงานในบริษัทจังหวัดและพบกับบัญชา ความใกล้ชิดและเสน่ห์ของเขาก็ทำให้เธอเองหวั่นไหว แต่เมื่อบัญชารักกับทิพา พี่สาวของเธอ วัลลาก็สามารถตัดใจได้อย่างเด็ดขาดเช่นกัน แม้จะรักความสบายและชีวิตหรูหรา แต่วัลลาก็รู้วิธีในการจัดการกับผู้ชายทั้งหลายที่เข้ามาหาเพื่อหวังผลประโยชน์ และเอาตัวรอดได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะเป็นพัลลภ นายทหารหนุ่มเพื่อนของประสิทธิ์ จนเขาต้องยอมแพ้หัวใจของเธอ หรือแสน เพื่อนวัยเยาว์ที่เป็นปลัดอำเภอและพยายามสารภาพรักกับวัลลา แต่หญิงสาวผู้มั่นคงก็ตอบปฏิเสธอย่างชัดเจน

วัลลาตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ ตามคำชวนของท่านรัฐมนตรี เพื่อประกวดนางสาวไทยที่สวนอัมพรในงานฉลองรัฐธรรมนูญปีนั้น และประสบความสำเร็จสมความปรารถนาของเธอ เมื่อได้ถึงตำแหน่งรองนางสาวไทย

แต่วัลลาก็ต้องเผชิญกับเหล่าเสือสิงห์กระทิงแรด ที่ต้องการความสาวความสวยจากเธอเช่นกัน รวมถึงท่านรัฐมนตรี ที่เคยเป็นผู้ชักชวนให้เข้าประกวดอีกด้วย หากหญิงสาวเฉลียวฉลาดพอที่จะเอาตัวรอดได้ และเมื่อมีโอกาสได้พบกับประสิทธิ์ ชายโฉดที่เคยสร้างรอยบาปให้กับราตรี พี่สาวของเธอ วัลลาก็ใช้อุบายวางแผนให้อีกฝ่ายต้องได้รับบทเรียนอย่างเจ็บแสบที่สุดเช่นกัน

สุชา น้องสาวคนสุดท้อง ที่เริ่มประสบความสำเร็จในการประพันธ์และเขียนนิยาย โดยนำชีวิตของห้าสาวพี่น้อง มาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวได้อย่างประทับใจ และมีผู้อ่านติดตามอย่างท่วมท้น

ฉากสุดท้ายของ เบญจวรรณ เมื่อสี่สาวได้เดินทางกลับมาเยือนบ้านแคล้อมอีกครั้ง พร้อมกับหวนคิดถึงความทรงจำในวัยเยาว์อันแสนสุขของห้าพี่น้อง ที่ผูกพันกันอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าชะตาชีวิตของแต่ละคนจะเปลี่ยนไปในทิศทางใด

++++++++++++++++

และ เบญจวรรณ ก็ดำเนินมาถึงบรรทัดแห่งอวสาน ด้วยฉากของความอบอุ่นในหัวใจ…

 

ต้นแคสูงชะลูดท่วมหลังคาบ้าน มีดอกประปราย บ้างก็ร่วงหล่นลงมาเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นหญ้าอันเขียวขจี หากจะเก็บไปต้มแกงที่ตกหล่นอยู่ ก็เหลือพอสำหรับครอบครัวเล็กๆ เพียงสามสี่คน นทีคิดถึงว่าครั้งกระโน้นหล่อนเคยสอยใส่กระเช้าส่งไปขายที่ตลาดเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว บางส่วนกันไว้ทำอาหารรับประทานกันในครอบครัว

บัดนี้พี่น้องทั้งหลายก็แยกย้ายกันไปตามพรหมลิขิต ต้นแคก็จะโตวันโตคืนจนแก่เต็มที่ แล้วก็จะตายไปเอง ตัวหล่อนจะได้อยู่ทะนุบำรุงต่อไปอีกนานเท่าไรก็ไม่แน่ แต่นทีรักเหลือเกิน รักบ้านเก่าๆ หลังนี้ รักต้นแค รักต้นไม้ และรักทุกๆ สิ่ง ซึ่งประกอบกันเป็นบ้านแคล้อม ถึงแม้ไม้จะผุ หญ้าจะแห้ง ควารู้สึกดังนี้ก็จะไม่เปลี่ยนเลย…

 

น้อย… น้อย!

เสียงเรียกนั้นอยู่ไม่ห่าง นทีสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ หันไปดู

ศักดิ์นั่นเอง เขายืนอยู่ไม่ห่างนทีนัก นทีผวาเข้าไปถึงตัวเขา โอบคอเขาไว้แน่น ศักดิ์ก็กอดนทีแน่นแทนคำมั่นสัญญาอันหวานฉ่ำว่า ตั้งแต่บัดนี้ เขาทั้งสองจะได้รวมสองชีวิตเป็นชีวิตเดียว และจะไม่ยอมพลัดพรากจากกันอีกเลย…

         

Don`t copy text!