ฟ้าเดียวกัน

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

****************************

นามปากกา ‘วิวัธนี’ ที่ผมพบ น่าจะมีผลงานนวนิยายอย่างน้อยสองเรื่อง คือ เฟื่องฟ้า และ ฟ้าเดียวกัน เล่มนี้เองครับ สำหรับทั้งสองเรื่อง คุณกฤษณา อโศกสิน ได้เคยเขียนเล่าไว้ในหนังสือ ลายสลักอักษรา ว่านิยาย ฟ้าเดียวกัน ได้ลงตีพิมพ์ก่อนในนิตยสาร สตรีสาร และภายหลังจากจบนวนิยายเรื่องนี้แล้ว วิวัธนี จึงได้เขียน เฟื่องฟ้า เป็นผลงานในลำดับถัดไป

ในความจริงแล้ว นามปากกานี้ก็คือ คุณผกาวดี อุตตโมทย์ นักเขียนวรรณกรรมเยาวชน อย่าง ครูไหวใจร้าย บ้านน้อย บ้านดอกไม้ นั่นเอง นอกจากนี้ ท่านยังมีผลงานอื่นๆ มากมายและหลายนามปากกา เช่น เทพนัดดา ผกายมาศ ในส่วนของผลงานแปลวรรณกรรม ในนามปากกา สุทธิ โสภา, สาลินี คำฉันท์ และ ปาริฉัตร เสมอแข เป็นต้น

สำหรับประวัติคร่าวๆ ของ คุณผกาวดี อุตตโมทย์ (นามสกุลเดิม เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ท่านเกิดเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2481 และเป็นหลานของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี อดีตเสนาบดีกระทรวงธรรมการ และนักประพันธ์ในนามปากกา ‘ครูเทพ’ นั่นเอง

ท่านเริ่มเข้าศึกษาระดับอนุบาลจนถึงประถมปีที่ 3 ที่โรงเรียนมาแตร์เดอี และภายหลัง สำเร็จระดับมัธยมแปดที่โรงเรียนราชินีบน ก็ได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศ จนจบการศึกษาด้านวิชาศิลปะที่วิทยาลัยโกลด์สมิธ มหาวิทยาลัยลอนดอน เมื่อเดินทางกลับมาเมืองไทย ก็เข้าทำงานเป็นครูสอนวิชาวรรณคดีและภาษาอังกฤษที่โรงเรียนสตรีจุลนาค โรงเรียนราชินีบน รวมถึงการจัดรายการโทรทัศน์สำหรับเด็กทางช่องสี่ บางขุนพรหม และเป็นบรรณาธิการนิตยสาร รจนา อยู่ระยะหนึ่ง จากนั้น ในช่วงปี พ.ศ. 2519-2520 สำนักพิมพ์กะรัตและสำนักพิมพ์ดอกไม้ ได้ร่วมกันผลิตนิตยสาร โวค/กะรัต ซึ่งดำเนินการประมาณ 9 ปี ก่อนจะหันมาผลิตหนังสือเพียงอย่างเดียว โดยท่านรับบทบาทเป็นบรรณาธิการสำนักพิมพ์ เป็นทั้งนักเขียนและนักแปลควบคู่กันไปด้วย ต่อมาจึงได้ก่อตั้งสำนักพิมพ์ผีเสื้อขึ้นในปี 2528 และดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน

ในด้านชีวิตการเขียนหนังสือ ผลงานเขียนชิ้นแรกของท่านเป็นเรื่องสั้น ลงพิมพ์ในนิตยสารศรีสัปดาห์ เมื่อปี พ.ศ. 2494  โดยใช้นามปากกาว่า ‘เทพนัดดา’ สำหรับผลงานที่พิมพ์เป็นเล่ม รวบรวม เมื่อปี พ.ศ. 2524 ได้แก่ มารยาทงาม งามมรรยาท นานาสนุก งามตา แม่บ้าน มิตรในเรือน บ้านน่าอยู่ บุคคลที่น่าสนใจ บุคคลที่น่ารู้จัก แจ้คกี้ ราชินีเอลิซเบ็ธ ราชนิกูลอังกฤษ วังหลวง ดอกฟ้า น้ำทิพย์ (เรื่องนี้ผมเคยรีวิวไปแล้วในอดีต) วิมานดิน บ้านน้อย (เป็นเรื่องในแนวเยาวชน ที่สนุกมากๆ เรื่องหนึ่งเลยครับ) ครูไหวใจร้าย จดหมายจากอังกฤษ ดวงมณี ฟ้าเดียวกัน เฟื่องฟ้า ล้อหัก (เรื่องแปล) สงครามและสันติภาพ (เรื่องแปล) และ นิยายเรื่อง ทานตะวัน ซึ่งเป็นชื่อเรื่องที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

นามปากกาของท่าน มีทั้งหมด หกนามปากกา ที่เปิดเผยในเวลานั้นก็คือ

• ผกาวดี อุตตโมทย์ เขียนนิยาย เรื่องสั้น เรื่องยาว
• เทพนัดดา ใช้ในงานแปล
• ผกายมาศ เขียนคอลัมน์เกี่ยวกับแม่บ้าน บ้านและสวน
• มาลาวลี เขียนคอลัมน์
• วิวัธนี เขียนนวนิยาย เรื่องสั้น เรื่องยาว
• นันทินี เขียนคอลัมน์

สำหรับนวนิยาย ฟ้าเดียวกัน เล่มนี้ น่าจะเรียกว่าเป็นนวนิยายแนวไพรัชนิยายโรแมนติก ซึ่งใช้ฉากเกือบทั้งหมดอยู่ในดินแดนของประเทศมาเลเซียในช่วงนั้น เรื่องราว กล่าวถึงชีวิตเด็กสาวชื่อดาว ซึ่งเป็นลูกกำพร้า มารดาของเธอได้แต่งงานใหม่กับ คุณลุงวรงค์ วรรังสี แต่แล้วมารดาก็เสียชีวิตลง และตามมาด้วยคุณลุงวรงค์อีกคนหนึ่ง แต่อย่างน้อยวรงค์ก็ยังมีน้องชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้พบปะกันมานานนับสิบปี ชื่อ วรุฒน์ วรรังสี แต่ชายหนุ่มผู้นั้นก็ทำงานอยู่ไกลถึงเมืองอิโปห์ ประเทศมาเลเซีย

จากจดหมายฝากฝังครั้งสุดท้ายที่พี่ชายส่งมาให้รับอุปการะหลานสาว วรุฒม์เข้าใจว่า ดาว น่าจะเป็นเด็กหญิงตัวน้อยๆ และเมื่อเธอเดินทางมาถึงกัวลาลัมเปอร์ เขาจึงไม่คาดฝันว่าจะได้มาพบกับสาวน้อยแสนสวยชาวไทย ที่ไม่ใช่หลานแท้ๆ ของเขา ในขณะที่ดาวเองก็ไม่นึกว่าจะได้เจออาวรุฒน์ ซึ่งเป็นชายหนุ่มรูปงาม โดยเฉพาะนัยน์ตาสีเหล็กกล้าของเขาที่ทำให้เด็กสาวรู้หวั่นไหวขึ้นเป็นครั้งแรก หรือนี่คือมนต์เสน่ห์ แห่งดินแดนกัวลาลัมเปอร์แห่งนี้?

ร้อยปีมานี่เอง ชายกลุ่มหนึ่งเพียงจำนวนแปดสิบเจ็ดคน ได้ท่องเที่ยวเผชิญโชคมาตามลำแม่น้ำกลาง ตั้งอกตั้งใจจะมาหาแร่ดีบุก พอมาเจอแม่น้ำกอมบัคไหลเข้ามาสู่แผ่นดินเขียวชอุ่ม คนหมู่นั้นก็ลงจากเรือ เดินบุกป่าฝ่าดง จนมาพบกับอัมปางแรก ประจันหน้ากับเหมืองดีบุกขนาดมโหฬาร ณ ที่นี้เอง ที่ซึ่งแม่กลางและแม่กอมบัคมาประสานกัน จึงบังเกิดเป็นเมืองเล็กๆ ขึ้นเมืองหนึ่ง

กัวลาลัมเปอร์ เมืองแห่งบรรดานักขุดแร่ดีบุก เมืองแห่งความโอฬารตระการตา ขอต้อนรับทุกท่านที่มาเยือนด้วยใจจริง

กัวลาลัมเปอร์ในยามราตรีช่างงามระยับ โดยเฉพาะตามละแวกถนนตนกู อับดุล ราห์มาน และที่ตึกรัฐสภาปาเลียเมนต์อันงามสง่า สูงลิบ ตั้งอยู่บนเนินใกล้ถนนใหญ่ แลดูเหมือนทองสลักแล้วทั้งแท่งที่ส่งรัศมีเจิดจ้าแข่งกับดาวบนท้องฟ้า ส่วนภูมิภาพบนไฮแลนด์ในตอนกลางวันก็มีแต่ความงามของธรรมชาติ ที่แฝงไว้ด้วยการเสกสรรปั้นแต่งเพียงปริมาณน้อยเหลือเกิน

ชีวิตที่เทวินวนิตา หรือบ้านพักของวรุฒน์ ยังมีอาซาห์ แม่บ้านมุสลิมใจดีที่คอยปลอบประโลมใจเด็กสาวให้คลายว้าเหว่ ในขณะที่ท่าทีเย็นชาของวรุฒน์ ทำให้เด็กสาวรู้สึกกังวลว่าจะเป็นภาระให้เขา เมื่อบุหรง ม่ายสาวใหญ่ชาวไทย ที่มาแต่งงานกับตวนฮัมซาห์ มหาเศรษฐีมาเลย์และตั้งรกรากอยู่ที่นี่ ชักชวนให้หล่อนมาดูแลเด็กชายกุ้ง ลูกชายคนเดียวของหล่อนซึ่งพิการ ทำให้ ดาวตัดสินใจมาช่วยเหลือ โดยไม่รู้สักนิดว่านั่นคือแผนการของบุหรงที่ต้องการจะแยกดาวออกจากวรุฒน์ และความเกลียดชังในอดีตที่บุหรงเคยมีต่อแม่ของดาว

ในอดีต บุหรงเคยรักกับวรงค์มาก่อน แต่ถูกแม่ของดาวแย่งไป จนทำให้หล่อนมาพบกับ ตวนฮัมซาห์ และย้ายมาอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์แห่งนี้ จนกระทั่งตวนฮัมซาห์ เสียชีวิตลง หล่อนกลายเป็นแม่ม่ายสาวพราวเสน่ห์ และกำลังหลงรักวรุฒน์ น้องชายวรงค์อยู่พอดี บุหรงไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย หล่อนจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะกำจัดดาวให้พ้นทาง

ชายหนุ่มหลายคนเข้ามาในชีวิตของดาว ทั้งดิ๊กหรือ มิสเตอร์ริชาร์ด แม็คมานัส และ หมอพงศ์สูรย์ วนากร แพทย์ชาวไทย ที่ดาวพบว่ เขาคือคนรักลับๆ อีกคนของบุหรงนั่นเอง แต่ไม่ว่าอย่างไร สิ่งที่ทำให้ดาวเจ็บปวดมากไปกว่าก็คือบุหรงได้มาอวดแหวนเพชรที่หล่อนบอกว่า วรุฒน์ ได้ขอหมั้นหมายกับหล่อนเอาไว้แล้ว!

ความจริงเป็นแค่แผนการของบุหรงเท่านั้นที่ต้องการทำร้ายจิตใจดาว และอยากให้หล่อน หันไปลงเอยกับผู้ชายคนอื่นแทน แต่วรุฒน์ มั่นคงในความคิดของตนเอง เมื่อเขาล่วงรู้ว่าบุหรงพยายามจะปล่อยข่าวว่าหล่อนหมั้นหมายกับเขา วรุฒน์จึงเอ่ยปฏิเสธความสัมพันธ์ที่มีต่อบุหรง เป็นเพียงแค่ความลุ่มหลงเท่านั้น มิใช่ความรัก ผู้หญิงที่เขารัก ก็คือ ดาวน้อย ของเขา เพียงคนเดียว

บุหรง หันมาคบหากับหมอพงศ์สูรย์ แต่ก็พบว่าชายหนุ่มต้องการเกาะหล่อนเพื่อสูบเงินมาใช้ และด้วยเล่ห์ของบุหรง ทำให้หล่อนวางแผน หลอกให้เขาขับรถขึ้นไปบนเขา ก่อนจะสร้างสถานการณ์จนทำให้พงศ์สูรย์ประสบอุบัติเหตุขับรถตกเหวเสียชีวิต

ดาวเจ็บป่วยจากนิวมอเนียระหว่างดูแลเด็กชายกุ้ง และบุหรงก็ต่อต้านไม่ให้ใครพาเด็กสาวไปรักษา จนกระทั่งอาการทรุดหนัก เรื่องราวล่วงรู้ไปถึงวรุฒน์ เขาตัดสินใจพาหล่อนไปรักษาที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง และเวลาต่อมาก็ทำให้สองหนุ่มสาวเริ่มเข้าใจกันมากขึ้น ในขณะที่เด็กชายกุ้งเอง ก็ตามมาที่เทวันวนิตา บ้านของวรุฒน์ด้วย

เหตุการณ์จลาจลในกัวลาลัมเปอร์ระหว่างชาวจีนกับชาวมาเลย์ ก่อให้เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอย่างหนัก จนทางการต้องการส่งทหารเข้ามาปราบปรามเมื่อมีการยิง และฆ่ากัน รวมถึงการเผาบ้านบางหลังจนวอดวายในกองเพลิง

คืนนั้นผ่านไปโดยทุกคนนั่งเฝ้าอยู่หน้าจอโทรทัศน์ ไม่มีภาพ มีแต่เสียง และตัวอักษรซ้ำๆ ซากๆ เป็นภาษาอังกฤษ แต่เนื้อความเป็นภาษามาเลย์

“รักชีวิต จงอยู่ติดบ้าน” คือคำประกาศซ้ำแล้วซ้ำเล่า จวนเที่ยงคืน ไฟฟ้าทุกดวงถูกดับมืดหมด วิทยุเลิกออกข่าว โทรทัศน์ไม่มี และทุกคนนั่งมองตากันในความมืด แสงไฟลุกโชนและกลิ่นมอดไหม้ของอาคารบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เคหาสน์ทำให้ความมืดยิ่งน่าแสยงขน

เหตุการณ์เริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เด็กชายกุ้งเป็นห่วงบุหรงแม่ของตน ทั้งที่บุหรงเองก็ไม่ได้รักลูกพิการคนนี้สักเท่าใดเลย กุ้งหนีออกจากบ้าน ท่ามกลางความห่วงใยของทุกคน แต่แล้ว การปรากฏตัวของหมอพงศ์สูรย์ก็ยิ่งทำให้ทุกคนตกตะลึง พงศ์สูรย์ยังไม่ตาย แต่เขาก็สำนึกในความผิดของตัวเอง ที่เคยลวนลามดาวตามคำสั่งของบุหรง เพื่อสร้างความเข้าใจผิดให้หล่อนและวรุฒน์ พงศ์สูรย์จึงย้อนกลับไปที่บ้านของบุหรง ซึ่งในเวลานั้นเหลือหล่อนอยู่เพียงคนเดียว ส่วนผู้ชายคนอื่นๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ต่างก็ตีจากไปจนหมดสิ้น

เรื่อง : ฟ้าเดียวกัน

ผู้เขียน :  วิวัธนี

สำนักพิมพ์ : รวมสาส์น

ปีที่พิมพ์ : พ.ศ. 2514

เล่มเดียวจบ

พงศ์สูรย์ยื่นข้อต่อรองให้กับหล่อน เพื่อปิดปากว่าหล่อนเป็นฆาตกร โดยการให้หล่อนยอมแต่งงานกับเขาอย่างเป็นทางการโดยบุหรงไม่มีทางเลี่ยง ในที่สุดชีวิตม่ายสาวเสเพลอย่างบุหรงก็ต้องยอมจบลงกับชายหน้าตาอัปลักษณ์อย่างหมอพงศ์สูรย์ที่หล่อนคิดวางแผนกำจัดตั้งแต่แรก

ส่วนความรักของสองหนุ่มสาวชาวไทย วรุฒน์และดาว ก็ดำเนินไปสู่ปลายทางแห่งความรัก และความสุขสมหวังร่วมกัน

เส้นทางชีวิตของสาวน้อยกำพร้าของดาวไม่อ้างว้างอีกต่อไป ภายใต้ผืนฟ้าเดียวกันแห่งนี้ เธอยังมีวรุฒน์คอยปกป้องคุ้มครองและเป็นแสงสว่างให้กับชีวิตตลอดไป

ในปัจจุบัน ผลงานของ คุณผกาวดี อุตตโมทย์ ในปัจจุบันที่สามารถหาอ่านได้ไม่ยาก น่าจะมีเพียงเรื่อง ครูไหวใจร้าย ที่พิมพ์กับสำนักพิมพ์ผีเสื้อ นอกจากนั้นก็เป็นงานแปลวรรณกรรมเยาวชน ที่โดดเด่นมากๆ ในระยะหลังครับ ส่วนผลงานนวนิยายเรื่องอื่นๆ ของท่าน น่าจะหาอ่านได้ยากพอสมควรเลยครับ