มลทินที่แฝงใจ

มลทินที่แฝงใจ

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

เมื่อได้เห็นนามปากกา ‘สุประภา’ เป็นครั้งแรก นักอ่านนิยายหลายท่านอาจจะไม่คุ้นเคยมาก่อน แต่เมื่อได้สืบค้นข้อมูลจากหนังสือนามประพันธ์ ของหอสมุดแห่งชาติ ทำให้ทราบว่า นี่คืออีกนามปากกาหนึ่ง ส.คุปตาภา นักเขียนนิยายรุ่นครู ผู้มีผลงานเลื่องชื่อที่ผมเคยเขียนถึงไปแล้ว อย่าง หัวใจปรารถนา อาณาจักรใจ มุมหนึ่งในดวงจิต นั่นเองครับ

มลทินที่แฝงใจ เป็นเรื่องราวความรักที่ซับซ้อนระหว่างหนึ่งหญิง สองชาย ฝ่ายหญิงคือคุณหญิงศัลยา ผู้เพียบพร้อมในแวดวงของสังคม และเธอก็ได้แต่งงานกับ พลตรีราเชนทร์ โชติชัชวาลย์ ตลอดระยะเวลาที่ครองคู่กันมากว่าสิบปี ที่เขาได้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีชื่อเสียงเกียรติยศ และเงินทองพรั่งพร้อม แต่สิ่งที่ขาดไปสำหรับศัลยา ก็คือความอบอุ่นและความรัก!

 

สิบปีก่อน ศัลยาเคยรักกับคำรณ นายทหารหนุ่มอนาคตไกลและเป็นเพื่อนบ้านที่รู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี หากในเวลาต่อมา เขาก็ย้ายไปประจำการยังหัวเมืองที่ห่างไกล และขาดการติดต่อไปในที่สุด ความรักที่เคยมีดูเหมือนจะเหือดหายไปช่วงเวลานั้น ในเวลาเดียวกับที่พันตรีราเชนทร์ นายทหารสัญญาบัตรอนาคตไกล ได้เข้ามาในชีวิต และทำให้เธอตัดสินใจที่จะแต่งงานกับเขา แม้ว่าจะไม่มีบุตรด้วยกันเลยก็ตาม

ด้วยวิถีทางการเมืองในเวลานั้น ทำให้สามีของเธอก้าวหน้าในราชการ ขณะที่คำรณมุ่งเข้าสู่เส้นทางการทำรัฐประหาร  และถูกพิษทางการเมือง ทำให้เขาต้องลี้ภัยไปอยู่มลายู และหายสาบสูญไปจากความทรงจำของเธอ ถ้าหากว่า…

ในเวลาสิบปีต่อมา เมื่อคุณหญิงศัลยาในวัยสามสิบปีที่ยังงามพร้อม ได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังเมืองมะละกาในวันหนึ่งพร้อมกับหลานสาวของสามีเธอและบรรดาเพื่อนๆ ก่อนที่ความรู้สึกเบื่อหน่ายจะเข้าครอบคลุมเธอ จนต้องขอตัวแยกมาพักเพียงลำพัง ขณะที่กลุ่มหนุ่มสาวเหล่านั้นก็กำลังจะเดินทางไปยังสิงคโปร์ต่อไป

และในเวลานั้นเอง ที่เธอได้พบกับคำรณอีกครั้งโดยไม่คาดฝัน!

 

เขาหนีภัยทางการเมืองมาอาศัยอยู่ที่นี่ และยังไม่เคยลืมเธอเลย ยังรัก ยังหวง และห่วงหาอาวรณ์ต่อเธอไม่เสื่อมคลาย ในขณะที่ศัลยาไม่ใช่หญิงสาวโสดอีกต่อไปแล้ว หากในห้วงเวลาอันเป็นใจนั้นเอง ที่ทำให้เธอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความรักความเสน่หาที่ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ในท่ามกลางราตรี อันอ่อนหวาน และเปี่ยมท้นไปด้วยความทรงจำในอดีต

ตราบจนทุกอย่างผ่านพ้นไป และศัลยาก็รับรู้ถึงความผิดบาป ไม่ต่างกับมลทินที่ค้างอยู่ในใจ เธอตัดสินใจแยกจากเขากลับมายังเมืองไทย โดยคิดว่าความสัมพันธ์ชั่วคืนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้คงจะจบลงโดยไม่มีสิ่งใดติดค้างอยู่อีก

แต่เธอคิดผิด!

 

เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย ศัลยามีโอกาสกลับไปยังบ้านเกิดในเมืองเล็กๆ ริมทะเลแห่งนั้นและพบกับคำนึง น้องสาวคำรณ รวมถึงยายสร้อย หญิงชราที่อาศัยอยู่ และขนิษฐา ลูกสาวของคำรณ ที่เกิดขึ้นระหว่างเขาย้ายไปประจำการที่ต่างเมือง และบัดนี้ได้เติบโตขึ้นเป็นเด็กสาวแล้ว ทั้งหมดอาศัยอยู่อย่างยากลำบาก เพราะคำรณยังมีคดีทางการเมืองติดค้างอยู่ จนไม่อาจเดินทางกลับมาเมืองไทยได้

ด้วยความสงสารและความผูกพันนั่นกระมัง ที่ทำให้ศัลยาตัดสินใจช่วยเหลือครอบครัวของคำนึงเอาไว้ และเรื่องราวนี้ก็รู้ถึงราเชนทร์ ผู้เป็นสามีของเธอ ในเวลานี้เขาเป็นใหญ่ในกองทัพ และหาทางที่จะช่วยเหลือคำรณ ซึ่งเขาเข้าใจว่านายทหารหนุ่มรุ่นน้องผู้นั้นเป็นเพื่อนสนิทของศัลยา แม้ว่าศัลยาเองจะไม่เห็นด้วยก็ตาม

เธอกลัวว่า เมื่อเขากลับมาเมืองไทยพร้อมกับความรู้สึกที่มีต่อเธอ จะทำให้มลทินที่แฝงเร้นอยู่ในใจนั้นจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนกับจดหมายที่เขาส่งมาถึงเธอที่เมืองไทยภายหลังเหตุการณ์อดสูนั้น

ศัลยาที่รักสุดหัวใจ

          ฉันไม่อยากจะเรียกเธอว่าคุณหญิงศัลยา เพราะมันช่างบาดหัวใจของคำรณคนนี้อย่างเหลือเกิน ฉันมีชีวิตอยู่ทุกวันด้วยความฝันถึงศัลยา ฝันถึงความสุขที่ฉันมีศัลยาอยู่ในอ้อมแขน และกระวนกระวายทุรนทุรายที่จะต่อสู้ให้ความฝันนั้นกลับมาเป็นความจริง ทั้งที่มันไม่มีหวัง แต่จิตใจของฉันไม่สงบลงได้เลย ตกนรกหมกไหม้ยิ่งกว่าเมื่อจากไปแล้ว ไม่พบกับศัลยา…

และแล้วการนิรโทษกรรมก็ประสบผลสำเร็จ โดยที่ราเชนทร์ไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ที่ภรรยาของเขามีกับคำรณในเวลาก่อนหน้าเลยสักนิดเดียว

ความก้าวหน้าทางการงาน ทำให้นายพลราเชนทร์มีผู้หญิงผ่านเข้ามาในชีวิตมากมาย แม้เขาจะบอกกับศัลยาว่าเขารักเธอเพียงคนเดียว แต่สุดท้ายหญิงสาวก็ต้องเจ็บช้ำน้ำใจอย่างที่สุด เมื่อรับรู้ว่าราเชนทร์กำลังจะมีลูกกับหทยา ผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่พยายามจะก้าวขึ้นมาแทนที่เธอ โดยใช้เด็กในท้องเป็นเครื่องมือ

นายพลราเชนทร์ไม่อาจขัดหทยาได้ จนต้องพาหล่อนเข้ามาอาศัยอยู่ร่วมบ้าน และด้วยภาพบาดตาบาดใจเหล่านั้นเอง ก็ทำให้ศัลยาซึ่งรู้สึกผิดหวัง รวมถึงความรู้สึกผิดบาปในหัวใจตัวเอง ทำให้เธอตัดสินใจหนีออกจากบ้าน กลับมาอาศัยที่บ้านเพชรบุรีของยายแจ่มที่เป็นพี่เลี้ยงดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าภายหลังนายพลราเชนทร์จะพยายามตามหาตัวเธอ แต่หทยาก็พยายามหาทางขัดขวางอย่างเต็มที่

ในขณะที่คำรณเองเมื่อได้อภัยโทษ และเดินทางกลับมาเมืองไทย เขาก็พยายามตามหาศัลยาเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำในความรักความเสน่หาของตัวเองอีกครั้ง แม้ว่าศัลยาจะพยายามหักห้ามใจที่จะไม่พบกับเขาอีกก็ตามที

เรื่อง : มลทินที่แฝงใจ

ผู้เขียน : สุประภา

สำนักพิมพ์ : โอเดียนสโตร์

ปีที่พิมพ์ : 2508

เล่มเดียวจบ

หล่อนล้มเจ็บลงด้วยอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และความจำที่เลอะเลือน และยายแจ่มนั่นเองที่ไม่อาจทนเห็นนายหญิงของแกตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์นั้นได้ จึงตัดสินใจแจ้งข่าวไปถึงราเชนทร์ ในเวลาเดียวกับที่คำรณเดินทางมาหาศัลยา

หนึ่งหญิง สองชาย ได้เผชิญหน้ากัน ขณะที่หญิงสาวที่ต่างรักใคร่ กำลังนอนเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายและไม่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น

เมื่อนั้นที่ทั้งคำรณและราเชนทร์ต่างตระหนักถึงความรักที่ตนเองมีต่อศัลยา ความรักที่เจือปนด้วยความรู้สึกเห็นแก่ตัว

เมื่อราเชนทร์แม้จะรักและยกย่องศัลยาเป็นภรรยาของเขา แต่ก็ยังเผื่อแผ่หัวใจให้กับสตรีผู้อื่น จนเกิดความร้าวฉานในครอบครัว หากบัดนี้เขาได้สำนึกในผิดนั้น และต้องการกลับมาดูแลเธออีกครั้งในเวลานี้

ในขณะที่คำรณเอง…

คำรณอึ้ง ราเชนทร์ก็เช่นเดียวกับเขา เมื่อทอดทิ้งความรักของศัลยาไปนาน เขามิได้ลืมเธอ เขารักและบูชาเธอตลอดมา จนกระทั่งเหตุการณ์ในคืนนั้น เขาพยายามที่จะหน่วงเหนี่ยวศัลยาให้ตกนรกหมกไหม้อยู่ในความชั่วของเขา พยายามป้ายความเห็นแก่ตัวให้เป็นภาระของเธอ ศัลยาเป็นผู้มอบหัวใจให้แก่ตัวของเขาเมื่อเธอยงแรกรุ่น และก้าวขึ้นสู่ความเป็นสาว แล้วเขานั่นเองเป็นผู้หักโค่นหัวใจของเธอ

และคำรณก็เป็นฝ่ายตัดสินใจที่จะก้าวเดินออกจากชีวิตของศัลยา!

 

สำหรับเรื่อง มลทินที่แฝงใจ นี้อาจจะไม่ใช่นิยายรักที่มีพลอตหวือหวา ตื่นเต้น หรือหักมุมแต่อย่างใด การดำเนินเรื่องเรียบง่าย เนิบช้า เป็นการบรรยายความรู้สึกผ่านอารมณ์ของตัวละครเอก มากกว่าจะเป็นการเขียนสลับฉากหรือดำเนินเรื่องราวต่างๆ อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสไตล์การเขียนของ ส.คุปตาภา ที่ผู้อ่านจะค่อยๆ ซึมซับเรื่องราว ของอารมณ์ตัวละครที่เกิดขึ้น จนถึงจุดสุดท้ายของเรื่องราวทั้งหมด

นิยายเรื่องนี้ ในเวลาต่อมาได้มีโอกาสนำมารวมเล่มอีกครั้งในอีกหลายสิบปีต่อมา โดยสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม และได้เปลี่ยนมาใช้เป็นนามปากกา ส.คุปตาภา ที่นักอ่านรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นั่นเองครับ

 

Don`t copy text!