ผู้มีชัย

ผู้มีชัย

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

ผู้มีชัย เป็นนวนิยายแนวรักพาฝัน โดยสะท้อนภาพเหตุการณ์ในช่วงประวัติศาสตร์หนึ่งของไทยในยุคกึ่งพุทธกาล เป็นฉากหลัง มีทั้งเหตุการณ์สงครามโลก เหตุการณ์กรณีพิพาทปราสาทเขาพระวิหาร ฯลฯ และสังคมไทยในยุคเจ้าขุนมูลนาย ผสมผสานรวมอยู่ในเนื้อเรื่องอันเข้มข้นเรื่องนี้

เรื่องราวเริ่มต้นผ่านมุมมองของบัวงาม หญิงสาวชาวเหนือที่เดินทางมาพร้อมกับสามี คือ หม่อมราชวงศ์คทาทอง กนกพันธุ์ มาสู่วังของคุณชายที่เป็นครอบครัวใหญ่เฉกเช่นสังคมไทยในยุคนั้น ท่านพ่อของคุณชายคือหม่อมเจ้าเกียรติ มีหม่อมแก้วและครอบครัวพี่น้องถึงเจ็ดคน ซึ่งประกอบด้วยหม่อมราชวงศ์ดาบกษัตริย์ หม่อมราชวงศ์พระแสง และหม่อมราชวงศ์จักรธร ที่มีวัยอ่อนสุด ชีวิตของบัวงามเริ่มต้นขึ้นที่วังกนกพันธุ์แห่งนั้น พร้อมทั้งเรียนรู้ชีวิตของคนในวังที่แตกต่างจากสามัญชนทั่วไป รวมถึงหม่อมแก้ว มารดาของคุณชายคทาทองที่มีท่าทีรังเกียจเดียดฉันท์สะใภ้อย่างเธออย่างชัดเจน

ในวังแห่งนั้น บัวงามได้รู้จักคุณหญิงแกมมณี ธิดาคนสุดท้องที่เป็นเหมือนลูกหลงมา ภายหลังจากที่หม่อมแก้ว รับเอื้ออนุช หลานสาวที่เกิดจากธิดาคนแรกของเธอแต่เสียชีวิตไปพร้อมกับสามี เอื้ออนุชจึงเป็นเด็กกำพร้า และหม่อมแก้วก็เลยรับอุปการะ โดยหลังจากนั้นไม่นาน เธอจึงมีหม่อมราชวงศ์แกมมณีเป็นธิดาสุดท้องตามมา แต่แกมมณีเป็นเด็กบุคลิกแข็งกระด้าง มีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง แม้จะอายุน้อยกว่าเอื้ออนุชผู้มีศักดิ์เป็นน้า แต่ก็ชอบข่มและแย่งของเล่นจากเอื้ออนุชเสมอ ขณะที่เอื้ออนุชซึ่งเป็นเด็กหัวอ่อนก็ยอมลงให้โดยไม่มีปากเสียงใดๆ เพราะท่านยายเป็นฝ่ายคอยให้ท้ายแกมมณี ผลจากการเลี้ยงดูอย่างตามใจโดยไร้เหตุผลนี้เอง ทำให้แกมมณีเติบโตขึ้นมา กลายเป็นคนหลงตัวเอง คิดแต่ว่าต้องเป็นผู้ชนะอยู่เสมอในทุกๆ สิ่ง

โดยไม่เคยรู้จักคำว่าแพ้!

+++++++++++++++++++++

คุณชายจักรธร น้าชาย มีสหายร่วมก๊วนคือ วชิรา สิริกุล ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานเช่นกัน และ นายทหารอากาศหนุ่มรูปงาม ศยาม พงศ์สุจริต ที่เป็นความใฝ่ฝันของแกมมณีมาตั้งแต่วัยเยาว์ ศยามเองก็ไม่เคยคิดอะไรกับแกมมณี นอกจากความเอ็นดู

แต่สำหรับเอื้ออนุชผู้อ่อนโยนแล้ว เขากลับไม่แน่ใจในความรู้สึกลึกๆ ของตัวเอง ยิ่งเมื่อวันเวลาผ่านไปจนเด็กทั้งสองเติบโตขึ้นเข้าสู่วัยสาว เอื้ออนุชกลายเป็นคุณครูในโรงเรียนคอนแวนต์ ทำงานอย่างเรียบง่ายตามนิสัยอ่อนโยนสมถะ แต่แกมมณีผู้เรียนเก่ง สวย และมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเอง เรียนจบมหาวิทยาลัย และทำงานเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการในนิตยสารสังคมอันทันสมัย ทำให้หล่อนยิ่งเฉิดฉายและข่มความเรียบง่ายของเอื้ออนุชไปจนหมดสิ้น

เหตุการณ์สงครามโลกที่เริ่มต้น ทำให้ศยามต้องออกไปรบ หากก็เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกบาดเจ็บ แกมมณียุให้มารดาเจรจาตกลงให้เอื้ออนุชแต่งงานกับนายวินิจที่มาติดพัน เพื่อกำจัดหล่อนให้พ้นทาง วชิราสงสารเอื้ออนุชจึงขอหมั้นหมายเธอไว้เอง ทั้งที่เขาเองมีความรู้สึกต่อเอื้ออนุชเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งตรงกับความต้องการของแกมมณี ที่แม้จะคิดว่าถึงหล่อนจะพลาดจากศยาม แต่ก็ไม่ต้องการให้เอื้ออนุชได้ดีกว่าตนเอง

แต่แล้วศยามก็เดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย เขารับรู้ว่าเอื้ออนุชกำลังหมั้นหมายกับวชิรา สหายของตน ในขณะที่แกมมณีก็พยายามใส่ร้ายอีกฝ่าย ทำให้ในที่สุดเขาต้องตัดสินใจแต่งงานกับแกมมณี ทั้งที่ไม่ได้รักเธอเลยแม้แต่น้อย ตอนนั้นแกมมณีคิดว่าตนเองคือผู้ชนะในทุกสิ่ง แต่แล้วหล่อนก็ทราบในภายหลังว่าศยามไม่ได้รักตนเองเลยสักนิดเดียว นั่นยิ่งทำให้แกมมณีผู้หยิ่งทระนงเกิดทิฐิมานะและความชังเป็นเท่าทวีคูณ เพลิงแห่งความริษยา เผาไหม้จิตใจหญิงสาวผู้มีหน้าตาสะสวย ทว่าภายในนั้นร้อนระอุด้วยเพลิงแห่งกิเลสอันเผาไหม้ตลอดเวลา

หล่อนจะต้องขัดขวางทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ศยามกับเอื้ออนุชได้สมรัก เพราะหล่อนเท่านั้นที่จะเป็นผู้ชนะ

เรื่อง : ผู้มีชัย

ผู้เขียน : ศรีฟ้า ลดาวัลย์

สำนักพิมพ์ : คลังวิทยา

ปีที่พิมพ์ : 2502

เล่มเดียวจบ

วชิรานิ่งฟังเงียบๆ อารมณ์รักและอารมณ์เกลียดของ ม.ร.ว. แกมมณี มิได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ยังคงรุนแรง เหมือนเมื่อครั้งยังเป็นสาววัยรุ่น ม.ร.ว. แกมมณี กำลังชังน้ำหน้า ศยาม พงศ์สุจริต อย่างแรง เป็นความชังซึ่งก่อขึ้นบนความรัก ชังเพราะทราบจิตใจอันแท้จริงว่าเขามิได้รักตน เมื่อไม่อาจเอาชนะอุปทานของศยามในหญิงอื่นได้ ก็จำเป็นจะต้องเอาชนะด้วยการทรมานจิตใจบุคคลบางคน ถือเอาการทรมานใจของคนที่ตนชังเป็นสิ่งยังความพอใจและอิ่มเอิบในชัยชนะของตน

โอ้โอ๋ ความรักสิอนาถ

 แสนประหลาดนั้นเหลือหลาย

กวนจิตพิษวุ่นวาย

ให้เพ้อครวญปั่นป่วนไป

ปั่นชายให้เป็นบ้า

ใฝ่ฝันหาแม่ทรามวัย

ปั่นหญิงให้หลงใหล

มัวเมาปลื้มลืมรักตน

+++++++++++++++++++

ในขณะที่วชิราเองก็ตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ และเมื่อเกิดเหตุการณ์สงครามโลกนั่นเอง ทำให้เขาไม่สามารถเดินทางกลับมาเมืองไทยได้ เวลาผ่านไปจนเหตุการณ์สงบลงกว่าเจ็ดปี ที่การแต่งงานของศยามล้มเหลว เขามีบุตรชายกับแกมมณีคือศวิต แต่ทว่าทั้งคู่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้

ด้วยแรงทิฐิ แกมมณีเองก็ไม่ยอมหย่าขาดจากเขา แต่ไปมีสามีใหม่อีกคนหนึ่ง ขณะที่วชิรากลับมาเมืองไทยและดำรงตำแหน่งเลขาทูตของกระทรวงการต่างประเทศ เขารู้ว่าเอื้ออนุชและศยามยังคงรักกัน แต่ต่างก็พยายามปกปิดหัวใจของตนเอง เพราะทั้งคู่รู้ตัวดีว่ามีพันธะอยู่แล้ว ชายหนุ่มจึงตัดสินใจยกเลิกการหมั้นหมาย ให้เอื้ออนุชได้เป็นอิสระ เพราะก่อนหน้านั้นเขาหมั้นกับเอื้ออนุช เพื่อไม่ต้องการให้หล่อนต้องแต่งงานกับนายวินิจที่กำลังจะมาสู่ขอ และหม่อมแก้วเองก็ต้องการให้เอื้ออนุชได้แต่งงาน เพื่อออกไปจากวังเท่านั้นเอง

“ดูหน้าแกเหมือนจะออกบวช”

“คงเล่าลือกันไปอีกนาน…”

วชิราหัวเราะบ้าง “เลขาทูต หนีแต่งงานออกบวช แต่อย่าพูดอย่างนั้นเลย มันเหมือนยายเอื้อไม่มีค่า แท้จริงยายเอื้อแกเป็นเพชร ผมไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนมีค่ามากเท่ายายเอื้อ แต่ค่าของสิ่งใดก็ตามจะมีราคามากที่สุด ก็ต่อเมื่ออยู่ในมือของบุคคลที่รักและปรารถนาสิ่งนั้นยิ่งกว่าผู้อื่น!”

++++++++++++++++++++++

ในที่สุดชีวิตคู่ของศยามและ ม.ร.ว. แกมมณี ก็ดำเนินไปจนถึงจุดแตกหัก เมื่อเธอและชายคนใหม่เกิดอุบัติเหตุ สามีคนใหม่เสียชีวิตในทันที ส่วนแกมมณีบาดเจ็บสาหัส ระหว่างอยู่ในห้วงภวังค์ฝันนั้นเอง ที่หล่อนมองเห็นตัวเองกำลังตกอยู่ในขุมนรก

มิไยจะร้องกรีดผวา แต่เสียงก็มิได้ไปไกล คงแห้งหายเพียงลำคอ ใครเล่าจักช่วยเจ้า? เสียงสะท้อนก้องถามมาอย่างดุดัน เจ้าเคยทำบุญมาหรือ ชั่วชีวิตของเจ้ามีแต่บาปกรรม…บาป! กิเลสของเจ้าชั่วช้าและหนาแน่นนัก แม้แต่ผู้ให้กำเนิดก็ล่วงเกินดูหมิ่น จิตใจของเจ้าหมกมุ่นอยู่แต่โลกียวิสัย จนกล้าละเมิดศีลธรรม ทรมานเถิด ทรมานให้สาสม สมกับที่เจ้าชอบทรมานจิตใจของผู้อื่น การเอาชนะบุคคลในโลกได้ หาใช่การชนะอันแท้จริงไม่ บางทีการชนะที่มนุษย์ภาคภูมิใจก็คือ การพ่ายแพ้ในเวลาต่อมา

ดูแต่เจ้าสิ! ภาคภูมิใจในชัยชนะอยู่ไม่นานนักก็จักต้องถูกเผาอยู่ในไฟแห่งความรู้สึกผิดชั่วกัปชั่วกัลป์… หาความดีเข้าสิ หาบุญเข้าสิ เพื่อว่าบุญนั้นจะช่วยดับไฟนรกให้แก่เจ้า

ภาพต่างๆ เรียงลำดับเข้ามา แจ่มใส ชัดเจน ล้วนแต่ภาพซึ่งตนเป็นผู้ชนะทั้งสิ้น ผู้ชนะ ช่างเป็นคำอันอิ่มเอิบชวนให้ภาคภูมิใจอะไรเช่นนั้น? ตั้งแต่มีชีวิตมาไม่เคยเป็นผู้แพ้ ต้องชนะเสมอ ชนะโดยมิต้องคำนึงถึงสิ่งอื่นใด!

ชนะ! จริงสิ เจ้าไม่เคยเป็นผู้แพ้ เจ้ามีชัยเสมอแม้แต่ในวิถีที่ไม่ถูกต้อง… เชิญเอาชนะอีกครั้งเถิด เอาชนะไฟนรกที่กำลังรุมล้อมเผาผลาญอยู่ในขณะนี้!

+++++++++++++++++++++

เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจึงบังเกิดขึ้นแก่แกมมณี หล่อนรู้แล้วว่าชัยชนะที่แท้จริงคืออะไร หญิงสาวยอมหลีกทางให้กับศยามและเอื้ออนุช หญิงสาวบอบบางที่เคยคิดว่าตนเองเอาชนะมาได้ตลอดทั้งชีวิต หากความจริงแล้ว เอื้ออนุชต่างหากที่เป็นผู้มีชัยอย่างแท้จริง…

คนใดคนหนึ่งผู้            ใจฉกรรจ์

เคียดฆ่าคนอนันต์                   หนักแท้

ไป่ปานบุรุษอัน                      ชนะจิต ตนนา

เธียรท่านเยินยอแล้                 ว่าผู้มีชัย

หมายเหตุ นวนิยายเรื่องนี้เป็นผลงานในยุคแรกๆ ของ อาจารย์ศรีฟ้า ลดาวัลย์ ที่ภายหลังมีการจัดพิมพ์ขึ้นใหม่หลายครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2502 โดยสำนักพิมพ์คลังวิทยา ต่อมา ปี พ.ศ.2512 โดยสำนักพิมพ์รวมสาส์น นอกจากนี้ยังมีฉบับพิมพ์ปกอ่อนโดยสำนักพิมพ์ดอกหญ้า และล่าสุดก็คือฉบับพิมพ์ของสำนักพิมพ์เพื่อนดี อีกด้วยครับ

 

Don`t copy text!