ฟ้าเปลี่ยนสี

ฟ้าเปลี่ยนสี

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

ฟ้าเปลี่ยนสี นับเป็นนิยายชีวิตรักที่ผสมผสานด้วยเรื่องราวเหตุการณ์ทางการเมือง ในช่วงเวลาที่มีการผันแปรเปลี่ยนไป เฉกเช่นเดียวกับผืนฟ้าในยามแปรเปลี่ยนสี และก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงกับชีวิตตัวละครที่เกี่ยวเนื่องในเรื่องราวเหล่านี้

เหตุการณ์การเมืองต่างๆ ที่ เพ็ญแข วงศ์สง่า แทรกไว้ในรายละเอียดต่างๆ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปี แต่เรื่องราวเหล่านี้ ก็ยังปรากฏเช่นเดียวกับในปัจจุบัน เพียงแต่ตัวละครในเรื่องเท่านั้น ที่เปลี่ยนแปลงไป

+++++++++++++++

เนตรนภิส หรือเอ เด็กสาววัยยี่สิบที่เพิ่งอายุครบรอบในเช้าวันนี้ ตื่นนอนขึ้นมาในคฤหาสน์สุดหรูหราและกว้างใหญ่ของเธอ ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างออกไปไม่เหมือนทุกปี

เช้าวันนี้ไม่มีคุณพ่อคอยมอบของขวัญ ไม่มีเสียงอวยพรจากชีวัน ชายหนุ่มคนรัก หรือมีความรื่นเริงใดๆ สมาชิกทุกคนในบ้านต่างตกอยู่ในความตระหนก แตกตื่นและหวั่นกลัว เมื่อเธอได้รับรู้ว่าสิ่งที่มาพร้อมกับ การครบรอบวันเกิดของตัวเอง คือการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในคณะรัฐบาลที่ นายพลเรือโททัต ถวิลเวทย์ บิดา ของเธอ อยู่ร่วมในคณะผู้บริหารชุดนี้ การล้มล้างรัฐบาล ที่เรียกว่าการปฏิวัติ ทำให้พ่อของเธอติดร่างแห จนต้องหนีออกนอกประเทศ

และความหรูหรา ฟุ่มเฟือย ในชีวิตที่เนตรนภิส รวมถึงนุชนภางค์ น้องสาวของตนเคยได้รับ ก็สลายวับไปกับตา เมื่อท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี…

สถานการณ์ในชีวิตก็กำลังพลิกกลับด้าน หากชีวัน ชายหนุ่มคนรักที่มีอุดมคติของเธอเอง กลับมองว่า มันคือการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นสำหรับเขา

“ผมศรัทธา คนที่ทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวม ต่อไปนี้ เมฆหมอกที่มืดครึ้มอยู่เหนือหัวเราจะค่อยเคลื่อนสลายตัวไป อีกไม่นานเราจะได้เห็นท้องฟ้า สีครามสดใส ผมหมายถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสงบและสันติ ไม่มีมือมืดของอธรรมกางเงื้อมอยู่เหนือหัว ต่อไปนี้ ฟ้าจะเปลี่ยนเป็นสีของฟ้าตามเดิม คุณไม่ดีใจดอกหรือ ฟ้าเมืองไทย เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีฟ้าสดใส”

“ฉันไม่สนใจฟ้าจะเป็นสีอะไร ขอแต่ให้ประชาชนสงบร่มเย็น ดำเนินชีวิตอยู่ในกรอบอันดีงาม ฉันพอใจแล้ว แต่ขณะนี้ ฉันกำลังจะพูดถึงตัวฉัน ชีวันจ๊ะ ฟ้าแห่งชีวิตของฉันก็พลอยเปลี่ยนไปด้วย และที่ร้ายที่สุดก็คือ มันอาจจะเป็นสีดำ”

+++++++++++++++++++

เนตรนภิสกำลังเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยชั้นปีสุดท้าย เหตุการณ์ ‘ฟ้าเปลี่ยนสี’ นี้เอง ทำให้เธอจำเป็นต้องออกจากการเรียนกลางคัน แต่เด็กสาวก็ยังมีสติสัมปชัญญะเพียงพอที่จะดำรงชีวิตในสถานการณ์ที่วิกฤตกับตัวเอง ท่ามกลางญาติพี่น้องที่ต่างพยายามหาทางเอาตัวรอด หรือไม่ก็กอบโกยผลประโยชน์ที่เหลืออยู่ ให้มากที่สุด ก่อนจะคว้าไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง และนอกจากนี้ เธอยังต้องรับรู้ด้วยความปวดร้าวว่าบิดาที่เคยคิดว่ามั่นคงในความรักต่อมารดาของตนที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็ได้จดทะเบียนสมรสกับเจ้ามณทิรา ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ที่กำลังเข้ามาจัดการกับเงินฝากในบัญชีทั้งหมดของท่าน

ตรงกันข้ามกับนุชนภางค์ หรือบี น้องสาว ที่ชินกับความสะดวกสบาย และไม่อาจยอมรับการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ นุชนภางค์พยายามหาทางที่จะแสวงหาความสบายที่เคยได้รับมากลับคืนมาอีกครั้ง แม้แต่การเข้าประกวดนางสาวสยามที่คุณนายสายทอง ผู้มีเบื้องหลังในการหาคนให้กับ ‘ท่าน’ มาเสนอทางเลือกนั้นให้ และแม้ว่าเนตรนภิสผู้เป็นพี่สาวจะไม่เห็นด้วยก็ตาม

ผู้ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือโดยที่เธอไม่คาดฝัน คือนายทหารหนุ่มใหญ่เจ้าของบ้าน ‘ภควัต’ ที่อาณาเขตอยู่ติดกับ ‘ทับถวิล’ บ้านของเธอนั่นเอง

เขามีชื่อว่า พลตรีกวิน ภควัต!

+++++++++++++++++++

กวินเป็นนายทหารหนุ่มใหญ่ เขาเคยมีภรรยาคือทัศไนยมาก่อน แต่หล่อนเสียชีวิตไปแล้ว และมีเสียงซุบซิบนินทาว่าเขาได้เสียกับน้องภรรยาคือทรรศนียา จนมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน ชื่อว่าเปเป้ ภายหลังเมื่อเนตรนภิสได้พบกับเปเป้ จนถูกชะตากับเด็กหญิงตัวน้อย รวมถึงได้พบกับ ทรรศนียา ความลับ ความหลังเกี่ยวกับ กวิน จึงเปิดเผยออกมาว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ใช่พ่อของเปเป้ แต่เนื่องจากทรรศนียาตั้งครรภ์กับเด็กหนุ่มในบ้านชื่อพิชย์ ทำให้สุภาพบุรุษอย่างเขาจำต้องรับปากกับทัศไนย ภรรยาที่ใกล้เสียชีวิตด้วยโรคร้าย ให้ยอมรับเป็นพ่อเด็กในท้องของทรรศนียา รวมถึงแต่งงานกับทรรศนียา ภายหลังจากที่เธอเสียชีวิตลง

กวินทำตามความต้องการของภรรยาเพียงข้อเดียว คือรับเปเป้เป็นลูก แต่สำหรับทรรศนียาแล้ว เขามีเพียงความรักไม่ต่างกับพี่ชายให้กับเธอ เช่นเดียวกับทรรศนียาที่เฝ้ารอคอยการกลับมาของพิชย์ พ่อที่แท้จริงของเปเป้ ที่ไปทำงานต่างประเทศและเรียนต่อเพื่อพิสูจน์ตัวเองอยู่เช่นกัน

++++++++++++++++++

นุชนภางค์ประกวดนางสาวสยาม ได้มงกุฎมาครอบครองสมความปรารถนา และหล่อนเองก็ยิ่งรู้สึกประทับใจในความอบอุ่นอ่อนโยนของพลตรีกวินจนหลงคิดว่าเขาเองก็รักเธอ แต่แล้ว ความจริงก็คือกวินหลงรักเนตรนภิส พี่สาวของเธอมากกว่า หญิงสาวผู้นั้นมีทั้งความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ไม่ต่างกับทัศไนย อดีตภรรยาสุดที่รักของเขาเลย แม้แต่ในเวลาที่หล่อนต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการลี้ภัยของบิดา หรือแม้แต่ข่าวล่าสุดที่นายพลทัตเสียชีวิตที่ต่างประเทศก็ตาม

ทัศนคติความคิดของเนตรนภิสสะท้อนผ่านคำพูด บทสนทนา ในหลายๆ ตอน เช่น ช่วงที่ปลอบใจนุชนภางค์ หรือบี ในเวลาที่เผชิญหน้ากับมรสุมชีวิตครั้งสำคัญ

“บีจ๋า คนเราเมื่อถึงคราว ก็ต้องทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะลำบากอย่างไร เราเป็นคน จะต้องมีเกียรติศักดิ์ และเกียรติศักดิ์ มิได้อยู่ที่การทำตัวเหนือคนอื่น หากแต่อยู่ที่การทำตัวของเราให้ดีกว่า ตัวเราเองในอดีต แล้วเราจะดีขึ้นเรื่อยๆ การทำงานหรือการช่วยตัวเอง ไม่ใช่ของต่ำ ใครๆ เขาก็ทำกันทั้งนั้น”

เรื่อง : ฟ้าเปลี่ยนสี

ผู้เขียน : เพ็ญแข วงศ์สง่า

สำนักพิมพ์ : คลังวิทยา

ปีที่พิมพ์ : 2512

สองเล่มจบ

ในขณะที่นุชนภางค์นั้นกลับมีความคิดไปคนละแบบกับผู้เป็นพี่สาว โดยเฉพาะเมื่อหล่อนมองชีวิน คนรักของเนตรนภิส ด้วยสายตาอีกแบบหนึ่ง เมื่อรู้ว่าชีวินเป็นเพียงลูกชาวนาที่เกิดในชนบทห่างไกลและยังยากจน เพียงแต่เขาสามารถถีบตัวขึ้นมาเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้เท่านั้น

“แต่เขาไม่เท่าเรา”

“เธอวัดที่ตรงไหน?”

“วัดได้ทุกอย่างค่ะ ตั้งแต่ชาติวุฒิ สิ่งแวดล้อม และบรรพบุรุษ”

“คนเราอาจจะแตกต่างกันอยู่บ้างด้วยชาติตระกูลและฐานะ เพราะทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคนเกิดดีจะเป็นคนดีเสมอไป เรามักจะเห็นคนนั่งรถคันยาวติดแอร์คอนดิชั่น ทำชั่วอยู่บ้าง เช่นเดียวกับคนสวมรองเท้าเก่าๆ บำเพ็ญแต่ความดี คนเราแตกต่างที่การกระทำต่างหากล่ะ นุชนภางค์”

หรือในเวลาที่พลตรีกวินติดต่อหาคนมาเช่าบ้านหลังใหญ่ของเธอ เพื่อช่วยจุนเจือรายได้ และเขาก็ไม่ต้องการจะ ‘หักเปอร์เซ็นต์’ จากการติดต่อหาผู้เช่าให้กับเธอ แต่เนตรนภิสก็ยังยืนยันที่จะรับเงินเท่ากับที่หล่อนตกลงกับเขาเอาไว้ เพียงเท่านั้น

“ถ้าเธอไม่สะดวกใจ ฉันก็จะทำเรื่องรายงานว่า เจ้าของบ้านไม่ยอมรับค่าเช่าเกินกว่าหนึ่งหมื่นบาทต่อเดือน เธอคงคิดเหมือนฉันว่า เงินสำคัญอย่างยิ่งในครองชีพปัจจุบัน”

“แต่บางครั้ง ก็มีสิ่งสำคัญยิ่งกว่าเงิน”

“อะไร”

“สัจจะค่ะ”

สิ่งนั้นกระมังที่ทำให้พลตรีหนุ่มใหญ่ประทับใจสาวน้อยสู้ชีวิตผู้นี้ แม้แต่การพยายามช่วยเหลือชีวิน ชายคนรักของเธอ ที่ถูกจับในข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงในภายหลัง เพราะชีวินก็รวมกับกลุ่มนักศึกษาเพื่อประท้วงรัฐบาลในเวลาต่อมาและถูกจับขังคุก

++++++++++++++++++++

และสำหรับชีวันเอง ความสัมพันธ์ฉันคนรักของเขากับเนตรนภิสก็แปรเปลี่ยนไป เมื่อเขาพบว่ายังมีความรักอย่างอื่นที่มีมากกว่า

“สำหรับผม ความรักเหมือนผืนฟ้า… เดี๋ยวนี้ความรักในรูปแบบเดิมของผมไม่มีแล้ว ผมมีแต่ความรักมนุษยชาติ และอุดมการณ์”

“ชีวัน!” เสียงเรียกสะท้านสั่น น้อยใจแกมผิดหวัง

“”กลับไปเสียเนตรนภิส ผมเห็นใจคุณ และขอถอนคำพูดทั้งหมดที่เคยให้คำมั่นสัญญากับคุณไว้ ผมเสียใจ”

ในเวลาต่อมานั่นเอง ที่เหตุการณ์ต่างๆ ทำให้เนตรนภิสกับกวินใกล้ชิดกันมากขึ้น จนต่างก็รู้หัวใจของตัวเอง กวินขอเธอแต่งงาน ขณะที่มณทิรา อดีตภรรยาลับๆ ของนายพลทัตก็กลับเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญ หล่อนฉวยโอกาสในช่วงเกิดปัญหากับครอบครัวของนายพลทัต หลอกเอาเงินมรดกของเนตรนภิส ไป และคราวนี้ หล่อนก็ต้องการเข้ามาเป็นตัวแปรในความรักของเนตรนภิส กับพลตรีกวินอีกด้วย!

+++++++++++++++++

เรื่องราวใน ฟ้าเปลี่ยนสี ดำเนินเรื่องไปในพลอตของความรัก และฉากหลังของเหตุการณ์ทางการเมืองในหน้าประวัติศาสตร์ สะท้อนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น กับตัวละครเอกที่ได้รับผลกระทบ และพยายามที่ยืนหยัดผ่านมรสุมทางการเมืองเหล่านั้น จนผืนฟ้าแปรสีกลับมา สวยงามดังเดิม

ผมชอบโคลงบทหนึ่ง ที่ เพ็ญแข วงศ์สง่า นำมาประกอบในนิยายเรื่องนี้ อันเป็นเหมือนบทสรุปของนิยายเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ

“ชีวิตอันสั้นนี้                        ยืมมา

จากกัลป์ปาวสาน์                   ไม่สั้น

แต่มนุษย์ยังสา                     มารถสร้าง

สัจธรรมอมตะขั้น                   อยู่ล้ำโลกา

(หมายเหตุของผู้เขียน ของ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช)

Don`t copy text!