ใจจำแลง

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

สำหรับบรรณาภิรมย์ ลำดับที่ 194 ผมขอนำเสนอผลงานนวนิยายของนักเขียนรุ่นครู สีดา วิษณุภพ ครับ

ผมรู้จักผลงานและนามปากกา สีดา วิษณุภพ ครั้งแรก จากนวนิยายเล่มเล็กขนาดสองเล่มจบที่ชื่อว่า มนตราสวาท และภายหลังยังพบว่า ท่านเองยังมีผลงานต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง เช่น ภาษารัก เขยขวัญ ละอองดิน ฝันกลางแดด รวมถึงนวนิยาย ใจจำแลง เรื่องนี้ด้วย

น่าเสียดายที่ผมไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้เขียนเลย นอกจากพอทราบว่า ท่านมีนามว่า ศรี เกศมณี ซึ่งยังมีนามปากกา ‘สิริมาดา’ และ ‘พัชราสิริ’ อีกด้วย นอกจากผลงานในรูปแบบนวนิยายแล้ว ท่านยังเขียนบทให้กับภาพยนตร์ไทยในอดีต หลายเรื่อง เช่น กระดังงากลีบทอง พรายกินรี เป็นต้น แต่ก็ยังนับว่าโชคดีอยู่บ้าง เมื่อครั้งที่เรียนเทคนิคการแพทย์ จุฬาฯ ผมมีโอกาสได้รู้จักกับอาจารย์ท่านหนึ่ง (รศ.ดร. รัชนา ศานติยานนท์ อดีตนายกสมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย) เมื่อท่านทราบว่าผมสนใจในงานเขียนนวนิยาย จึงกรุณาเล่าให้ฟังว่า สมัยท่านเรียนชั้นมัธยมอยู่ที่โรงเรียนสายน้ำผึ้ง มีครูมัธยมท่านหนึ่ง คือ อาจารย์ศรี เกศมณี ซึ่งสอนวิชาภาไทยอยู่ที่นั่น และยังเป็นนักเขียนนวนิยายเช่นกัน และนามปากกานั้นก็คือ สีดา วิษณุภพ นั่นเอง อย่างน้อยที่สุดก็พอจะทราบว่า นอกจากเป็นนักเขียนนวนิยายและบทภาพยนตร์แล้ว ท่านยังเคยเป็นครูในวิชาภาษาไทยของโรงเรียนมัธยมสายน้ำผึ้งในอดีตอีกด้วย

สำหรับ ใจจำแลง เรื่องนี้ เป็นนวนิยายรักพาฝัน ที่บอกเล่าเรื่องราวของ บุณฑริกา กิตติศักดิ์ หรือ ‘รอง’ ซึ่งเป็นนิสิตสาวครุศาสตร์ จุฬาฯ ที่เดินทางมาเที่ยวชายหาดริมทะเลแห่งหนึ่ง และได้รับจดหมายจากนางมณฑา ให้รีบเดินทางกลับบ้าน เพื่อไปรับ ‘ผู้มีพระคุณ’ ท่านหนึ่ง ซึ่งกำลังเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ

บุณฑริกามีปมในอดีตเกี่ยวกับบิดาของเธอเองที่เสียชีวิตไปแล้ว เธอมีพี่สาวคนหนึ่งชื่อน่ารักหรือบัณฑิตา และมีพ่อแม่คือนางมณฑา กับ นายบริบูรณ์ กิตติศักดิ์ ซึ่งครอบครัวในวัยเยาว์คือความทรงจำอันอบอุ่นของสี่คนพ่อแม่ลูก แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อบริบูรณ์ช่วยเหลือ พันตำรวจโทชาติ ศุภวัฒน์ สหายของเขา โดยลงไปร่วมเล่นการเมือง แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างแปรเปลี่ยนไป จนทำให้บิดาของเธอกลายเป็นนักโทษการเมือง ในขณะที่ชาติหลุดพ้นจากคดีความต่างๆ และท้ายที่สุดเขาก็เสียชีวิตในคุก

บุณฑริกาในวัยเจ็ดขวบยังจดจำภาพเหล่านั้นได้เป็นอย่างดีด้วยความเจ็บปวด และเกลียดชังชายผู้นี้ แม้ว่าภายหลังเขาจะเสนอตัวช่วยอุปการะส่งเสียครอบครัวเธอมาโดยตลอด จนเขาเสียชีวิตลง และฝากฝังให้บุตรชายที่กำลังเรียนต่อด้านนายตำรวจจากอังกฤษเป็นผู้ดูแล เช่นเดียวกัน

ชายผู้มีพระคุณคนนั้นมีชื่อว่า ชาริติ ศุภวัจน์!

และเขาคือคนที่เธอและแม่ ต้องไปรอรับที่สนามบินในครั้งนี้…

ในคืนก่อนเดินทางกลับนั้นเอง หญิงสาวได้มีโอกาสรู้จักกับชายหนุ่มคนหนึ่งโดยบังเอิญ เขาเดินทางมาเที่ยวชายหาดแห่งนี้เพียงลำพัง หากด้วยอัธยาศัยไมตรี และความขี้เล่นสนุกสนานอารมณ์ดีของเขา ทำให้เธอคลายความทุกข์ และให้ความสนิทสนมอย่างเป็นกันเอง เขาบอกเธอว่าชื่อ ชาริต สุวัฒน์ ซึ่งบุณฑริการู้แต่เพียงว่าเขากำลังตกงานและหางานทำอยู่ ซึ่งเธอก็คอยให้กำลังใจแก่เขาด้วยความสงสาร

เมื่อกลับมา ปรากฏว่าบัณฑิตาและแม่ไปรับชาริติเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้เจอเขาอีกครั้ง บุณฑริกากลับรู้สึกว่าเขาคล้ายกับชาริต ชายหนุ่มอารมณ์ดี ผู้เป็นมิ่งมิตรของเธออย่างยิ่ง หากนิสัยใจคอและบุคลิกท่าทางเย็นชาเย่อหยิ่งนั้น แตกต่างกันราวกับคนละคน

ชาริตติดต่อมาหาบุณฑริกา เมื่อเธอกลับมากรุงเทพฯ แล้ว บอกว่าเขาได้งานเป็นนักข่าว ทำให้บุณฑริกาดีใจไปกับเขาด้วย ทั้งสองคนเริ่มมีความสนิทสนมกันมากขึ้น เมื่อหล่อนคบหากับเขาโดยไม่ได้รังเกียจว่าอีกฝ่ายมีฐานะยากจนหรือไม่ อย่างไร

บัณฑิตาหรือน่ารัก มีท่าทีปลาบปลื้มสนิทสนมกับชาริติมาก ครอบครัวของเธอในเวลานี้ มาอาศัยอยู่กับคุณป้าสมรที่กรุงเทพฯ โดยมารดาอาศัยอยู่ที่บ้านชานเมือง นอกเหนือจากพี่สาวและป้าสมรแล้ว ยังมีพรรณงาม หลานสาวของป้าสมรอีกคนอยู่ร่วมบ้านหลังนี้ด้วย แต่ว่าพรรณงามเป็นหญิงสาวที่เก็บซ่อนความริษยาต่อสองพี่น้องเอาไว้ในใจ เพราะตนเองก็อดเปรียบเทียบกับ บุณฑริกาและบัณฑิตาไม่ได้ พรรณงามจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะหาทางแข่ง และทำร้ายอีกฝ่าย ให้ประสบความผิดหวัง เหมือนกับที่ตนเองมีปมด้อยอยู่

บุณฑริกามีโอกาสได้พบกับชาริติ และมีปากเสียงกัน หล่อนยิ่งเกิดอคติต่อท่าทางหยิ่งผยองของเขา นายร้อยตำรวจผู้นี้ช่างแตกต่างจากชาริต นักหนังสือพิมพ์เพื่อนชายหนุ่มของเธอ ที่หน้าตาคล้ายคลึงกันแต่นิสัยต่างกันราวขาวกับดำ จนทำให้หล่อนอดคิดด้วยความคับแค้นใจไม่ได้

เขาคือร้อยตำรวจโทชาริติ ศุภวัจน์ หยิ่งยโส เจ้าอำนาจและร้ายที่สุดในใจของเขามุ่งมาดปรารถนาจะเอาชนะหล่อน เขากำลังจะปราบพยศหล่อน และบัดนี้เขาได้จับหล่อนมากักขังล่ามโซ่เอาไว้ ทั้งยังโบยตีด้วยแซ่สวาท และวาจาอันเชือดเฉือนให้หล่อนต้องอับอายขายหน้า

ว่าแต่บุณฑริกา จะยอมเป็นผู้พ่ายแพ้แก่เขาผู้เป็นคู่ปรับเก่าล่ะหรือ เป็นไปไม่ได้ บุณฑริกาไม่เคยยอมแพ้ใครง่ายๆ โดยเฉพาะชาริติ ผู้ชายคนนี้คอยแต่เอาชนะหล่อนมาตั้งแต่ครั้งเยาว์แล้ว หล่อนจะยอมเขาต่อไปอีกไม่ได้เป็นอันขาด คอยดูเถอะ หล่อนจะทำให้เขารู้จักกับความเจ็บแค้นบ้าง!

เรื่อง : ใจจำแลง

ผู้เขียน : สีดา วิษณุภพ

สำนักพิมพ์ : รวมสาส์น

ปีที่พิมพ์ : 2513

สองเล่มจบ

พรรณงามเข้าใจว่าบุณฑริกามีคนรักเป็นชายยากจนที่ชื่อชาริต ซึ่งเป็นทีสะใจแก่หล่อนเป็นอย่างมาก ในขณะที่ทวนเทพ แฟนของหล่อนเอง ก็ปันใจไปมีผู้หญิงคนอื่น ยิ่งทำให้พรรณงามรู้สึกว่าหล่อนจะต้องทำให้สองสาวพี่น้องมีชีวิตที่ตกต่ำยิ่งไปกว่าหล่อนให้ได้ พรรณงามแอบเห็นบุณฑริกาไปเที่ยวบ้านของชาริต ทำให้หล่อนใส่ร้ายว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กัน จนทำให้คุณป้าสมรทนไม่ได้ เหตุการณ์ตกระไดพลอยโจนนี้เอง ทำให้บุณฑริกาต้องมาแต่งงานอยู่กินกับชาริต และใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเช่าหลังเก่าๆ ที่เขาพาหล่อนมาอาศัยอยู่อย่างลำบาก จนมีคนอดเปรียบเทียบไม่ได้ว่า เหมือนนางรจนา ที่ต้องมาอาศัยอยู่กระท่อมปลายนาของเจ้าเงาะ!

แต่กลับกลายเป็นว่าความยากลำบากเหล่านั้น ทำให้สองหนุ่มสาวผูกพันรักใคร่กันมากยิ่งขึ้น ยิ่งความริษยาให้เกิดกับพรรณงามเป็นทวีคูณ ก่อนที่หล่อนจะล่วงรู้ความจริงในภายหลังว่า ชาริตและชาริติเป็นคนคนเดียวกัน!

“คุณนี่ ไม่เหมือนกับอีกคนเสียเลย” บุณฑริกาครางอย่างอ่อนระอา

“เหมือนใคร”

“คุณชาริติค่ะ คุณหน้าเหมือนเขามาก” หล่อนตอบไม่ตรงคำถาม “โบราณบอกว่า คบคนให้ดูหน้า เห็นจะต้องยกเว้นรายคุณกับเขาเสียแล้วล่ะ”

“ถ้าผมกลายเป็นเขาจะว่าไง?” ถามทีเล่นทีจริง

“ฉันก็หนีร้อยโยชน์พันโยชน์สิคะ” หล่อนตอบจริงจัง ทำเอาข้าวแช่ไม่ลื่นลงคอคนฟังเอาเสียเลย พลางนึกในใจว่า ชาตินี้เจ้าเงาะถอดรูปไม่ได้เป็นแน่แท้เสียละกระมัง?

เรื่องราวใน ใจจำแลง เป็นนวนิยายพาฝัน ที่ใช้พล็อตหลักเกี่ยวกับการสลับตัว และความเข้าใจผิดระหว่างพระเอกนางเอก รวมถึงนางร้ายแต่ละคน ทั้งพรรณงาม และวิภาดา หญิงสาวที่หลงรักชาริติพระเอกของเรื่อง แต่ละคนต่างก็มีสีสันเข้มข้นจัดจ้านอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยฝีมือการเขียนของ สีดา วิษณุภพ ทำให้ผู้อ่านได้ลุ้นไปกับเรื่องราว และความจริงที่รอการเปิดเผยความจริงของพระเอก แม้ว่าเรื่องราวภายหลังจากนั้น จะมีเหตุการณ์พลิกผันต่างๆผ่านเข้ามาไม่ต่างกับบททดสอบ ความมั่นคงในใจของสามีภรรยาก็ตาม

และก่อนที่จะนำไปสู่บทสรุปของความรักที่ไม่ต้องเสแสร้ง จำแลงใจต่อกัน เหมือนเช่นกับในตอนแรกอีกต่อไป และเมื่อนั้นเอง ทั้งชาริติและบุณฑริกา ก็ได้ค้นพบถึงความรักที่แท้จริงของคนทั้งคู่ได้ในที่สุด