ฟ้าพยับเมฆ

ฟ้าพยับเมฆ

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

 

กรุง ญ ฉัตร เป็นนักเขียนรุ่นครู ผลงานของท่านส่วนใหญ่จะเป็นแนวชีวิตรัก เข้มข้น ที่นำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์เป็นจำนวนมาก บรรดานักอ่านต่างรู้จักผลงานของท่านเป็นอย่างดี เช่นเรื่อง คลื่นชีวิต ไฟโชนแสง คลื่นซัดใจ สามีเงินผ่อน หรือทางผ่านกามเทพ เป็นต้น  แต่ในขณะเดียวกัน ท่านก็มีผลงานในแนวอื่น อีกมากมายรวมถึงใน สไตล์ลึกลับกอธิค อย่าง สะแกกรัง ในนามปากกา สุฟ้า รวมถึง ฟ้าพยับเมฆ เรื่องนี้ด้วยครับ

ผมเองคุ้นว่าเคยอ่านผลงานเรื่องนี้ ตอนลงเป็นตอนๆ ในนิตยสารฉบับหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเป็นนิตยสาร ชีวิตรัก หรือชีวิตจริง แต่เป็นอีกเรื่องที่อ่านด้วยความประทับใจ น่าเสียดาย เนื่องจากเรื่องนี้ลงเป็นตอนๆ ในนิตยสารรายสัปดาห์ ทำให้อ่านได้ไม่ต่อเนื่องนัก ดังนั้นเมื่อมีโอกาส จึงนำฟ้าพยับเมฆ มาอ่านอีกครั้งจนจบรวดเดียว ด้วยความสนุกสนาน ทั้งในส่วนของพลอตเรื่อง รวมถึงปมปริศนาต่างๆ ของเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน ปราสาทฟ้าพยับเมฆ อันแสนลึกลับแห่งนี้

 

อิฐ ปลัดหนุ่ม ลูกชายของคุณอรรถ และคุณนิทรา ผู้เป็นมารดาเลี้ยงและมี นารินี เป็นน้องสาวต่างมารดาที่สนิทสนมกันเป็นอย่างดี เขามีโอกาสย้ายมาประจำการยังอำเภอชายแดนทางภาคเหนือของประเทศ ก่อนการเดินทางชายหนุ่มมีโอกาสได้รับซื้อแหวนทับทิม จากชายแปลกหน้าชื่อส่างปา โดยไม่รู้ว่ามันถูกขโมยมาอีกทอดหนึ่ง และนั่นเอง ทำให้อิฐได้สัมผัสถึงวิญญาณดวงหนึ่ง ที่เรียกชื่อของเขาว่า ขุนพลสีหเทพ และดวงวิญญาณสตรีผู้นั้น ก็มีนามว่าเวสาตรี

ดูเหมือนว่า วิญญาณของเธอ จะมีความผูกพันกับเขาในอดีตชาติ ทั้งความรัก และความแค้นไปพร้อมกัน!

ที่จังหวัดชายแดนแห่งนั้นเอง อิฐ มีเพื่อนชื่อชนินทร์เป็นศิลปินที่เขาพอรู้มาว่า มาทำงานวาดรูปอยู่ที่ปราสาทฟ้าพยับเมฆ ในตัวอำเภอที่เขามาอยู่ประจำการพอดี แต่เมื่อมาถึง กลับไม่พบสหายรัก ซ้ำยังได้ข่าวว่าในคืนสิบห้าค่ำ ผู้ชายในหมู่บ้านแห่งนั้น จะถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดและถูกดูดเลือดเอาไปจากสัตว์ประหลาด

อิฐหารถเข้าอำเภอไม่ได้ จึงต้องจ้างคนขับไปส่งแค่ปากทาง และเดินลัดเลาะผ่านทุ่งทานตะวันขนาดใหญ่ จากจุดนั้นเอง ทำให้เขามองเห็นปราสาทฟ้าพยับเมฆโดดเด่นเป็นสง่าอยู่เหนือท้องทุ่ง ก่อนที่เขาจะตรงไปยังสถานีอนามัยในคืนนั้น และพบหญิงสาวคนหนึ่ง นอนเปลือยกายอยู่ในหลุมที่ชาวบ้านขุดเอาไว้ เขาช่วยเธอขึ้นมา ได้สำเร็จ แต่หญิงสาวสวยคนนั้น ก็หนีจากไปอย่างเป็นปริศนา…

 

อิฐได้มาพักอาศัยที่บ้านกำนันฝาย และได้พบกับ ตันหยง เข้าเข้าใจว่าตันหยงคือลูกชายวัยรุ่นท่าทางกระตุ้งกระติ้ง และดูเป็นปฏิปักษ์กับเขาอย่างชัดเจน แต่อิฐเองก็ไม่ได้ถือสาอะไร เขารู้ว่า กำนันกับชาวบ้าน วางหลุมดักมนุษย์ลิงประหลาดที่เป็นตัวการสังหารบรรดาชายหนุ่มในหมู่บ้านเอาไว้ด้วย

วันรุ่งขึ้น ปลัดอิฐจึง รู้ว่า มีการฆาตกรรมเกิดขึ้น ชายเคราะห์ร้ายที่อยู่ในหมู่บ้าน ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมพร้อมกับเลือดในตัวถูกสูบออกไปอย่างน่าสยดสยอง เขาได้พบกับ หมอเจือบุญ และคุณหมอสาวคนสวยที่เป็นทายาทของฟ้าพยับเมฆ เธอมีชื่อว่า หมอวราวาร

และหมอวราวาร ก็มีหน้าตาเหมือนกับสตรีสาวที่เขาช่วยในคืนวันนั้นไม่มีผิด แต่เธอแสดงท่าทางเหมือนกับไม่เคยรู้จักเขามาก่อน!

 

ตันหยงเห็นแหวนของอิฐ และจำได้ว่า แหวนทับทิมนี้ เคยเป็นของวราวารมาก่อน แต่หายไป เนื่องจากส่างปา คนรับใช้ ขโมยมันและหนีออกจากฟ้าพยับเมฆไปก่อนหน้า

อิฐ มีโอกาสเดินทางเข้าไปยังปราสาทฟ้าพยับเมฆ เขาพบคุณราตรี และคุณสุริยาตร อาสาวใหญ่ของหมอวราวาร ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกัน ราตรี มีความเป็นมิตร ใจดี ขณะที่สุริยาตร เงียบขรึม เหมือนซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ นอกจากนี้ ยังได้พบกับคุณย่าชวดแสงแข ที่ล้มป่วยและความจำเลอะเลือน แต่เมื่อเธอได้เห็นเขา กลับร้องเรียกชื่อของเขาว่า ขุนพล สีหเทพ รวมถึงกริชเล่มหนึ่ง ที่แสงแขเอ่ยถึง เมื่อได้พบกับเขา

ในอดีต ขุนพลสีหราช มีเวสาตรี ที่รักใคร่ และยังมีแสงแข หญิงสาวที่มีทายาทสืบสกุลให้กับเขา สีหราชเดินทางข้ามพรมแดนมายังดินแดนฝั่งนี้ และสร้างปราสาทฟ้าพยับเมฆ นำทรัพย์สมบัติติดตัวมา และใช้กริชเพื่อสังหาร เวสาตรีหญิงสาวที่ตนรัก เพื่อให้เป็นดวงวิญญาณคอยเฝ้าทรัพย์สมบัติเหล่านั้น และเธอก็ผูกพันกับแหวนทับทิม ที่ตกทอดผ่านทายาทของแสงแขด้วยเช่นกัน

ศพของ เวสาตรี ถูกเก็บรักษาไว้ในโลงแก้ว เพื่อรอเวลาชุบชีวิตขึ้นมา โดยคุณสุริยาตร เพื่อจะตามหาทรัพย์สมบัติที่ซ่อนเอาไว้ หากเธอต้องหาเลือดมาสังเวย เพื่อหล่อเลี้ยงร่างนั้นเอาไว้ และรอการคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง

อมนุษย์ ครึ่งคนครึ่งสัตว์ที่ออกสังหารมนุษย์ จึงถือกำเนิดขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่สังหารมนุษย์เพศชายและเสาะหาเลือดเหล่านี้มานั่นเอง

และผู้ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตนั้น ก็คือหมอวราวาร ผู้เป็นทายาทของฟ้าพยับเมฆ!

เรื่อง : ฟ้าพยับเมฆ

ผู้เขียน : กรุง ญ ฉัตร

สำนักพิมพ์ : บรรณาคาร

ปีที่พิมพ์ : 2529

สองเล่มจบ

แต่บัดนี้ วราวารเองก็เริ่มจะมีความรักกับอิฐ ปลัดหนุ่ม ที่พลัดเข้ามาในวังวนของปมปริศนาเหล่านี้ และยังมีตันหยง เด็กสาวที่มีชาติกำเนิดลึกลับ ต้องปลอมตัวเป็นชาย เพื่อป้องกันภยันตรายที่เกิดกับตัวเอง ด้วยเช่นกัน รักของตันหยง มีต่อ อิฐ ด้วยความผูกพัน แต่ทว่าอิฐเองก็หลงรัก หมอวราวาร แม้จะรู้ว่า เธอต้องกลายเป็นปีศาจกระหายเลือดในยามคืนเพ็ญราตรี ด้วยฝีมือของ สุริยาตรและหมอเจือบุญชู้รัก ที่ร่วมมือกัน เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองก็ตาม

เรื่องราว ในฟ้าพยับเมฆ จึงเต็มไปด้วยปมปริศนาฆาตกรรม ความลึกลับจากอดีตชาติ  ไสยศาสตร์เหนือจริง ทั้งเรื่องปีศาจอมนุษย์ การถอนคำสาป เวสาตรี ที่ดวงวิญญาณไม่อาจไปผุดไปเกิด หรือปมปริศนาการหายตัวไปของชนินทร์ สหายหนุ่มของปลัดอิฐ และการไขปริศนาของแต่ละเรื่องราวนั้น รวมถึงการเอาใจช่วย ความรักของ อิฐ กับวราวาร ที่น่าสงสารไปพร้อมกันด้วย ทำให้ผู้อ่านต้องลุ้นระทึกไปกับเรื่องราวที่ กรุง ญ ฉัตร เขียนขึ้น จวบจนถึงการคลี่คลายปริศนาเหล่านั้นในที่สุด

หมายเหตุ สำหรับนิยายเรื่องนี้ คุณกรุง ญ ฉัตร ผู้เขียนได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการเขียนจากเพจของท่านไว้ ความตอนหนึ่งว่า ท่านได้เขียนเรื่องนี้ตอนปี พ.ศ.2529 เมื่อออกเดินทางไป จังหวัดพิษณุโลก บรรยากาศน่าจะเป็นอำเภอนครไทย คุณกรุง ญ ฉัตร เล่าว่า ตอนเขียนท่านนึกถึง นางเอกคือคุณสุทิศา พัฒนนุช เป็นภาพของตันหยงในนิยายเรื่องนี้ด้วย

ฟ้าพยับเมฆ ลงในนิตยสารดรุณี ในชื่อ พระจันทร์สีเลือด แต่น่าเสียดายที่เขียนไปสิบกว่าตอนนิตยสารก็ปิดตัวลง ท่านจึงนำมาเขียนในนิตยสาร ชีวิตรัก และใช้นามปากกา “ฝ้ายคำ” เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่ เป็น ฟ้าพยับเมฆ และเมื่อเรื่องนี้เขียนจน นำมารวมเล่ม จึงเปลี่ยนเป็นนามปากกา กรุง ญ ฉัตร เช่นเดิม

 

Don`t copy text!