พธูเทพกานต์

พธูเทพกานต์

โดย : หมอกมุงเมือง

Loading

บรรณาภิรมย์ โดย หมอกมุงเมือง คอลัมน์ที่อ่านเอาขอมอบความรื่นรมย์ให้กับผู้อ่านด้วยภาพปกสวยๆ และเนื้อเรื่องในแบบต่างๆ ของนักเขียนชั้นครูที่เคยผ่านมือ ผ่านตาและผ่านใจ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมรำลึกถึงผลงานของนักเขียนแต่ละท่านให้พอหายคิดถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ภาพและตัวอักษรจะปรากฏให้เห็นอีกครั้งในยุคของการอ่านออนไลน์

 

หลังจากที่ผมเคยเขียนถึง นวนิยายจตุภาค ชุดเทพกานต์ ของ วลัย นวาระ ไปแล้วสองเรื่อง คือ หม่อมเจ้าสุริยกานต์ และ คุณชายธมกานต์ ซึ่งเป็นตัวเอกฝ่ายชายทั้งสองเรื่อง มาคราวนี้ ถึงบทบาทของทายาทสาวน้อยฝาแฝดของหม่อมเจ้าสุริยกานต์และหม่อมประกายบุษยา สองศรีพี่น้องที่ต่างก็มีบทบาทและเรื่องราวความรักแสนโรแมนติกประทับใจอีกรูปแบบหนึ่ง ใน พธูเทพกานต์

จากความเดิมในนิยายก่อนหน้าทั้งสองเรื่อง หม่อมเจ้าสุริยกานต์ เทพกานต์ ทรงมีธิดาฝาแฝดคือ หม่อมราชวงศ์หญิงศศิกานต์ หรือคุณหญิงแพรว ผู้เป็นแฝดพี่ และหม่อมราชวงศ์หญิงบุษยกานต์ หรือคุณหญิงพราว ผู้เป็นแฝดน้อง บัดนี้ทั้งคู่ได้เติบโตขึ้นเป็นสาวน้อยแสนโสภาและเป็นดั่งแก้วตาดวงหทัยของวังเทพกานต์

วลัย นวาระ เขียนเปิดฉากแรกใน พธูเทพกานต์ ด้วยฉากเดินแบบกิตติมศักดิ์อันวิจิตรตระการตา และภาพอันเป็นคู่ตัดกันของนางเอกทั้งสองคนอย่างชัดเจน

ดรุณีทั้งสองพริ้งพราวระยับจับตาด้วยอาภรณ์ราตรีแบบตะวันตก ปักเลื่อมและลูกปัดแก้วแพรวพราว ประดับมณีมีค่าวับวามสุกปลั่งไปทั้งเนื้อทั้งตัว

คนหนึ่งนั้นขาวสว่าง พร่างไปทั้งเรือนกายด้วยสีเพชร

อีกคนหนึ่งเฉิดฉาย แดงจ้าประดุจไฟด้วยสีทับทิม

ทั้งคู่เริ่มหมุนตัวพร้อมกัน จนหันกลับมาเผชิญหน้าผู้ชมอีกครั้ง ความแพรวพราวแห่งอาภรณ์ และมณีทรงค่าก็ทวีขึ้น เมื่อเหลี่ยมเจียระไนล้อแสงไฟวูบวาบ

เสียงกระหึ่มดังขึ้นอีก ตามด้วยเสียงปรบมือกึกก้อง…

ดรุณีวัยสิบเก้าปีในชุดเพชร ผู้อ่อนหวานเรียบร้อยคือหญิงแพรว ขณะที่ ดรุณีชุดแดงเพลิง ที่เจิดจ้าท่าทางแก่นกล้ามากกว่าคือหญิงพราว คุณหญิงผู้ซึ่งเพิ่งมีข่าวถอนหมั้นจากกับท่านชายธนัญชนกแห่งวังธันยคาม ซึ่งมีวัยสามสิบชันษาเศษ และทรงรู้จักคุ้นเคยกับสองคุณหญิงมาตั้งแต่เยาว์วัย

ความที่ต่างก็เป็นคน ‘หัวแข็งทั้งคู่’ ทำให้มีเรื่องปะทะคารมกันอยู่เป็นประจำ ท่านชายนก เองก็มีทั้งทิฐิและอุปนิสัยพระทัยร้อนไม่ต่างกับไฟ ขณะที่คุณหญิงแพรว นั้นยิ่งร้อนกว่า และไม่ยอมลงให้กับ ‘พี่นก’ ด้วย เช่นเดียวกัน ซ้ำยังอารมณ์แรง ตัดสินใจเด็ดขาด แม้แต่การจะถอนหมั้นในทันทีเมื่อมีปากเสียงกันขึ้นมา ทั้งที่ทั้งคู่ต่างมีหัวใจรักที่ตรงกันอยู่แล้วก็ตาม

เรื่องราวความรักอลวนอลเวงระหว่างสองพธูแห่งวังเทพกานต์เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เมื่อหม่อมเจ้าสุริยกานต์ต้องการจะให้ธิดาทั้งสองเดินทางไปยังอังกฤษ โดยมี ‘ท่านนก’ คอยดูแล ระหว่างที่อยู่ลอนดอน ท่านชายสุริยกานต์ทรงรับรู้ความรู้สึกของสองหนุ่มสาว ที่ในความจริงแล้วก็ยังตัดกันไม่ขาด และต้องการให้หญิงพราวพิสูจน์หัวใจตัวเอง เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายนอกจากปากแข็งแล้วยังนิสัยดื้อรั้นชนิดหัวชนฝาเอาเลยทีเดียว

การเดินทางไปยังอังกฤษพร้อมคุณสุดานั่นเอง ได้มีตัวแปรสำคัญเข้ามาด้วยนั่นคือ ร้อยตรีอสิต พูนเสถียร ทายาทของพันเอกอายุธ และคุณหญิงเสาวรส ซึ่งสนิทสนมกับครอบครัวตระกูลเทพกานต์มายาวนาน และท่านชายสุริยกานต์ก็ทรงอุปการะครอบครัวนี้ไว้ในยามตกระกำลำบาก อสิตได้เดินทางมาอังกฤษพร้อมกลุ่มนายทหารระดับสูง แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปี แต่เขาก็จดจำทั้งคุณหญิงแพรว และคุณหญิงพราวได้เป็นอย่างดี

ความสวยงามและนิสัยอันโดดเด่นของหญิงพราวสะดุดตาอสิตตั้งแต่แรก ยิ่งเมื่อเขารู้ว่า เธอถอนหมั้นจากท่านนกแล้ว ทำให้เขาตัดสินใจเข้ามาขอสานสัมพันธ์ โดยที่คุณหญิงพราวเองก็ประทับใจในความเป็นสุภาพบุรุษนายทหารที่อ่อนโยน คอยตามอกตามใจทุกอย่าง ต่างจากพี่นก โดยสิ้นเชิง โดยหารู้ไม่ว่าในเวลาเดียวกัน หญิงแพรวเองก็แอบหลงรักอสิตอยู่เงียบๆ โดยที่เขาเองก็มองข้ามเธอมาโดยตลอด

ขณะที่ท่านธนัญชนกเองก็มีครอบครัวของคุณหญิงกาหลง ที่หวังจะให้ลูกสาวที่ชื่อแก้วกาญจนา มาเป็นหม่อมของวังธันยคาม ด้วยความรู้สึกที่อยากจะประชดคุณหญิงพราวที่หันไปสนิทสนมกับอสิต ทำให้ท่านนกตัดสินพระทัยหมั้นหมายกับแก้วกาญจนา เด็กสาวที่ดูเรียบร้อย อ่อนหวาน แต่แท้ที่จริงแล้วหล่อนก็ถูกมารดาคอยเสี้ยมให้ทะเยอทะยานอยากจะกลายเป็นหม่อม ที่มีเงินทองใช้ มากกมายอย่างสะดวกสบาย แม้ว่ายายของหล่อน คุณนายกิมเฮียง จะไม่เห็นด้วยก็ตาม

เรื่อง : พธูเทพกานต์

ผู้เขียน : วลัย นวาระ

สำนักพิมพ์ : คลังวิทยา

ปีที่พิมพ์ : 2520

สองเล่มจบ

การหมั้นหมายในครั้งนี้ก่อให้เกิดความรู้สึกบางอย่างแก่คุณหญิงพราว ที่ดูเหมือนจะไม่แคร์อะไรเลยสักอย่างเดียว ทว่า…

คุณหญิงบอกตัวเองว่า ไม่ได้นึกอาลัยอาวรณ์เลยกับบุคคลผู้นี้ แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ทำไมจิตใจจึงหงุดหงิดทุกครั้งที่ท่านธนัญชนก ทรงทำทีคล้ายจะสนพระทัยหรือเอาใจหญิงอื่น คุณหญิงคิดว่า เป็นเพราะทำเหมือนจะหยั่งให้เราหึง!

แต่เรื่องอะไรจะต้องไปหึง ในเมื่อไม่เหลือความรักอีกแล้ว

บางที นั่นแหละคือคำตอบที่คุณหญิงพราวยังไม่ยอมรับกับตนเอง คุณหญิงคิดแค่ว่า เมื่อความรักหมดสิ้นแล้ว ความริษยาหึงหวงย่อมไม่มี ส่วนอะไรแปลกๆ ที่คุณหญิงรู้สึกนั้น ก็อาจเป็นความชิงชัง หมั่นไส้ หรือรำคาญก็ได้

หากคุณหญิงคิดกลับกัน โดยยอมรับความหงุดหงิดนั้นเกิดขึ้นจริง และจากสาเหตุอะไร คุณหญิงอาจจะได้คำตอบที่น่าตกใจพอดี

ความรักกับความเกลียดนั้น บางทีก็อยู่ใกล้ชิดกันมากจนแทบจะแยกไม่ถูก

คนบางคน อาจโดดจากความรักไปหาความเกลียด แต่บางทีความเกลียดก็เคยแปรรูปเป็นความรัก!

สำหรับท่านธนัญชนกเองนั้น เมื่อได้ทรงหมั้นหมายกับแก้วกาญจนาแล้ว ถึงเริ่มรู้สึกองค์เองว่าไม่ได้รักกับแก้วกาญจนาเลย แต่เป็นความรู้สึกเอ็นดูอย่างน้องสาวมากกว่า ในขณะที่หญิงสาวเองก็เคยชอบพอกับนภนันท์ เด็กหนุ่มลูกชายของท่านหญิงนภาประภัสสร ท่านหญิงตกอับที่ท่านช่วยเหลือเงินทองอุปการะอยู่เนืองๆ นั่นเอง นภนันท์เมื่อรู้ว่าแก้วกาญจนารับหมั้นกับท่านชาย จึงวางแผนชวนให้แก้วกาญจนาหนีไปกับตน และจะไปจดทะเบียนกันที่อำเภอแห่งหนึ่ง แต่แล้ว คุณหญิงพราวที่รู้เรื่องก็เข้ามาขัดขวางเสียก่อน เพราะคิดว่าสงสาร ‘พี่นก’ ของตัวเองว่าจะอกหัก

ทั้งที่ความจริงแล้ว ท่านธนัญชนก กำลังจะโล่งพระทัย ที่แก้วกาญจนา ตัดสินใจหนีจากท่านไปกับ นภนันท์เสียด้วยซ้ำ

 

เรื่องนี้เอง ทำให้คุณนายกาหลงกลัวตำแหน่งแม่ยายสูงศักดิ์ของตนเองจะหลุดมือ จึงพยายามหาทางผูกมัดท่านธนัญชนกกับลูกสาวของตัวเองให้ได้ หากสุดท้ายผู้ที่มาแก้ปมปัญหาทั้งหมดจนลุล่วงกลับกลายเป็นคุณนายกิมเฮียง มารดาของคุณหญิงกาหลงนั่นเอง และทำให้ คุณหญิงพราวกับท่านนกได้หวนกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ด้วยความเข้าใจที่มากไปกว่าเดิม

สำหรับคุณหญิงพราวเอง เมื่อได้คบหากับอสิตแล้ว ก็รับรู้ว่าเขากับเธอไม่มีนิสัยที่ตรงกันเลยสักนิดเดียว อสิตอ่อนโยนและสุภาพเกินไปจนไม่สามารถปราบเวลาที่เธอพยศขึ้นมาได้ ผู้ชายเพียงคนเดียว ที่ทำเช่นนั้นได้ก็คือ ‘พี่นก’ เท่านั้น และท่านก็ยอมสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกมา

“ใช่ซี พี่มันพาล…”

“ตัวไปเที่ยวรักเที่ยวหลงเขาเอง เห็นหน้าสวยๆ ตาแป๋วๆ ก็คงจะหลงชั่ววูบ”

“ใช่ พี่ไปเที่ยวรักเที่ยวหลงเขาเอง เพราะไอ้หน้าสวยๆ ตาแป๋วๆ อย่างว่า แต่มันก็ไม่ใช่หน้าเด็กคนนั้นหรอกนะ แล้วก็ไม่ใช่อารมณ์หลงชั่ววูบด้วย”

“พี่นกกล้าดียังไง”

“อยากให้บอกออกมาชัดๆ งั้นรึ ก็ยังได้ ตลอดชีวิตพี่ก็รักก็หลงอยู่คนเดียว หน้าเดียว สวยแต่ร้ายกาจที่สุด อวดดีที่สุด โอหังที่สุด พี่ควรจะจับเฆี่ยนให้หมดพยศ แล้วลากัวไปแต่งงาน แต่พี่ก็ไม่ได้ทำ…”

ขณะที่อสิตก็เพิ่งรู้ตัวภายหลังว่าเงาของคุณหญิงพราวที่เขาเคยฝันใฝ่มาโดยตลอด ก็คือ ผู้หญิงเรียบๆ ที่อ่อนหวานอย่างคุณหญิงแพรวมากกว่า!

เรื่องราวใน พธูเทพกานต์ นั้น เรียกได้ว่ากว่าที่ความรักอลวนนี้จะลงตัวได้ทั้งสองคู่ชู้ชื่น ก็ทำให้ผู้อ่านช่วยกันลุ้นไปกับเรื่องราวของสองคุณหญิงแห่งตระกูลเทพกานต์ และชวนให้อยากจะติดตามอ่านเรื่องราวอันเป็นปัจฉิมบทของนิยายชุดนี้ ซึ่งคราวนี้เป็นเรื่องของคุณชายเพชร หรือหม่อมราชวงศ์รวิกานต์ เทพกานต์ ใน ‘เพชรเทพกานต์’ ต่อไปกันเลยทีเดียว

 

Don`t copy text!